紫铃 ǐ í จื่อ หลิง = ระฆัง ม่วง
‘ จื่อหลิง ระฆังม่วงงั้นสินะ ‘
” ชื่อของนางคล้ายกับความสามารถของนางเลย ดูเหมือนว่าคนที่ตั้งชื่อให้นางคงรู้ว่านางคือกายศักดิ์สิทธิ์ “
” ท่าทางนครอันทรงเกียรติไม่ธรรมดาซะแหละ!!! ถึงกับมีกายศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าแม่นางคนนี้ แม้แต่ เจียง หวู่ชาง ก็ไม่แน่ว่าจะเหนือไปกว่านาง ? “
‘ชูเฟิง’ ที่เคยปะทะกับนาง บอกได้เลยว่าความแข็งแกร่งของ ‘จื่อหลิง’ มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน
แม้ว่าดูผิวเผินของ’จื่อหลิง’ จะเห็นว่านางอยู่ในระดับ 9 แก่นแท้วิญญาณ แต่พลังในการต่อสู้ที่แท้จริงของนางเหนือกว่า’ชูเฟิง’ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่า ต่อให้เป็น ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ ที่ใช้ยอดศาสตราวุธและยังอยู่ระดับ 1 สวรรค์วิญญาณ ก็ไม่สามารถเอาชนะ’จื่อหลิง’ได้
บางทีเหล่าชายหนุ่มอัจฉริยะของ 9 อาณาจักรที่มาชุมนุมอยู่บนลานรับรอง อาจไม่รู้ว่าเนื้อแท้ของ หญิงสาวชุดม่วงผู้งามราวกับเทพธิดา คือยอดฝีมือ ความสวยของนางไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกคนต้องตกตะลึง ขณะที่ ‘ถัง ยี่ซิ้ว’และสามคนที่เหลือ คงกวาดสายตามองหญิงงามรอบๆ ก็ต้องมาหยุดชะงักที่ร่างของจื่อหลิง พวกเขาไม่แม้แต่จะกระพริบตา ขณะนั้นพวกเขาได้แต่พึมพำกับตัวเองไม่หยุด
” มีด้วยหรอ ที่มีผู้หญิงงดงามขนาดนี้อยู่บนโลก . . . . ด้วยอายุเพียงแค่นี้นางยังงดงาม เมื่อนางเติบโตขึ้นในวันข้างหน้า นางจะงดงามถึงเพียงใด “
พวกเขาได้แต่ปรารถณาจะได้แต่งงานกับ แม่นางคนนี้
แม้แต่ ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ และ ‘สู่ จงหยู่’ ยังติดใจความงดงามของ’จื่อหลิง’ หลังจากที่นางปรากฏออกมา โดยเฉพาะเจ้าคนอวดดี ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ ในเวลานั้น เขาถึงกับนึกขึ้นมาภายในใจ ‘ หากจะถามข้าว่าใครที่สามารถมาอยู่เคียงข้างกายข้า ข้าบอกเลยว่า ไม่มีใครอื่นนอกจากผู้หญิงคนนี้ ‘
” ชูเฟิง นี้เป็นโอกาสที่หาได้ยาก!! เจ้าจะต้องชิงความรักจากนางในงานชุมนุมการแต่งงานนี้ หากเจ้าปล่อยนางหลุดมือ เจ้านั้นจะพลาดโอกาสที่สวรรค์ประทานมาให้ “
‘ต้านต้าน’หัวเราคิกคักและเตือน
” อะไรนะ อย่ามาตลกหน่อยเลย!!! เหมือนว่าเจ้าไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ว่านางอันตรายแค่ไหน นอกจากนี้ นางยังเกลียดข้ายิ่งกว่าอะไรอีก หากเจ้าต้องการให้ข้าไปจีบนาง ก็เหมือนเจ้ายื่นเนื้อแกะเข้าปากเสือ นี้มันหาเรื่องตายชัดๆ !!! “
‘ชูเฟิง’ ปฏิเสธอย่างแรง
” เจ้าจะรู้อะไร ? กายศักดิ์สิทธ์เป็นร่างที่สวรรค์เป็นผู้คัดเลือก พวกเขาที่กำเนิดมาพร้อมกับมัน แทบไม่มีอีกแล้ว สิ่งที่นางมีคือพลังจากสวรรค์ที่ประทานมาให้ “
” จะดีหรอพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานจากสวรรค์ดังกล่าวแต่เดิมควรเป็นของบุรษ แต่นี้กับอยู่ในร่างของสตรี แล้วหากนางมีสามีในอนาคต สามีนางก็จะได้รับประโยชน์มหาศาล “
‘ต้านต้าน’เตือน
” ประโยชน์มหาศาลงั้นหรอ ประโยชน์อะไร ? “
หลังจากได้ยินคำว่า ประโยชน์ ‘ชูเฟิง’ก็สนใจขึ้นมาทันที จึงได้แต่ไปกล่าวถามนางอย่างใกล้ชิด
” ตราบใดที่เจ้าทำสิ่งนั้นระหว่างชายหญิงกับนางในครั้งแรก พลังศักดิ์สิทธิ์ของนางก็จะไหลเข้าสู่ตัวเจ้า และเปลี่ยนเป็นแหล่งกำเนิดพลังให้กับเจ้า “
” คนปกติที่ได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์มา มันก็จะช่วยเพิ่มอนุภาพของพลังการต่อสู้ แต่สำหรับเจ้า มันอาจจะช่วยให้เจ้าเข้าใตถึงพลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในร่างกายเจ้า “
” แม้ว่าเจ้าจะสามารถเพิ่มพลังวิญญาณได้ถึงสองระดับ ด้วยพลังที่ได้จาก สายฟ้าสีทอง และ สายฟ้าสีฟ้า แต่ข้าเชื่อว่านั้นยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของพวกมัน “
” ด้วยวิธีธรรมดาเจ้าไม่มีทางเข้าใจพวกมันได้และไม่มีทางที่จะดึงพลังของมัน แต่ตราบใดที่เจ้าสามารถทำเรื่องชายหญิงกับจื่อหลิงได้ และได้รับพลังส่วนหนึ่งจากกายศักดิ์สิทธิ์ภายในร่างนาง แม้ว่าบางที่เจ้าอาจจะสามารถเข้าใจความซับซ้อนของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ แต่ต่อให้เจ้าไม่เข้าใจมัน มันก็ยังช่วยเพิ่มพลังให้แก่เจ้าได้ “
‘ต้านต้าน’ เริ่มอธิบาย
” มีอะไรแบบนี้ด้วย!!! “
ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ก็ยินดีเป็นอย่างมาก ภายในของเขาจึงเปี่ยมไปด้วยตัณหา หากเหมือนกับที่’ต้านต้าน’บอก นั้นก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาจะได้สัมผัสถึงพลังของ สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ภายในร่างเขา ที่มีอำนาจพลังที่แสนจะน่าหวาดกลัว จนไม่น่าเชื่อว่ามีจะมีอยู่บนในโลกใบนี้
ยังไรก็ตาม เขาก็รู้สึกว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถควบคุมพลังอำนาจของมันทั้งหมดไว้ภายในร่างกายคนๆเดียว แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดของต้านต้าน เขาก็ต้องเปลี่ยนความคิด
แม้จะมีหุบเขาที่เต็มไปด้วยขวากหนาม หรือ มหาสมุทรแห่งเปลวเพลิง เขาก็ต้องผ่านไปให้ได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะต้องคว้า’จื่อหลิง’มาไว้ภายในมือ เพราะเขาไม่ต้องการที่จะพลาดโอกาสที่จะได้รับพลังอำนาจของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์
แน่นอนว่า’จื่อหลิง’เป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนทั้งหมดในนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโส หรือ เด็กหนุ่ม พวกเขาต่างยิ้มและชื่นชม หญิงสาวผู้งดงามหาใดเปรียบ
โดยเฉพาะตอนที่ เจ้านคร ซิ้น เล่ย ประกาศว่า ‘จื่อหลิง’ คือบุตรสาว บุญธรรมของเขา ทุกคนก็มองว่านางคงมีความสำคัญอย่างมาก
บนลานรับรองอันหรูหรา ที่อยู่จุดสูงสุดของเทือกเขา เรียกได้ว่า ‘จื่อหลิง’ คือคนที่งดงามมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
” ทุกท่าน เมื่อการแต่งงานนี้มาขั้นนี้ มันก็สมควรแล้วแก่เวลาที่จะประกาศกฏวิธีการสำหรับการแต่งงานครั้งนี้ “
” เหตุผลที่นครอันทรงเกียรติของข้าตั้งงานชุมชุมการแต่งงานนี้มาเป็นเรื่องง่ายมาก อย่างแรก เพื่อหาคนดีๆมีความสามารถให้แก่เหล่าสตรีของนครอันทรงเกียรติ เพื่อเราจะได้ให้เราทั้งทวีปได้เป็นสหายกัน และเพื่อกระจายความสัมพันธ์ระหว่างนครอันทรงเกียรติกับ 9 อาณาจักรทั้งหมด “
” แต่บัดนี้ มีผู้คนนับพันที่มาร่วมงานชุมนุมการแต่งงาน แต่สตรีเรามีแค่ 100 คน ดังนั้นเราจึงดำเนินการจะจัดการเรื่องนี้ “
” แน่นอนว่าข้า ซิน เล่ย ต้องการหาสามีที่มีความแข็งแกร่งและเปี่ยมไปด้วยความสามารถให้กับเหล่าสตรีของนครอันทรงเกียรติ เพื่อต้องการเห็นศักยภาพของพวกเขาในอนาคต “
” นี่คือเหตุผลที่ทำไมข้าจึงเปิดพระราชวังใต้ดินไร้จุดสิ้นสุดทั่งสอง ในการทดสอบครั้งแรก เราได้อัจฉริยะในระดับกำเนิดและอัจฉริยะในระดับแก่นแท้ “
” ถึงแม้ว่าระยะห่างในความแข็งแกร่งในปัจจุบันของมันจะห่างไกล แต่ในแง่ของการต่อสู้ นับว่าพวกเขานับว่ามีความสามารถที่ดี และในอนาคตข้าเชื่อว่าทุกคนจะพัฒนาได้ไกลยิ่งกว่านี้ “
เมื่อพูดถึงจุดนั้น บางคนที่สังสัยเลยถามขึ้นว่า
” หากเราไม่ต้องสู้กันเพื่อแย่งชิงว่าใครควรจะได้เอาสาวงามกลับบ้าน แล้วการชุมนุมการแต่งงานจะต้องติดสินด้วยอะไร “
” จริงๆแล้วเรื่องนี้ง่ายมาก ข้าจะมอบน่าที่นั้นให้กับสาวงามทั้งร้อยเป็นผู้เลือก “
” นอกจากนี้นครอันทรงเกียรติของข้าจะมีกิจกรรมพิเศษตั้งขึ้น หญิงงามทั้งร้อยของนครอันทรงเกียรติก็เข้าร่วมเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้พวกท่านได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันและกัน “
” ขณะที่อยู่ด้วยกัน ข้าแน่ใจว่าหญิงงามนับร้อยคงจะตัดสินใจเลือกสามีด้วยความเต็มใจของพวกนาง และหลังจากงานนี้จบลง ฝ่ายหญิงจะเป็นคนประกาศคนที่พวกนางพอใจ และในตอนนั้นก็จะถึงบทสรุปของงานแต่งงานครั้งนี้ “
‘เจ้านคร ซิ้น เล่ย’ ประกาศเสียงดัง
” หากเป็นเช่นนี้ เราก็สามารถใช้ความสามารถของตัวเอง ดึงดูดความสนใจเหล่าหญิงงามทั้งร้อยได้สินะ ช่างเป็นวิธีที่น่าสนใจยิ่งนัก “
ในตอนนั้นผู้คนทั้งหลายเริ่มอยู่ไม่ติด เพราะพวกเขาได้รับโอกาสที่จะทำให้หญิงงามยอมรับด้วยวิธีการของ ‘ซิ้น เล่ย’
เพื่อทำให้เป้าหมาย ชูเฟิง สำเร็จ
เขาจะคงต้องหาโอกาสให้ได้ใกล้ชิด จื่อหลิง
แต่เนื่องจากผู้หญิงไปกับผู้ชายเป็นกลุ่ม เพราะมีผู้ชายตั้ง 1000 คนให้ไปเปนคู่ไม่หน้าจะไหว
แล้วหญิง 1 คน ต้องรองรับผู้ชาย 10 คน เขา
แล้วเขาจะต้องทำเช่นไร . . . . .
โปรดติดตามตอนต่อไป
ที่มา:
ตอนที่แล้ว
ตอนต่อไป