I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 291 – ลองดูสิ

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

เลือดที่ไหลนองเต็มพื้น ไม่มีอะไรที่บอกได้ว่า’ตูกู โอวหยุน’ นั้นยังมีชีวิตอยู่ แม้แต่ศพและกระดูกของเขายังถูกบดบี้จนแบนเหมือนพายเนื้อ โดย’ชูเฟิง’ ในขณะนั้นทุกคนต่างเงียบ พวกเขาทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ‘ตูกู โอวหยุน’ และในสายตาของเขาก็แสดงออกความกลัวในตัว’ชูเฟิง’เป็นอย่างมาก

‘หยาน หยางเทียน’ ทีที่คอยดูการประลองตลอดเวลานั้น เมื่อมองไปที่ศิษย์เอกของเขาที่กลายเป็นบ่อเลือดอยู๋กลางสนามประลอง ความโกรธของเขาก็ถูกระเบิดออกมาทันที

“ชูเฟิงงงงงงง ข้าจะฆ่าเจ้า!!”

เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นและเจตนาที่ต้องการจะฆ่า’ชูเฟิง’นั้น เหมือนเป็นสัญญาณ ทำให้พวกผู้อาวุโส และ ศิษย์ สำนักหลิงหยุน เข้าล้อม’ชูเฟิง’ทันที ใบหน้าพวกเขานั้นมีความต้องการที่จะฆ่า’ชูเฟิง’ ปรากฏอยู่

“พวกเจ้าต้องการฆ่าข้าสินะ พวกเจ้าคิดว่าจะทำได้อย่างนั้นหรือ”

เขามองไปยังคนจากสำนักหลิง หยุน ที่กำลังล้อมเขาอยู่ ใบหน้าของ’ชูเฟิง’นั้นไม่ปรากฏถึงความกลัวแม้แต่น้อย เขาสะบัดแขนของตัวเอง และทำให้เกิดแรงกดดันระดับแก่นแท้วิญญาณแพร่กระจายออกไปทุกทิศทางใน

“อ๊าก ~~~~”

ศิษย์และผู้อาวุโส สำนัก หลิง หยุนที่ล้อม’ชูเฟิง’อยู่นั้นต้องเผชิญกับแรงกดดันที่พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้ไหว พวกเขาทั้งหมดนั้น โดนแรงกดดันจนทำให้กระเด็นออกไป พวกเขานั้นไม่สามารถต้านทาน’ชูเฟิง’ได้แม้แต่คนเดียว

“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าจะต้องชดใช้กับสิ่งที่เจ้าได้กระทำไว้ “

หลังจากพูดเสร็จ 12 ผู้พิทักษ์ ก็พุ่งเข้ามาล้อม’ชูเฟิง’ทันที 12 ผู้พิทักษ์ของสำนัก หลิง หยุน เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 9แก่นแท้วิญญาณทุกคน ในขณะนั้นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดเทาเช่นเดียวกับ’ชูเฟิง’ ก็ขึ้นมาล้อม’ชูเฟิง’เช่นเดียวกับ 12ผู้พิทักษ์

และคนคนนั้นเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดเทาจากสำนัก หลิง หยุน

“ชูเฟิง เจ้าควรหยุดเขาด้วยพลังที่เหมาะสม เจ้าไม่เห็นจำเป็นต้องฆ่าเขา”

‘หยาน หยางเทียน’พูด ในตาทั้ง2 ของ’หยาน หยางเทียน’นั้นแดงก่ำ และเสียงพูดของเขาสั่น เห็นได้ชัดว่าเจ้าสำนักหลิงหยุนนั้นกำลังโกรธอย่างมาก เขาถูกครอบงำโดยความโกรธของเขาและต้องการจะฆ่า’ชูเฟิง’

“จริงๆแล้วข้าไม่ได้ตั้งใจฆ่าเขานะ ข้าแค่หยุดไม่ทันเท่านั้นเอง “

” แต่โทษข้าอย่างเดียวไม่ได้นะ ก็คนจากสำนักหลิง หยุนของท่านตะโกนขู่ข่าว่าว่า ตูกู โอวหยุนนั้น เป็นอัจฉริยะหาตัวได้ยากและแข็งแกร่งและไร้เทียมทานมากจนไม่มีทางที่จะแพ้ข้าได้ “

” ข้าก็เลยรู้สึกกลัวเลยใช้พลังเพิ่มขึ้นอีกนิดนึง แต่ใครจะคิดว่าเขาจะรับไม่ไหว และโดนฝ่ามือข้าฆ่าตายล่ะ เห้อช่างน่าเศร้าเสียจริง “

” อ่า ท่านเจ้าสำนักหยานผู้ยิ่งใหญ่ท่านโทษข้าอย่างเดียวไม่ได้นะ ท่านควรโทษคนจากสำนักท่านด้วยถ้าพวกเขาไม่ตะโกนขู่ข้าว่าตูกู โอวหยุนนั้นแข็งแกร่งจนไร้เทียมทานข้าก็ไม่เผลอลงมือฆ่าเขาหรอก ข้าไม่คิดว่าเขาจะอ่อนแอขนาดนี้ เห้ออออ “

ในขณะที่เขาตอบคำถามของ’หยาน หยางเทียน’ ‘ชูเฟิง’พลันยักไหล่ของเขาและทำหน้าไร้เดียงสา

” บัดซบ ชูเฟิง เจ้าฆ่าคนของข้ายังไม่พอ เจ้ายังไม่รู้สึกผิดอีกอย่างนั้นหรอ ข้าไม่สนว่าเจ้าจะมีใครสนับสนุนบ้าง วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!”

สุดท้าย ‘หยาน หยางเทียน’ ไม่สามารถยับยั้งความโกรธไว้ได้ เขามองขึ้นไปบนฟ้าและคำรามก้อง ในตอนนั้นกลิ่นอายพลังระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณของเขาเล็ดลอดออกมา ทำให้พื้นที่แถวนั้นสั่นสะเทือนทำให้ผู้คนต่างล้มลงและยากที่จะประคองตัวเองให้ลุกขึ้น

” นี่หรือพลังของระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณ พลังของมันช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก หยาน หยางเทียนได้เข้าสู่ อาณาจักรสวรรค์วิญญาณแล้วจริงๆหรือนี่!!”

” ตายแน่ ชูเฟิงเขาตายแน่ ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้ แม้ว่าพลังของเขาจะโดดเด่นมากแต่มันก็อยู่ในระดับแก่นแท้ซึ่งต่างกับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณอย่างสิ้นเชิง “

เสียงของผู้คนพูดขึ้นมาในขณะที่พวกเขากำลังประหลาดใจและกลัว ‘หยาน หยางเทียน’ ‘ชูเฟิง’ขมวดคิ้วแน่นและบ่นกับตัวเองในใจ

“พลังของอาณาจักรสวรรค์วิญญาณกับแก่นแท้วิญญาณต่างกันมากจริงๆ.”

” แน่นอนว่าพลังระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณแข็งแกร่งมาก แม้ว่าเจ้าจะสามารถคนระดับแก่นแท้วิญญาณในขณะที่เจ้าอยู่ในระดับกำเนิดวิญญาณได้ก็จริง แต่ว่าในระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณต่อให้เจ้ามีพลังถึงระดับ 9 แก่นแท้วิญญาณมันก็ยังยากมากที่เจ้าจะสามารถสู้เขาได้”

‘ต้านต้าน’ กล่าวเตือนชูเฟิง

” พวกเจ้าทุกคนถอยไป ข้าจะฆ่าชูเฟิงและแก้แค้นให้ โอวหยุนเอง.”

ในตอนนั้น ‘หยาน หยางเทียน’ก็ได้ระเบิดพลังของเขาออกมาชายเสื้อและผมของเขาพลิ้วไหวตามสายลม และพลังของเขาที่ถูกปล่อยออกมานั้น แทบจะบอกได้ว่า’ชูเฟิง’นั้นไม่มีทางรอดแล้ว

หลังจาก ‘หยาน หยางเทียน’พูดจบ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณของสำนักหลิง หยุนได้ใช้อำนาจวิญญาณสร้างเกราะป้องกันให้ตัวเองและ 12ผู้พิทักษ์ เพื่อให้หลบออกมาอย่างรวดเร็วเพราะเขารู้ว่าครั้งนี้ ‘หยางเทียน’โกรธมาก ต่อจากนั้นพวกเขา ก็ถอยห่างจาก’ชูเฟิง’ได้สำเร็จ

ก่อนหน้าน้ำวกเขาได้เห็นพลังของอาณาจักรสวรรค์วิญญาณของ’หยานหยางเทียน’มาก่อน พวกเขารู้ว่าพลังของอาณาจักรสวรรค์วิญญาณ นี้น่ากลัวและรุนแรงมาก

” ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องตัวชูเฟิงก็ลองดูสิ “

ในเวลานั้นมีเสียงตะโกนดังลั่น เสียงดังและชัดเจนดั่งฟ้าผ่ามันทำให้ใบหน้าของผู้เชียวชาญหลายคนเปลี่ยนแปลงและถึงกับหูอื้อ และคนที่มีการบ่มเพาะที่อ่อนแอถึงกับกระอักเลือด ในขณะเดียวกันคลื่นของความดันไม่มีที่สิ้นสุดสืบเชื้อสายมาจากท้องฟ้าเช่นถ้าเทือกเขาที่มองไม่เห็นได้รับการกดลง

ในฐานะที่เป็นความดันที่น่ากลัวลงมาเป็นรูปอายุยังปรากฏในท้องฟ้า ชายคนหนึ่งที่สวมเกราะสีทองดั่งเทพเจ้าแห่งสงครามค่อยๆลอยลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้าๆ

ในตอนนั้นสายตาทั้งหมดพลันจับจ้องไปที่เขาที่ลอยลงมาอยู่ข้างชูเฟิง เขาคือชายคนที่บอกว่าตนเป็นพี่ชายร่วมสาบานของ’ชูเฟิง’ เขาคือชายที่ผู้นำตระกูลฉีและยังเป็นแม่ทัพของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน เขาคือ ‘ฉี เฟิงหยาง’นั่นเอง

” สวรรค์ กลิ่นอายของฉี เฟิงหยาง ช่างน่ากลัวยิ่งนัก อย่างบอกนะว่าเขาได้ก้าวเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์วิญญาณแล้ว และดูจากการลอยลงมาจากท้องฟ้าของเขา นี่เขาเป็นผู้เชียวชาญระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณแล้อย่างนั้นหรือ “

การรปรากฏตัวของ ‘ฉี เฟิงหยาง’ นั้นเหนือความคาดหมายของทุกคนพลังของเขานั้นไม่ได้ด้อยกว่า’หยาน หยางเทียน’เลย อาจบอกได้ว่าเขาอาจเหนือกว่า’หยาน หยางเทียน’ด้วยซ้ำการปรากฏตัวของฉี กว่าความคาดหวังของทุกคน. ความแรงของเขาแสดงแม้ทุกคนตกใจ. มันเป็นความรู้สึก

” ฉี เฟิงหยาง นี่เจ้า…..เจ้าเข้าสู่ระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณแล้ว”

ในความจริงนั้น’หยาน หยางเทียน’ก็ตะลึงถึงความแข็งแกร่งของ ‘ฉี เฟิงหยาง’เช่นกัน จากที่เขารู้ในอาณาจักรมังกรฟ้านั้นมีเพียงคนเดียวที่ได้ก้าวเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์วิญญาณ นั่นนคือ ผู้นำของคฤหาสน์องค์ชายกิเลน

และในปีที่แล้ว’หยาน หยางเทียน’สามารถก้าวเข่าสู๋อาณาจักรสวรรค์วิญญาณ เป็นคนที่2ของอาณาจักรมังกรฟ้า แต่ในปัจจุบันนี้ผู้เชียวชาญอาณาจักรสวรรค์วิญญาณคนที่3ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว และนั่นหมายความว่าความสมดุลของอาณาจักรมังกรฟ้าได้ถูกทำลาย มันทำให้เขาคิดหนัก

สำหรับ’ฉี เฟิงหยาง’ นั้นเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับ ‘หยาน หยางเทียน’ เขาวางมือบนบ่าของ’ชูเฟิง’และถามว่า

“น้องชาย เจ้าเป็นไรมากหรือเปล่า”

” พี่ใหญ่ ข้าสบายดี ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านถึงส่งสารผ่านจิตว่าให้ข้าสามารถฆ่าตูกู โอวหยุนได้ เพราะท่านได้ก้าวเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์วิญญาณแล้วนี่เอง!”

เมื่อเทียบกับเหล่าคนดู ‘ชูเฟิง’ที่เห็นการบ่มเพาะของ’ฉี เฟิงหยาง’ไปถึงอาณาจักรสวรรค์วิญญาณแล้ว นั้นมันทำให้เขามีความสุขมาก

“หึ นี่คือเหตุผลที่ข้าหายตัวไปหลายวัน เพราะข้าได้ไปบ่มเพาะจนสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์วิญญาณนั่นแหละ แต่ข้าอยากจะบอกว่า การมีพลังระดับนี้มันรู้สึกดีมากเลยจริงๆ “

‘ฉี เฟิงหยาง’ พูดพลันหัวเราะหลังจากนั้นเขาก็หันไปหา ‘หยาน หยางเทียน’อย่างเย็นชาและกล่าวอย่างเสียวดังว่า

“เจ้าสำนักหยาน ข้าเป็นคนอนุญาตให้ชูเฟิงฆ่าตูกู โอวหยุนได้เอง ถ้าเจ้ามีปัญหาก็มาคุยกับข้า”

ผู้แปลโดยคุณ #

ปล1 สปอยล์ครับ จากที่แอดได้บอกไว้ในตอน 288 อาวุธที่ชูเฟิงได้คือ ดาบของจักรพรรดิฉินครับ นอกจากนี้หมัดพี่เสือของชูเฟิง ยังอัพเกรดกลายเป้นพยัคฆ์เพลิงเทวะ สามารถอัญเชิญออกมาได้ มีทักษะ ด้วยครับ

ปล2. ตอนแปล ต้านต้านนี่ มันใช้ ซึ่งแปลตรงๆว่าเจ้าไข่ ผมนึกถึง น้องไข่โป๊ะแตกตลอดเลย เห้อ ฝากไปทวงหลินตง กับ มังกรสะท้านภพด้วยนะครับ ฮ่าๆๆ

ตอนหน้ารับรองมันแน่นอนครับ เด็กตีกันผ่านไปแล้ว

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments