I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 356 – พร้อมทำสงคราม

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

“เขาต้องการให้เราพิชิตใจสาวงามเหล่านี้ด้วยความแข็งแกรงอย่างนั้นหรือ ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราจะสามารถพิชิตใจได้ซักคนหรือไม่ แต่ในแง่ความหล่อเหลานั้นจะมีใครเกินพวกเราทั้ง4 “

‘ถัง ยี่ซิว’ พูดพลันเต็มไปด้วยความเชื่อมัน

“พี่ชายทั้งสาม พวกท่านเลือกสาวงามของพวกท่านจากทั้ง 9 คนเถอะ ส่วนตัวข้านั้นได้เลือกท่านหญิง จื่อ หลิง แล้ว “

‘ซ่ง ฉิงเฟิง’พูด

“ซ่ง ฉิงเฟิง เจ้านั้นไร้ยางอายจริงๆ ทำไมเจ้าไม่ถามพวกเราก่อนล่ะ มีใครบ้างล่ะที่ไม่สนใจท่านหญิงจื่อ หลิง นอกจากนี้เมื่อเทียบ กับ สาวงามทั้ง9 แล้ว ท่านหญิงจื่อ หลิง เหนือกว่าพวกเธอเยอะ “

‘ไป่ หยุนเฟย’ พูด

“อะไรนะ ถ้าข้าได้ยินไม่ผิด ท่านต้องการจะสู้กับข้าอย่างนั้นหรืออะไร “

‘ซ่ง ฉิงเฟิง’ พูด

“อ่า พวกเจ้าจะทะเลาะไปเพื่ออะไร มันคงจะดีสินะ ถ้าเจ้าได้ตัดสินกันอย่างยุติธรรม “

‘หลิว เสี่ยวเหยา’ พูด

“ฮึ่ม ใครกลัวใครงั้นหรือ มาสู้กันเลยดีกว่า “

ทั้ง 3 คนแค่นเสียงในจมูก และพูดการพูดคุยของทั้ง4นั้นใช้การสื่อสารทางจิต ดังนั้นคนภายนอกจึงไม่รู้ว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกันบ้าง หลังจากประกาศรายละเอียดของงานชุมนุมเลือกคู่เสร็จ ฉิน เล่ย ก็กำลังจะประกาศบางอย่างอีกครั้ง

“สำหรับที่ตั้งของงานชุมนุมครั้งนี้คือหุบเขาพันปีศาจ “

“หาาาาา~~~”

เสียงพูดดังจากฝูงชน พวกเขาต่างตกใจอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องสถานที่ตั้งครั้งนี้ หุบเขาปีศาจคือสถานที่ต้องห้าม ที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย!ต่อให้นครอันทรงเกียรติไม่ได้ห้ามเข้าไปก็ไม่มีใครจะกล้าเข้าไปในหุบเขาพันปีศาจในขณะที่ฝูงชนกำลังตกตะลึงนั้น ก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนปากสำหรับคนที่ได้รู้ข้อมูลมาก่อนหน้านี้แล้วสำหรับพวกเขานั้นรู้สึกดีใจไม่น้อยเพราะในที่สุดสิ่งที่เขาตั้งหน้าตั้งตารอกำลังจะเริ่มขึ้น

“ทุกคนไม่ต้องแปลกใจ งานพิเศษอย่างนี้สถานที่ที่จัดก็ต้องพิเศษ ข้า ฉิน เล่ย กำลังมองหา คู่ครองให้กับสาวงามทั้งร้อยคนนี้ จึงเป็นธรรมดาที่ข้าจะต้องทดสอบอย่างเข้มงวด “

“แม้ว่าจะมีพลังจากการบ่มเพาะแต่ถ้าไม่มีความกล้าหาญข้าก็ไม่ต้องการ ความกล้าหาญของมนุษย์เรานั้นจะแสดงออกให้เห็นเมื่อพบเจอกับอันตรายที่หนักหนามาก “

“และหุบเขาพันปีศาจนั้นคือสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะทดสอบความกล้าหาญของทุกคน “

“ซึ่งแน่นอนว่า หุบเขา พันปีศาจนั้นอันตรายมาก และทุกคนอาจจะมีโอกาสเสียชีวิตได้ ดังนั้นข้าจึงให้ทางเลือกแก่ทุกคนที่เข้าไป “

“ถ้าใครรู้ตัวว่าไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เมื่ออยู่ในหุบเขาพันปีศาจ พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะถอนตัว และข้าจะไม่ห้ามพวกเขา “

หลังจากนั้นทุกคนต่างพูดคุยกัน และในเวลา 1 ชั่วโมงผ่านไป ไม่มีใครเลือกที่จะถอนตัวเหตุผลง่ายมาก เมื่อได้รับโอกาสดีดีแบบนี้จะยอมแพ้ง่ายๆได้อย่างไรนอกจากนี้ ถ้าพวกเขารีบถอนตัวออกไปตั้งแต่เนิ่นๆ จะถามให้พวกเขาเสียหน้าและชื่อเสียงมาก และการจะกู้คืนชื่อเสียงได้นั้นมันเป็นเรื่องยากดั้งนั้นเป็นธรรมดา ที่จะไม่มีคนยอมถอนตัว

และในตอนนั้น ‘ฉิน เล่ย’ ก็ได้ยิ้ม เพราะทุกอย่างนั้นอยู่ในแผนของเขา

“ดูเหมือนว่า ข้า ฉิน เล่ย นั้นยังไม่ได้เข้าใจผิด เพราะชายหนุ่มในที่นี้นั้นเป็นอัจฉริยะจาก 9 อาณาจักรอย่างแน่นอนไม่เพียงในแง่ของความแข็งแกร่ง แต่รวมไปถึงความกล้าหาญ “

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะบอกรายละเอียดเกีย่วกับ หุบเขาพันปีศาจให้ทุกๆคนฟัง “

“หุบเขาพันปีศาจนั้น ถูกครอบครองโดยสมุนปีศาจ ภายในนั้นมีสมุนปีศาจ จำนวนไม่ถ้วน พลังของพวกนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก และอย่าได้ประเมินสถานที่นั้นต่ำไป “

“หุบเขาพันปีศาจแบ่งออกเป็น 5 ส่วน แต่ละส่วนนั้นจะถูกคุมโดยราชันย์ปีศาจภูเขาพันมอนสเตอร์จะถูกแบ่งออกเป็นห้าส่วน ห้าพื้นที่จะถูกควบคุมตามลำดับกษัตริย์ทั้งห้ามอนสเตอร์ “

“ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งของทั้ง5ที่เป็นจุดแข็งแต่ยังมี ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้ง 5 ทั้งเป็นจุดแข็งยิ่งกว่า “

“นอกจาก 5 ราชันย์ปีศาจแล้ว สมุนปีศาจทั้งหมดนั้นก็รักกันดีเช่นกัน “

“และเพราะพวกมันไม่ชอบมนุษย์อย่างมาก พวกข้าถึงได้ยกให้ หุบเขาพันปีศาจเป็นดินแดนต้องห้ามและไม่ใช่ใครเข้าไป “

‘ฉิน เล่ย’ พูด

“หุบเขาพันปีศาจนั้นอันตรายอย่างมาก ถ้าพวกเราถูกพบเจอโดยพวกมัน มันจะโจมตีพวกเราทันที แล้วพวกเราสามารถโจมตีมันได้หรือไม่ ถ้าไม่ ก็เหมือนกับการจุดไฟเผาตัวเอง “

‘เจียง หวุ่ชาง’ พูด

“โฮ่ … เจ้าพูดได้ถูกต้อง ถ้าพวกเราถูกเจอตัวโดยพวกมัน พวกมันก็จะจัดการเราทันที ดังนั้นพวกเราจึงต้องตอบโต้พวกมัน “

“เหตุผลที่ข้าทำเช่นนี้เพราะเมื่อไม่นานมานี้ มีสมุนปีศาจได้ลงมาจากเขาและบุกหมู่บ้านของมนุษย์ และมีคนเข้าไปตรวจสอบจึงว่าเป็นฝีมือของพวกมัน “

“ตอนนี้หุบเขาพันปีศาจก็เหมือนกับประกาศสงครามกับมนุษย์เราแล้ว วันนี้ที่เราทำคือตอบโต้พวกมัน ดังนั้นข้าไม่กลัวว่าพวกมันจะทำอะไร สิ่งที่ข้าต้องการคือต้องการสั่งสอนพวกมันให้รู้ถึงพลังของมนุษย์เรา และเพื่อที่จะได้ตรวจสอบพื้นที่ของพวกมันด้วย “

‘ฉิน เล่ย’ พูด

“ตอนนี้ท่านเพียงต้องการให้พวกเราเข้าไปต่อสู้กับพวกปีศาจนั้นอย่างนั้นหรือ แม้แต่ท่านก็ยังไม่มีความมั่นใจ ดังนั้นมันก็เหมือนกับฉุดพวกเราลงน้ำ “

‘เจียง หวู่ชาง’ พูด

“ฮ่าฮ่า!”

‘ฉินเล่ย’หัวเราะ และพูดว่า

“ข้านึกแล้วว่ามีคนคิดเช่นนี้ “

“จริงๆแล้ว ข้าต้องการเพียงให้พวกเจ้าที่มาร่วมงานครั้งนี้ได้รู้จักและสนิทสนมกัน ข้าไม่เคยคิดจะยืมพลังของพวกเจ้าเพื่อไปบุกหุบเขาพันปีศาจเลย “

“นั่นเพราะนครอันทรงเกียรติของข้านั้น มีความสามารถพอที่จะบุกหุบเขาพันปีศาจอยู่แล้ว “

หลังจากพูดจบ ‘ฉิน เล่ย’ก็สะบัดแขนของเขา และต่อมาก็มี คน20 คนลอยลงมาจากท้องฟ้าและมายืนอยู่ข้างหลัง ฉินเล่ยพวกเขานั้นเป็นผู้เชียวชาญทั้งหมดของนครอันทรงเกียรติจำนวน 20 คน รวมกับ อีก4 คนที่แบกเกี้ยวของ ‘จื่อ หลิงมา’ พวกเขาทั้งหมดนั้น มีพลังอยู่ในระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณ

“ไม่น่าเชื่อ กว่า20คน ที่มีพลังระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณ ทำไมนครอันทรงเกียรติถึงแข็งแกร่งเยี่ยงนี้ “

ทุกคนตกใจอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่’ชูเฟิง’ เพราะใน 20 คนนั้นมีบางคนได้ก้าวไปถึงระดับ2 และระดับ 3 !!

ระดับอาณาจักรสวรรค์วิญญาณสวรรค์ดินแดนแตกต่างจากระดับอื่นๆ เพราะแต่ละระดับนั้นมีช่องว่างใหญ่หลวงมากและนั่นเป็นเหตุให้บางคนนั้น ติดอยู่ในระดับ 1 ทั้งชีวิตแต่ในนครอันทรงเกียรตินี้ มีคนที่ก้าวเข้าไปถึงระดับ 2 และ ระดับ3ได้ แล้วระดับของเจ้านครอันทรงเกียรติล่ะ จำอยู่ที่ระดับเท่าไหร่

แปลโดยคุณ#

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments