I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 263 สิ่งกระตุ้นจากต้นกำเนิดใหม่

| Zhan Long | 1402 | 2366 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย SanaKunG เรียบเรียง Kradiz

////////////////////////////

‘หลิงว่านเอ๋อ’ โทรศัพท์มาหาผมตอน 5 โมงเย็น และเรานัดเจอกันที่ใต้หอหญิง

ไม่นานนัก สองสาว ‘หลิงว่านเอ๋อ’ และ ‘ตงเฉิงเย่ว’ ก็ปรากฏตัวที่หน้าประตู ผมกระตุกเสื้อแจ๊คเก็ตเล็กน้อย ผมรู้สึกว่าผมไม่ค่อยสบายหรือไม่อย่างนั้นบางที อาจจะเกิดจากที่ผมกลัวว่าพวกเธอจะเห็นรอยแผลที่ตัวของผม

“เซียวเหยา?”

‘ตงเฉิงเย่ว’ เอียงศรีษะของเธอเล็กน้อยแล้วมองมาทางผม

“นาย ไม่ได้ออนไลน์มาทั้งวัน เกิดอะไรขึ้นเหรอ? หรือบางทีนายอาจจะไม่ต้องการที่จะปกป้องกิลด์ [Zhan Long] อีกต่อไป…”

ผมยิ้มบางๆ

“ไม่มีทาง [Zhan Long] เปรียบเสมือนเลือดเนื้อของผม ผมไม่มีทางทอดทิ้งมันแน่”

‘ตงเฉิงเย่ว’ จ้องมองมาที่ผม จากนั้นเธอลดสายตาลง เหมือนต้องการจะยั่วผม

“โฮ่? ฉันคิดว่าเลือดเนื้อของนายคือ…”

ผมกำหนัดแน่นและพูดตอบเธอไป

“เฮ้,เธออยากตายรึไง?”

(ผู้แปล:  คาดว่าจะมองที่น้องชายของเซียวหยาวนะครับ  เผื่อใครไม่เข้าใจ)

‘ตงเฉิงเย่ว’ หัวเราะอย่างน่ารัก

“โอเค โอเค ฉันคงทำเกินไปหน่อยอัศวินน้อย ไปกันได้แล้ว เราควรจะรีบออกจากวิทยาลัยเพื่อที่จะ…”

“โฮ่ เพื่ออะไรละ?”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ เดินเข้ามาข้างๆผมแล้วมาจับที่แขนของผม เธอหัวเราะจากนั้นก็อธิบาย

“จะเพื่ออะไรหล่ะ? พานายไปซื้อเสื้อตัวใหม่ไงละ แค่คิดว่าอยากจะทำอะไรให้นาย บ้างตอบแทนที่นายช่วยฉันเมื่อวานนี้”

“คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ครับคุณหนู”

“หยุดพูด  แล้วไปกันได้แล้ว!”

ด้วยความสวยของสองสาวข้างกายของผม ทำให้ยามที่ประตูวิทยาลัยถึงกับสตั๊นทำอะไรไม่ถูก สีหน้าของเขาปรากฏทั้ง ชื่นชม ริษยา และรังเกียจในเวลาเดียวกัน ‘หลิงว่านเอ๋อ’ และ ‘ตงเฉิงเย่ว’ จัดเป็นสาวงามอันดับ 1 และ 2 ของ มหาวิทยาลัยหลิวหัว ซึ่งความจริงที่สองสาวผู้ซึ่งสามารถทำให้ผู้ชายรวยๆในวิทยาลัยน้ำลายไหลกลับมาเกาะ แขนของผู้ชายคนเดียวในเวลาเดียวกันเป็นอะไรที่โลกไม่ยุติธรรมเสียจริงๆ

เมื่อเรามาถึงย่านการค้า เม่ยหลัว ในเขตเศรษฐกิจ ‘หลิงว่านเอ๋อ’ พาผมไปที่ร้าน Armani และซื้อให้ผม 2 ชุด ชุดแรกเป็นชุดสูท อีกและชุดเป็นเสื้อผ้าทั่วไป ในตอนที่ผมลองชุดเสื้อผ้าทั่วไปนั้น  การได้ใส่ชุดใหม่ยืนอยู่หน้ากระจกผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง  การแต่งตัวทำให้คนดูดีขึ้นได้จริงๆ

‘หลินว่านเอ๋อ’มองผมด้วยสายตา ชื่นชม

“ดูดีมาก เอาตัวนี้แหละ…”

ที่มุมห้อง ปากของ ‘ตงเฉิงเย่ว’ โค้งเป็นรูปรอยยิ้ม เธอก้มหน้าลงเหมือนไม่สามารถมองมาที่ผมได้ แก้มของเธอกลายเป็นสีชมพู

“ตงเฉิง เธอกำลังทำอะไรหน่ะ”

ผมถาม ‘ตงเฉิงเย่ว’ ยังคงก้มหน้าของเธอลงต่ำ

“ฉันไม่สามารถมองนายตรงๆได้ หล่อเกินไป ฉันชอบมันมากๆเลย ตอนนี้ฉันกลัวว่าจะเข้าไปกอดนายต่อหน้า ว่านเอ๋อ”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ กรอกตาไปมาแล้วหัวเราะ

“นั้นไม่เป็นไร ถ้าเธอต้องการกอดเขา กอดเขาเลย…”

‘ตงเฉิงเย่ว’ ยังคงก้มหน้าของเธอลง

“ไม่หล่ะ ฉันกลัวว่าหัวใจฉันจะเต้นเร็วเกินไปจนเกิดอาการช๊อค…”

ผม:

“….”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ หยิบสูทสีดำมาให้ผมแล้วพูดขึ้น

“ลองชุดนี้ดู เผื่อว่านายจะต้องไปออกงานต่างๆในอนาคตอย่างน้อยๆ นายก็ควรจะมีสูทใส่”

ผมชำเลืองไปเห็นราคาของสูทตัวนี้ก็หายใจลึกๆ  มันเป็นสูทราคา  84000 หยวน  นี่มันเป็นสูทอะไรกัน?  มันทำมาจากทองรึยังไง?

“ว่านเอ๋อ…”

ผมถือสูทตัวนี้ด้วยความกังวลใจ ผมกระซิบไปที่หูของเธอ

“คุณก็รู้ว่าผมมีโอกาสที่จะต้องต่อสู้กับคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นชุดของผมมันจะเสียหายค่อนข้างง่าย ชุดประเภทนี้มันฟุ่มเฟือยเกินไปสำหรับผม ถ้าผมทำมันเสียหายละก็ผมคิดว่าผมต้องตายแน่ๆ ไม่ใช่แค่นั้น ผมไม่ได้ทำอะไรที่คู่ควรจะได้รับมัน ดังนั้นผมค่อนข้างที่จะ อายเป็นอย่างมาก….”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ มองมาที่ผมด้วยแววตายั่วยวน

“โฮ่? ทำไมหน้าของนายซีดจัง เซียวเหยาของฉัน อิอิ”

ผมเขินจนหน้าแดง ‘หลิงว่านเอ๋อ’ เอื้อมมือมาแล้วผลักผมเข้าไปในห้องลองชุด เธอตามเข้ามาด้านในห้องแล้วล๊อคประตู เธอยืนกอดอกโดยมีหน้าอกขนาด 34D อยู่ด้านหน้าของผม ผมหายใจ ไม่ออกจนรู้สึกเหมือนจะลืมหายใจ

“เปลี่ยนเป็นชุดสูท ฉันอยากเห็นว่ามันพอดีกับนายรึเปล่า”

เธอพูดขึ้น ผมค่อนข้างจะเขินเล้กน้อย

“หันไป…”

“ฉันไม่อยากหัน”

“ทำไม”

“นายเคยเห็นฉันแล้วครั้งหนึ่ง   แล้วนายจะพูดว่าฉันเห็นนายบ้างไม่ได้?”

เธอพูดขึ้นด้วยใบหน้าเขินอาย

ผมพูดไม่ออก แต่ก็ค่อยๆถอดแจ๊คเกทของผมออก โดยด้านในมีเสื้อเชิ้ดสีขาวสวมใส่อยู่ เมื่อผมถอดเสื้อแจ๊คเกทออก ทันใดนั้นเอง ‘หลิงว่านเอ๋อ’ ก็ตะโกนร้องด้วยความ ตกใจ

“อ่ะ…”

“เกิดอะไรขึ้น ว่านเอ๋อ?”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ เดินเข้ามาหาผมแล้วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ดของผมออกที่ด้านบนสองเม็ด ในที่สุด รอยแผลที่หน้าอกของผมก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ในจำนวนบาดแผลทั้งหมด รอยข่วนที่ไหล่ของผม

น่ากลัวที่สุด มือที่อ่อนนุ่มของเธอค่อยๆแตะที่บาดแผลของผม  ไหล่ของเธอสั้นเล็กน้อย  เธอมองมาที่ผมตาแดงก่ำ

“เกิดอะไรขึ้น?  บอกฉันมา  ใครทำให้นายบาดเจ็บแบบนี้?”

หัวใจของผมเหมือนจะหยุดเต้นเมื่อผมมองไปที่ใบหน้าที่ดูจริงจังของเธอ ผมรู้สึกเสียใจอย่างช่วยไม่ได้ผมสั่นหัวเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น

“มันไม่เป็นไร   แล้วมันก็ไม่เจ็บแล้วด้วย ว่านเอ๋อ อย่ามองผมแบบนั้น ผม…”

ที่หางตาของ ‘ว่านเอ๋อ’ น้ำตาค่อยๆ ไหลลงไปที่แก้ม

“นายหมายความว่ายังไง มันไม่ทำให้เจ็บ ไอ้บ้า อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ พ่อฉันโทรมาเมื่อเช้านี้แล้วบอกฉันหมดทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ฉัน…ฉันจะไปหา หวางซิ่น แล้วบอกเขาให้นายออกจากที่นั้น อย่าสู้กับพวกสัตว์ประหลาดพวกนั้นอีก โอเค? ฉัน…ฉันไม่อยากจะให้นาย…”

เธอพูดไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด หัวใจของผมปวดร้าว ผมจับไปที่ไหล่ของเธอแล้วจ้องไปที่ดวงตาของเธอ ผมอธิบายด้วยสีหน้าจริงจัง

“ว่านเอ๋อ นี่เป็นชะตาของผม ผมหลี่เซียวเหยา ตัดสินใจแล้วว่า จะใช้ทั้งชีวิตเพื่อความถูกต้อง ตลอดชีวิตของผม   ผมต้องการที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องคนอ่อนแอ   มันไม่ได้หมายความว่าผมเป็นตำรวจหรือทหาร ผมต้องการจะสู้เพื่อผู้บริสุทธิ์ใน โลกนี้   ความสามารถของผมกำหนดให้ผมจะต้องไปยืนอยู่ที่แถวหน้า   มันตัดสินให้ผมไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่บนความสงบได้”

ผมยกมือขึ้นไปปาดน้ำตาที่หน้าของเธอในขณะที่ผมยังคงเจ็บปวดที่หัวใจ ‘หลิงว่านเอ๋อ’ ตัวสั่นเล็กน้อย เธอปัดมือของผมออก ถอยหลังเล็กน้อย เธอจ้องมาที่ตาของผมแล้วพูดขึ้น

“ฉันไม่สนว่าชะตาจะกำหนดอะไรมาให้นาย แต่นายต้องสัญญากับฉัน  ไม่ว่านายจะออกไปทำอะไร นายต้องกลับมาแบบชีวิต…”

ผมหายใจลึกๆ แล้วพยักหน้า

“โอเค ผมสัญญากับเธอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่ว่าที่ไหน ผมจะกลับมาหาเธอโดยยังมีชีวิตอยู่”

“โอเค…”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ นั่งลงอย่างหมดเรี่ยวแรงที่มุมห้อง เธอก้มหน้าลงต่ำและเช็ดน้ำตาจากนั้นเธอก็พูดต่อ

“เปลี่ยนเสือผ้าของนายได้แล้ว”

“ครับ…”

หลังจากเปลี่ยนชุดมาเป็นชุดสูท ผมเดินออกมานอกห้องลองชุดโดยมี ‘หลิงว่านเอ๋อ’ เดินตามมาด้านหลัง ด้านนอก ‘ตงเฉิงเย่ว’ ยืนอยู่ด้วยอารมฉุนเฉียว พลางบ่น

“เยี่ยม พวกเธอใจดำทิ้งฉันไว้ข้างนอก พวกเธอมันเป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ…”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ เอื้อมมือไปจับมือ ‘ตงเฉิง’ แล้วปลอบเธอ

“อย่าโกรธไปเลย ตงเฉิง ฉันแค่มีบางอย่างต้องคุยกับ หลี่เซียวเหยา”

“เธอไม่ได้หมายความว่ามีบางอย่างต้องทำ?”

‘ตงเฉิงเย่ว’ ยิ้มเยาะเย้ย

“อืม…แค่ 7 นาที? ฉันจะพูดกับนายยังไงดี เซียวเหยา? แค่สั้นๆ 7 นาที นี่ยังไม่รวมเวลาที่นายจะต้องถอดเสื้อผ้าแล้วเอามันไปเก็บซึ่งมันน่าจะ ใช้เวลาประมาณซัก 3 นาที นั้นหมายความว่าแค่ 4 นาที…นายจะทำให้ ว่านเอ๋อ มีความสุขได้จริงๆ มั้ยเนี่ย”

(ผู้แปล:ตงเฉิง เป็นตัวละครที่ผมชอบมากจริงๆครับ 555 )

หน้าผมเปลี่ยนเป็นสีเขียว

“อะไรคือ 4 นาที ทำไมฉันไม่เข้าใจที่เธอพูด…”

“หยุด  แกล้งกันได้แล้ว!!”

“….”

‘ตงเฉิงเย่ว’ มองมาที่ผมอีกครั้ง แล้วหัวเราะเบาๆ

“แต่ฉันคงจะต้องพูดว่าชุดที่นายใส่ตอนนี้นี้ดูดีจริงๆ ช่วยอย่าขยับซักครู่นะ…”

“อ่ะ?”

ผมมองเธออย่างประหลาดใจ ‘ตงเฉิงเย่ว’ เดินเข้ามาหาผมจากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปเอาแขนผมมาควงไว้ เธอซบลงตรงอกพร้อมกับหยิกแก้ม ในเวลาเดียวกันนั้น เธอ หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาแล้วถ่ายรูป หลังจากเธอถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อย เธอก้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงยินดี

“ว้าว ในที่สุดฉันก็ได้รูปที่ฉันต้องการมากที่สุดแล้ว…”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ พูดไม่ออก

“ในชีวิตนี้… นี่คงเป็นสถานะการณ์ที่นายมาไกลที่สุดใช่ไหม?”

‘ตงเฉิงเย่ว’ หัวเราะ

“ว่านเอ๋อ ถ้าในอนาคตเธอไม่ต้องการ เซียวเหยา เธออย่าลืมโทรบอกฉันนะ ฉันจะรีบไปหาเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะได้ไปพาตัวเค้ามา   ชายคนนี้ฉันยอมให้แค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่พาเขาไปจากฉัน เธอต้องจำสิ่งนี้ให้ดี…”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ พูดไม่ออก

“โอเค ฉันจะทำตามนั้น…”

รอบๆบริเวณนั้น หน้าของพนักงานหญิงเปลี่ยนเป็นสีเขียว

“ว้าว นี่มันเสือผู้หญิงชัดๆ คุณโชคดีจริงๆที่มีสองสาวสวยต่างต่อสู้กันเพื่อแย่งคุณ…”

ผมมองไปที่เธอแล้วถอนหายใจ

“คุณไม่รู้อะไร  เมื่อพวกเรากลับไปพวกเธอสองคนคงหาโอกาสที่จะอัดผมแน่ๆ  ”

พนักงาน

“…..”

หลังจากซื้อเสื้อผ้าเป็นที่เรียบร้อย พวกเราสามคนก็ไปต่อกันที่ร้านอาหารข้างๆ

“โฮ่ พวกเธอสองคนรู้เรื่องที่หวางซีเฉิง กำลังทำรึเปล่า ”

ผมมองไปที่สองสาวด้านหน้าผม ‘หลิงว่านเอ๋อ’ ถามอย่างแปลกใจ

“เกี่ยวกับอะไร”

‘ตงเฉิงเย่ว’ พูดขึ้น

“ฉันได้ยินว่า ไอดีของหวางซีเฉิง คือ ชางเฉิง ดูเหมือนว่าเขาต้องการจะติดต่อเป็นส่วนตัวกับ ว่านเอ๋อ กับฉัน เมื่อสองวันก่อน เขาส่งลูก น้องออกไปกว้านซื้อ Devil Token แล้วเปลี่ยนมันเป็นค่าประสบการณ์จำนวนมาก ราคาของ Devil Tokem พุ่งสูงขึ้นกว่า หนึ่งหมื่นเหรียญ ฉันได้ยินว่า ‘หวางซีเฉิง’ จ่ายเงินไปกว่า 11 ล้าน หยวน เพื่อซื้อ Bounty Tokens มากกว่า 1400 เหรียญ เขากว้านซื้อหมดทั้งตลาด ซึ่งมันทำให้เขาเลื่อนระดับเป็นระดับ 60 เพียงพอที่จะเปลี่ยนอาชีพ เป็นคลาส 3…”

ผมพยักหน้า

“ไม่ใช่แค่นั้น หวางซีเฉิง ยังเข้าร่วมกับ [Hero Mound] และเห็นว่า Q-Sword ให้ตำแหน่งสำคัญกับเขาอีกด้วย พวกเธอมีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร?”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ ขยับริมฝีปากของเธอ

“ฉันไม่มีความเห็น”

‘ตงเฉิงเย่ว’ พูดไม่ออก

“เจ้าแมลงวัน หวางซีเฉิง กำลังพยายามหาทางเข้าใกล้ ว่านเอ๋อ ของพวกเรา…”

ผมหัวเราะ

“ในทุกกรณี การที่ หวางซีเฉิง เข้าร่วมกับ [Hero Mound] ไม่ได้มีผลอะไรกับ [Zhan Long] ดังนั้นผมจึงไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่”

ในขณะนั้น เสียงโทรศัพท์ของ ‘ว่านเอ๋อ’ ก็ดังขึ้นหลังจากเธอพูดคุยไปเพียงไม่กี่นาที เธอก็ลุกขึ้นพร้อมใบหน้าซีดเซียว

“เกิดอะไรขึ้น ว่านเอ๋อ?”

ผมถามขึ้น ‘หลิงว่านเอ๋อ’ กำหมัดแน่น

“Q-swordโทรมา เขาบอกว่า เขามอบอำนาจการสั่งการหน่วยที่หนึ่งของ [Hero Mound] ให้ชางเฉิงไปดูแล จากนั้น ชางเฉิงจะนำ กองกำลังหน่วยที่หนึ่งไปตั้งฐานที่เมืองป้าฮวง ในอีกหนึ่งชั่วโมง [Hero Mound] กำลังมีแผนที่จะขยายกำลังไปที่เมืองหลักอื่นๆอีกสองเมือง เขาขอให้ฉันกับ ตงเฉิง นำกำลังคนจากกิลหลัก 200 คน ไปช่วย คนจากหน่วยที่หนึ่งเพื่อเข้าไปในเมืองป้าฮวง ”

“ปั้ง!”

‘ตงเฉิงเย่ว’ ทุบโต๊ะอย่างโกรธเกรี้ยว

“Q-Sword สมองตายรึยังไง? เขาให้ หวางซีเฉิง ควบคุม หน่วยที่หนึ่ง? แล้วยังต้องการที่จะไปตั้งฐานที่เมืองป้าฮวง แล้ว…แล้วเขาต้องการจะให้ไปตั้งฐานที่ส่วนไหน?”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ ตอบ

“ป่าวิถีเวทมันตั้งอยู่ข้างๆ ฐานของ [Zhan Long] หุบเขากิเลนบางทีคงใช้เวลาซัก 10 นาทีในการที่จะเดินทาง”

‘ตงเฉิงเย่ว’ มองมาที่ผมแล้วถาม

“นายยังคิดว่า หน่วยที่หนึ่งของหวางซีเฉิง ไม่มีผลอะไรต่อ [Zhan Long] อยู่รึเปล่า?”

“นาย…นายมีแผนอย่างไร?”

‘หลิงว่านเอ๋อ’ มองมาที่ผมแล้วถาม

“ปัง…”

ผมวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ แล้วพูดขึ้น

“ทำไมผมถึงจะต้องให้ใครมาเดินเล่นในส่วนหลังบ้านของผมละ? ถ้าพวกเขาต้องการที่จะตั้งฐานที่ป่าวิถีเวท พวกเขาก็ ต้องให้อภัย [Zhan Long] เมื่อพวก เราโจมตีหน่วยที่หนึ่งของ Hero Mound”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments