I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 385 – คาดไม่ถึงว่าจะมี ยอดยุทธภัณฑ์

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

“เมื่อพวกเจ้าได้แผนที่นี้จากเจ้าคางคกนั่น พวกเจ้าเคยคิดว่ามันจะเป็นหลุมฝังศพพวกเจ้าหรือไม่”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ เจ้ามนุษย์ไร้ยางอาย! เจ้าคิดหรือว่าเจ้าคางคกดำนั่นจะขายพวกเรา พวกเจ้าไม่สงสัยหรือว่าทำไมเจ้าคางคกนั่นถึงยอมบอกทุกอย่าง แสดงว่าพวกเจ้าต้องการส่งตัวเองไปสู่ความตายอย่างนั้นสินะ “

“อ่าสิ่งที่จุดนี้เพื่อบอกพวกเขาหรือไม่ นี่คือกลุ่มของพวกโง่ที่เชื่อว่าตัวเองฉลาด พวกเขาสามารถได้อาจจะเข้าใจความรู้สึกระหว่างเราห้าพี่น้อง. “

“แม้ว่า ลูกชายของเจ้าคางคกนั่นจะสำคัญมากสำหรับมัน แต่พี่น้อง อสูรมหึมานับล้านของพวกเราสำคัญกว่าสำหรับมัน “

ในเวลานั้นเสียงหัวเราะที่แสบแก้วหูก็ดังเข้ามาจากใกล้ๆ และปรากฏเป็นร่าง ของอสูรมหึมา 4 ตัวทั้ง 4 นั้นใส่ชุดเกราะทั้งหมดทุกตัว ตัวหนึ่งเป็นหัวแหม่งป่อง ตัวหนึ่งเป็นตะขาบ ตัวหนึ่งเป็นแมงมุม และอีกตัวหนึ่งเป็นอสรพิษ แน่นอนพวกมันคือ ราชันย์อสูรมหึมา

 “บัดซบ เจ้าสัตว์ประหลาดถ้าพวกเจ้าแน่จริง ก็ปล่อยให้พวกข้าออกไป แล้วมาสู้กันตัวต่อตัว “

ผู้นำ สำนัก หยุนกัง พูด

“เจ้าพวกน่ารังเกียจ เจ้าใช้วิธีลวงพวกข้า ถ้าพวกเจ้าสู่หนึ่งต่อหนึ่งกับข้าพวกเจ้าก็ไม่สามารถเอาชนะข้าได้ “

ผู้นำนิกายไป๋ พูด 4 ราชันย์อสูรมหึมา ไม่ได้สนใจพวกเขา พวกมันหัวเราะและพูดว่า

” ในเรื่องความน่ารังเกียจนั้น ข้าสู้พวกเจ้าไม่ได้หรอก ถ้าเจ้าจะโทษ ก็ โทษความโลภของตนเองเถอะ “

“เจ้าไม่ต้องพูดอะไรไร้สาระหรอก ทางที่ดีที่สุดรีบฆ่าพวกมันซะ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ตามมา “

ราชันย์แมงป่องกระตุ้น

“ไม่!!! ข้าอยากจะทรมารพวกมันก่อนแล้วค่อยบดขยี้พวกมันให้เป็นเศษเนื้อ “

ราชันย์ตะขาบ พูด

“พี่ใหญ่ พี่รองพูดถูกแล้ว รูปแบบนี้ถูกวางไว้โดยเจ้านายของเรา ด้วยพลังของยอดยุทธภัณฑ์ ทำให้รูปแบบนี้แข็งแกร่งมาก”

“ไม่พูดถึงพวกเขา แม้เป็นเจ้านายของเราก็ยากที่จะหลบหนีเช่นกัน นั่นคือสิ่งที่เจ้านายพูดไว้ “

ราชันย์แมงมุม พูด

“ใช่ พวกมนุษย์ชั่วร้ายนี้ ไม่ควรตายดี ควรจะทรมานมันจนตายถึงจะดีที่สุด “

ราชันย์อสรพิษ พูด

“ยอดยุทธภัณฑ์ อย่าบอกนะว่า นี่คือพลังของยอดยุทธภัณฑ์น่ะ “

หลังจากที่ได้ยิน ‘ชูเฟิง’ ตื่นเต้นมากเขารีบปล่อยอำนาจวิญญาณของเขา และมันได้ทะลุผ่านประตู และครอบคลุมหินทรงกลมนั่นและปล่อยแสงประหลาดออกมา

“จื่อ หลิงด้านบนนั่นมียอดยุทธภัณฑ์อยู่ สวรรค์ดูเหมือนว่าเราจะโชคดีจริงๆ. “

‘ชูเฟิง’มีความสุขมาก

“แสดงว่ายอดยุทธภัณฑ์เป็นแหล่งกำเนิดพลังประหลาดนี่ ถ้ามันถูกดึงออกมันจะหายไป “

อำนาจวิญญาณของ’จื่อ หลิง’ แข็งแกร่งกว่า’ชูเฟิง’ ไม่เพียงแต่พบว่ามี ยอดยุทธภัณฑ์อยู่บน แท่นหินทรงกลม และยังพบว่า ยอดยุทธนั้นยังเป็นจุดศูนย์กลางของพลัง

“จริงหรือ นั่นหมายความว่าตราบใดที่ยอดยุทธภัณฑ์นั่นถูกเอาออกมันก็สามารถช่วยพวกเขาได้อย่างนั้นสินะ “

‘ชูเฟิง’พูด

“อะไรนะ เจ้าต้องการช่วยพวกเขาหรือ “

‘จื่อ หลิง’ ตกใจเล็กน้อย

“ข้าเป็นหนี้บุญคุณของคนที่มาจาก นิกายโลกวิญญาณดังนั้นข้าจึงไม่สามารถปล่อยให้เขาตายที่นี่ได้ นอกจากนั้น ถ้ารองหัวหน้านิกายโลกวิญญาณ ตายไป ก็จะมีผลกระทบต่อนิกายโลกวิญญาณมาก ข้าไม่สามารถนิ่งดูพวกเขาตายโดยไม่สามารถทำอะไรได้ “

‘ชูเฟิง’ พูดเขาไม่ได้สนใจชีวิตคนอื่น เขาสนใจแต่ชีวิตของผู้มีพระคุณของเขา เพราะคนจากนิกายโลกวิญญาณนั้น ช่วยเหลือเขามาแล้วหลายต่อหลายครั้งจากปัญหาที่ หอคอยอสูรฟ้า ถ้า’ชูเฟิง’ไม่ถูกนิกายโลกวิญญาณคุ้มครองไว้ เขาอาจจะถูกฆ่าโดยคนตระกูล เจี่ย ก็เป็นได้ เขาจึงตั้งใจที่จะช่วยพวกเขา

“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอันตรายแค่ไหน ถ้าเราต้องเผชิญกับ 4 ราชันย์ที่มีพลังระดับ 5 อาณาจักรสวรรค์วิญญาณ “

“เจ้าเคยเผชิญกับ คางคกดำมาก่อน เจ้าก็รู้มันแข็งแกร่งแค่ไหน เจ้ารู้หรือไม่ว่าคางคกดำนั้นอ่อนแอที่สุดในบรรดาราชันย์ทั้ง 5 “

“นั่นก็หมายความว่าถ้าเจ้าต้องการช่วยพวกเขาเจ้าต้องเจอกับอสูรมหึมาที่แข็งแกร่งกว่าเจ้าคางคกถึง 4 ตัว “

‘จื่อ หลิง’ พูดอย่างจริงจัง

“จื่อ หลิง พ่อบุญธรรมเจ้าอยู่ในนั้นนะ เจ้าจะดูเขาตายโดยไม่ช่วยเขาเลยหรือ นี่ใจเจ้าทำด้วยอะไร “

‘ชูเฟิง’ พูด

“เขาเป็นพ่อบุญธรรมของข้าเพียงเพราะเขาต้องการที่จะผูกมัดคุณปู่ของข้าให้ทำงานให้นครอันทรงเกียรติ ข้าไม่เคยคิดว่าเขาคือครอบครัว “

‘จื่อ หลิง’พูดพร้อมขด ริมฝีปากเล็กน้อย

“ชูเฟิง ถ้าเรารอให้พวกเขาตายทั้งหมดและหลังจาก 4 ราชันย์อสูรมหึมา ออกไป เราก็จะได้รับ ยอดยุทธภัณฑ์ โดยไม่เสียแรงเลย เจ้ามีเหตุจำเป็นที่ต้องยอมรับความเสี่ยงนี้หรือ”

“เจ้าสามารถรับประกันได้หรือไม่ว่าถ้าพวกเขาตายไปแล้ว พวกมันจะไม่เอายอดยุทธภัณฑ์ออกไปจากที่นี่”

“ถ้าข้าเป็นพวกมัน ข้าจะไม่ปล่อยสมบัติเช่นนี้ไว้ ข้าจะนำมันออกไปพร้อมตัวเองด้วย “

“นอกจากนี้ความสามารถของสมบัติชิ้นนี้นั้นดีมากไม่มีความจำเป็นที่เขาจะทิ้งไว้ที่นี่ “

‘ชูเฟิง’ พูดในตอนนั้นตาของ’จื่อ หลิง’ ประกายเล็กน้อย และก็ค่อยๆก้มหัวและลมไปกับความเงียบ

” … .. “

เห็นสภาพของ ‘จื่อ หลิง’ ‘ชูเฟิง’ก็ตกใจและคิดว่าเขาพูดแรงเกินไป เขาจึงจะพูดปลอบเธอ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด ‘จื่อ หลิง’ก็ เงยหน้าขึ้นมาแล้ว พูดกับเขาว่า

“โอเค งั้นข้าจะออกไปล่อความสนใจให้เมื่อได้เจ้ารีบไปเอายอดยุทธภัณฑ์ซะ แต่ถ้าเจ้าไม่สามารถเอามันมาได้ให้หันกลับและทิ้งข้าไปซะ “

“นั่นไม่ได้หรอก ความเร็วของข้ามากกว่าเจ้า ข้าจะไม่หนีไปหลังจากที่เอามันมาได้ ต่อให้ข้าเอามันมาไม่ได้ข้าก็จะไม่หนี “

“ใครบอกว่าเจ้าเร็วกว่าข้า”

ในตอนนั้น ‘จื่อ หลิง’ก็สะบัดชุดคลุมสีม่วงของเธอ และในตอนนั้น ควันสีม่วงก็กระจายออกมาจากเธอควันสีม่วงนั้น แข็งแกร่งและน่าเกรงขามมาก หลังจากที่มันกระจายออกมานั้นทำให้’ชูเฟิง’ถอยออกไปและเกือบล้มลงสู่พื้นดิน

“เจ้า … เจ้าใช้พลังนั่นหรือ เจ้าอยากให้พวกเขารุ้ว่าเจ้ามีกายศํกดิ์สิทธิ์หรือยังไง “

เมื่อเห็นภาพนั้นใบหน้าของ’ชูเฟิง’ก็กังวลมาก ในตอนนี้ ‘จื่อ หลิง’นั้นแข็งแกร่งมาก และยังแข็งแกร่งกว่าผู้เชี่ยวชาญระดับ 2 อาณาจักรสวรรค์วิญญาณ แต่พลังของเธอก็ยังห่างกับ 4 ราชันย์อสูรมหึมาอยู่ดี

สิ่งที่’ชูเฟิง’กังวลมากที่สุดคือ ถ้า เรื่องที่ ‘จื่อ หลิง’มีกายศักดิ์สิทธิ์ นั้นถึงหูราชวงศ์เจียง จะทำให้พวกมันไล่ล่าเธอ

แปลโดยคุณ#

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments