I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 153 ภายใต้ธงแห่งชาติ

| Zhan Long | 1546 | 2363 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

(แปลโดยคุณ Kritchapong Tae)

********************************************

กลางดึกสงัด ณ ห้องประชุมกรมตำรวจ

‘หว่างสิน’นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างหมดอาลัยตายอยาก ผมย่องเข้าไปเงียบๆ ไปพร้อมกับดาบ, ผมใส่ชุดดำทั้งตัวดูกลมกลืนกับยามค่ำคืนเป็นอย่างดี

“หว่างสิน!”

แต่ก็เท่านั้น ผมเดินไปถึงตัวเขาก่อนที่เขาจะรู้สึกว่าผมอยู่ที่นั่น นี่คือความแตกต่างระหว่างคนธรรมดาและผู้ฝึกตน. เมื่อผมปรากฏกาย ‘หว่างสิน’ ก็ยังยิ้มเหมือนที่คุ้นเคย

“ครั้งล่าสุดที่ชั๊นเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็ผ่านมา 3 ปีที่แล้วสินะ…”

ผมโบกมือ แล้วยิ้มแบบอายๆ

“ หว่างสิน, นี่พวกเราแก่มากกันเลยรึไง? ”

‘หว่างสิน’ตอบแบบโกรธๆ

“ชั๊นคนเดียวที่แก่ แต่นายยัง!”

ผมตอบ

“ไปกันเถอะ!”

“โอเค!”

เขายืนขึ้นมาพาผมเดินเข้าไปข้างในตึกบัญชาการ แต่ระหว่างเดินไปเหมือนมีแต่ความเงียบ

ในที่สุด หว่างสินก็เปิดประตู พบแสงสลัวๆ แต่ก็ยังมองเห็นบางสิ่งสะท้อนแสงสีทองออกมาก ซึ่งก็คือตราตำรวจนั่นเอง …….

“หัวหน้า  นี่มัน!!”

ผมกำลังตกตะลึง

‘หว่างสิน’ เก็บรอยยิ้ม

“นายปกปิดตัวตนในฐานะตำรวจมากนานมากแล้วนะ และตอนนี้ ชั้นต้องการให้นายถวายคำสัตย์อีกครั้ง สิ่งนี้เป็นค่าตอบแทนจากการตัดสินใจของนาย, ณ เวลานี้ พวกเราทั้งคู่จะถวายคำสัตย์นี้ นับจากนี้ ชั๊นหว่างสินและนาย หลี่เซียวเหยา จะเป็นสหายร่วมรบ, สหายผู้ไม่เคยกลัวต่ออำนาจและความหลอกลวง!”

“ผมขอถวายสัตย์ปฏิญาณต่อธงชาติ, ทุกคำพูด ทุกการกระทำ, ผมจะไม่ทำให้เสียเกียรติแห่งตราทองคำ! ผมขอถวายสัตย์ต่อรัฐธรรมนูญ, ด้วยความคิดและจิตวิญญาณ, ผมจะไม่รุกล้ำเกียรติของกฏหมาย! ผมขอถวายสัตย์ต่อประชาชน, ทั้งชีวิตของผม, จะไม่ทรยศต่อความคาดหวังของประชาชน!”

จู่ๆ น้ำตาอันร้อนผ่าวก็ไหลรินออกมาโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้  ผมค่อยๆ  คุกเข่าต่อหน้า ตราสัญลักษณ์แห่งชาติ มือของผมค่อยๆ ปาดน้ำตาออกจนหยดลงบนพื้น

ผมใช้เวลาสักครู่ เพื่อสงบใจตนเองก่อนที่ผมจะเอ่ยออกมา

“หัวหน้า ผมจงรักภักดีต่อประชาชน, ต่อความยุติธรรม ผม หลี่เซียวเหยา, จะต่อสู้เพื่อปกป้อง บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ที่อ่อนแอ ผมเป็นส่วนกองกำลังของกรมตำรวจอีกครั้ง ผมจะไม่ให้สถานการณ์อื่นใด ถึงแม้แลกด้วยชีวิตผมก็ตาม! จะไม่ยอมปล่อยให้คนชั่วหน้าไหนมาทำลายเกียรติแห่งตราตำรวจได้ผมสาบานด้วยเกียรติของผม หากผมเสียสัตย์, ผมคงไม่สามารถไปสู้หน้าผู้หญิงคนนั้น, หรือเลือดของผู้บริสุทธิ์, ผมคงไม่สามารถมองหน้าตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจ!”

‘หว่างสิน’ ตบไหล่ผมเบาๆ พยายามเก็บอาการแต่สังเกตได้จากน้ำเสียงที่สั้นเครือ

“ในเวลานี้,ในนาทีนี้ฉันจะอยู่กับนายจนจบเรื่องราวอันขมขื่นนี้ เพื่อความยุติธรรม!”

ผมก้มหัวด้วยความเคารพ ผมจ้องไปที่’หว่างสิน’

“คุณหยุดร้องได้แล้ว”

ผมหัวเราะดังมาก

“ยิ่งร้องคุณยิ่งดูน่าเกลียดกว่าเดิมอีก”

‘หว่างสิน’แค่นเสียง

“เหอะ!, ไอ้เด็กเหลือขอ มากับชั๊น! ”

“ตกลง!”

… ผมและ’หว่างสิน’ เดินออกมา จนถึงคลังอาวุธ

“ครืดดดดด!”

เสียงเปิดประตูเหล็กหน้าคลังแสงอาวุธ มันแทบจะมีอาวุธทุกชนิดที่ต้องการ ผมตะลึงนิดหน่อย

“บ้าเอ๊ย…คุณมีอาวุธหนักแทบทุกชนิดเลยนะเนี่ยะ!…เฮ้ย RPG? นี่คือสิ่งที่คุณเอาไปต่อสู้พวกแก๊งเหรอ?”

‘หว่างสิน’ ส่ายหัว

“ตอนนี้ มี 3 แก๊งที่อาละวาดอย่างหนัก พวกเราควรจะใช้อาวุธหนักเวลาสู้กับพวกมัน ลองอาวุธที่ชอบเลยนะ ตรงนั้นเป็น สไนเปอร์ ไรเฟิลน่ะ เอาซักกระบอกไหม?”

“ไม่เป็นไรครับ กระสุนธรรมดาไม่ระคายผิวไอ้ปีศาจพวกนั้นหรอกครับ. กลับกันเอาไปเยอะมันก็เกะกะ เพราะงั๊นผมเลือกอันนี้ดีกว่า!”

ผมหยิบปืนสั้นมากระบอกนึง รุ่น M9C1 ผลิตจากอเมริกาไว้ใช้ต่อสู้ระยะประชิด ระยะยิงดีที่สุด 50 เมตร ถึงตายเลยทีเดียว

“เอาแค่ปืนนั้นน่ะนะ?”

‘หว่างสิน’ถามอย่างไม่เชื่อสายตา

“ช่าย!”

ผมพูด เก็บไว้ที่เอวพร้อมกับกระสุนอีก 2 คลิปใส่กระเป๋า

“ผมใช้แค่ป้องกันตัวระยะประชิดแค่นั้น ถ้าจะฆ่าไอ้พวกสัตว์ประหลาดนั่น มันต้องเจอสหายผม เสี่ยวไฮ!”

“ก็ได้ ชั๊นจะไปลงทะเบียนปืนกระบอกนั้นให้นายเองและขอใบอนุญาตให้เร็วที่สุดละกัน เอาล่ะตอนนี้ปืนกระบอกนี้เป็นของนายแล้ว จำไว้เก็บอยู่กับตัวให้ดี”

“เข้าใจละ!”

‘หว่างสิน’แนะนำ หลังจากที่มองการแต่งตัวของผม

“ถ้าอยากจะเปลี่ยนชุดนี้ล่ะก็นะ ชั๊นมีชุดแผนกให้เปลี่ยนอยู่ ดีไซน์ใหม่ให้เลยนะ?”

ผมก้มหัวขอบคุณแล้วตอบว่า

“ในกรณีนี้ จะต้องชุดดำนี่ละ มันกลมกลืนสุดในตอนกลางคืนแล้ว ผมต้องการฝักดาบที่ติดกับหลังได้, ซองปืนที่เอาไว้ติดกับเอว และก็ซองมีดที่ไว้ติดกับขาทั้งคู่”

‘หว่างสิน’ยิ้ม

“อ้อ..เข้าใจละ  ไปกันเลย เรายังมีเวลาอีก 4 ชั่วโมงก่อนการแลกเปลี่ยน, เราต้องไปซุ่มแถวนั้นก่อน”

“ครับ หัวหน้า!”

และแล้วก็มาถึงศูนย์ปฏิบัติการ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มไปหมด ที่กำลังตรวจสอบปืนไรเฟิลของตัวเองกันอยู่ เตรียมพร้อมเวลาฉุกเฉิน อย่างที่คิด แต่ละคนมีใบหน้าที่เคร่งเครียด เนื่องจากความล้มเหลวจากการปฏิบัติหน้าที่ครั้งที่ผ่านมา สร้างความเสียหายอย่างหนัก

มีเจ้าหน้าที่ 15 คนปฏิบัติภารกิจนี้ ตราตำรวจของแต่ละคนดูเงาวับเลยทีเดียว ผมติดตราตำรวจที่บ่าผมและหว่างสิน พวกเราก็ขึ้นไปยืนอยู่บนเวที

“ผมพาหลี่เซียวเหยากลับมา และหวังว่า การปฏิบัติภารกิจวันนี้จะเป็นไปตามแผน ทุกคนพร้อมไหม?”

‘หว่างสิน’พูดเสียงออกคำสั่ง

“พวกเราพร้อมครับ!”

“เอาล่ะเคลื่อนพลได้!”

รถตำรวจที่อัดแน่น 3 คัน แบ่งกระจายไป เป็น 3 ทาง ขณะนี้เวลา 4 ทุ่มแล้ว ไม่มีเสียงไซเรน, ไม่มีแสงเพื่อไว้ซ่อนตัว ซ่อนรถในพุ่มไม้ทันทีที่มาถึง, เตรียมกำลังพลไว้พร้อมต่อสู้ ซุ่มอยู่ในกอหญ้า คอยสังเกตการณ์จากระยะไกล รอคอยเป้าหมายที่กำลังมา เสียงหว่างสินกระซิบใกล้ๆ

อธิบายรายละเอียดแผน

“จากข้อมูลที่ได้มา การแลกเปลี่ยนยาครั้งนี้ ใช้บริเวณข้างแม่น้ำ ทั้งสองฝั่งพาคนมาจำนวนมาก ทันทีที่แลกเปลี่ยนเกิดขึ้น เราจะโจมตีล่อให้พวกมันส่งเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นออกมา แล้วนาย หลี่เซียวเหยาก็ลอบโจมตีโดยที่ไม่ให้เจ้าหน้าที่คนอื่นบาดเจ็บ ฆ่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นซะ แล้วเอกศพมันกลับมาด้วย เราต้องการวิเคราะห์มันในห้องทดลองทีหลัง“

ผมพยักหน้า

“น้อมรับคำสั่ง!”

“ดี เตรียมตัว!”

ขาผมย่ำไปในโคลนและซุ่มรออยู่นานเลยทีเดียว. พระจันทร์ก็มาอยู่กลางหัว  ผมมองเห็นการเคลื่อนไหวอยู่ไกลๆ รถคันหนึ่งวิ่งมาหยุดอยู่ตรงจุดนัดพบ, แสงสาดส่องไปทั่วพื้นที่ขณะที่มีคนออกมาซ้อน ๆ กัน

หลังจากนั้นอีกไม่นาน กลุ่มคนทั้งสองก็มายังจุดนัดพบ  จากจุดที่ผมอยู่ เห็นคนพวกนั้นถืออาวุธ ปืนกลเบา,  ใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม กลุ่มคนพวกนี้เป็นคนประเภททำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน ‘หว่างสิน’ ยกมือช้า ๆ ให้สัญญาณเตรียมปฏิบัติภารกิจ

“พลซุ่มยิง, เตรียมพร้อมยิงไปที่ พวกที่ถือปืนภายใน 10 วินาที ที่เหลือเตรียมเข้าชาร์จในระยะ 100 เมตร เพื่อล่อเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นออกมา!”

สิ้นประโยค ผมรวบรวมสมาธิเพื่อดูการยิงปะทะ

“ปุ  ปุ!”

เสียงสไนเปอร์ไรเฟิล ติดเครื่องเก็บเสียง  คนที่ถือปืนกลเบาร่วงลงไปกอง 2 คน เกิดความโกลาหลขึ้นทันทีทั้งกลุ่ม.

“บุกชาร์จได้!”

‘หว่างสิน’ตะโกนพร้อมกับเจ้าหน้าตำรวจพุ่งออกไป หาคนละเป้าหมาย ….

“บ้าเอ๊ย!! พวกเราโดนทรยศ! หลิ่วซานเอ้อ ไม่ใช่คนทรยศ ต้องมีบางคน พวกเราฆ่าผิดคน ”

ใครบางคนตะโกน

“ชิ, เอาเงินไปและไม่ต้องห่วงไป ปล่อยอาวุธลับไปฆ่าพวกตำรวจซะ!”

“โฮกกก  โฮกกก…”

เสียงคำรามดังมาแต่ไกล. เสียงที่ทำให้ขนลุกซู่ สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ขนสีดำกำลังมา ความเร็วเกินกว่ามนุษย์ปกติจะทำได้

“ยิง!”

หน่วยปืนที่ซุ่มอยู่ในกอหญ้าเริ่มยิงใส่เป้าหมาย แต่ผิวของสัตว์ประหลาดมันแข็งมาก กระสุนเด้งออกทั้งหมด

“เข้ามา!”

‘หว่างสิน’หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ

“หลี่เซียวเหยา!”

“ฟึ่บ ๆๆๆ..”

ผมวิ่งย่ำผ่านเลน  ใช้ลมอัดอากาศระเบิดใต้เท้าผมทำให้เร่งความเร็วขึ้นไปอีก

“ชวิ๊งง”

ผมชักเสี่ยวไฮมากระชับในมือ รวบรวมพลังฉีที่อยู่ในตัว ผมเล็งไปที่หัวของสัตว์ประหลาด เหวี่ยงดาบหมายจะผ่าร่างให้กลายเป็นสองส่วน!

“แกร๊งง”

กรงเล็บสีดำบล็อกดาบผมได้ และเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นก็ส่งสายตาอันน่าเกลียดเล็งความสนใจมายังผมภายใต้แสงจันทร์ เพิ่มความน่าขนลุกเข้าไปอีก ปากก็เริ่มเปิดออกเผยฟันอันแหลมคมที่พยายามงับหัวไหล่ผม ผมกัดฟัน เสยอัพเปอร์คัทด้วยหมัดเหล็ก!

“เปรี๊ยง!”

หมัดอันหนักหน่วงปะทะไปที่ปากของมัน  ผมเหวี่ยงตัวพร้อมกับเตะมัน  จับดาบแน่น ผมฟันดาบเป็นวงพระจันทร์ หมายเล็งไปที่สมองของเจ้าสัตว์ประหลาด!

“อ๊ากกกกก!”

เสียงกรีดร้องโหยหวนทันทีเลือดจากหัวสัตว์ประหลาดที่โดนตัดกลิ้งกับพื้น กระจายไปทั่ว ร่างยักษ์ก็ล้มตึงสนั่นหวั่นไหว! ผมเช็ดดาบให้สะอาดอย่างเงียบๆ แต่ก็มองดูศพอีกพักหนึ่ง มีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้น! ขนสีดำค่อย ๆหดตัวเข้าไปร่างกาย ปรากฏเป็น ศพชายอายุประมาณ 28 ปี ที่หัวมีรูเข็มจำนวนมากมาถึงบริเวณคอ แสดงว่าเป็นผลจากการทดลองบางอย่าง ………

‘หว่างสิน’ไม่ปล่อยให้เสียโอกาส โบกมือ

“บุกเลย, จัดการพวกค้ายาให้หมด!”

แล้วเขาก็วิ่งมาหาผม พร้อมขมวดคิ้วเมื่อเห็นศพชายหนุ่มไร้หัว

“นี่คือจุดจบสินะ…ทำไมคนถึงกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปได้, พวกเราไม่ได้ฆ่าผิดคนใช่ไหม๊?”

ผมอธิบายสิ่งที่’หว่างสิน’ถามให้กระจ่าง

“ไม่ผิดพลาดแน่นอน นำเขากลับไปตรวจเลย หัวหน้า นี่มันสิ่งมีชีวิตที่ยากจะอธิบาย ถ้าคุณต้องการข้อมูลล่ะก็ เปรียบเทียบกับการขุดหลุมคงต้องขุดลงไปจนถึงนรก ไม่เช่นนั้น เมืองหางโจวคงจะไม่สงบสุขเป็นแน่ ”

‘หว่างสิน’ผงกหัว

“อืมชั๊นรู้ล่ะ ชั๊นจะติดต่อห้องปฏิบัติการทางปักกิ่งแล้วกัน”

“ถ้าอย่างนั้น ผมกลับล่ะนะ”

“คุณจะกลับแล้วเรอะ?”

“ทำไมล่ะ?”

“แล้วรายงานที่นายต้องเขียนให้ชั๊นล่ะ!”

“ผมจะไม่เขียนรายละเอียดให้หรอกนะ. ทำมันเองเหอะ!ไม่ใช่คุณนี่ ที่ไม่ได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่!”

“ไอ้เด็กเวร…”

ภายใน 15 นาทีก็สิ้นสุดการปะทะ ตำรวจสามารถรอดกลับมาทุกคน เป็นการจับกุมที่ไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้น พวกเราเก่งในการต่อสู้จริงๆ  ซึ่งสามารถแข่งขันกับกองกำลังตำรวจระดับสูงได้แน่

แต่แน่นอนว่าหากเจอทีมพิเศษ ผมสามารถพูดได้ว่าตำรวจกลุ่มนี้ยังไม่เทียบเท่า เสียงไซเรนดังตามมา ตำรวจปกติมาถึงและจับกุมพ่อค้ายา จับเป็นได้ 17 คน และ 12 บาดเจ็บ มีสัญลักษณ์กระโหลกและกระดูกไขว้ที่ไหล่ของพวกเขา ดูมันน่าสงสัยมาก ผมนั่งในรถตำรวจที่จะพาพวกเรากลับเมือง

ผมก็เอนตัวลงที่พนักพิง ตำรวจหญิงใบหน้ากลมหันมาคุยกับผม

“คุณคือ…ตำนานหลี่เซียวเหยา ใช่ไหม?”

ผมลืมตาแล้วก็หลับตาลง หยักหน้า

“ใช่ ทำไมหรอ?”

“ทำไมกระสุนพวกเราไม่สามารถทำอะไรสัตว์ประหลาดได้ แต่ดาบคุณกลับตัดเป็นสองส่วนในพริบตา?”

เธอถามพร้อมกับชำเลืองมองที่ด้ามดาบผม ผมหัวเราะร่วน

“เพราะว่า ดาบของผม มันคือ…..ตำนาน! “

“ห๋า??”

เธอเข้ามาดูใกล้ๆ ที่ดาบของผม เธอลองโยกด้ามดาบ สังเกตตัวอักษรที่จารึกอยู่บนดาบ

“อา.. มีคำอยู่ตรงนี้ด้วย…กันเจียง?! ห๊า! รึว่าจะเป็นดาบในตำนาน “กันเจียง” จากตำนานโบราณคะ?”

TL: “จากตำนานเรื่อง กันเจียงและโมเย”

ผมพยักหน้าแบบจริงจัง

“ถูกต้อง, คุณยังมีคำถามอื่นอีกไหม๊?”

‘หว่างสิน’รู้สึกขำขันกับท่าทางของตำรวจสาว เลยหัวเราะออกมาแล้วมองไปทางอื่น ……..

เกือบตี 3 แล้วผมกลับไปที่สตูดิโอ ผมค่อยย่องเข้าไปในห้อง พบสตรอเบอรรี่’มัทฉะ’กำลังหลับอยู่แต่ลืมล็อคประตู เธอน่าจะลืมล็อคแน่ๆ ผมลากกล่องจากใต้เตียงออกมาเบาๆ ผมวางดาบและปืน M9C1 ไว้ในกล่อง แล้วดันกลับเข้าไปที่เดิม

เมื่อผมหันมาเจอ ดวงตาคู่โตที่กำลังจ้องข้างหลังผมอยู่นั้น ตามมาด้วยขนปลิวจากหมอนที่กำลังตีหัวผมอยู่แล้ว ‘มัทฉะ’ก็ตะโกน

“ช่วยด้วยๆ มีผู้บุกรุกเข้ามาในห้องชั๊น! นักล่าเหยื่อ กรี๊ดดด! ทุกโค๊นมาเร้วๆ!”

ผมรีบคว้าเธอมาอุดปากพร้อมกับกระซิบเบา ๆ กับเธอ

“สตรอเบอรรี่ มัทฉะ ดูให้ดีสิ นี่ผมเอง! หลี่เซียวเหยา!”

“ห๊ะ!? บอส!?”

‘มัทฉะ’ หุบปาก และมองมาที่ผม แสงส่องผ่านมาที่หัวเธอขณะที่หน้าของเธอแดงขึ้นเรื่อยๆ

“หัวหน้าคะ  มาทำอะไรที่นี่คะ?”

…… ประตูถูกทุบอย่างแรง ‘ซงอาน’, ‘รันมิน’และ ‘Fox’ รีบวิ่งมาอย่างไว

“ไหนคนร้าย! อ้าว? หัวหน้า?!”

‘ซงฮาน’จ้องมาที่ผมแล้วยิ้มปากกว้างสุด ๆ

“เหะ เหะ พี่เซียวเหยา, ไหน….ไหนลองอธิบายมาหน่อยซิ?”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments