I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 262 การต่อสู้ในคอร์ต

| Zhan Long | 1363 | 2364 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย Kradiz

/////////////////////

เวลาบ่ายสามโมง หลังจากที่ตื่นขึ้นมาจากสิ่งที่เหมือนกับความฝันนั้น ไหล่ของผมสั่นเล็กน้อย ร่างกายของผมปวดร้าวไปทั้งตัว แผลจากกระสุนถูกเปิดออกอีกครั้งจาก กรงเล็บของ Artificial ทำให้ยาที่ใช้รักษาไม่สามารถทำอะไรได้มาก

ฟุบบบบ

ผมนั่งลงบนเตียงนอน ก่อนจะเอนตัวลงอย่างช้าๆ พลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ผมมองเห็นกลุ่มของนักศึกษาที่เหงื่อออกท่วมตัวจากการเล่นบาสอยู่ ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มของหญิงสาวร้องเชียร์จากด้านข้าง ผมยืดคอขึ้นพลางเอนหลังกับกำแพงอย่างผ่อนคลาย

อยู่ๆ เจ้าแว่นที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยกับผม

“เฮ้ เซียวเหยาตอนนายนอนลง ชั้นเห็นแผลนายเต็มแขนเลยนะ วันก่อนนายไปไหนมาเนี้ยถึงบาดเจ็บมากขนาดนี้?”

ผมหันกลับไปตอบเจ้าแว่น ผมมองเขาอยู่สักพักก่อนจะตอบไป

“เจ้าแว่น นายไม่ควรถามคำถามแบบนี้นะ เพราะมันไม่มีคำตอบให้นายหรอก…”

ร่างของ’ตังกู’สั่นสะท้าน

“ซะ..เซียวเหยา อย่าบอกนะว่านายติดต่อกับพวกใต้ดินนะ”

“เห๋ ชั้นดูเป็นคนแบบนั้นงั้นเหรอ?”

“จริงๆ ก็ไม่หรอกนะ นายดูไม่เข้ากับพวกนั้นเลย แถมนายยังดูหล่ออีกด้วย หรือบางที สาวที่นายคั่วอยู่อาจจะเป็นผู้หญิงไม่ดีก็ได้ อันนี้ชั้นไม่ได้ว่าว่านเอ๋อนะ ถ้าเป็นแบบนั้น ชั้นมั่นใจได้ว่า พ่อของว่านเอ๋อไม่มีทางให้นายเข้าใกล้เธอแน่”

ผมยืนขึ้นพลางสะบัดมือไปมา นอกจากแผลที่โดนกระสุนยิง แผลอื่นๆ นั้นน่าจะหายจนหมดในเวลา 3-5 วัน ผมต้องกลับไปอยู่บนจุดสูงสุดของตัวเองอีกครั้ง เพราะตั้งแต่เจอกับ Artificials มันทำให้ผมขาดความมั่นใจไปมาก

ทุกๆ วันผมต้องมานั่งกังวลว่าพวกมันจะเข้าโจมตีอีกครั้ง ……

ผมเข้าห้องน้ำไปล้างหน้า และออกจากหอเพื่อไปหาอะไรกิน หลังจากออกจากหอแล้ว ผมก็เดินเตร็ดเตร่รอบๆ สนามกีฬา เพื่อกระตุ้นการเดินของพลังปราณและโลหิตในร่าง ไม่นานการไหลเวียนของโลหิตและพลังปราณของผมก็เข้าที่

สายลมเย็นๆ ในฤดูใบไม้ร่วง พัดผ่านใบหน้าของผม ผมสวมใส่เสื้อเชิตตัวใหม่ พร้อมกับมีเสื้อกันหนาวคลุมที่ด้านนอก ปกปิดรอยแผลที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามบนใบหน้าของผมก็ยังมีรอยข่วนที่ยังมองเห็นได้อยู่ แผลจาก Artificials ช่างเป็นแผลที่รักษาได้ยากจริงๆ

“นายทำมันได้!! หวางซีเฉิง นายร้อนแรงจริงจริง!!!!”

เสียงกรี๊ดกร๊าดของนักศึกษาสาวดังขึ้นด้านข้างของสนามบาส และชื่อที่พวกเธอเรียก เป็นชื่อที่ผมไม่มีวันลืมแน่ๆ ผมรู้แล้วว่าผมจะไปไหน ผมเห็นแมทที่เกิดขึ้น มันคือแมทระหว่าง สาขาภาษาจีนและสาขาคอมพิวเตอร์ และหนึ่งในตัวแทนของสาขาภาษาจีนคือ’หวางซีเฉิง’!!!

เขาอยู่ในชุดกีฬาสีฟ้าอ่อน ตอนนี้บนร่างของเขามีเหงื่อชุ่มไปหมด ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูใจเย็นและแววตาดูเย็นยะเยือก เขาดูเก่งทีเดียว สามารถหาจังหวะได้ แค่ 10 วินาที เขาก็สามารถทำแต้มไปได้สองแต้ม และเขายังสามารถทำแต้มสามแต้มจากการชูตมาจากครึ่งสนามอีกด้วย

เหล่าเด็กสาวต่างร่ำร้องเสียงดังลั่นว่า

“หวางซีเฉิงสู้ๆ”

ผมค่อยๆ นั่งลงบนม้านั่ง พลางเฝ้ามองเกมการเล่นบาสจากที่ไกลๆ อย่างสงบ ……

ปังง เขาพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วเพื่อ แสลมดั้ง ‘หวางซีเฉิง’โดดได้สูงมาก เขาค่อยๆ ดั้งลงไปบนแป้นอย่างสวยงาม ในขณะที่เขาลอยอยู่กลางอากาศ เขาก็มองมายังทิศที่ผมนั่งอยู่ ผมมองกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย โดยที่ไม่พูดอะไร เหล่าหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ผมต่างกรีดร้องออกมาเสียงดังเจียวจาว

แปะ เขาลงสู่พื้นอย่างสวยงาม ‘หวางซีเฉิง’ค่อยๆ เดินกลับไปยังทีมของเขา แต่เขาก็ยังมองมาที่ผมอย่างไม่ลดละ เทคนิคในการควบคุมบอลของเขาช่างวิเศษจริงๆ แต่เมื่อทีมตรงข้ามได้บอล เขาเข้าขัดขวางอย่างรุนแรง ทำให้บอลพุ่งตรงมายังผมอย่างรวดเร็ว ราวกับลูกกระสุน

หืมมม เจ้าหมอนี่ตั้งใจเล็งผมซินะ!!!

“ระวัง!!!!!”

เสียงหญิงสาวข้างๆ ผมดังเตือนขึ้น

“หลี่เซียวเหยา ระวัง!!!”

ผมมองไปยังทิศที่บอลลอยมาพลางรวบรวมพลังปราณ ลมหมุนก่อตัวขึ้นด้านหน้าของผมจนเห็นได้ชัด ก่อนที่บอลจะเข้าปะทะแล้วเด้งกลับ ราวกับว่ามันปะทะเข้ากับเหล็ก ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิมโดยที่ไม่ขยับตัว พลางมองไปยัง’หวางซีเฉิง’อย่างเฉยเมย

“เฮ้ นาย นายโอเคมั้ย?”

ชายหนุ่มสูงราวๆ 2 เมตรมองมาที่ผมพลางหัวเราะน้อยๆ

“หวางซีเฉิงไม่ได้ตั้งใจ อย่าโกรธเลยนะ มันเป็นอุบัติเหตุ”

‘หวางซีเฉิง’ยิ้ม พลางทำสีหน้าขอโทษ

“หลี่เซียวเหยา ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมคงไม่ได้ทำให้นายบาดเจ็บใช่มั้ย? ลูกบาสมันเร็วมากจริงๆ เพราะงั้นผมเลยควบคุมมันไม่ค่อยได้ ..โทษที”

ผมลุกขึ้นพลางมองไปยัง’หวางซีเฉิง’ พร้อมกับยิ้มบางๆ

“ไม่มีอะไรหรอก ด้วยแรงอันน้อยนิดแบบนั้น มันไม่พอที่ทำอันตรายใครหรอก อีกอย่างการดั้งของนายก็ดูดีทีเดียว มันทำให้สาวๆ กรี๊ดกันเลยหละ”

‘หวางซีเฉิง’ เกาจมูกของตัวเองพลางหัวเราะด้วยความอาย

“จริงๆ แล้วมันเป็นกีฬาเดียวที่ผมชอบ ผมไม่ได้เล่นเพื่อให้ใครมาชื่นชมผมหรอก”

ผมยิ้ม

“ช่ายย พวกเขาถูกจ้างมาแสดงอ่ะนะ”

(ปล.ผู้แปล น่าจะหมายถึงพวกที่เล่นด้วย)

ชายที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้ว

“หลี่เซียวเหยา!! นายหมายความว่าไง? นายพูดกับอาเฉิงแบบนั้นได้เหรอ นายเป็นใครถึงกล้าพูดแบบนั้น”

ในขณะที่เขากล่าว เขาก็เดินมาด้านหน้าผม เขากำลังถือบอลไว้อยู่ เขายืดแขนออกมาเพื่อจะผลักไหล่ของผม ผมหลบไปด้านหลังเล็กน้อย พลางใช้พลังจากพลังปราณกระแทกเข้าที่หลังของนักเรียนคนนั้น ส่งผลให้เขาถูกแรกกระแทกลงสู่พื้น

ในมุมมองที่เป็นไปไม่ได้ นักเรียนหลายคนมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นชัดตา พวกเขาแทบจะพูดไม่ออก ผมกระแทกเขา ในขณะที่มีคนมุงอยู่รอบๆ ทุกคนต่างเห็นเหมือนกัน ผมไม่ได้แตะต้องเขาเลย!!!

ผมรีบวิ่งเข้าไปพยุงเขาให้ลุกขึ้น พลางถามอย่างตื่นตกใจ

“เฮ้นาย นายโอเคมั้ย? ทำไมนายไม่ระวังเอาซะเลย?”

หมอนี่เป็นหนึ่งในคนติดตามของ’หวางซีเฉิง’และตอนนี้’หวางซีเฉิง’ก็เต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่คิดเลยว่า’หลี่เซียวเหยา’จะแสดงเก่งแบบนี้

“เฮ้หลี่เซียวเหยา สนใจที่จะมาเล่นบาสกันมั้ย?”

ผมส่ายหัว

“ไม่หละ พวกนายเล่นต่อเลย ผมมีอย่างอื่นต้องทำอยู่”

ในจังหวะที่ผมหันหลังกลับ ชายหนุ่มที่ล้มลงก่อนหน้านี้ โกรธจนตัวสั่น เขายกมือที่ถือลูกบาสไว้พร้อมกับปาใส่หลังของผม

“ไปตายซะ!! ไอ้บัดซบ”

ฟุบบบบบ

ลูกบาสพุ่งมาด้วยความเร็ว แต่ผมก็ยกมือขึ้นโดยที่ไม่หันหลังกลับ ลูกบาสถูกหยุดอยู่บนฝ่ามือของผม และผมก็โยนกลับไปยังห่วงบาส มันลงห่วงไปด้วยจังหวะเดียวอย่างสวยงาม

สวบบบบบ

เมื่อบอลเข้าสู่ห่วง จนร่วงลงสู่พื้น ทุกคนต่างมองไปยังสิ่งที่ผมทำ ผมโยนเข้าห่วงอย่างสวยงามโดยที่ไม่หันกลับไปมอง แถมมันยังอยู่ห่างจากผมอย่างต่ำก็ 15 เมตร ผมสะบัดมือโยนมันไปโดยที่ไม่ได้ดูด้วยซ้ำ ทุกคนบนสนามต่างตกตะลึง ไม่มีใครจะคาดคิดว่าผมจะทำแบบนี้ได้

‘หวางซีเฉิง’เขาต้องพยายามอย่างหนักเพื่อทำมัน เขาพยายามหลอกลวงทุกคนว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ อย่างไรก็ตาม ผมก็ได้เรียนรู้มาจากประสบการณ์จริง เกี่ยวกับความจริงอันโหดร้าย

นายต้องดูดีหากนายอยากมีอนาคต ถ้านายเป็นเหมือน’รันมิน’ ความหวังเดียวของนายก็มีเพียงแค่นั่งเรียนหนังสือทั้งวัน ……

“ตรู๊ดดด…”

เสียงของโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเบอร์ของ’หวางซิ่น’นั่นเอง

“หัวหน้าหวาง มีอะไรงั้นเหรอ? คุณอยากให้ผมกลับไปที่ทีมมั้ย?”

“ไม่ใช่หรอก”

‘หวางซิ่น’หัวเราะพลางกล่าว

“พวกเราพึ่งจะทำการตรวจสอบโดยละเอียด ไม่มีอะไรอันตรายหรอก นายควรจะพักซักหน่อยนะ นายควรจะรักษาแผลของนายก่อน อีกอย่างตอนนี้เราก็มีกระสุนนาโนอยู่ในมือ เพราะงั้นไม่มีอะไรให้กังวลหรอกนะ ต่อให้พวกเราต้องเจอกับพวกมันอีกรอบก็เถอะ พวกเราก็จะไม่เป็นรองพวกมันแล้ว พวกเราจะเป่าหัวมันให้กระจุย ก่อนที่มันจะเข้าถึงตัวของเรา”

ผมหัวเราะ

“หืมมงั้นผมก็วางใจ แล้วคุณโทรมาหาผมทำไมเหรอ?”

“ปกป้องหลิงว่านเอ๋อให้ดีๆ”

‘หวางซิ่น’กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งครึม

“ชั้นเพียงแค่อยากจะแน่ใจว่านายจะปกป้องดูแลเธอดีๆ นายก็เห็นพลังของ บ.เทียนซินมาแล้ว อาวุธของพวกเขาน้ายกาจมาก มันสามารถทำให้จุดยืนของพวกเราเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว หลินเที่ยนหนานเป็นคนที่นายไม่สามารถแตะต้องได้ แม้แต่กองทัพก็ยังจับมือกับเขา พวกเราจึงต้องยอมรับสภาพทั้งหลาย นายเคยเจอนายพล ซุนเซียงแล้วใช่มั้ย? เขาสูญเสียหลายอย่างให้กับหลินเทียนหนานบ่อยทีเดียว สำหรับหลินเที่ยนหนานแล้ว กองทัพทั้งรักและเกรียดเขา ฮ่าๆ อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนเดียวของเขาก็คือลูกสาว เพราะงั้นนายต้องปกป้องเธอด้วยชีวิต หากเธอถูกลักพาตัวไปหละก็ นั้นแหละอันตรายที่แท้จริง”

ผมพยักหน้า

“ผมเข้าใจแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบ ผมจะปกป้องเธอด้วยชีวิต ไม่ต้องห่วงหัวหน้าหวาง”

“ดี!!”

‘หวางซิ่น’กล่าวต่อ

“นายต้องการลูกมือเพิ่มมั้ย? พูดตามจริง หลินเที่ยนหนานได้จ้างนักรบระดับสูง 27 คน วางกำลังรอบๆ มหาวิทยาลัยหลิวหัว พวกเขาจะช่วยนายปกป้องหลิงว่านเอ๋อ ถ้านายยังต้องการลูกมืออีก นายสามารถบอกชั้นได้ แล้วชั้นจะส่งคนไปช่วย”

ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้

“ไม่ต้องห่วงหัวหน้าหวาง มันไม่ใช่ปัญหาหรอก คุณสามารถช่วยผมได้ ด้วยการ….สืบเกี่ยวกับประวัติ CEO ของ บ.Booster หวางซีเฉิง และทุกอย่างเกี่ยวกับเขา”

“บ.Booster?”

‘หวางซิ่น’กล่าวด้วยความยากลำบาก

“ชั้นกลัวว่ามันค่อนข้างจะยากซักหน่อย ชั้นไม่สามารถสืบเกี่ยวกับ บ.นี้โดยที่ไม่มีการอนุญาติไม่ได้”

“ทำไม?”

“เพราะว่า อิธิพลของ บ.Booster ค่อนข้างหนาทีเดียว ผลกำไรของปีก่อนของพวกเขาคือ 7% จาก GDP ของเมืองหางโจ พวกแก่ๆ ก็ได้รับผลประโยชน์จากสิ่งนี้ด้วยกันทั้งนั้น แล้วใครหละจะปล่อยให้นายแตะต้อง Booster ได้ หลังจากที่เราตรวจสอบ Booster ชั้นกลัวว่ามันจะทำร้ายเราเอง นายต้องเข้าใจถึงความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นให้มากๆ”

ผมกำหมัดแน่น

“ฮ่าๆ ผมรักโลกที่มีเสน่ห์แบบนี้จัง”

หลังจากวางโทรศัพท์ ผมก็กดไปที่เบอร์ของ’เฉินปิง’

“ฮัลโหล?”

‘เฉินปิง’หัวเราะเบาๆ

“ว่าไงหนุ่มน้อยสุดหล่อ ไม่ใช่ว่าเราพึ่งเจอกันไปตอนเช้าไม่ใช่เหรอ หืมม นี่นายคิดถึงฉันขนาดนี้เลยเหรอ?”

ผมพูดไม่ออกไปทันที

“พี่สาวเฉินปิง คุณยังนอนไม่เต็มอิ่มใช่มั้ย?”

เธอตอบกลับมาด้วยเสียงสลึมสลือ

“โฮโฮ นายเข้าใจถูกแล้ว ตอนนี้ฉันยังอยู่บนที่นอนเลย มีอะไรงั้นเหรอ? นายต้องการอะไรรึเปล่า? คนเสียสติแบบนายโทรมาหาฉันแบบนี้ นายคงต้องการอะไรแน่ๆ”

ผมยิ้ม

“ใช่แล้วพี่สาวเฉินปิง คุณมีไฟล์ของตำรวจเจ้อเจียงอยู่ใช่มั้ย? ผมอยากได้ข้อมูลของ CEO สาขาเอเชียของ บ.Boosterหวางซีเฉิง ผมอยากได้ข้อมูลทุกอย่างที่คุณมี”

‘เฉินปิง’กล่าวอย่างประหลาดใจ

“เจ้าหนู นายบ้าไปแล้วเหรอ? นายอยากหาเรื่องกับ บ.Boosterรึไง? นี่มัน…..มันบ้าไปแล้ว นายไม่มีทางรู้หรอกว่าจะมีคนมากแค่ไหนไปปิดปากนาย”

ผมตอบอย่างไม่สนใจ

“ผมรู้ แต่ว่าผมต้องทำ พี่สาวเฉินปิง ถ้ามันยากเกินไปก็ไม่เป็นไร ผมจะหาทางอื่นเอง ก็อย่างที่คุณรู้ ผมมันคนเสียสตินี่นา”

‘เฉินปิง’หัวเราะ

“ฉันคิดว่านายยังเป็นคนที่มีสติอยู่นะ อย่าห่วงไปเลย เดี๋ยวพี่สาวคนนี้จะหาให้เอง คงต้องใช้ Trojanหละมั้ง ปล่อยเป็นหน้าที่ฉันเอง ฉันคือแฮคเกอร์มือหนึ่งของเมืองหางโจวเลยนะ เพราะงั้นสบายมาก!!”

“โอเคค”

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments