ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป***** ตูม ตูม ตูมมม ****
ภายในเทือกเขามังกรฟ้า สำนักมังกรฟ้าเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งการต่อสู้ที่ยังไม่ยุติ ระเบิด ดังกึกก้องไปทั่ว
ภายในรอบระยะร้อยลี้ ไม่ว่าจะเป็น นก พวกสัตว์นานาชนิด ต่างพากันหนีเอาชีวิตรอด นอกบริเวณเทือกเขามังกรฟ้า สามารถมองเห็นควันไฟได้อย่างชัดเจน และคนที่อยู่ระแหวกนั้นต่างรู้สึกได้ถึงการสั่นไหวของผืนดินที่เหยียบอยู่เล็กน้อย
สถานการณ์นี้ทำให้พวกชาวบ้านอยู่อาศัยรอบนอกสำนักมังกรฟ้า ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ ชาวนา ต่างมองดูไฟแห่งสงครามที่ปะทุขึ้น ขณะที่เอาแต่ถอนหายใจ
” เห้อ สำนักมังกรฟ้าที่สร้างขึ้นมากว่าพันปีกับถูกทำลายแบบนี้ วันข้างหน้าเห็นทีว่าข้าจะต้องส่งลูกหลานไปเข้าสำนักอื่นซะและ “
” มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ใครใช้ให้สำนักมังกรฟ้าไปมีเรื่องกับสำนัก หลิง หยุน นี้ก็เป็นผลที่มาจากการกระทำของพวกเขา ดังนั้นเราคงได้แต่ภาวะว่าสงครามครั้งนี้จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เราที่เป็นชาวบ้านตาดำๆ “
ตอนนั้น ใบหน้าของชาวบ้านก็มีอารมณ์แตกต่างกันไป บางคนก็รู้สึกสงสาร บางคนรู้เสียใจ บางคนก็กังวลว่าสงครามจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน แต่สิ่งที่ต้องยอมรับ ก็คือ ในวันข้างหน้าคงจะไม่มีสำนักมังกรฟ้าอยู่ที่เทือกเขามังกรฟ้าอีกแล้ว
ถ้าคนหนุ่มสาวในระแหวกนี้ต้องเข้าสู่เส้นทางแห่งการต่อสู้ พวกเขาจะต้องไปเข้าที่สำนักอื่นๆ ไม่งั้นพวกเขาอาจจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่
ณ ตอนนั้น ภายในสำนักมังกรฟ้า เต็มไปด้วยคนของสำนักหลิง หยุน และคนจากคฤหาสน์องค์ชายกิเลน พวกเขากำลังพากันทำลายทุกอย่างภายในสำนักมังกรฟ้าที่ขวางทางตามที่ใจปรารถนา เพราะเกือบจะทุกคนในสำนักมังกรฟ้าย้ายออกไปแล้ว ดังนั้นสำนักมังกรฟ้าเหมือนกับเป็นสำนักร้าง
ซึ่งเจตนาของพวกเขาคือการได้ฆ่าล้างสำนัก แต่นี้เหมือนพวกเขามาเสียเที่ยว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนจากสำนักหลิง หยุน หรือ คนจากคฤหาสน์องค์ชายกิเลน ต่างพากันโกรธแค้นอย่างมาก จึงทำได้แค่ระบายโทสะด้วยการทำลายข้าวของในปัจจุบัน
โดยเฉพา ‘หลิน โม่หลี่’ ที่ถูก’ชูเฟิง’ พรากลูกชายสุดที่รักไป เพื่อเป็นการระบายความแค้นที่อัดอั้น และบวกด้วยความร้ายกาจของอาณาจักรสวรรค์ เขาจึงเดินไปใจกลางสำนักมังกรฟ้า จนทำให้ถูกอย่างวอดวายด้วยน้ำมือเขา สิ่งปลูกสร้างที่งดงามบัดนี้เหลือแต่ตอ ไม่เพียงแค่โจมตีเพียงอย่างเดียวแต่พวกเขายังกวาดของมีค่าไปอีกด้วย
” เราถูกหลอกแล้ว ไอ้เด็กบ้าชูเฟิงนั้น ไม่คิดจะสู้กับพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว แต่เรายังจะไปเชื่อมันอีก. . . . . .”
‘หยาน หยางเทียน’ ยืนอยู่ในอากาศ ขณะที่มองดูทุกสิ่งทุกอย่างกำลังถูกทำลาย ขณะที่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่นใบหน้าก็ดูเศร้าสร้อยผิดปกติ
เขาไม่ได้เศร้าเพราะถูกหลอก แต่เป็นเพราะวันนี้พวกเขาได้สร้างภัยพิบัติครั้งใหญ่ฝังลึก จนไม่มีทางหันหลังกลับ ซึ่งเขารู้ดีว่าเมื่อ’ชูเฟิง’กลับมาปรากฏต่อหน้าเขาอีกครั้ง คนที่จะตายของเป็นตัวเขาเอง
” ว๊ากกกก ~~~~~~~~ “
ทันใดนั้น ‘หยาน หยางเทียน’ ก็คำรามออกมา เสียงนั้นทำให้ดังไปถึงแก้วหูอากาศก็เกิดการสั่นสะเทือน ขนาดที่แม้แต่คนจากสำนักหลิง หยุน และ คนจากคฤหาสน์องค์์ชายกิเลนก็ยากจะทน พวกเขาจึงได้แต่เอามืออุดหู ส่วนคนที่ยังทนไม่ได้ก็กลิ้งไปกับพื้นพร้อมกับร้องออกมาอย่างทรมาน
หลังจากที่หยุดแหกปากคำราม ด้าน ‘หลิน โม่หลี่’ เองก็มีสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาสั่งคนทั้งหมดยิงธนูเข้าไปในสำนักมังกรฟ้าและเริ่มทำลายทุกอย่างของสำนักมังกรฟ้าเพื่อให้คลายความหงุดหงิด
ในเวลาเดียวกัน ภายในหอประชุมหลักขนาดใหญ่ของสำนักหลิง หยุน มีศพจำนวนมากกองซ้อนกันเป็นภูเขาและโลหิตไหลลงมาเหมือนแม่น้ำ ‘ชูเฟิง’ ยังคงนั่งอยู่ซากศพเหล่านั้น จนเสื้อผ้าเขาไม่มีที่ไหนที่ไม่เปื้อนเลือด ขณะที่เขานั่งบนร่างปราการป้องกันเขาก็ยิ้มและมองลงมาด้านล่าง
‘ชูเฟิง’ ฆ่าคนไปหลายพันคน บ้างคนก็เป็นคนแก่ บ้างก็วัยกลางคน บางก็คนรุ่นเดียวกัน ‘ชูเฟิง’ ใช้พวกเขาทั้งหมดมาขัดเกลาทักษะฝีมือของเขา ซึ่งคนพวกนั้นก็พอมีความสามารถและพรสวรรค์อยู่บ้าง
แต่ปัจจุบัน พวกเขาก็ต้องตายใต้เงื่อมมือของ ‘ชูเฟิง’ ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปแม้แต่น้อยในการตายของพวกเขา
การกระทำของเขา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับศีลธรรม จริยะธรรม มีแต่ความแค้นล้วนๆ ซึ่งในสนามรบ ทหารที่ไร้ความเมตตา จะเป็นทหารชั้นยอด
แม้’ชูเฟิง’จะไม่ได้เป็นทหารออกศึก แต่นี้ก็คือสนามรบสำหรับเขา คนทั้งหมดจากสำนัก หลิง หยุน ก็คือศัตรูของ’ชูเฟิง’ ซึ่งเขาไม่ได้เมตตาต่อศัตรูแม้แต่น้อย เขาไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวความลังเล เพราะในใจของ ‘ชูเฟิง’ คิดว่าพวกเขาสมควรตาย
*** ฟู่ววว ***
จู่ก็มีความคิดหนึ่งแวปเข้ามา ‘ชูเฟิง’คิดจะสร้างรูปแบบฯขึ้นมา จากนั้นอำนาจพลังวิญญาณก็พุ่งออกจากร่างของเขา
ขึ้นต่อไป ‘ชูเฟิง’ได้ทำการวางสัญลักษณ์ขนาดใหญ่มากกว่าปกติ รูปแบบแปลกๆและดูพิเศษเรื่มเคลื่อนที่ไปรอบๆหากองภูเขาซากศพ จนที่สุดก็กลายเป็นมหอระสบขนาดใหญ่
ด้วยความเร็วและวิธีการวางรูปแบบสัญลักษณ์ฯ ‘ชูเฟิง’ก็ได้ใช้อำนาจพลังวิญญาณก่อตัวครอบคลุมปิดผนึกหอประชุมหลัก จากนั้นเขาก็โดดลงจากยอดมหอระสบ จากนั้นก็ค่อยๆเดินไปด้านนอก พร้อมกับพูดว่า
” แม้ว่าเราจะมีชะตาต้องเป็นศัตรูแต่ครั้งนี้ข้าจะจัดงานศพให้พวกเจ้าอย่างยิ่งใหญ่ “
** พึบบบ ~ ~ ~ * *
เวลาเดียวกันกับที่ ‘ชูเฟิง’ เดินออกจากหอประชุมหลัก เขาก็ได้ปลดผนึกรูปแบบฯสัญลักษณ์ ทันใดนั้น เปลวไฟก็ลุุกขึ้นไหม้ซากศพเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว จนลามไปติดทั่วทั้ง พระราชตำหนักศักดิ์สิทธิ์
” นี้มัน!!! หอประชุมหลักถูกไฟไหม้ ? มันเกิดอะไรขึ้น ? “
” เร็วเข้า รีบไปดับไฟ!!! “
เห็นพระราชตำหนักศักดิ์สิทธิ์ถูกเปลวไฟโหมกระหน่ำ อาวุโสหลายคนพร้อมกับสาวกของสำนัก หลิง หยุน ตกใจอย่างมาก จากนั้นพวกเขาก็พากันรีบวิ่งไปที่หอประชุมหลัก และพยายามดับไฟ
แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่านั้นเกิดขึ้นจากปีศาจกระหายเลือดที่คาบเคียวของยมทูต จ่อไว้ที่คอของพวกเขาแล้วเรียบร้อย เพราะว่า ‘ชูเฟิง’ ใช้โอกาสนี้ทำการสังหารหมู่อย่างแท้จริง
สำนัก หลิง หยุน นั้นกว้างใหญ่ และความสามารถของ ‘ชูเฟิง’ เองก็มีขีดจำกัด ดังนั้น ‘ชูเฟิง’ ต้องวางเป้าหมายไปที่สาวกหลักและอาวุโสหลักของสำนักหลิง หยุน เนื่องจากพวกเขาเป็นหัวใจสำคัญในการทำลายความหวัง
เพราะเขาไม่อาจฆ่าคนทั้งหมดได้ ‘ชูเฟิง’ จึงเริ่มจากการทำลายสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด ที่สำคัญต่อสำนัก หลิง หยุน และพระราชตำหนักศักดิ์สิทธิ์นั้นก็เต็มไปด้วยทักษะการต่อสู้และทักษะลับมากมาย หากตอนไหนที่เจ้าสำนักหลิง หยุน กลับมา รับรองได้เลยว่าเขาต้องบ้าแน่ๆ
หลังจากนั้นอีกสองวัน คนหลายร้อยก็ขี่อินทรีย์หัวขาวมาจากทางทิศตะวันออกมุ่งหน้ามายังทางสำนัก หลิง หยุน พวกเขาคืออาวุโสชั้นสูงของ สำนักหลิง หยุน ที่นำโดย ‘หยาน หยางเทียน’ ที่กลับมาพร้อมชัยชนะ เหนือสำนักมังกรฟ้า
หรอ!!!
ตอนนั้น ‘หยาน หยางเทียน’ไม่ได้ขี่มันมาเพียงคนเดียว ซึ่งเขานั่งอยู่ด้านหน้าบนหัวนกอินทรีหัวขาว โดยไม่พูดอะไรใดๆ ขณะนั้นตาของเขาก็ปิดไว้โดยไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ส่วนอาวุโสคนอื่นๆและสาวกก็เปี่ยมด้วยสีหน้าที่ยินดี พร้อมกับพูดคุยโอ้อวดเรื่องความสำเร็จของพวกเขา
” ต้องบอกว่า สำนักมังกรฟ้านั้นใหญ่จริงๆ ไม่คิดว่าสำนักแบบนั้นจะเคยเป็นสำนัก # 2 มาก่อน “
” หืม แม้ว่ามันจะใหญ่ แต่ในตอนนี้มันก็ไม่เหลืออะไร ไว้ให้แก่ชนรุ่นหลังอีกแล้ว ? “
” ถูกต้อง ใครที่อยู่ใต้อาณาจักรมังกรฟ้า กล้ามาหือกับสำนัก หลิง หยุน ของเรา ต้องมีจุดจบเช่นนี้ ชูเฟิงเจ้าคนไร้ยางอายนั้น ปกติแล้วแสนจะอวดดี แต่ครั้งนี้กลับวิ่งหนีหางจุกตูด แม้แต่เงาของมันข้าก็ไม่เห็น “
สาวกหนุ่มหลายคนกล่าวโม้อย่างภาคภูมิใจ
สำหรับอาวุโส ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ออกความเห็น แต่หลังจากได้ยินคำพูดของสาวกเกี่ยวกับเรื่องนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ
มันเป็นเพราะเรื่องที่ถูกแพร่กระจายออกไป อย่างน้อยก็ทำให้สำนัก หลิง หยุน ได้ตำแหน่งประมุขของอาณาจักรมังกรฟ้า และจะทำให้ทุกคนรู้ว่าจะได้รับผลเช่นไรหากมาต่อต้านสำนัก ‘หลิน หยุน’
‘ เหมือนเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ‘ ใครกันแน่ฟร่ะ
” ดูนั้น เกิดอะไรขึ้นน่ะ ? “
ในตอนนั้น สาวกก็เบิกตาลุกกว้าง และชี้ไปยังทิศทางสำนัก หลิง หยุน อย่างใจจดใจจ่อพร้อมกับตะโกน
” พวกเจ้าเอ๊ะอะอะไรกัน สวรรค์!!! นั้นมัน…..”
เมื่อคนอื่นๆเห็นหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปปอย่างมาก พวกเขาได้แต่ตกใจ ขณะที่เห็นควันขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นอย่างน่ากลัว
หลังจากที่ ‘หยาน หยางเทียน’ ลืมตา ก็ถึงชะงัก ในตอนแรกเขาพยายามสงบนิ่ง แต่เมื่อเห็นเช่นนั้นความไม่สบายใจก็เพิ่มมากขึ้น เขาไม่กล่าวอะไรใดๆ จากนั้นเขาก็โดดลงจากหลังอินทรีหัวขาว แล้วมุ่งหน้าไปยังสำนัก หลิง หยุน
ในเวลาเดียวกัน คนอื่นๆที่อยู่บนอินทรีหัวขาวก็รีบร้อนมุ่งหน้าไปยัง สำนัก หลิง หยุน ด้วยความเร็วเท่าที่จะเร็วได้
เวลานั้น พวกเขาก็เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เห็นทุกอย่างแบบชัดเจน แต่พวกเขาก็รู่ว่า สำนัก หลิง หยุน ที่พวกเขาภาคภูมิ บัดนี้ถูกโจมตีโดยใครบางคน !!!!
สำนักมืงก็ไม่เหลืออะไรไว้ให้ ชนรุ่นหลังเหมือนกันล่ะว้าาาา
แล้วอีกไม่นานพี่เฟิง ก็สร้างสำนักใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า หอลี่ชุน
ภายในสำนัก เต็มไปด้วย สาวกหญิง แม้แต่อาวุโสก็ล้วนแต่เป็นหญิง ที่คัดเข้ามาด้วยมาตราฐานสากล
บวกกับความร่วมมือจาก สำนัก สตรีหยก
คิดบริการค่าเข้า 100 ตำลึงทอง
1000 ลูกแก้วแก่นแท้ ต่อชม
โปรโมชั่น ตรึม
: หอฝึกยุทธช่ายไม๊ เพ่!!!
: หอนางโลมนี้แหละไอสาดดด!!!
: ………………………
: เอาไปนี้ 100 ตำลึง กับอีก 2000 ลูกแก้ว!!!
ที่มา: