ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหลังจากที่จบงานเลี้ยงในราชวงศ์เจียง ‘ชูเฟิง’และคนอื่นๆก็รุบมุ่งหน้ากลับสำนักมังกรฟ้าแต่ก่อนจะกลับ ‘ราชันย์วานร’ได้ขอความร่วมมือของราชวงศ์เจียง 2 อย่าง อย่างแรก คือ ‘ชูเฟิง’ต้องการกำลังคนจำนวนมาก และ ทรัพยากรในการสร้างสำนักมังกรฟ้า
อย่างที่สองคือการใช้นามของเขาตามหา ห้าราชันย์ปีศาจของหุบเขาพันปีศาจ โดยบอกให้เหล่า ห้าราชันย์ปีศาจ นำกองทัพสัตว์มหึมาทั้งหมดในหุบเขาพันปีศาจมายังที่เทือกเขามังกรฟ้าเพื่อเข้าร่วมกับเขา และประกาศให้ทั้งโลกได้รู้เป็นธรรมดาที่ราชวงศ์เจียงเห็นด้วยกับคำขอ 2 ข้อของ’อสูรราชันย์วานร’
หลังจากที่ผ่านไปได้ในระยะหนึ่ง ‘ชูเฟิง’และคนอื่นๆก็กลับมาถึงเทือกเขามังกรฟ้า แต่เพื่อกันความไม่พอใจของผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า ‘ชูเฟิง’จึงได้ไม่บอก’ราชันย์วานร’ว่าผู้ก่อตั้งมังกรฟ้ายังมีชีวิตอยู่บนโลก
ดังนั้น ‘ชูเฟิง’ จึงเข้าไปในสุสานพันกระดูกและบอกผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าว่าเขาได้พบกับผู้เชื่อมต่อฯชุดม่วงที่สามารถช่วย’ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’ได้แล้ว นอกจากนี้เขายังถามผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าว่าจะให้ผู้เชื่อมต่อฯชุดม่วงฟื้นคืนชีพของเขาด้วยเลยหรือเปล่า
” โอ้ ชูเฟิง การฟื้นฟูร่างกายใหม่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ข้าไม่อยากสร้างปัญหาให้กับคนภายนอก “
” อีกอย่างขอรอคอยมานับพันปี รออีกหน่อยก็คงไม่หนักหนา ดังนั้น ข้าจะรอจนกว่าวันที่เจ้าจะได้เป็นผู้เชื่อมต่อฯชุดม่วงแล้วจากนั้นเจ้าค่อยมาช่วยข้า แบบนั้นจะดีกว่า”
” เรื่องที่ข้ายังมีชีวิตอยู่บนโลก นอกจากมันไม่มีทางเลือก เจ้าอย่าได้บอกใคร “
” ตอนนี้ข้าจะถ่ายทอดการวางรูปแบบฯให้แก่เจ้า เพราะข้าและไข่มุกลึกลับต้องย้ายเข้าไปในส่วนลึกสุสานจักรพรรดิ “
” แต่ยังไงก็ตาม เจ้าควรรู้ไว้ว่าหลังจากที่นำไข่มุกลึกลับออกมา มันจะทำให้มุกอัคคีและมุกน้ำแข็งมีปฏิกิริยา จนทำให้ร่างกายของซูรู่แลซูเหม่ยไม่มั่นคง “
” ดังนั้นผู้เชื่อมต่อชุดม่วงที่เจ้าเรียกมา เจ้าต้องแน่ใจก่อนว่าวีธีการของเขา จะสามารถปกป้อง ซูรู่ และ ซูเหม่ย ให้มีชีวิต “
แน่นอนว่าเป็นไปตามที่เขาคาดเดา ว่าผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าจะต้องปฏิเสธการช่วยเหลือจาก’ราชันย์วานร’ และเขาก็หวังว่าพวกเขาจะไม่รู้เรื่องที่ผู้ก่อตั้งยังมีชีวิต
” ข้าจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่านบรรพบุรุษ “
‘ชูเฟิง’คารวะ แล้วรีบลงมือช่วยผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้ายกเลิกรูปแบบฯในปัจจุบัน เนื่องจากต้องนำไขุ่มุกที่อยู่ในร่างของผู้ก่อตั้งย้ายไปไว้ที่อื่น เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนในการช่วย ‘ซูรู่’ และ ‘ซูเหม่ย’แต่เนื่องจากไม่มีพลังจากไข่มุกลุึกลับ มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะกำราบมุกอัคคีและมุกน้ำแข็ง ที่อยู่ในร่างกายของพวกนาง
เพียงแค่แปปเดียวหลังจากที่เปิดผนึก น้ำแข็งและเปลวเพลิงก็ค่อยๆแผดเผาพวกนางจนต้องกรีดร้อง ซึ่งนี้ก็คือราคาในการที่พวกเขาจะต้องจ่ายในการพยายามดึงไข่มุกทั้งสองออกจากร่างในสถานการณ์แบบนี้ ‘ชูเฟิง’จึงไม่มีทางเลือกจึงต้องรีบตาม ‘อสูรราชันย์วานร’ที่เป้นผู้เชื่อมต่อฯชุดม่วง มาควบคุมสถานการณ์
ผู้ก่อตั้งมังกรฟ้านั้นรวดเร็วอย่างมาก ก่อนที่’ราชันย์วานร’จะมาถึง เขาได้ย้ายร่างกายของเขาและไข่มุกลึกลับเข้าไปในส่วนลึกของสุสานพันกระดูก เพื่อป้องกัน’ราชันย์วานร’พบเจอกับร่างกายของเขาและไข่มุกลึกลับ
” มุกทั้งสองนี้มีทรงพลังอย่างมาก ชูเฟิงเจ้าไปเจอพวกมันจากไหน “
หลังจากที่’ราชันย์วานร’มาถึงสุสานพันกระดูก เค้าก็ได้ประจักษ์พลังของมุกอัคคีและมุกน้ำแข็ง จนเขานั้นตกใจ
” ข้าพบมันใจส่วนลึกของสุสานพันกระดูก ว่าแต่พี่วานรเป็นไงบ้าง ท่านพอจะช่วยซูรู่และซูเหม่ยไหวไม๊ ? “
เห็น’ราชันย์วานร’ตกใจ ‘ชูเฟิง’ก็ขมวดคิ้วลงด้วยความกังวล
” ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ไข่มุกทั้งสองนี้ทรงพลังอย่างมากมันมีประสิทธิภาพกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากตอนนี้ไข่มุกทั้งสองมันเกือบจะรวมเข้ากับร่างของภรรยาทั้งสองของเจ้า ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะดึงพวกมันออกมาจากร่างของพวกนาง แต่ข้าสามารถใช้รูปแบบผนึกพิเศษระงับมันไว้ได้ แต่ไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับภรรยาทั้งสองของเจ้า ว่าร่างกายพวกนางจะอดทนและมุ่งมั่นมากแค่ไหน “
” หากทำได่สำเร็จ ไข่มุกทั้งสองก็จะถูกกำราบ แต่หากล้มเหลวไข่มุกจะเข้าควบคุมร่างกายพวกนางอย่างสมบูรณ์และพวกมันจะฟื้นขึ้นมา “
” ในตอนนั้นไม่เพียงแต่พวกนางจะตาย มันยังลุกลามไปถึงอาณาจักรทั้ง 9 แม้แต่ทวีปอื่นๆก็อาจจะพบกับภัยพิบัติ “
” เพราะไข่มุกเหล่านี้ทรงพลังอำนาจมากเกินไป ข้ารู้สึกว่าพลังที่แท้จริงของพวกมันได้ถูกผนึกไว้ ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความชั่วร้าย และความมืดดำที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจ หากพวกมันฟื้นขึ้นมา ทุกสรรพสิ่งจะเข้าสู่ขุมนรกอเวจี มันน่ากลัวมากจนข้าไม่กล้าแม่แต่จะคิด “
” แต่ถ้าหากข้าใช้ตราประทับอีกรูปแบบฯกับร่างกายพวกนาง มันสามารถช่วยหยุดยั้งการคืนชีพของมัน แต่ราคาที่ต้องจ่าย คือชีวิตของภรรยาเจ้า “
” ชูเฟิง เจ้าพร้อมที่จะเสี่ยงหรือไม่ แค่เจ้าพูดมันออกมา ข้าก็จะทำตามสิ่งที่เจ้าเลือก “
‘ราชันย์วานร’พูดด้วยสีหน้าจริงจัง เป็นครั้งแรกที่ ‘ชูเฟิง’ ได้เห็นใบหน้าการแสดงออกเช่นนี้ของ’ราชันย์วานร’
” ชูเฟิง ข้าขอร้อง ช่วยลูกสาวของข้าอย่าปล่อยให้พวกนางตายเลย!!! “
” ชูเฟิง ได้โปรดช่วยน้องสาวของข้าด้วย!!! พวกนางรักเจ้ามาก แล้วเจ้าจะทนปล่อยให้นางตายต่อหน้าต่อตางั้นหรอ “
ได้ยินคำพูดเหล่านั้น พ่อและพี่ชายของ’ซูรู่’ ‘ซูเหม่ย’ ก็คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับเอาหัวโขกขอร้อง
” ชูเฟิง นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ข้าขอให้เจ้าคิดถึงคนส่วนมาก “
” ใช่ ชูเฟิง การเดิมพันครั้งนี้มันเสี่ยงเกินไป ไม่ใช่แค่พวกเราจะตาย แม้แต่ทวีปทั้งหมดก็อาจได้รับผลกระทบ!!! “
หลังจากที่รู้ว่าไข่มุกทั้งสองน่ากลัวแค่ไหน ก็มีคนพูดขึ้นเพื่อกระตุ้น ‘ชูเฟิง’ ให้เขาเลือกที่จะปิดผนึกไข่มุกทั้งสองตลอดกาล โดยการเสียสละของ’ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’
” ชูเฟิงเจ้าเป็นผู้ชาย ไม่ต้องใส่ใจเรื่องเล็กๆอย่างชีวิตไม่กี่ชีวิต แต่สำหรับทุกสิ่งนั้นมีค่ายิ่งกว่า เจ้าก็รู้ว่ามุกอัคคีและมุกน้ำแข็งมันน่ากลัวมากแค่ไหน “
พวกเขาเริ่มที่จะกระตุ้น’ชูเฟิง’อีกแรง เพราะถ้าหากการปิดผนึกล้มเหลว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะเป็นคนแรกๆที่ต้องสังเวย
” บัดซบ!!! ศิษย์น้องชูเฟิงมองพวกเจ้าเป็นคนใกล้ชิดเขา แต่ตอนนี้ พวกเจ้ากับบอกว่าให้เขาทำใจเห็นคนรักต้องตาย “
ตอนนั้น ‘จาง เทียนยี่’ โกรธอย่างมากเขาชี้ไปที่หน้าผู้คนพร้อมกับตวาดใส่
” พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ซูรู่และซูเหม่ยเป็นคนใกล้ชิดกับเขา แต่พวกเราไม่ ? “
สมาชิกในตระกูล ชู โต้
” ชู เฉิง ชู เซิน ชู หมิงเซิง พวกเจ้าหุบปากให้หมด!!! “
‘ชู กู๋ยู๋’ ถลึงตามองใส่สมาชิกในตระกูล แล้วพูดกับ’ชูเฟิง’ว่า
” น้องชาย เจ้าควรช่วยซูรู่และซูเหม่ย ที่พวกเรารอดมาได้ถึงวันนี้เพราะเจ้า ดังนั้นเจ้าก็ต้องช่วยนาง “
” ชูเฟิง เจ้าต้องช่วยแม่นางซูรู่และแม่นางซูเหม่ย หากผิดพลาดอย่างน้อยเราก็แค่ตายด้วยกัน ถึงยังไงชีวิตพวกเราก็เป็นของเจ้า “
‘ชูเยว่’ พูดสนับสนุน
” ชู กู๋ยู๋ ชู เยว่ เจ้าทั้งสองไม่ใช่คนตัดสินใจ ว่าพวกเราควรอยู่หรือตาย ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าไม่มีสิทธิไปตัดสินชะตาของพันล้านชีวิตบนทวีปนี้ “
” ชูเฟิง เจ้าต้องคิดให้รอบคอบ อาวุโสคนนั้นบอกแล้วว่าหากมุกทั้งสองฟื้นคืนชีพ ทวีปอาณาจักรทั้ง 9 ก็จะพบกับหายนะ ในเวลานั้นเจ้าจะกลายคนชั่วที่ถูกจดจำไปตลอดกาล “
ผู้คนจำนวนมากเริ่มกรุะตุ้นให้ ‘ชูเฟิง’ เสียสละ ชีวิตของคนรักทั้งสอง
” ทุกคนหุบปาก!!! เรื่องนี้ชูเฟิงเท่านั้นที่เป็นคนตัดสินใจ ? “
” ข้าจะฆ่าใครก็ตามที่พูดออกมา “
ในตอนนั้น ‘จื่อหลิง’โกรธอย่างมาก ขณะที่ชี้หน้าผู้คนและตะคอกใส่ เวลาเดียวกันระเบิดออร่าสีม่วงพุ่งทะยานออกมาจากร่างเหมือนดั่งสัตว์ร้ายเมื่อออร่านั้นออกมา
ผู้คนในฉากนั้น ยกเว้น ‘ชูเฟิง’ ‘จาง เทียนยี่’ และ’ราชันย์วานร’ ต่างถูกผลักกระเด็นอย่างต่อเนื่อง จนบางคนถึงกับได้รับบาดเจ็บสาหัสในตอนนั้นทุกคนที่อยู่ในฉากนั้นก็ปิดปากสนิท พวกเขารู้สึกว่า’จื่อหลิง’นั้นน่ากลัวอย่างมาก เพราะตอนนั้นเห็นได้ชัดเจนว่านางปล่อยจิตสังหารออกมา โดยที่คิดจะฆ่าพวกเขาจริงๆ
ดังนั้นทุกคนจึงเลือกที่จะอยู่โดยเงียบๆ ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะส่งเสียงออกมา พวกเขาได้แต่โยนสายตาไปที่ ‘ชูเฟิง’ เพื่อรอการตัดสินใจของเขา
..
: เย้ๆ ซูรู่ ซูเหม่ยจะฟื้นแล้ว หรือเปล่า ???
: ตอนนี้ถ้าฟื้นขึ้นมา เมียพ่วงกันที่เดียว 3 คน น่าอิจฉาชิบหาย
: แล้วถ้าตายอ่ะ ???
: นั้นปากหรอ มึงอยากโดนเนรเทศอีกคนไง ???
: . . . . . . . . . . .
ที่มา: