I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 142 ก่อตั้งกองทุน

| Zhan Long | 1531 | 2359 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

(แปลโดยคุณ Kritchapong Tae)

********************************************

ณ เวลา 1 ทุ่มที่ประตูทิศเหนือของเมืองป้าฮวง สาวสวยสองคนปรากฏกายอยู่ในป่าไกลๆ ‘หลินว่านเอ๋อ’ที่ถือร่มเหล็กสีแดงสดและย่างแบบเบา ๆ เศษใบไม้ติดที่ผมเธอและขนตาก็รู้สึกเหมือนเก็บน้ำค้างกลางสายหมอกไว้ ส่วนหูแหลม ๆ ก็ถูกเส้นผมปิดเอาไว้ เธอที่ใส่ชุดเกราะหนังนั้น ช่างทำให้เธอดูสวยและสง่างามมาก

“หลี่เซียวเหยา!!”

‘หลินว่านเอ๋อ’ ยิ้มแล้วเดินเข้ามาหาผมในมือก็ถือร่ม ที่ไหล่ของเธอมีตราที่ปรึกษาของกิลด์สมาพันธ์ผู้กล้า  หลังจากที่ก่อตั้งกิลด์ ‘หลินว่านเอ๋อ’ก็ได้ตำแหน่งที่ปรึกษาหัวหน้ากิลด์ ตามที่ได้ตกลงไว้กับกิลด์ตั้งแต่แรก ผมมาข้างพวกเธอแล้วชวนเธอและ’ตงเฉิง’ร่วมปาร์ตี้ พร้อมกับยิ้มแบบเจ้าเล่ห์และถามเธอ

“ว่านเอ๋อ ตั้งแต่เธอเป็นที่ปรึกษาของกิลด์นี้ อะไรคือความรับผิดชอบหลักของเธอล่ะ?”

‘ว่านเอ๋อ’กระพริบตา

“เอ่อ..ชั๊นยังจัดการไม่ดีหรอก บางทีก็ให้คำปรึกษากับผู้เล่นระดับสูง สำหรับเทคนิคการสู้บอส และก็ไม่มีหน้าที่อื่นอีกแล้ว”

‘ตงเฉิงเย่ว’จับไม้เท้าในมือและพูดกึ่งยิ้ม

“มันดูง่ายมากๆ เหตุผลที่ว่าทำไม Q-sword ต้องการให้ว่านเอ๋ออยู่ในกิลด์สมาพันธ์ผู้กล้าก็เพื่อให้กิลด์ในเมืองฟานชู มีสาวที่สวยที่สุดอยู่ในกิลด์เพื่อเพิ่มอิทธิพลของกิลด์ ตราบใดที่’ว่านเอ๋อ’ยังอยู่  ก็จะดึงดูดบรรดาแฟนคลับของเธอ เข้าร่วมกิลด์ไงล่ะเหตุผลง่าย ๆ”

ผมก็เกาจมูกและพูด

“ถ้าอย่างนั้นเมื่อ Zhan long ตั้งกิลด์เมื่อไหร่ ว่านเอ๋อและตงเฉิงก็จะต้องมาอยู่ด้วยกันนะและช่วยดึงดูดคนอัจฉริยะเข้ามาด้วย ตกลงนะ?”

‘หลินว่านเอ๋อ’ขำ

“ได้สิ แต่มีข้อแม้นะ นายต้องเลี้ยงข้าวพวกเรา 3 มื้อต่อวันสำหรับแต่ละวันที่พวกเราไปอยู่ที่ Zhan Long”

ผมพูดไม่ออก

“เธอจะหากิลด์รึจะหาตั๋วยาวกินข้าวฟรีกันแน่ ห๊ะ?”

“ตั๋วยาวกินข้าวฟรีหรอ นี่ละรักเลย…”

‘หลินว่านเอ๋อ’ตอบขณะที่แกว่งมีดไปมา ทันใดนั้น เหมือนเธอนึกขึ้นมาได้ เธอรีบก้มหน้า ทำหน้าทำตาอย่างน่ารัก อีกฝั่งนึง ‘ตงเฉิงยู่ว’ ขำหนัก

“นี่ เซียวเหยานายจะทำ ตั๋วยาวกินข้าวฟรีหรอ ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรกับฉันแล้วนะ ฉันจะไปล่ะ…”

‘หลินว่านเอ๋อ’พยายามกลับมาเป็นปกติและก็หัวเราะ

“โอเค…หยุดเล่นได้ละ หลี่เซียวเหยา ช่วยพาพวกเราไปที่ถ้ำแห่งความสิ้นหวังหน่อยสิและเรียนสกิล[Reflect]ไม่งั๊นชั๊นคงเสียเปรียบน่าดูเวลาที่จะ Pk”

‘ตงเฉิง’เห็นด้วย

“ใช่ ระบบ[Reflect] ก็เหมือนกับโล่ ราคา 10 G มันถูกมากเมื่อเทียบกับสกิลระดับ A”

“แน่นอน, ไปกันเลย!”

สองสาวสุดสวยก็ตามผมมามุ่งหน้าสู่ถ้ำแห่งความสิ้นหวัง …….. หลังจากเดินมา 40 นาที ก็ถึงเป้าหมายของเรา เวลาตอนนี้เกือบจะ 2 ทุ่มแล้ว ที่ไม่คาดคิดก็คือผู้คนที่มามากมายมาที่นี่ เสน่ห์ของผมคงสูงมากจริง ๆ

หลังจากที่ผมโพสต์ไปก็ดึงดูดผู้คนมากันเพียบ แต่สิ่งที่ล่อมาไม่ใช่ผมหรอก แต่เป็นเจ้าสกิล[Reflect] นี่ต่างหากล่ะ ที่ดึงดูดมามากขนาดนี้ เมื่อผ่านฝูงชนเข้ามา ผมก็นำสองสาวสวยผ่านเส้นทางสายที่ 7 พวกมอนสเตอร์ก็ฟื้นมาไล่ฆ่าผู้คน อย่างบ้าคลั่ง

แสงก็ปรากฏพวกเรามุ่งไปยัง สุสานแห่งความสิ้นหวัง หน้าทางเข้าห้องลับซึ่งเดินมาด้วยความยากลำบาก ทั้ง’รันมิน’, ‘ซงฮาน’และ Fox ต่างก็ดีใจที่เก็บค่าธรรมเนียมได้มากมาย ‘ซงฮาน’ยกแขนแล้วตะโกน

“แค่เพียงจ่าย 10G ให้แก่ผู้กล้ารันมิน, Glass Fox, หรือลูกเป็ดที่รัก เพื่อจะเรียนสกิล แต่ถ้าคุณจ่ายแล้วแต่ยังไม่ได้เรียนสกิล อดทนรอซักนิด. ส่วนผู้ที่เรียนสกิลแล้วโปรดกลับไปที่เมืองด้วยจ้า เรามีพื้นที่ไม่เพียงพอนะ!”

“เคล้งง”

ผมชักดาบประกายวสันต์ออกมาและดันฝูงชนออกไป การใช้กำลังทำให้ ข้ามไปได้ง่าย ส่วนอีกมือผมจับมือ’หลินว่านเอ๋อ’พาเธอมายังด้านหน้า ‘ว่านเอ๋อ’เธอเป็นนักฆ่าเพราะงั๊นการดึงเธอมาไม่ได้เป็นเรื่องยากเลย เธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ผมก็ไม่ได้มองกลับไปหาเธอแต่รู้สึกว่ามือเธออุ่นขึ้น

เธอเดินตามผมมายังห้องลับพร้อมกับใบหน้าที่เขินอายของเธอ

“ตริ๊งง”

ที่นั่นมีผู้คนจำนวนหนึ่งในห้องลับ ผมชี้ไปที่หนังสือและพูก

“ว่านเอ๋อ นั่นคือสกิล[Reflect] ต้องจ่ายเงิน 10G เพื่อเรียนมันด้วยนะ”

“โอเค!”

เธอเรียนอย่างเร็วแล้วหันกลับมาบอกว่า

“พาชั้นออกไปเถอะแล้วก็พาตงเฉิงเข้ามาเรียนสกิล”

“ได้เลย!”

แสงวาบออกมา ผมกับ’หลินว่านเอ๋อ’ออกมาจากห้องหลังจากนั้นผมก็พา’ตงเฉิง’เข้าไปในห้อง เธอตกใจเล็กน้อยหลังจากเรียนเสร็จเธอก็ถามว่า

“หลี่เซียวเหยา ทำไมมันถึงบอกว่าการเรียนจำกัดอยู่ที่ 3479/5000 ล่ะ?”

“เรียนสกิลจำกัด?”

ผมตะลึงจนพูดไม่ออก

“ใช่!”

ผมพา’ตงเฉิง’ออกมาข้างนอกขณะที่ทำหน้ามุ่ยและบ่นพึมพำออกมาว่า

“สกิลนี้มีจำกัดจำนวนครั้งที่เรียนด้วยใช่ไหม?”

หลังจากถามผมก็มองไปที่ ‘ซงฮาน’และเขาก็จ้องผมกลับ

“เป็นเรื่องจริงครับ มันเรียนได้แค่ 5000 คนไม่งั๊นเราคงเป็นเศรษฐีแล้วล่ะ”

‘หลินว่านเอ๋อ’กระพริบตา

“นี่มัน BUG ระบบหรอ นายใช้ข้อได้เปรียบมาหาประโยชน์หรอ?”

ผมกลั้นหัวเราะ

“ดีสิ ถ้ามันเป็น BUG นี่คือความรับผิดชอบของบริษัท Destiny และไม่มีผลอะไรต่อผู้เล่น การกระทำของพวกเราก็เป็นไปตามกฏของเกมส์”

“เยี่ยม!”

คุณหนูสุดสวยเห็นด้วยและยิ้ม

“แน่นอนมันเป็นความรับผิดชอบของบริษัท ดังนั้นหากพวกเขา ยังจะลงโทษพวกนาย แล้วล่ะก็ นายก็สามารถฟ้องพวกเขาได้”

“ช่ายแล้ว ถูกอย่างที่ว่านเอ๋อพูดที่สุด”

ในขณะที่พวกเรากำลังคุยกันอยู่ จู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังไกลๆ

“พวกที่อยู่ข้างหน้า หลีกทางหน่อย พวก Zhang long ใช้ประโยชน์จาก BUG ของระบบ ทำไมถึงมีแต่คนเห็นด้วยกับเขา?  มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

กลุ่มฝูงชนก็แยกกลุ่มออกไป ผู้เล่นระดับสูงก็ก้าวออกมาพร้อมอาวุธ ผู้นำกลุ่มชื่อ

“มู่เทียน”

เอ..เดี๋ยวนะ ชั้นจำหมอนี่ได้  ชั๊นเคยฆ่าเขาทีหนึ่งนี่นา ในหุบเขาหินไฟ, แต่ตอนนี้ เขาอยู่กับมังกรทะยาน หัวหน้ากิลด์ [Flying Dragon] ข้างหลัง มังกรทะยานก็มีสมาชิกระดับสูงอีก 30 คน ระดับประมาณ 45-50 สงสัยว่า มู่เทียนคงถูกชักชวนมาในกลุ่ม Flying Dragon สินะ มู่เทียนที่ถือขวานมาเดินออกมาข้างหน้า

“พี่น้องทั้งหลาย เตรียมตัวสังหารไอ้พวก Zhan Long สตูดิโอให้หมดและค่อยเก็บแหวนโลคัส”

มังกรทะยานถือไม้เท้าออกมาและพร้อมกับหัวเราะออกมา

“ครั้งล่าสุด หลีเซียวเหยา แกช่วย [Valiant Bravery] ฆ่าชั๊น และพี่น้องของชั๊น นี่ถึงเวลาที่จะชำระแค้นของเราแล้ว!”

‘ซงฮาน’ ที่กำลังโกรธมากเดินออกมาแล้วพูดว่า

“ไอ้มังกรทะยาน, มู่เทียน, เสือคลั่ง, เต่าดำ เมื่อชั่วโมงที่แล้ว พวกแกก็มาเรียน สกิล [Reflect] กันแล้วทั้งนั้นไม่ใช่หรอ ตอนนี้จะมาทรยศเรารึ ไอ้พวกกินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา!”

มังกรทะยานบ่นพึมพาด้วยสีหน้าเย็นชา

“พูดไปก็เปล่าประโยชน์ พี่น้องทั้งหลาย ช่วยฉัน ไปรุมมันกันเถอะ!”

……

“ช้าก่อน”

เสียงที่หวานแต่หนักแน่น ดังข้างหลังผม ‘หลินว่านเอ๋อ’ถือร่มไว้ในมือพร้อมกับก่าวออกมาข้างหน้าแล้วเอามีดชี้หน้ามังกรทะยาน

“สไตล์พวกกิลด์[Flying Dragon] นี่มันน่าด้านมากเลยนะ ต้องการจะฉีกหน้า Zhan Long ต่อหน้าคนนับพัน หาว่าเป็นการหาประโยชน์จากสกิล[Reflect]? ทรัพยากรในเกมส์มันสามารถแบ่งปันกันได้ ชั๊นไม่เห็นว่าที่ Zhan Long จะทำผิดตรงไหน แต่เป็นพวก [Flying Dragon] ต่างหากล่ะที่เห็นแก่ตัว หลังจากได้สกิล[Reflect] ไปแล้ว ก็คอยแต่จะกันท่าให้คนอื่นไม่ได้เรียนสกิลล่ะสิ!”

‘หลินว่านเอ๋อ’ยืนอย่างสง่างาม สัญลักษณ์กิลด์แห่งเมืองฟานชูบนไหล่เธอดูน่าสนใจ บนหัวเธอปรากฏตำแหน่งผู้เล่นอันดับ 4 แห่งเมืองฟานชู ปรากฏพร้อมกับใบหน้าชวนหลงใหลของเธอ การชี้แจงความจริงของเธอ ทำให้เธอได้รับการยอมรับจากทุกคน แทบทุกคนก็ตกอยู่ในมนต์สะกดของเธอ

“นั่นมัน!ชางถง นักฆ่าที่เก่งที่สุดและสวยที่สุดแห่งเมืองฟานชู ไม่ใช่รึไง?”

“ใช่ แน่ๆ ดูเธอสิ ช่างงดงามอะไรเช่นนี้”

“ดูนั่นสิ! ข้าง ๆ เธอก็ นักเวทย์สาว ชางเย่ว สาวสาวนี้ ชางถงและชางเย่วเป็นสมาชิกระดับสูงของสมาพันธ์ผู้กล้า ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันคำผิดพลาดของผู้เล่นจาก [Flying Dragon] ถ้ายังดื้อจะก่อปัญหาอยู่อีก หากมีคำสั่งจากผู้เล่นชั้นสูงจากสมาพันธ์ผู้กล้าล่ะก็ ชักอยากรู้จริง ๆ ว่าจะเกิดอะไรกับมังกรทะยานกันนะ! ”

ปากของมังกรทะยานสั่นระรัวขณะที่ ลูกน้อง เสือคลั่งที่ถือขวานอยู่ ก็กระซิบถาม

“เอาไงดี ลูกพี่? ขวานไฟของข้าพร้อมแล้วนะ”

เต่าดำเดินมาพร้อมถือปืนและบ่นว่า

“หัวหน้า โปรดคิดอีกทีเถอะถ้าเราลุยกันตอนนี้ เราอาจจะสร้างศัตรูเป็น สมาพันธ์ผู้กล้าก็เท่ากับเป็นศัตรูของฟานชู ในขณะที่ ผู้เล่นของเมืองป้าหวงก็จะไม่พอใจเป็นอย่างมาก ขืนเราสู้ต่อไปมีแต่จะทำให้ทุกคนเกลียดเรา ก่อนที่เราจะทำอะไรเพื่อกิลด์ เราต้องรู้ว่ามันจะทำให้รุ่งหรือทำให้ร่วง”

มังกรทะยานก็พยักหน้าและพูดเบา ๆ

“พูดได้มีเหตุผลดี เต่าดำ”

มังกรทะยานก็เงยหน้าขึ้น และมองพวกเราอย่างจริงจังแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังว่า

“ฮื่ม เราคิดดูแล้วมีอีกหลายท่านยังไม่ได้เรียน [Reflect] เช่นนั้นเราจะหยุดไว้เพียงแค่นี้ก่อน แต่หลี่เซียวเหยาจำคำไว้ให้ดี พวกเรา [Flying Dragon] จะมาล้างแค้นในซักวัน โทษฐานที่แกช่วย [Valiant Bravery] โจมตี [Flying Dragon]”

ผมเดินมาข้างหน้าหมุนเอวแล้วแกว่งดาบประกายวสันต์ไปข้างหน้า

“ผม, หลี่เซียวเหยา จะรอคอยวันแก้แค้นของ [มังกรบิน] แต่การแก้แค้นของนาย ควรเล็งมาที่ผมคนเดียว และอย่าไปยุ่งกับคนอื่น ผมเชื่อว่า [มังกรบิน] คงแยกแยะได้ ผมจะกลับไปฝึกในป่าป้าหวังต่อ แต่ถ้า[มังกรบิน]จะมาก็มาได้ทุกเมื่อนะ แต่คงไม่ง่ายหรอกนะ ที่จะฆ่าผมน่ะ!”

มังกรทะยานรีบปิดปากแล้วใช้ใบวาร์ปกลับเมืองไป ………. ผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ขอบคุณคุณหนูว่านเอ๋อมาก ๆ ถ้าไม่ได้คุณหนู พวกเราคงต้องเจอปัญหาแน่ ๆ ”

‘ว่านเอ๋อ’อมยิ้ม

“นายกลัว[มังกรบิน]หรอ?”

ผมส่ายหัว

“ปล่าว! ผมไม่ได้กลัวพวกมังกรบินหรอก แต่ผมกลัวว่ามันจะมารบกวนธุรกิจของกลุ่ม Zhan Long ต่างหาก มันหาไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะโอกาสรวยแบบนี้ ถ้าปล่อยให้มันล่มคงไม่ดีแน่ๆ”

ต่อจากผม ‘ซงฮาน’ก็หัวเราะแล้วพูด

“พี่เซียวเหยา, ตอนนี้เรารวยแล้วนะ รายได้จากสกิลนี้รวมแล้วได้ประมาณ 50000G เมื่อแลกเป็นเงินวันนี้อัตราที่ 1:8 เท่ากับมีเงินเกือบ 400,000 หยวนเลยนะ ส่วนคนอื่นก็มีการกำจัดมอนสเตอร์ชั้นสูงหน้าทางเข้าถ้ำ เจ้าพวกนั้นดรอปเหรียญก็เอาเหรียญมาแลกเป็นค่าผ่านทางเข้าห้องลับ แต่มีแค่โอกาสนี้โอกาสเดียวเท่านั้น พวกเราจำเป็นต้องชิงความได้เปรียบนี้เพื่อหาเงินกันครั้งสุดท้าย”

ผมเห็นด้วย

“แน่นอน, เราจะนำมาตั้งเป็นกองทุนของสตูดิโอ, กองทุนของสตูดิโอ Zhan Long!”

“ไชโย!!!”

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments