I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 225 สัตว์เลี้ยงระดับจักรพรรดิ

| Zhan Long | 1409 | 2363 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

TL By Kradiz Qc by bahtdeaw

//////////////////////////

“ว้าววว พลังป้องกันของเซียวเหยาสูงจริงๆ ขนาดทักษะของมอนสเตอร์ระดับปีศาจเลเวล 65 ยังโดนไปแค่ 500 เองนะเนี้ยย”

‘ตงเฉิงเย่ว’หัวเราะคิกคัก ผมจับดาบพร้อมกับพุ่งทะยานเข้าฟาดฟันยักษ์น้ำแข็งทันที

“ใช้การโจมตีธาตุไฟ มันจะทำให้ทำดาเมจได้มากขึ้น พวกเราควรจะแยกกันเป็นกลุ่มย่อย หรือว่าอยู่รวมกันดี?”

‘มัทฉะ’มองออกไปด้านหน้าพลางกล่าว

“ที่นี่ไม่ปลอดภัย เพราะงั้นอย่ารีบดีกว่า อีกอย่าง ยักษ์น้ำแข็งยังมีทักษะโจมตีระยะไกลอีกด้วย ถ้าบอสไม่ช่วยดึงความสนใจทั้งหมดของม่อน ฉันกลัวว่า หมอของเราจะตายทั้งหมดน่ะสิ พลังป้องกันของบอสตั้งสองพันเพราะงั้นมันย่อมทำอะไรบอสไม่ได้ แต่ว่าหมอของเรามีพลังป้องกันแค่ 800 เพราะงั้นพวกนั้นจะตายง่ายมากๆ”

“โอเค เข้าใจแล้ว”

ตอนนี้ภายในหุบเขา ยักษ์น้ำแข็งกำลังถูกล้างบางอย่างรวดเร็ว แม้ว่าพวกเราจะดูเหมือนเป็นกลุ่มแค่กลุ่มเดียว แต่จริงๆ พวกเรามีสองทีม ‘เย่วชิงเชียน’ ‘ตงเฉิงเย่ว’ และผมเป็นทีมแรก ในขณะที่’ว่านเอ๋อ’และคนอื่นๆ อยู่ทีมสอง พลังป้องกันของผมสูงพอสมควร ต่อให้รับการโจมตีของพวกมันไปสองสามครั้งพร้อมกันก็ไม่ใช่ปัญหา

เพราะงั้นผมสามารถยืนได้นานเท่าไหร่ก็ได้ ตราบเท่าที่มีหมออยู่ด้วย ส่วนอีกทีมยังมี’ว่านเอ๋อ’ที่มีร่มระดับจักรพรรดิอยู่ มันช่วยให้พลังป้องกันของเธอเพิ่มมากขึ้นจริงๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอคือนักฆ่าอันดับหนึ่งแน่นอน ด้วยพลังป้องกันและพลังโจมตีขนาดนี้ เธอสามารถฆ่ายักษ์น้ำแข็งหนึ่งถึงสองตัวได้อย่างสบาย

ตั้งแต่เริ่มเปิด “Destiny” ผู้เล่นหญิงที่เลือกเอล์ฟแห่งดวงจันทร์มีหลายพันคน แต่ไม่มีใครเลยสักคนที่สามารถแสดงความสามารถได้แบบ’ว่านเอ๋อ’ เธอสามารถสลับสถานะโจมตีกับสถานะป้องกันของเธอในการต่อสู้ได้ แถมเธอยังมีโอกาสที่จะสามารถป้องกันดาเมจได้ถึง 70%

บนหัวของเธอตัวอักษร “MISS” เด้งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีบ้างที่เธอโดนโจมตี แต่ความสามารถดูดเลือด 5% ของเธอก็เพียงพอที่จะทำให้เลือดของเธอกลับมาเต็มเหมือนเดิมและเธอแทบจะไม่ต้องการการฮิลจากหมอเลยด้วยซ้ำ

การล่าสังหารผ่านไปเรื่อยๆ สองชั่วโมงผ่านไป พวกเราก็มาถึงยังจุดกึ่งกลางของแผนที่ ในที่สุด สิ้นเสียงร้องอันโหยหวนของยักษ์น้ำแข็ง การ์ดสีน้ำเงินดำก็ตกออกมา มันคือภาพข้อมูลของยักษ์น้ำแข็ง!!!

“เอาหละ ใครจะเป็นคนเรียนมันดี?”

‘เย่วชิงเชียน’กระพริบตาวิ้งๆ พลางกล่าวต่อ

“โอกาสผนึกสำเร็จมันอิงจากค่าเสน่ห์ พี่เซียวเหยามีค่าเสน่ห์ถึง 51 ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มพวกเราแล้ว เพราะงั้นพี่เรียนมันเถอะ แล้วเราจะได้ไปจับมันกัน”

“ได้เลยย”

กลุ่มของพวกเราหยุดฆ่าม่อนแล้วพากันเดินตามผมมาที่หน้าทางเข้าชั้นสี่ และพวกเราก็เจอกับมัน ยักษ์น้ำแข็งระดับ 1 ที่ยังคงเดินเอ้อระเหยลอยชายอยู่ ผมเดินออกจากกลุ่มไปพลางเปิดใช้การ์ดผนึกไปที่มัน แสงแห่งเวทมนต์พุ่งออกมาจากใต้เท้าของมัน เส้นแสงส่องสว่างหมุนวนรอบร่างของมัน

เส้นแสงเหล่านั้นพยายามที่จะผนึกยักษ์น้ำแข็งลงสู่การ์ด ตัวของมันค่อยๆหดเล็กลง แต่มันก็พยายามดิ้นรนจนมีอิสรภาพในที่สุด ล้มเหลว!!

เอาใหม่! ผมต้องใช้การ์ดไปถึง 8 ใบถึงจะสามารถผนึกมันได้ ในที่สุด ยักษ์น้ำแข็งตนนี้ก็เข้ามาสู่ช่องเก็บของของผม ในขณะเดียวกันเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นในหัวของผม

“ตริงง”   การแจ้งเตือนจากทางระบบ : ยินดีด้วย! คุณสามารถผนึก [ยักษ์น้ำแข็ง](ระดับจักรพรรดิ) ได้ คุณคือผู้เล่นคนแรกที่สามารถผนึกสัตว์เลี้ยงระดับจักรพรรดิได้ คุณจะได้รับ : เสน่ห์ +5 ……

ผมดีใจจนไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ตอนนี้ผมมีค่าเสน่ห์ 56 แล้ว ค่าเสน่ห์นี้มันสำคัญมากในการต่อสู้ มันจะช่วยให้พลังโจมตีเข้าใกล้จุดสูงสุดมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าพลังโจมตีของผมคือ 1735-2220 ด้วยค่าเสน่ห์ของผม ทุกการโจมตีจะยิ่งเข้าใกล้ 2220 แต่นี่มันก็เป็นแค่การสมมติฐานเท่านั้น

เพราะพลังโจมตีขั้นต่ำผมค่อนข้างสูง ถ้าหากว่ามีใครที่พลังโจมตีห่างกันเกินพันละก็ นั่นมันต้องแสดงผลมากแน่ๆ ผมมองไปที่ช่องเก็บสัตว์เลี้ยงของผม ในนั้นมีม่อนขนาดใหญ่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยเกล็ดหิมะเต็มไปหมดปรากฏอยู่

【ยักษ์น้ำแข็ง】(ระดับจักรพรรดิ) Level: 1

Attack: ★★★★★☆

Defense: ★★★★★★☆

Health: ★★★★★★

Agility: ★★★★☆

Magic: ★★★☆

Skills:【หอกน้ำแข็ง】【Ice wall Sweep】【Absolute Zero Absorption】

Excellence: 91%

เมื่อทุกคนเห็นค่าสถานะของมัน ทุกคนต่างตกใจ ใบ้รับประทานกันหมด

‘หลินว่านเอ๋อ’อ้าปากค้าง

“ว้าววว……ค่าการเติบโตที่สูงโคตรๆ…แถมทักษะของมันยังดีอีกด้วย มันต้องเป็นสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งที่สุดตอนนี้แน่ๆ”

‘มัทฉะ’กล่าวเสริม

“ท่าหอกน้ำแข็งของมันยังลดความเร็วของศัตรูอีกด้วย แถม[Ice Wall Sweep] ยังเปลี่ยนแขนของมันให้กลายเป็นกำแพงน้ำแข็งที่สามารถโจมตีได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี [Absolute Zero Absorption]…..บอสส [Absolute Zero Absorption] ทำอะไรได้งั้นเหรอคะ?”

ผมหันไปดูคำอธิบายของทักษะนั้นทันที

“ดูดซับพลังงานน้ำแข็งในอากาศเพื่อนำมาฟื้นฟูพลังชีวิตตนเอง 3% ทุกวินาที”

“พระเจ้าช่วย”

‘อวี่จื่อเฉิงโช่ว’อ้าปากเหวอ

“นี่มันจะเกินไปหน่อยแล้วมั้ง…..ยักษ์ตัวนี้แทบจะไร้เทียมทาน ไม่ว่าจะโจมตีธรรมดาหรือใช้ทักษะหมู่ แต่มันก็สามารถฟื้นเลือดตัวเองได้ แถมพลังในการฟื้นฟูยังเร็วมากอีกด้วย”

ผมพยักหน้าพลางหัวเราะ

“ใช่แล้ว พลังโจมตี 5.5 ดาว พลังป้องกัน 6.5 ดาว พลังชีวิต 6 ดาว มันไร้ที่ติจริงๆ ถ้าอัพ 7 พ้อยไปที่ค่าความแข็งแกร่ง 2 พ้อยไปที่ค่าความอดทน 1 พ้อยไปที่ พลังป้องกัน ทุกระดับ ถ้ามันระดับ 60 มันต้องมีพลังโจมตีอย่างต่ำก็ 1900 เลือดอีก 3000 และพลังป้องกันกว่า 1500….เอาหละ ใครต้องการมันบ้าง? หรือจะทอยเต๋าเอา?”

‘อวี๋จื๋อเฉิงโช่ว’กระอเมไอ

“อันที่จริง ฉันเป็นหมอ และก็อย่างที่ทุกคนรู้……หลังๆ ฉันต้องการสัตว์เลี้ยงที่มีพลังโจมตีสูงแน่ เพราะงั้น ขายเจ้ายักษ์ตัวนี้ให้ฉันได้มั้ยในฐานะที่เป็นของขวัญก็ได้ แล้วราคาขายกันมันเท่าไหร่เหรอ”

‘มัทฉะ’ส่ายหัว

“มันไม่มีราคาตลาดหรอก ในเมือป้าฮวง สัตว์เลี้ยงระดับม่วงตอนนี้ขายอยู่ราวๆ 10000 ทอง”

‘หลินว่านเอ๋อ’หัวเราะเสียงใส

“แต่ว่าพี่สาวอวี๋จื๋อเฉิงโช่วเป็นหนึ่งในพวกเรานะ เพราะงั้นมันก็ควรจะถูกนะ อย่าไปเทียบกับราคาตลาดเลย”

“ราคาของสัตว์เลี้ยงระดับจักรพรรดิ ควรจะอยู่ราวๆ 3-5 เท่าจากราคาสัตว์เลี้ยงระดับม่วงเพราะงั้นราคาของมันคงอยู่ราวๆ 40000 ทอง แต่พวกเราเป็นเพื่อนกัน ดังนั้นพวกเราจะลดให้เท่าไหร่งั้นเหรอ”

‘เย่วชิงเชียน’ตอบกลับ

“50% หรือ 70% ดีละ?”

ผมถาม

“งั้นก็ลด 70% เถอะ ไม่งั้นพี่อวี๋จื๋อต้องร้องไห้แน่”

‘หลินว่านเอ๋อ’หัวเราะคิกคัก

“โอเค งั้นก็ 12000 ละกัน พี่อวี๋จื๋อตงลงมั้ย?”

‘อวี๋จื่อเฉิงโช่ว’ตอนนี้เธอตื่นเต้นมาก

“แน่นนอน ฉันมีเงินๆ 12000 สำหรับสัตว์เลี้ยงระดับม่วงถือว่าถูกมาก ตอนนี้อัตราการแลกเปลี่ยนเท่าไหร่แล้วงั้นเหรอ? พอดีฉันไม่ได้ดูมาหลายวันแล้วน่ะ..”

“1:6 รึเปล่า”

“งั้นก็คงราวๆ….72000 หยวนที่จะแบ่งให้พวกเรา 9 คนคนละ 8000 หยวน งั้นรอสักแป๊บนะ”

‘อวี่จื๋อเฉิงโช่ว’พึมพำอยู่กับที่ซักพัก ผ่านไปไม่นานพวกเราก็ได้รับเงินกันคนละ 8000 หยวนมาที่บัญชี ผมแอบดีใจเล็กน้อยที่ได้เงินมา เป็นการหาเงินที่เร็วจริงๆ นี่แค่แบ่งกันครั้งเดียวก็ได้มาตั้ง 8000 แล้ว เป็นสิ่งที่ผมไม่กล้าฝันถึงจริงๆ ที่จะได้เงินมาง่ายแบบนี้

ตามที่ผมคิดไว้ ใน Destiny นั้นของที่มีราคาแพงไม่ใช่อุปกรณ์สวมใส่ แต่เป็นสัตว์เลี้ยงและหนังสือทักษะมากกว่า ‘อวี่จื๋อเฉิงโชว’รีบเรียกเจ้ายักษ์น้ำแข็งออกมาอย่างดีใจ มันราวกับเป็นแมมมอธที่ขนาดเท่ามอนสเตอร์ ผมเดินไปด้านข้างว่านเอ๋อพลางกล่าวเสียงเบา

“ว่านเอ๋อ ทำไมพี่สาวเฉิงโช่วถึงกล้าซื้อสัตว์เลี้ยงราคาแพงได้ง่ายแบบนั้น เธอเป็นคนใจกว้างจริงๆ”

‘ว่านเอ๋อ’หัวเราะเล็กน้อยพลางขยับเข้าใกล้หูของผมและกล่าวเสียงเบา

“พี่สาวเฉิงโช่วมี บ.เป็นของตัวเอง นายรู้อะไรมั้ย ต่อให้มันราคา 70000 หรือ 700000 ถ้าเธอชอบมันเธอก็จะซื้อโดยที่ไม่ลังเลเลยหละ”

ผม

“……”

“เอาน่า พ่อคนยากจน อย่าหมดกำลังใจไป ถ้านายขยันหาเงินนะ ซักวันนายก็ต้องรวยแน่ๆ”

“มันพูดยากนะ ผมกลัวว่าในชีวิตนี้ผมก็ไม่มีปัญญาทำมันให้สำเร็จ”

“ใจเสาะจริง ฉันสามารถช่วยนายได้นะ”

“……”

พวกเรากลับไปยังแผนที่น้ำแข็งอีกครั้งเพื่อล่าสังหารยักษ์น้ำแข็งต่อ ในขณะเดียวกันผมก็อธิฐานให้ได้พบกับยักษ์น้ำแข็งระดับ 1 อีกสักตัว แต่สุดท้ายแล้วเทพธิดาแห่งโชคลาภก็ไม่ยิ้มให้พวกเรา พวกเราไม่เจอยักษ์น้ำแข็งระดับหนึ่งอีกเลย

เวลาแปดโมงเช้า ในที่สุดยักษ์น้ำแข็งตัวสุดท้ายก็ล้มลงด้วยมือของผม ผมมองดูช่องเก็บของ พบว่ามันเต็มเรียบร้อยไปแล้ว มีไอเท็มกว่า 50 ชิ้น มีตั้งแต่ระดับเขียวไปจนถึงระดับทองทีเดียว ถ้าพวกเราขายมันต้องได้เงินอย่างต่ำก็พันหยวนแน่ๆ เควสระดับ SSS นี่มันสุดยอดจริงๆ แค่เราฟาร์มของดรอปที่นี่เราก็รวยกันแล้วหละ

“นั่นมัน…..”

‘เย่วชิงเชียน’มองออกไปด้านหน้า ทันใดนั้นหน้าของเธอก็ขึ้นสีแดงทันที

“นั่นมันอะไรน่ะ เรื่องจริงงั้นเหรอเนี้ยยย”

หญิงสาวคนอื่นก็หน้าขึ้นสีแดงเช่นกัน!!

ผมมองออกไปที่ด้านหน้า มันคือแท่นบูชาอันใหญ่โต และยังมีเสาโทเทมที่ผุพังอยู่ 7 อัน ทั้ง 7 อันนั้นอยู่ในจุดที่เหมือนกับดาวในกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ (กลุ่มดาวจระเข้หรือดาวหมีใหญ่) ที่ติดอยู่กับเสานั้นคือสายโซ่ที่มีอักษรรูนอยู่ สายโซ่นั้นเชื่อมต่อเข้าไปยังหน้าอกของคนคนหนึ่ง

นอกจากนั้นระหว่างสายโซ่ยังมีเหรียญทองแดงถูกผูกติดไว้ด้วยด้ายสีแดง ทำให้มันดูลึกลับยิ่งขึ้น ชายแก่คนนั้นคุกเข่าลงที่พื้น หัวของเขาก้มลง ไม่มีการเปล่งเสียงใดๆ ออกมาซักครึ่งคำ ส่งกลิ่นอายแห่งความมืดมนออกมา เลือดสดๆ ไหลไปตามสายโซ่เข้าสู่จุดกึ่งกลางของแท่นบูชา มันคือรูปสลักของมังกรขนาดยักษ์ที่กำลังเปล่งแสงออกมาลางๆ มันทำให้พวกเรารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ……

“นั่นมัน…”

ร่างของผมสั่นสะท้าน

“นั่นมัน ผู้อาวุโสหยุนเฉินใช่มั้ย?”

‘ว่านเอ๋อ’พยักหน้า

“น่าจะใช่นะ…..แต่ว่าทำไมเขาไม่ใส่อะไรเลย?”

ใบหน้าน่ารักของ’เฉิงเย่ว’ขึ้นสีน้อยๆ

“ช่ายย ทำไมเกมถึงออกแบบมาให้เขาไม่ใส่เสื้อผ้าด้วยนะ นอกจากนี้เขายังไม่ค่อยยาวด้วยซิ คงราวๆ 6-7 เซนติเมตร เซียวเหยานายคิดงั้นไหม?”

ผมมองไปที่เธออย่างเฉยชา

“ที่รัก เธอไม่ควรจะไปโฟกัสเรื่องนั้นนะ”

“ฉันพูดจริงๆนะ มันไม่เห็นจะยาวเหมือนของนายเลยอ่ะ”

‘เฉิงเย่ว’กล่าวต่อ หน้าของผมขาวซีดทันที ‘หลิวย่งเหล่’ตามองมา

“สุดสวยตงเฉิง คุณเห็นของเซียวเหยาแล้วงั้นเหรอ?”

‘ตงเฉิงเย่ว’ก้มหน้างุดทันที พร้อมกันนั้นแก้มของเธอก็แดงระเรื่อ แล้วก็ไม่พูดอะไรต่อ ผมละอยากจะฆ่าเธอจริงๆ ให้ตายเหอะ หน้าของ’ว่านเอ๋อเขียว’คล้ำพลางจ้องมองมาที่ผม

“นายกับตงเฉิง……ไม่ได้มีอะไรกันใช่มั้ย?”

ผมแทบจะเหมือนคนใกล้ตายทีเดียว

“พูดเหมือนกับว่าตงเฉิงไม่เคยโกหกมาก่อนงั้นเหรอ?”

“อิอิ”

‘ว่านเอ๋อ’หัวเราะน้อยๆพลางกล่าว

“บอสอยู่ไหนละ หรือพวกเราจะช่วย ผู้อาวุโสหยุนก่อน? เควสระดับ SSS คงไม่ง่ายแบบนี้หรอกนะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว บอสมันกำลังซ่อนอยู่ มันต้องรอให้พวกเราเคลื่อนไหวก่อนแน่ๆ”

“งั้นจะเข้าไปกันมั้ย?”

ผมจ้องกลับพลางกล่าว

“ใครจะเข้าไป?”

“จะเป็นใครได้ ก็นายไง”

‘ว่านเอ๋อ’หัวเราคิกคักในขณะที่มองมาทางผม ……

หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว ผมก็พุ่งไปหา ผู้อาวุโส’หยุนเฉิน’ พลางดึงดาบประกายวสันต์ออกมา หลังจากที่ไปถึงตัวเขาผมก็คุกเข่าลงพลางวางมือบนไหล่ของเขาแล้วกล่าว

“ผู้อาวุโส คุณโอเคมั้ย?”

ผู้อาวุโส’หยันเฉิง’ค่อยๆ เปิดตาของเขาออกมา แต่ทันใดนั้นรอยยิ้มดั่งปีศาจก็ปรากฏบนหน้าของเขา เขามองมาที่ผม หน้าของผมชาไปทันทีที่ได้ยินคำกล่าวของเขา

“ฮ่าๆๆ….เจ้าหนุ่มเจ้าพร้อมที่จะตายรึยัง?”

 

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments