I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 345 – พลังวิญญาณถูกเปิดเผย

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ออร่าสีแดงดั่งเลือดนีรุนแรงมาก ราวกับมีหนามนับหมื่นอยู่ภายในหากใครตกอยู่ภายใต้ออร่าสีแดงเหล่านั้น ก็ต้องโดนเฉือนด้วยออร่าสีแดงนี้ อาจจะทำให้ถึงตายเลยก็เป็นได้

*วูบ*

‘มู่หรง ยู่’ ที่ต้องเผชิญหน้ากับออร่าสีแดงนั้น ทำให้เขารู้สึกกลัวเล็กน้อย เขากระโดดหลบออกมาจากรัศมีของออร่านั้น และนั่นมันทำให้เขาต้องเผชิญกับแรงกดดันของ อัจฉริยะทั้ง 4

” มู่หรง ยู่ ถูกบีบให้ถอยออกมาแล้ว เจี่ย ฉิงหมิง ทำให้ มู่ หรงยี่ ต้องถอยออกมาได้งั้นหรือเนี่ย! “

“น่าประทับใจจริงๆ ที่บอกว่า เจี่ย ฉิงหมิงนั้นเป็นอันดับ 1 จากรุ่นเยาว์ของทั้งเก้าอาณาจักร วันนี้เขาได้แสดงให้เห็นแล้ว “

หลังจาก ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ โจมตีนั้น เขาก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับหลายๆคน เพราะ ‘เจี่ย ฉิงหมิง’นั้นยังอยู่ในระดับ 1 อาณาจักรวิญญาณสวรรค์ และมียุทธภัณฑ์ชั้นยอดเช่นเดียวกัน แต่เขามีความสามารถที่จะทำให้ ‘มู่หรง ยู่’ เกิดความกลัวได้ เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นเหนือกว่า ‘มู่หรง ยู่’

หลังจาก ‘มู่หรง ยู่’ ถอยออกมา ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ ไม่ได้ตามมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อที่จะโจมตีซ้ำใส่เขา แต่เขาได้ปล่อยออร่าสีแดงอีกครั้งและช่วย ทั้ง4 คนขึ้นมา และถามว่า

“น้องชาย พวกเจ้าบาดเจ็บมากหรือเปล่า”

“นิดหน่อย พี่ชาย ฉิงหมิงต้องขอบคุณท่านจริงๆที่มาช่วยพวกข้า มู่หรง ยู่ นั้นเลวร้ายเกินไปแล้ว เขาใช้ยุทธภัณฑ์เขาไม่ยอมทำตามกฏที่ตกลงไว้ ถ้าเขาไม่ใช้ยอดยุทธภัณฑ์ ข้าจะต้องเอาชนะเขาได้อย่างแน่นอน.”

“อ่า มันน่าเศร้าที่เจ้าไม่มียุทธภัณฑ์ชั้นยอด และ ข้าก็ไม่มีเช่นกัน คงมีแต่พี่ชาย ฉิงหมิงเท่านั้นที่สามารถทำให้เขากลัวได้ “

อันนี้เป็นการบ่นของ 4 คนนั้นนะครับบางคนอาจจะงง สี่อัจฉริยะ กล่าวขอบคุณ ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ และได้บอกว่าในตอนนี้นั้นเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะในตอนนี้เขาได้พ่ายแพ้ต่อ ‘มู่หรง ยู่’ ไปแล้ว

“ฮึ่ม.”

‘มู่หรง ยู่’ถอนหายใจอย่างเย็นชาแต่แล้วเขาก็ไม่ได้ทำอะไร เขาเก็บดาบไม้ศํกดิ์สิทธิ์ไว้ที่หลังของเขา และพูดว่า

” เจี่ย ฉิงหมิง การใช้ยุทธภัณฑ์ชั้นยอดของเจ้าเหนือกว่าข้า แต่ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเจ้าเพียงได้เข้าสู๋ระดับอาณาจักรวิญญาณสวรรค์ก่อนข้าเท่านั้น “

“เมื่อข้าสามารถควบคุม ดาบศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างชำนาญแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นเราจะสู้กันอีกครั้ง”

“ยินดีเสมอ.”

‘เจี่ย ฉิงหมิง’พูด เขาพูดแบบไม่กลัวสิ่งใดเลยพลังของ ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ ทำให้สาวงามที่เห็นเกิดตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว แม้แต่คนทั่วไปก็ยกย่องเขา

“พี่ใหญ๋ ฉิงหมิง แถวนี้มีคนคนนึงชื่อชูเฟิง เขาเป็นคนที่ทำร้ายเจี่ย ปูฟ่าน บาดเจ็บสาหัส “

สมาชิกตระกูล เจี่ย คนนึงวิ่งมาหา ‘เจี้ย ฉิงหมิง’ และชี้นิ้วไปยัง’ชูเฟิง’ที่อยู่ในฝูงชน

“โอ้ พี่ชาย ฉิง หมิง เจี่ย ปูฟ่าน เป็นน้องชายท่านมิใช่หรือ หรือว่าน้องชายท่านได้รับบาดเจ็บจากเจ้าสารเลวคนนั้น”

“เขานั้นโง่เขลาจริงๆที่ทำเรื่องแบบนี้ ข้าขอให้พี่ ฉิงหมิง มอบบทเรียนให้แก่เขาซักครั้งหนึ่ง”

‘เจี่ย ฉิงหมิง’ ยืนฟังแต่ไม่ได้พูดอะไร อัจฉริยะ ทั้ง 4 ที่ถูกช่วยไว้ต่างหันไปมอง’ชูเฟิง’ด้วยสายตาโหดเหี้ยม

“ต้องขอบใจสำหรับความหวังดีของพวกเจ้า แต่นี้เป็นเรื่องของตระกูลข้า เดี๋ยวข้าจัดการเอง “

‘เจี่ย ฉิงหมิง’ ยิ้มไปทางทั้ง4คน และจากนั้นเขาก็หันไปมอง’ชูเฟิง’ทันที

ในตอนนั้น’ชูเฟิง’รู้สึกเหมือนมีมีดแทงเข้ามาที่ตัวเขาและทะลุเข้าไปถึงหัวใจเขาแทบหมดสติและคุกเข่าลงไปบนพื้นแต่โชคดีที่พลังวิญญาณของ’ชูเฟิง’นั้นแข็งแกร่ง ยังมีสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์วิ่งอยู่ในเลือดของเขาทำให้เขาต้านทาน แรงกดดันได้ในเวลาสั้นๆ แต่ว่ามันก็ยังมีผลกระทบอยู่

ตอนนี้หน้า’ชูเฟิง’ ซีดเหมือนคนตาย และมีเหงื่อเม็ดโป้งเต็มใบหน้าเขา เขาในตอนนี้หอบอย่างหนักเหมือนพึ่งผ่านการต่อสู้อย่างหนักมา

“ชูเฟิง เจ้าเป็นอะไรไหม”

‘กู โบ๋’เห็นท่าทีของชูเฟิง จึงถามด้วยความกังวล และจากการใช้พลังวิญญาณเขาจึงรู้ว่า ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ได้ปล่อยแรงกดดันมาทางพวกเขา

“ข้าสบายดี “

‘ชูเฟิง’ตอบ แต่ในใจของเขาคิดว่า

“แรงกดดันนี้รุนแรงนัก เพียงแค่จ้องมองก็ราวกับมองตัวข้าได้ทะลุปรุโปร่ง นี่คือพลังของ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดคลุมสีฟ้าอย่างนั้นหรือ “

“ด้วยพลังระดับ 3 ของแก่นแท้วิญญาณกับทำร้ายน้องชายข้าที่มีพลังต่ำกว่ามาก เจ้าทำไปเพื่ออะไร “

‘เจี่ย ฉิงหมิง’ ถอนหายใจ อย่างเย็นชา หลังจากเขาได้ตรวจสอบพลังของ’ชูเฟิง’ในตอนนี้

“อะไรนะ ระดับ 3 แก่นแท้วิญญาณ ชูเฟิง เจ้าได้เข้าสู่ โลกแก่นแท้วิญญาณแล้วหรือ “

หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น ‘กู โบ๋’ตกใจอย่างมาก

“อืม.”

‘ชูเฟิง’ยอมรับโดยการพูดเบาๆ และพยักหน้า

“สวรรค์! นี่เจ้ามีพลังระดับ 3 แก่นแท้วิญญาณแล้วหรือ “

‘กู โบ๋’ตกใจมาก เขามอง’ชูเฟิง’ด้วยสายตาเหลือเชื่อ

1 ปีที่แล้ว ‘ชูเฟิง’นั้นมีพลังเพียง ระดับ 1 กำเนิดวิญญาณและด้วยเวลา 1 ปีที่ผ่านมานั้นการที่’ชูเฟิง’เลื่อนสุ่ระดับ 9 กำเนิดวิญญาณในตอนแรก ก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นมากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาได้เข้าสู่ ระดับ 3 แก่นแท้วิญญาณและทิ้งห่าง’กู โบ๋’ไปไกล

นี่มันเหนือความคาดหมายของ’กู โบ๋’ อย่างมาก

“ว่าไงนะ เด็กคนนั้นมีพลังระดับ 3แก่นแท้วิญญาณเชียวหรือ “

“เขาก้าวเข้าสู่ระดับที่ 3 แก่นแท้วิญญาณด้วยอายุเพียงเท่านี้ เขาต้องเป็นยอดอัจฉริยะแน่ๆ! “

“เขาเป็นอัจฉริยะจริง ๆ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะได้ทำร้าย น้องชายของ เจี่ย ฉิงหมิงและทำให้เขาโกรธ ต่อให้เขาเป็นอัจฉริยะที่น่าจับตามองแต่ข้าคิดว่าคงไม่มีใครกล้าช่วยเขาหรอก “

“ใช่ เจี่ย ฉิงหมิง เป็นอันดับ 1 จากรุ่นเยาว์ และ อันดับ 1 ของอัจฉริยะของอาณาจักรทั้ง 9 การที่เด็กคนนี้กล้าที่จะท้าทายต่อ เจี่ย ฉิงหมิง ก็เหมือนกับการรนหาที่ตาย! “

“อ่า พวกอัจฉริยะมักจะเย่อหยิ่งและมั่นใจในตัวเองสูง มันจะทำให้เขาเดินไปสู่ความตายเร็วขึ้น “

ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ ก็เป็นที่สนใจของคนทุกคน เพราะการที่เขาอายุยังน้อยและมีพลังขาดนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกว่า’ชูเฟิง’นั้นคือ อัจฉริยะแต่ก็มีหลายคนในนั้นรู้สึกเสียดายที่ ‘ชูเฟิง’ จะต้องตาย

เพราะเขาไปทำให้’ เจี่ย ฉิงหมิง’ โกรธดังนั้นพวกเขาจึงรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ’ชูเฟิง’

“ชูเฟิง เจ้าได้ทำร้ายน้องชายข้าบาดเจ็บสาหัส ทำให้เขาไม่สามารถเข้าร่วมการทดสอบและหมดสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมเลือกคู่ครั้งนี้ เจ้าช่างโหดร้ายยิ่งนัก คนจากอาณาจักรมังกรฟ้าเช่นเจ้าคงได้รับการสั่งสอนให้ทำร้ายผู้อิ่นสินะ”

‘เจี่ย ฉิงหมิง’ ตะโกนพูดกับ’ชูเฟิง’ เสียงตะโกนของเขาทำให้’ชูเฟิง’หูอื้อ เพราะเสียงที่ตะโกนมานั้นมีคลื่นนเสียงที่มองไม่เห็นพุ่งเข้ามาโจมตี’ชูเฟิง’ด้วยคำพูดของ ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ เป็นการเยาะเย้ยคนอื่นที่มาจากอาณาจักรมังกรฟ้ารวมถึง ‘จาง เทียนยี่’

“เจี่ย ฉิงหมิง นี่เจ้าจะไม่คำนึกถึงเรื่องถูกผิดใช่ไหม เห็นได้ชัดว่าน้องชายของเจ้าและคนอื่นๆ ได้ล้อมและโจมตีชูเฟิง ในพระราชวังใต้ดิน และที่ชูเฟิงต้องลงมือกับ เจี่ย ปู้ฟ่าน เพราะเขาต้องป้องกันตนเองเช่นเดียวกัน. “

“ถ้าเจ้าต้องการตำหนิชูเฟิง เจ้าควรกลับไปตำหนิคนจากสมาชิกตระกูลของเจ้าที่อ่อนแอเกินไป เพราะผู้เชี่ยวชาญระดับแก่นแท้ของตระกูลเจ้ากว่า20คนได้พ่ายแพ้ให้ชูเฟิงที่มีพลัง ระดับ 9 กำเนิดวิญญาณ “

“นี่คืออะไร เพราะคนรุ่นเยาว์จากตระกูลเจ้าไม่สามารถทำอะไรชูเฟิงได้ เจ้าเลยต้องการออกมาสั่งสอนเขาอย่างนั้นหรือ “

‘กู โบ๋’ พูดตำหนิ ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ อย่างรุนแรง

เอาล่ะ ใครจะถูกจะผิดไม่รู้ล่ะ

แต่มี ตีกันชัวร์ๆ

เจี่ย ฉิงหมิงก็พยายามทำให้ตัวเองดูดีสุด ในการจะเอาเรื่องชูเฟิง

ทำเหมือนว่าชูเฟิงผิด เด๋วรอพี่เฟิงอีกหน่อยเถอะมึง โดนตบหน้าขมำแน่

แต่ ณ ตอนนี้ ชูเฟิง จะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ยังไง

เราต้องมารอติดตามตอนต่อไป . . . . . .

เด๋วเรื่องชื่อตัวละครเดี๋ยวจะมีการผสานงานกันอีกทีในทีมแปลคับ หากตัวละครไหนสำคัญๆจะหาความหมายชื่อไว้ให้ แต่ตัวละครออกมาไม่กี่ตอนแล้วก็ตายคนแปลเลยมองข้ามเนื่องจาก ใช้ อิ้งแล้วมันไม่มี คนแปลเลยลากเสียงชื่อตัวละครต่างกันไปบ้าง บางท่านอ่าน = เยว่ ยูเว้ หากมีเส้นลากเสียงของพินยินก็จะเป็นอีกเสียงแล้ว จะสังเกตุเห็นว่าชื่อตัวละครนิยายจีนมักซ้ำกัน แต่จริงๆ มันอาจอ่านคล้ายกัน แต่เอาคำนั้นคำนี้มาผสม มันก็เกิดเป็นความหมายอื่น หากอ่านเอาสนุก + ความรู้เสริมมันก็ดีใช่ไม๊คับ แต่คนแปลก็ต้องใช้เวลาในการแปลเพิ่มขึ้นไปอีกนิดหน่อย บางท่านไม่คล่องจีนก็ต้องใช้เวลาพอดู เนื่องจากต้องเปิดหาจากต้นฉบับจีน แต่ไม่ต้องห่วงคับ ทางเรามีเอกจีน > จีนเตี๊ยะ!!!

แปลโดยคุณ#

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments