I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 224 กลิ่นแห่งวนาลัยที่พัดผ่านยามค่ำคืน

| Zhan Long | 1414 | 2359 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

TL By Kradiz(ผมเองครับ) QC By bahtdeaw

//////////////////////

เราลากเท้าทั้งสองข้างที่เต็มไปด้วยบาดแผลแห่งเปลวเพลิงเพื่อไปสำรวจผลของสงคราม เราไม่กังวลว่าจะมีนักฆ่ามาขโมยมันไปเพราะตอนนี้พวกเราอยู่บริเวณชายแดนของเมืองมังกร ผู้เล่นธรรมดาไม่มีใครกล้าเดินทางมาแน่ๆ อีกอย่างยังมี’หลิวซวง’ยืนคุ้มกันอยู่หน้าวิหารอีก ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่

เรานั่งลงบนพื้นห้องที่ร้อนแรง พลางคัดแยกอุปกรณ์ออก มีด้วยกันทั้งสิ้น 4 ชิ้น เมื่อเปรียบเทียบกับของที่ดรอปจากบอสระดับม่วง มันช่างห่างชั้นกันมากจริงๆ หนึ่งในของที่ตกออกมามันคือรองเท้าคู่งามที่กำลังเปล่งแสงสีส้มออกมา เหมือนว่ามันจะทำมาจากหนังของมังกร

ชิ้นต่อมามันคือหมวกเกราะสีโลหิตดูสูงค่า มันทำให้หัวใจของเราเต้นแรงผิดจังหวะ ชิ้นที่สามมันคือร่มสีไม้ไผ่ดูแล้วเราคงใช้ไม่ได้ชิ้นสุดท้ายมันคือมีดสั้นที่สงแสงมืดครึ่มออกมา เราหยิบรองเท้าคู่นั้นขึ้นมาดูทันที พร้อมกับตรวจดูค่าสถานะของมัน อย่างที่คิดจริงๆ มันคือของระดับจักรพรรดิ ดวงของเรานี่มันดีจริงๆ แหะ

【บูทมังกรคร่ำครวญ】(ระดับจักรพรรดิ) Type: หนัง

Defense:255

Agility:+48

Endurance:+45

Strength:+44

Extra:เพิ่มต้านทานเวท 17%

Extra: เพิ่มพลังโจมตีสายประชิด 9%

Level Requirement: 60

เรายกรองเท้าบูทขึ้นพลางหัวเราะ

“เกราะหนัง!! มีใครต้องการมั้ย มันเป็นของสำหรับพวกต่อสู้ระยะประชิด ดังนั้นหลิวย่ง…..ลืมหมอนั่นไปได้เลย”

‘หลิวย่ง’ตะโกนด้วยความโกรธ

“ไปให้ไกลเลย ไอ้บ้า”

‘หลิงว่านเอ๋อ’มองมายังรองเท้าคู่งามก่อนที่จะหันไปหา’เย่วชิงเชียน’

“ชิงเชียน ฉันจะไม่ทอยเต๋าหรอกนะ เธอเอาบูทคู่นี้ไปเถอะ แต่ว่าฉันจะเอาร่มสีไม้ไผ่คันนั้นเพราะมันเป็นของสวมใส่ของเอล์ฟแห่งดวงจันทร์อยู่แล้ว โอเคมั้ย?”

‘ชิงเชียน’พยักหน้า

“รองเท้าระดับจักรพรรดิ!!หนูไม่คิดว่าการแลกเปลี่ยนครั้งนี้เสียเปรียบหรอกนะ หนูตกลงค่ะพี่สาวชางถ่ง”

ในที่สุดการเจรจาธุรกิจของสองสาวก็จบลงด้วยดี   ดังนั้นเรา จึงโยนรองเท้าคู่นั้นไปให้’เย่วชิงเชียน’ และหยิบร่มสีไม้ไผ่ขึ้นมา มันเหมือนมีพลังงานบางอย่างพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเรา เราตรวจสอบมันทันที ค่าสถานะของมันแทบจะทำให้ทุกคนตื่นตระหนกกันเลยทีเดียว ในโลกนี้ยังมีของแบบนี้อยู่เหรอเนี้ย

【กลิ่นแห่งวนาลัยที่พัดผ่านยามค่ำคืน】(ระดับจักรพรรดิ)

Type: ไอเท็มป้องกัน,เอล์ฟแห่งดวงจันทร์

Defense:270

Extra: เพิ่มพลังป้องกันเวท 25%

Extra: เพิ่มโอกาศบล๊อก 37%

Level Requirement: 61

เรายื่นร่มไปที่ด้านหน้าของ’ว่านเอ๋อ’ พลางหัวเราะบางๆ

“ถ้าเธอใช้ร่มอันนี้แทนของเดิม มันต้องเพิ่มพลังป้องกันของเธอขึ้นมากแน่ๆ มันเป็นไอเท็มที่ดีจริงๆ”

‘ว่านเอ๋อ’หัวเราะคิกคักพร้อมกับพยักหน้า

“ช่ายย”

ฟุบบบ ในขณะที่คุยกันอยู่ร่มบนหลังของเธอก็เปลี่ยนไปด้วย กลายเป็น “กลิ่นแห่งวนาลัยที่พัดผ่านยามค่ำคืน” เมื่อรวมกับมีดสั้นในมือของเธอกับผ้าคลุมที่โบกสะบัด มันทำให้เธอดูสง่างามมากยิ่งขึ้น พลังป้องกันของเธอเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้พลังในการสังหารของร่มชิ้นนั้นก็ไม่ได้ดูด้อยสักนิด

ตอนนี้ต่อให้เธอเจอกับพวกระดับสูงอย่าง’เจี้ยนเฟิงฮาน’เธอก็ไม่ได้ด้อยกว่าเลย เรารีบตรวจสอบไอเท็มชิ้นต่อไปทันที มันคือหมวกเกราะสีโลหิต มันกำลังเปล่งแสงแห่งเปลวเพลิงออกมาอย่างโชติช่วง เรารีบเปิดดูค่าสถานะของมันทันที

【หมวกเกราะเพลิงศักดิ์สิทธิ์】(ระดับจักรพรรดิ) Type: เกราะ

Defense: 370

Strength: +49

Endurance: +48

Magic: +45

Extra: ยกระดับพลังป้องกันเวทของผู้สวมใส่ขึ้น 27%

Extra: ยกระดับพลังโจมตีของผู้สวมใส่ขึ้น12%

Effect: เพิ่มพลังในการมองเห็น,ระยะการมองในตอนกลางคืนเพิ่มขึ้น 10 เมตร

Level Requirement: 61

‘มันฉะ’นั้นยังระดับต่ำมาก ถ้าเอาให้เธอ มันจะต้องกลายเป็นขยะไปอีกนาน เพราะฉะนั้น ของชิ้นนี้จะเป็นของเรา เรารีบเปลี่ยนกับของเดิมทันที มันเป็นหมวกระดับม่วงเลเวล 45 ที่ตัวเรานั่นใช้มานานมากแล้ว พอลองใส่หมวกเกราะเพลิงศักดิ์สิทธิ์เข้าไปมันทำให้ระยะการมองเห็นของตัวเรานั่นก็เพิ่มไปอีกระดับทันที

เพราะตอนนี้มันเป็นเวลากลางคืนแล้ว ในหลายการต่อสู่ทัศนะวิสัยเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ตอนนี้ตัวเราก็เป็นดั่งเรือรบทีเดียว ใครก็ตามที่เป็นผู้ควบคุมพื้นที่ได้ ผู้นั้นก็จะกลายเป็นผู้ชนะ ตอนนี้เรามองไปที่ค่าสถานะที่อัพเกรดขึ้นมาอีกครั้ง

【Xiao Yao ZiZai】(Dragon City Night Watch) Level: 61

Attack: 1735-2220

Defense: 2031

Health: 3624

Mana: 1736

Charm: 51 ……

พลังป้องกันของผมเกินสองพันไปซะแล้ว ซึ่งตอนนี้พระหรือว่าอัศวินกว่า 95% ยังมาไม่ถึงระดับนี้ ซึ่งแม้แต่’มัทฉะ’ที่ใส่ของระดับท๊อปทั้งตัว พลังป้องกันยังไม่ถึง 1900 ด้วยซ้ำ ของระดับจักรพรรดิมั่นช่างสุดยอดจริงๆ มัทฉะมองมาที่ผมด้วยแววตาน่ารัก

“บอส! พลังป้องกันของคุณเกินสองพันแล้วงั้นเหรอ?”

เรารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“เธอรู้ได้ยังไง?”

“หืมม เห็นคุณหัวเราะแบบนั้น มันดูออกง่ายมาก…”

‘ว่านเอ๋อ’ที่อยู่ด้านข้างผมกล่าวขึ้น

“มานาของนายเท่าไหร่งั้นเหรอ?”

เราตรวจดูพลางกล่าว

“1736”

“มันดูน้อยไปหน่อยแหะ..”

‘ว่านเอ๋อ’กล่าวพลางขมวดคิ้ว

“[โลกาสิ้นสูญ] ที่ระดับแรกใช้มานา 50 [ดาบทลายทัพ] ใช้มานา 40 นั่นแสดงว่า ถ้าทั้งสองทักษะขึ้นไปถึงระดับ 7 มันจะใช้มานาถึง 350 สำหรับ [โลกาสิ้นสูญ] ส่วน[ดาบทลายทัพ] จะใช้มานาถึง 280 นายลองคำนวณดูซิว่านายจะอยู่ได้นานแค่ไหนด้วยมานาเพียง 1736”

ผมกุมขมับทันที

“มันช่างน่าปวดหัวดีแท้ ของระดับจักรพรรดิที่ตัวเรามี ไม่มีชิ้นไหนที่บวกมานาเลยซักชิ้น ถ้าตัวผมมีมานาซัก 3000 กว่า ผมคงจะสามารถใช้ทักษะได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรเลยหละ”

เสียงหัวเราะหวานใสดังขึ้นจากด้านข้างของเรา

“ดีแล้วหละ มานาตั้ง 1736 ของเซียวเหยา ถือว่าสูงที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นเลยนะ กิลด์ Emerald Porcelain ของฉันนั้นมีนักดาบไม่กี่คนเท่านั้นที่มานาเกิน 600 ไม่ต้องพูดถึงทักษะโครตเทพอย่าง [โลกาสิ้นสูญ] เลยหละ พวกนั้นแค่ใช้ [Flame Axes] ต่อเนื่องกัน 2-3 ครั้ง มานาพวกนั้นก็หมดละ หลังจากนั้นพวกนั้นก็ทำได้แค่ตีธรรมดาเท่านั้น ไม่ต้องคิดภาพเลยว่าจะอนาตขนาดไหน”

‘มัทฉะ’เอ่ยขึ้น

“ใช้แล้ว บอสน่ะสุดยอดที่สุดแล้วว มานา 1736 ถ้ามีการบริหารการใช้ดีๆ มันก็จะพอใช้ในการ PK แล้วหละ แค่ใช้ทักษะ [คอมโบ] ระดับ 7 และสกิลอื่นๆ ระดับ 3-5 คงดีพอแล้ว”

‘เป็ดที่รัก’หัวเราะบางๆ

“อีกอย่างพลังโจมตีของหัวหน้ากิลด์ยังมากกว่า 2200 การไปใช้ทักษะระดับ 3-5 มันเสียเปล่าเกินไป อีกอย่างฉันได้ยินมาว่า ทักษะของนักรบเกราะหนักคลาสสามคือทักษะ [แยกนภา] แต่ทักษะ  [โลกาสิ้นสูญ] ของบอสน่ะ อยู่ระดับสูงกว่านั้นอีก ทักษะ  [โลกาสิ้นสูญ] ระดับ 7 มันวิเศษจริงๆ นะ อิอิ อีกอย่างหลังจากที่เราผ่านความยากแบบนี้มา เรายิ่งรู้ว่าทักษะนี้มันเทพขนาดไหน…..อ้อใช่ บอสใช้รูปแบบการต่อสู้แบบไหนเหรอ Battle Reflux Style หรือว่า Thorn Style”

เราพยักหน้า

“ผมก็ยังไม่ชัวละนะ ว่าจะเล่นสายไหน”

“โอเค”

‘ว่านเอ๋อ’มองไปยังพื้น

“ว้าวว มันยังมีของตกอีกนะ รีบตรวจสอบแล้วไปชั้นสี่กันเถอะ”

“โอเค ได้เลย”

ไอเท็มชิ้นที่สี่ คือมีดสั้นระดับม่วง เลเวล 61 ‘ว่านเอ๋อ’ยกให้เป็นของ’ชิงเชียน’ พลังโจมตีของ’ชิงเชียน’เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามของระดับม่วงก็หาค่าไม่ได้ ตอนนี้กิลด์ของเราค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป อย่างช้าๆ สักวันหนึ่งพวกเราก็จะกลายเป็นกิลด์ที่โด่งดังมากๆ

นอกจากนี้ ยังมีเพชรและการ์ดอภัยโทษอีกหลายอัน และสุดท้ายเป็นหนังสือสีม่วง ตัวเราก็หยิบขึ้นมาพลางตรวจดู

[กระสุนบดบัง](ระดับ S) : ใช้ดินปืนสร้างพื้นที่ควันขนาด 40×40 หลา ทำให้ศัตรูสูญเสียความสามารถในการมองเห็น

ผู้เล่นที่อยู่ด้านในจะมองไม่ค่อยชัด 12 วินาที ต้องการอาชีพ : มือปืน ต้องการระดับ : 55   ใช้เสน่ห์ 1 ในการเรียน ……

ผมหันกลับมาพร้อมกับมอบ หนังสือทักษะให้กับ’หลิวย่ง’

“เรียนซะ มันมีประโยชน์ในการต่อสู้มากทีเดียว ฮ่าๆ ฉันรู้ว่านายคงเข้าใจมัน…”

‘หลิวย่ง’หัวเราะช้าๆ

“ฉันรู้ ฉันรู้…”

ฟุบบบบบบ แสงสีขาวพุ่งออกมาจากมือของ’หลิวย่ง’

และเขาก็ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ในการ PK เขาสามารถทำให้ศัตรูอยู่ในสถานะมองไม่เห็นได้ นี่จะเป็นไพ่ตายของเรา ด้วยทักษะนี้การต่อสู้เป็นกลุ่มเล็กๆ ของเราจะพัฒนาไปอีกขั้น  ……

ตอนนี้ก็เป็นเวลาใกล้จะตีสี่แล้ว พวกเรายืนอยู่สุดปลายของชั้นสาม ซึ่งมีโซ่โลหะลอยอยู่บนท้องฟ้า เราก็หายใจหนักๆ พร้อมกับกล่าว

“นี่ก็ชั้นสุดท้ายแล้ว ไปกันเถอะ ยิ่งเราเคลียร์ได้ไวเท่าไหร่ เราก็จะไปนอนได้เร็วเท่านั้น”

‘มัทฉะ’ห้อปากจิ้มลิ้มของเธอ พลางหาวออกมาหลายครั้ง

“เนี๊ยว เหนื่อยมากกเลย ฉันต้องตื่นตอนบ่ายเพื่อทำอาหารให้กับสัตว์เลี้ยงอีกอ่ะ”

‘หลิวย่ง’

“พวกเราไม่ใช่สัตว์เลี้ยง!!”

เราหัวเราะ

“ไม่มีปัญหา ถ้าเราอยู่ทั้งคืนแบบนี้ มัทฉะสามารถพาทุกคนไปทานข้าวข้างนอกได้ พวกเราไม่ได้ขาดแคลนเงินมากเท่าไหร่ เพราะงั้นถ้าช่วนเพิ่มเวลาพักผ่อนของเธอได้ซักหน่อยก็ไม่เป็นไร”

“จริงเหรออออ”

‘มัทฉะ’รู้สึกดีใจอย่างมาก

“บอสเยี่ยมที่สุดเลยย ดีกว่าสัตว์เลี้ยงของฉันเป็นพันเท่าเลยย พวกนั้นรู้แค่ว่าจะสามารถบังคับฉันเท่าไหร่ก็ได้ ฮือ ฮือออ”

‘หลิวย่ง’หน้าตามืดทึ้ม

“หืมมม….เธอกล้าโกหกแบบนั้นได้ยังไง”

‘ว่านเอ๋อ’ยิ้ม

“ไปกันเถอะ อย่าพูดไร้สาระกันอยู่เลย พวกเราสามารถคุยกันในขณะที่ขึ้นไปชั้นสี่ก็ได้”

พวกเรายืนอยู่บนก้อนหินสูงพวกเรากระโดดจับสายโซ่ที่ใช้ในการลงไปยังเบื้องล่าง ที่ห่างออกไป แผนที่สุดท้ายก็อยู่เบื้อหน้าเรา มันเป็นดินแดนน้ำแข็งขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม มันก็มีสัตว์อยู่เพียงเล็กน้อยในพื้นที่นี้ มีต้นไม้ใหญ่และต้นไม้ขนาดเล็กจำนวนมาก

“ฟู่….”

เราร่อนลงที่พื้นอย่างบางเบา พร้อมกับเดินไปเบื้อหน้าเล็กน้อย ทิ้งรอยเท้าไว้บนหิมะเบื้องหลัง ที่ด้านขวาของเรามียักษ์ขนาดใหญ่ ตัวของมันราวๆ สามเมตรร่างของมันเป็นน้ำแข็งที่ดูสวยงาม มันไม่มีตา แต่มันมีแขนที่หนาใหญ่ ที่ก่อให้เกิดลมพายุพัดทุกครั้งที่มันเคลื่อนที่ แต่สิ่งที่ปรากฏบนหัวของมันทำให้หัวใจของทุกคนแทบหยุดเต้น

【ยักษ์น้ำแข็ง】(ระดับจักรพรรดิ) Level:1 Decription:สามารถผนึกได้ ……

“หู้วว ม่อนที่สามารถผนึกได้….”

‘ว่านเอ๋อ’ขบฟันของเธอ

“แถมมันยังเป็นระดับจักรพรรดิอีก ราชินีผีเสื้อของมัทฉะยังเป็นแค่ชั้นม่วงเอง ยักษ์น้ำแข็งตัวนี้ต้องแข็งแกร่งมากแน่ๆ”

ผมกัดฟันพร้อมกับกล่าวเสียงเบา

“พวกเราต้องปล่อยยักษ์น้ำแข็งตัวนี้ไปก่อน เพื่อไปหายักษ์น้ำแข็งธรรมดา เพื่อหาภาพประกอบของมัน หลังจากได้แล้วพวกเราค่อยกลับมาจับมัน”

“โอเค”

พวกเราแอบออกไปด้านข้างของมันเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ ที่เบื้องหลังของยักษ์น้ำแข็งระดับ 1 นั้น มียักษ์น้ำแข็งอยู่นับไม่ถ้วน อยู่เต็มไปหมด พร้อมตะโกนไปมาเหมือนคนบ้า

Ice Giant, Lv 65 มอนสเตอร์ระดับปีศาจ

ก่อนที่ผมจะได้เดินเข้าไป หนึ่งในยักษ์น้ำแข็งก็ร้องเสียงแหลม พร้อมกับยกมือที่เป็นหอกน้ำแข็งของมันขึ้นมา

ฟุบบบ ด้วยเสียงอันรวดเร็ว

หอกของมันพุ่งเข้าทะลวงเกราะเนบิวล่าของผมทันที 512!

 

ปล.ตอนนี้ลองเปลี่ยนคำเรียกตัวเองของพระเอกเป็นเราดูนะครับ มี Feedback ยังไงก็เสนอได้ครับผม

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments