I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Zhan Long ตอนที่ 288 อัศวินมังกรเพ่ยหลิน

| Zhan Long | 1329 | 2336 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้วตอนต่อไป

แปลโดย WildFox

“งั้นก็หมายความว่าพวกเรางานเข้าแล้วละสิใช่ไหม?”

ผมกระชับด้ามดาบจักรพรรดิ์ฉินให้แน่นขึ้นไปอีกก่อนจะตะโกนก้องสั่งการว่า

“ประจำตำแหน่งเอาไว้ทุกคน! พวกเราจะรับมือมันด้วยรูปแบบป้องกัน! นักธนูทั้งหมดเตรียมพร้อมที่จะใช้สกิล[ศรแยกหยุดยั้ง] ได้ทุกเมื่อ! พวกเราจะใช้วิธีสตั้นพวกมันแล้วเข้าจัดการสังหารมันซะ! ทุกคนระวังตัวด้วย อย่าปล่อยให้ตัวเองถูกมอนสเตอร์ฆ่าตายโดยเด็ดขาด!”

“แกว๊กกกก แกว๊กกก…”

เสียงสะท้อนของเหยี่ยวรบพร้อมอัศวินที่ถาโถมเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่า นับจากพวกมันตัวแรกบุกเข้าโฉบลงมาโจมตีด้วยการแทงหอกในมือของอัศวินบนหลังเหยี่ยวเพียงครั้งเดียว ก็แทงทะลุอกของอัศวินของเราคนหนึ่งจนถึงพื้นดิน ก่อนที่ตัวเลขค่าความเสียหายขนาดหนักจะปรากฏให้เห็น

พร้อมกับร่างของอัศวินเคราะห์ร้ายคนนั้นถูกยกขึ้นด้วยหอกลอยขึ้นสู่อากาศ! บัดซบ ความแข็งแกร่งขนาดนี้มันต่างกันจนรู้สึกว่าโดนโกงเกินไปแล้ว!

‘แม่ทัพหวังเจี้ยน’พลันกระโดดตัวขึ้นสู่อากาศ พร้อมดาบคู่ใจในมือตวัดลง

“ฉั่บ!” คมดาบได้ตัดผ่านลำคอของอัศวินบนหลังเหยี่ยวรบ

ก่อนจะพาทั้งคนทั้งนกร่วงหล่นสู่พื้นดิน ‘หรันหมิ่น’และคนอื่นๆอีกสองสามคนรีบเข้าไปจัดการสังหารพวกมันเพื่อความแน่ใจในจังหวะนั้นเอง เหยี่ยวรบพร้อมอัศวินก็เปิดฉากบินพุ่งเข้าโจมตีพวกเราเป็นบริเวณกว้าง พวกมันแต่ละตัวล้วนสามารถสร้างการโจมตีอันหนักหน่วงรุนแรงได้

เพียงแค่เวลาผ่านไปราว 30 วินาทีเท่านั้นสมาชิกของเราอย่างน้อย 20 คนก็ถูกสังหารโดยพวกมัน!เพราะเหตุที่มอนสเตอร์มีเลเวลถึง 74 และห่างจากผมตั้ง 7 เลเวล แม้อยากจะเห็นใจจะขาดผมก็ไม่สามารถล่วงรู้ถึงสเตตัสและสกิลของพวกมันได้ เพียงแต่พอจะรู้ว่าเจ้าพวกสารเลวนี่ มีพลังโจมตีที่สูงเอามากๆ แถมยังสามารถสร้างเกราะพลังเพื่อเอาไว้ป้องกันตัวเอง อีกทั้งพวกมันยังสามารถโจมตีเป็นชุดๆอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย

………………

“พั่บ พั่บ พั่บ”

‘หลินเสียว’อู่ง้างสายธนูขึ้น พร้อมกับบินถอยหลังเพื่อตั้งหลักเล็งเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปล่อยสกิล[ศรแยกหยุดยั้ง]เข้าใส่อัศวินบนหลังเหยี่ยวรบตัวหนึ่งเสียงดัง

“ปึ่ก”ทำให้มันร่วงลงสู่พื้นในทันที

โดยไม่รอให้เสียจังหวะ เธอก็ขึ้นสายธนูยาวคู่ใจนั้นอีกครั้ง เรียกลำแสงสุกสว่างราวกับแสงดาวเข้ามารวมตัวกันที่ธนูของเธอ ตามมาด้วยเสียง

“ฟุ่บ!” [ศรดาวตก] ก็ถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า

แสงสว่างจากลูกศรส่องสว่างราวกับสายน้ำที่ระยิบระยับด้วยดาราซึ่งตัดผ่านท้องฟ้าในยามราตรี แสงจากศรนั้นทะลวงผ่านทุกสิ่งในระยะ 100 เมตร รวมทั้งอัศวินบนหลังเหยี่ยวรบอีกนับสิบตัว สร้างความเสียหายจำนวนมากให้กับพวกมันแถมยังทำลายความสามารถในการบินของพวกมันอีกด้วย ทำเอาพวกมันร่วงลงสู่พื้นราวกับผึ้งโดนรมควันก็ไม่ปานแบบนี้ก็เล่นไม่ยากสิเนี่ยะ….

ผมไม่รอช้าชูดาบจักรพรรดิ์ฉินของตัวเองขึ้นเล็งไปบนท้องฟ้าทันที ก่อนจะใช้ออกด้วยสกิล[ดาบเจ็ดดารา]ยิงเข้าใส่พวกมอนสเตอร์ สอยพวกอัศวินบนหลังเหยี่ยวรบร่วงลงมาได้อีกกลุ่มใหญ่

ตามด้วยการส่งสกิล[โลกาสิ้นสูญ]เข้าสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่พวกมันอีกตัวเลขค่าความเสียหายที่ทำได้กับอัศวินเหยี่ยวรบพวกนั้นค่าหนึ่งราว 12,144

หน่วยสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนที่ได้เห็นไม่น้อย เพราะนั่นเท่ากับพลังชีวิตมากกว่า 50% ของมอนสเตอร์ระดับเลเวล 74 เลยทีเดียวซึ่งก็ยังไม่เคยเห็นใครที่ไหนทำได้มาก่อน!

“หัวหน้าขักจะโชว์พาว มากไปแล้วนะคะ”

‘มัตฉะ’กล่าวขำๆ

‘เยว่ชิงเฉียน’ชักมีดสั้นของเธอขึ้นมาก่อนจะทำการโจมตีสตันเข้าใส่อัศวินเหยี่ยวรบที่ตกลงมาใกล้ๆตัวหนึ่ง เธอยิ้มพร้อมกับชี้ไปที่พวกมันและพูดว่า

“ถ้าเราสู้แบบเดิมความสูญเสียฝ่ายเราท่าจะเกินที่จะรับไหวนะคะ ลองให้พวกอัศวินและก็อาชีพม๊องค์จัดกระบวนทัพซะใหม่โดยตั้งโล่ขึ้นล้อมพวกเราเอาไว้ เมื่ออัศวินเหยี่ยวมันตกลงมายังพื้นที่ว่างตรงกลาง พวกเราก็ล้อมมันและฆ่ามันได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อโดยไม่จำเป็นค่ะ…”

ผมผงกศีรษะเห็นด้วย

“ดีมาก ตกลงเอาตามที่เยว่ชิงเฉียนว่า ลงมือเลย!”

ทันใดนั้น เหล่านักรบสายประชิดสวมเกราะหนักของกิลด์[Zhan Long]ทั้ง 200 ชีวิตก็จัดกระบวนทัพใหม่คล้ายกับเป็นดังเวทีมวยปล้ำที่ถูกขึงด้วยเชือกทุกด้านซึ่งก็คือโล่ของพวกเขานั้นเอง

เมื่อมอนสเอตร์ร่วงลงมาที่พื้นที่ว่างตรงกลาง สายโจมตีระยะไกลก็สาดสกิลเข้าใส่พวกมันไม่ยั้งเพื่อสังหารมัน บรรดาฮีลเลอร์ก็ยืนที่รอบนอกถัดจากพวกสายโจมตีไกลออกไป คอยทำการรักษาผู้เล่นทั้งแถวโล่และพวกสายระยะไกลหากโดนโจมตีทำให้สถานการณ์อยู่ในขั้นรับมือได้สะดวกขึ้น!

นี่เป็นเครื่องยืนยันอย่างหนึ่งเลยว่า ถึงแม้’เยว่ชิงเฉียน’จะยังมีอายุน้อยกว่าคนอื่นๆ แต่ทว่าประสบการณ์ในการเล่นเกมส์ของเธอนั้นล้ำหน้ากว่าคนอื่นไปมาก การจัดกระบวนทัพเป็นดั่งเกราะเหล็กกล้าทำให้สถานการณ์ของกิลด์ [Zhan Long] รักษาที่มั่นทางประตูทิศเหนือไว้ได้อย่างมั่นคง

ในขณะที่ส่วนอื่นๆของกลุ่มต่างๆ เช่น [Flying Dragon] เริ่มถูกตีแตกกระเจิงอย่างไม่เป็นท่า ‘เลี่ยหู่'(Fierce Tiger)กับ’เสียนอู่'(Black Tortoise)และคนอื่นๆหนีกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง

คงเหลืออยู่ก็แต่’ฮวาเชียงอี้หูจิ่ว'(Drunken Spear)ที่กำลังซัดหอกไม่ขยับกายราวกับขุนเขาไม่อาจเขยื้อนได้!

“ตูม!”

ด้วยการใช้กระบวนท่า[ทะลวงศิลา] ‘ฮวาเชียงอี้หูจิ่ว’ก็ทำเอาฝูงของอัศวินเหยี่ยวรบกระจัดกระจายไม่เป็นขบวน ก่อนจะเรียกใช้สกิล [โล่กำแพงสวรรค์] เพื่อต้านรับการโจมตี

ทันใดนั้นเสียง “แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง”ก็ดังระงม

เมื่ออัศวินเหยี่ยวรบทั้งสี่ตัวโจมตีใส่และติดสกิลป้องกันของเขา ซึ่งเขาก็โต้กลับด้วยการสะบัดแขนควงหอกในมือเร็วปานสายฟ้ากระแทกพวกมันให้กระเด็นไปเข้าระยะ ก่อนที่จะไล่แทงสวนกลับไปหวังปลิดชีพพวกมันด้วยการแทงเพียงครั้งเดียวและปิดฉากอย่างสวยงามด้วยสกิล[หอกหลอมละลาย]

ซึ่งช่างเป็นการต่อสู้ที่เปลี่ยนจากรับเป็นรุกและรุกเป็นรับที่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติราวกับสายน้ำ

“หัวหน้า!”

‘ฮวาเชียงอี้หูจิ่ว’ตะโกนเสียงก้อง

“รีบสั่งการให้พี่น้องทั้งหลายของเราจัดทีมขึ้นมาป้องกันสองทีมที่ด้านหลังของผมเร็วเข้า แล้วค่อยๆแปรขบวนให้เป็นวงกลมแบบกิลด์[Zhan Long] พวกเราต้องรักษาชีวิตคนเอาไว้ให้ได้ก่อน พวกนักเวทย์ทั้งหลายก็อย่าเอาแต่โจมตีสุ่มไปตามแต่ใจ รอให้หัวหน้ากำหนดเป้าหมายแน่นอนแล้วลงมือโจมตีพร้อมๆกัน! พวกเราจะได้สังหารมอนสเตอร์ลงได้ทีละตัวๆ ขอเพียงพวกเราต้านการบุกของมันได้ซักนาทีหนึ่ง เราก็จะสามารถรักษาพื้นที่ของเราเอาไว้ได้!”

‘มังกรทะยาน’พยักหน้าเห็นด้วย

และทันใดนั้นกิลด์[Flying Dragon]ก็เริ่มจัดขบวนทัพให้มีแนวโล่เหล็กขึ้นล้อมเป็นกำแพงแบบเดียวกับที่กิลด์[Zhan Long]ทำอยู่ ช่างเศร้าเหลือเกินที่พวกเขาเหลือสมาชิกผู้รอดชีวิตน้อยซะเหลือเกิน มีเพียง 200 กว่าชีวิตเท่านั้นที่เหลือรอดมาจากการโจมตีระลอกที่แล้วของพวกอัศวินเหยี่ยวรบ

กิลด์ใหญ่ที่มีสมาชิกออนไลน์ร่วม 7000 อย่างกิลด์[Flying Dragon]กลับถูกคร่าชีวิตสมาชิกไปจนเหลือเพียงจำนวนหยิบมือ ช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อไม่น้อยทีเดียว แม้กิจกรรมเมืองโบราณที่เพิ่มขึ้นใหม่ในครั้งนี้จะมีรางวัลตอบแทนที่สุงค่าเท่าใดก็ตาม แต่มันก็ช่างเป็นกิจกรรมที่สร้างความบรรลัยให้เกิดขึ้นได้มากมายตามไปด้วยเช่นนั้นเอง!………..

“ฮึ่ย…..”

‘แม่ทัพหลี่มู่’มองไปภาพเบื้องหน้าไกลออกไปก่อนจะบ่นว่า

“พอลองคิดว่ากิลด์อย่าง[Flying Dragon]มันมีอะไรดีขนาดไปเชื้อเชิญผู้เล่นที่มีความสามารถอย่างฮวาเชียงอี้หูจิ่ว มาเข้าร่วมได้แล้วนี่มันชวนหงุดหงิดไม่น้อยเลยว่ะ ดูเค้าทั้งเยือกเย็นและกล้าหาญ คนที่มีคุณสมบัติแบบนี้หาได้ยากยิ่งกว่ายากซะอีก นี่ยังไม่รวมที่เขายังได้เปลี่ยนเป็นอาชีพลับอย่าง อัศวินแห่งธรรมชาติ ที่มีความสามารถทั้งในการป้องกันและโจมตีที่สูสีกันด้วย ในเมืองป้าฮวงที่มีผู้คนมหาศาลก็มีเพียงแค่นับได้รายบุคคลเท่านั้นเอง ใครๆก็พากันบอกว่า ตอนนี้ชางเฉิงมันเป็นอัศวินเบอร์หนึ่งของเมืองป้าฮวง แต่ชั้นมองฮวาเชียงอี้หูจิ่วที่ไรก็เห็นเขาดูเหนือกว่าไอบ้าชางเฉิงนั่นตั้งไม่รู้เท่าไหร่!”

ผมพยักหน้า

“ชั้นเห็นด้วย ฮวาเชียงอี้หูจิ่วนั้นเหนือกว่าหวังจื้อเฉิงไปหลายขุมในทางยุทธวิธีการรบและการประสานงานเป็นทีม นี่เป้นความจริงที่ไม่มีข้อกังขาใดๆ แต่ก็นะเขาดันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเสียนอู่ พวกเราคงไปว่าอะไรเค้าไม่ได้ ทำได้แค่ยอมรับว่าเลือดยังไงก็ข้นกว่าน้ำนั่นแหละ แต่ก็ถือว่าพวกเรายังมีโชคอยู่บ้างที่โดยส่วนตัวแล้ว เขาไม่ได้มีความแค้นเคืองอะไรเป้นการส่วนตัวกับกิลด์[Zhan Long]ของเรา ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้มีโอกาสออกรบต่อสู้กับศัตรูที่เก่งกาจโดยมีเค้าเคียงข้างบ้างก็เป็นได้”

“ชั้นก็หวังเช่นนั้น!”

…………………

เวลาผ่านไปราวติดปีก กระบวนรบแบบโล่ทรงกลมของ[Zhan Long]ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดอัศวินเหยี่ยวรบเข้ามาหาจากทุกทิศทุกทาง พวกเราก็ค่อยๆไล่สังหารพวกมันทีละตัวๆไปเรื่อย ถึงแม้ว่าอัตราการสูญเสียของเราจะอยู่ในขั้นที่สูงก็ตาม แต่คนที่รอดอยู่ก็ได้ค่าประสบการณืสูงอย่างน่าตื่นใจไม่น้อยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้นมอนสเตอร์พวกนี้ยังมีโอกาสดรอปไอเทมระดับทองที่สูงมากแถมยังมีโอกาสได้หินวิญญาณซึ่งสำคัญอย่างมากในการอัพเกรดอุปกรณ์หินวิญญาณนั้นสามารถใช้อัพเกรดอุปกรณ์ได้ทั้งอาวุธและชุดเกราะสวมใส่ ซึ่งตอนนี้อุปกรณืที่มีคนอัพเกรดเอาไว้สูงสุดก็มีค่าอยู่ที่ +7

ซึ่งนั่นก็คือดาบจักรพรรดิ์ฉินของผมนั่นเอง เพราะอุปกรณ์ทั้งหลายเมื่อผ่านการอัพเกรดจนถึง +7 แล้วนั้น จะมีค่าพลังป้องกันหรือพลังโจมตีเพิ่มขึ้นอีกราว 35% ซึ่งเป็นเรื่องหนักอกหนักใจของพวกผู้เล่นที่มีเงินถุงเงินถังทั้งหลาย

อย่าง’เจี้ยนเฟิงหาน’ ‘หวังจื้อเฉิง’และ’แม่ทัพเหยี่ยนเจา’ เพราะโดยปกติอุปกรณ์ของพวกเขามักจะอัพเกรดอย่างน้อย +5 อยู่แล้วซึ่งทำให้พวกเขาแม้ว่าจะสวมใส่ไอเทมเหมือนๆคนทั่วไปใช้

พวกเขาก็ได้รับความสามารถเสริมจากการอัพเกรดอุปกรณ์อย่างน้อยขึ้นไปอีก 20% ซึ่งสร้างความเสียเปรียบได้เปรียบในการสู้รบได้อย่างมากทีเดียวณ ทางประตูทิศเหนือแห่ง[เมืองโบราณ]นี้ กว่า 70% ของอัศวินเหยี่ยวรบได้ถูกสังหารลงด้วยรูปแบบการป้องกันของกิลด์ [Zhan Long]

ส่งผลให้เลเวลของทุกๆคนขยับขึ้นมาอีกมากพอสมควร หลังจากจบกิจกรรมนี้แล้วดูท่าอันดับผู้เล่นที่มีเลเวลสูงสุดในเมืองป้าฮวงน่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างพลิกความคาดหมายแน่นอน

ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นผู้มีโอกาสสังหารบอสต่างๆในกิจกรรมลงได้เพื่อรับค่าประสบการณ์ ซึ่งตอนนี้การช่วงชิงตำแหน่งผู้เล่นอันดับหนึ่งในเมืองป้าฮวงก็โฟกัสมาที่ผม,เจี้ยนเฟิงหาน,เจี๋ยนเจี่ยนตันตันและแม่ทัพเหยี่ยนเจา…………….

พวกเราใช้เวลาไปกับการโจมตีของมอนสเตอร์ระลอกที่เก้านี้มากกว่า 50 นาทีแล้ว และทางด้านเหนือของ[เมืองโบราณ]ก็มีอัศวินเหยี่ยวรบปรากฏให้เห็นอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นพวกมันส่วนใหญ่โดนสังหารหมดสิ้น ในขณะที่จำนวนผู้เล่นที่เหลือรอดชีวิตอยู่ก็ดูท่าจะน้อยลงไปเยอะทีเดียว

จำนวนผู้เล่นที่ประจำอยู่ที่ประตูเมืองทางทิศเหนือของ[เมืองโบราณ] น่าจะเหลือน้อยกว่า 50000 แล้วในตอนนี้ ในขณะที่จำนวนผู้เล่นที่เข้าร่วมกิจกรรมที่ยังเหลือชีวิตรอดทั้งหมดในตอนนี้ก็ดูโหวงเหวงมากมาย

ผู้เล่นที่โดนสังหารในการต่อสู้ : 1242773

ผู้เล่นที่ยังมีชีวิตรอด :  178997

……………….

“ดูท่าแต่ละฝ่ายก็สูญเสียไม่ใช่น้อยๆเลยนะนี่…”

เสียง’แม่ทัพหลี่มู่’เอ่ยขึ้นเมื่อตรวจดูที่จำนวนผู้เล่นที่ยังเหลืออยู่ แล้วก็ยิ้มเย้ยก่อนจะพูดว่า

“ตอนนี้เหลือผู้เล่นอีกประมาณ 170,000คนเท่านั้นที่ยังอยู่ในแผนที่กิจกรรม[เมืองโบราณ]นี่น่ะ ชั้นล่ะอยากรู้จริงๆว่าพวก[Vanguard]จะสูญเสียมากน้อยขนาดไหน เจี้ยนเฟิงหานมันคุยนักคุยหนาว่ามันยังเหลือกองกำลังของมันอีกตั้ง 8000 อยากรู้จริงๆว่าตอนนี้มันเหลือไอ้กองกำลังโปเกนั่นอยู่อีกเท่าไหร่หลังจากผ่านศึกระลอกตะกี้มาน่ะ…”

เยว่ชิงเฉียนอมยิ้มก่อนจะพูดว่า

“งั้นรอแป้บนะคะ เดี๋ยวลองตรวจสอบดูให้ค่ะ…”

“โอ้ รอได้อยู่แล้ว!”

และก็ผ่านไปแค่ราวสองนาทีเท่านั้น ‘เยว่ชิงเฉียน’ก็หันกลับมาก่อนจะรายงานว่า

“ผลการสำรวจบอกว่าดังนี้ค่ะ [Vanguard] ตอนนี้เหลือผู้เล่นอยู่ราวๆ 2200+ , [Prague] เหลืออยู่ราว 1700+ , [Wrath of the Heroes]เหลืออยู่500+ , [Flying Dragon] เหลืออยู่174 , [Crimson Contact] เหลืออยู่ 71 , [Misty Palace] เหลืออยู่  114 , [Mass Burial]กับ[Wind of Battle]รวมกันเหลือ 56 คนค่ะ และกิลด์[Zhan Long]ของพวกเราเหลือผู้เล่นอยู่ประมาณ 600+ ฮิฮิ นี่คือข้อมูลของกิลด์ต่างๆที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้และยังเหลือรอดอยู่ค่ะ….”

‘แม่ทัพหลี่มู่’อดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นก่อนเอ่ยว่า

“แบบนี้แสดงว่าก็เหลือกิลด์ใหญ่หลักๆอยู่ไม่เท่าไหร่เอง จากจำนวนผู้เล่นที่อยู่ในแมพกิจกรรมรอบๆ[เมืองโบราณ]นี้ประมาณ 170,000 คน งั้นที่เหลือก็เป็นพวกผู้เล่นอิสระที่ไม่ได้สังกัดกิลด์ใดๆหรือไม่ก็พวกที่รวมกันเพียงกลุ่มเล็กๆซึ่งกำลังในการรบค่อนข้างมีจำกัด ชักจะเป็นห่วงคนพวกนี้แล้วล่ะสิว่าจะพากันเอาตัวรอดไปจนถึงการโจมตีระลอกสุดท้ายหรือเปล่า? ยิ่งไปกว่านั้นบอสของระลอกที่เก้านี้ก็ยังไม่เกิดเลย….”

ผมกระชับดาบจักรพรรดิ์ฉินในมือก่อนจะมองไปยังทิศทางเบื้องหน้าแล้วก็ยิ้มออกมาเอ่ยว่า

“ตอนนี้พวกเราควรจะรอให้บอสระลอกนี้เกิดขึ้นมาก่อนล่ะนะ จะดีไม่น้อยทีเดียวถ้าบอสมันจะมาเกิดในทิศทางที่ค่ายของพวกเราตั้งอยู่ พวกเรายังเหลือกันอยู่อีกตั้ง 600+ คน…”

“ก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน หัวหน้า…”

‘มัตฉะ’หยิบหอกผลึกวิญญาณมังกรของเธอขึ้นมาก่อนจะบินขึ้นไปบนอากาศเพื่อสำรวจ พลันชี้ไปที่ทิศทางด้านหน้าพูดว่า

“บอสของรอบที่เก้ามาเกิดทางค่ายของเราจริงๆด้วยค่ะ หัวหน้าคะ”

“จริงดิ?”

ทุกคนต่างเงยหน้ามองไปทิศทางนั้นเป็นตาเดียวกัน และพบว่ามีมวลอากาศและแสงหลากสีกำลังรวมตัวกันอยู่บนท้องฟ้าทางทิศนั้น กลับกลายเป็นว่าไม่ใช่เหยี่ยวรบที่มีอัศวินอยู่บนหลังแต่อย่างใด กลับเป็นเสียงพ่นไฟของมังกรตัวหนึ่งที่มีเกล็ดสีแดงชาดและมีชายผู้หนึ่งยืนตระหง่านในชุดเกราะสีแดงโลหิตบนหลังมังกรตัวนั้น

มือของเขายังถือหอกที่มีรูปร่างราวมังกร ก่อนจะกวาดสายตามองลงมายังพวกเราที่อยู่ด้านล่างพร้อมตะโกนเสียงดังราวฟ้าผ่าว่า

“เจ้าพวกดื้อด้าน กล้าดียังไงมาบุกรุก[เมืองโบราณ] ถ้าเช่นนั้นให้ข้า อัศวินมังกรเพ่ยหลินคนนี้ แสดงให้เห็นว่าการลงทัณฑ์ของจริงนั่นน่ะมันเป็นอย่างไร!”

“งานงอก!”

‘แม่ทัพหลี่มู่’ที่แหงนหน้ามองบอสอยู่เอ่ยขึ้นว่า

“ไอ้ขี้เก็กนี่ท่าทางจะรับมือยากไม่ใช่เล่นแฮะ ทุกคนระวังตัวกันด้วย!”

ผมพาร่างทะยานไปด้านหน้าขยับเข้าไปให้ใกล้บอสอีกนิด แต่ก็ไม่อาจมองเห็นความสามารถของมันได้ กลับได้ทราบเพียงข้อมูลคร่าวๆเท่านั้น

【อัศวินมังกร เพ่ยหลิน】(ระดับจักรพรรดิ์) เลเวล : 74

พลังโจมตี : ???

พลังป้องกัน : ???

พลังชีวิต : ???

สกิล :【หอกมังกรพัวพัน】【มังกรเกล็ดเงินจู่โจม】【มังกรอัคคีโผทะยาน】

คำอธิบาย : อัศวินมังกรนามเพ่ยหลิน เป็นอัศวินมังกรสืบทอดมาช้านานแต่อดีตกาล เพ่ยหลินผู้ที่ครอบครองพลังที่ไม่อาจประมาทได้พร้อมทั้งยังเป็นผู้มีวิสัยทัศน์พร้อมด้วยประสบการณ์ในการรบ เช่นการสามารถสื่อสารกับมังกร ทั้งยังสามารถบงการและขับขี่มังกรได้ทุกชนิดตามใจปรารถนาจนได้สมญาว่า ผู้ใกล้ชิดมังกร ทว่าความกระหายในพลังได้ผลักดันเขาสู่ด้านมืดจนทำให้เขาดำดิ่งสู่ก้นบึ้งของอเวจี สุดท้ายแล้วก็กลับกลายเป็นผู้อารักขาที่แข็งแกร่งที่สุดของ[เมืองโบราณ]นั่นเอง

…………….

‘ซ่งหาน’เอ่ยถามขึ้นว่า

“แล้วพวกเราจะสังหารมันยังไงดีครับเนี่ยะ?”

ผมตอบว่า

“ทุกคนถอยไปก่อน ชั้นกับมัตฉะจะเข้าไปแท้งค์บอสเองเพื่อช่วยลดโอกาสการสูญเสียให้น้อยที่สุด หลี่มู่นายพาคนไปจำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันรอบนอก พวก[Vanguard]กับ[Prague]ต้องส่งคนมาหาโอกาสโขมยบอสจากเราเป็นแน่ เตรียมตัวเอาไว้ให้พร้อมดีกว่า”

‘แม่ทัพหลี่มู่’พยักหน้า

“เข้าใจแล้ว ว่าแต่ว่านายแน่ใจนะว่าจะแท้งค์ไอ้บอสขี้เก็กนี่ไหว? มันพูดได้ด้วยนะ..”

“อย่าห่วงไปเลย ไอ้กอบลินปากมากตอนเวฟแรกนั่นก็พูดมากแบบนี้แหละ ชั้นยังเอาอยู่เลย…”

“เออ..จริงแฮะ”

………….

“เสียวอู่!”

ผมวิ่งทะยานไปหาเธอพร้อมกับดาบคู่ใจ ก่อนจะหาพื้นที่เปิดโล่งเหมาะๆ ยืนรอท่าพร้อมตะโกนสั่งว่า

“เสียวอู่ เธอรับหน้าที่ยิง[ศรดาวตก]ใส่บอส ล่อมันลงมาทางที่ชั้นยืนอยู่นี่ ชั้นจะรับมือกับมันเอง!”

‘หลินเสียวอู่’พยักหน้าและขึ้นสายธนูทันทีไม่รอช้า

เสียงดัง “ฟุ่บ!” สกิล[ศรดาวตก]ก็ถูกยิงออกไปสู่ท้องฟ้าตรงเข้าพุงกะทิของมังกรทันที

แม้สกิลจะมีความรุนแรงขนาดไหนแต่ค่าดาเมจที่มองเห็นกลับมีแค่ 781 หน่วยบ่งบอกให้รู้เลยว่าบอสตัวนี้อึดถึกทนมากมายขนาดไหน

“เจ้าถามหาความตายใช่ไหม หา?!”

อัศวินมังกรเพ่ยหลินทะยานขึ้นไปจับเขาของมังกรแล้วพาเอาร่างมังกรมหึมาตัวนั้นบินโฉบโจมตีลงมาที่’หลินเสียวอู่’ทันที!

ผมมองหาโอกาสด้วยการคำนวนความเร็วของมังกรและองศาในการโจมตีก่อนจะเปิดฉากการโจมตีทันทีเช่นกัน

[โลกาสิ้นสูญ]!

………………..

วันนี้วันเกิดท่าน WildFox นะครับ มาร่วมแสดงความยินดีกันหน่อยยยย

ที่มา:

ตอนที่แล้วตอนต่อไป
comments