I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 386 – ขวานอสูรฟ้า

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

” เรื่องที่ข้ามีกายศักดิ์สัทธิ์ข้าสามารถปกปิดจากทุกคน ด้วยอำนาจพลังของข้าได้ “

‘จื่อหลิง’ค่อยๆยิ้ม จากนั้นควันสีม่วงก็ลอยออกมาจากเท้าที่อยู่บนพื้นของนางเบาๆ ด้วยแรงกระแทกนางก็สามารถฝ่ารูปแบบอำนาจฯที่โปร่งใสด้วยความรวดเร็วของนาง ความเร็วนั้นน่ากลัวไม่ต่างจากตอนที่’ชูเฟิง’ใช้มังกรทะยานผ่านเก้าสวรรค์เลยแม้แต่น้อย

” ท่านพ่อบุญธรรม ข้ามาช่วยท่านแล้ว “

จากนั้น’จื่อหลิง’ก็รีบเขาไปยังพระราชวัง นางตะโกนเสียงดังราวกับเสียงฟ้าคำราม เสียงนั้นดังสะท้านไปทั่วทั้งวัง

” นี่มันน . . . ผู้หญิงคนนี้โผล่มาได้ยังไง ? “

เห็นแบบนั้นสี่ราชันย์ปีศาจก็ตกใจอย่างมาก เพราะพวกเขาพบว่า ‘จื่อหลิง’โดดออกมาจากผนังที่แข็งแกร่ง พวกเขาเข้าใจได้อย่างดีว่านั้นเป็นสิ่งที่พวกสัตว์มหึมาไม่อาจทำลายได้ แล้วเหตุใดถึงมีมนุษย์ผ่านมาจากผนังนั้นได้ ?

” จื่อหลิง อย่าเข้ามา!!! เจ้าพวกนี้มันไม่ธรรมดา รีบหนีไป!!! “

เมื่อเห็น’จื่อหลิง’ ‘ฉิน เล่ย’สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบตะโกนเสียงดัง อาจเห็นได้ว่าเขายังคงเป็นห่วง’จื่อหลิง’อยู่ไม่น้อย

” พ่อบุญธรรม อย่าได้วิตก ข้ายังมีสมบัติที่ปู่ให้ข้าติดตัวมา มันสามารถทำลายการก่อตัวทุกรูปแบบในโลกนี้ และสามารถสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้อย่างง่ายดายแม้กระทั้งพวกสัตว์มหึมา ต่อหน้าของสมบัติชิ้นนี้ ไม่มีอะไรต้านทานมันได้ “

‘จื่อหลิง’ ยิ่มออกมาพร้อมกับควักเอาสมบัติจากถุงจักรวาล ยื่นไปยังทุกทิศทางสมบัติของ’จื่อหลิง’ที่นางหยิบออกมาอยู่ภายในมือและทุกคนสามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน แสงสีเขียวเข้มสว่าง จนแทบจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างในริศมี 100 เมตร

‘จื่อหลิง’ยกมันสูงขึ้น สูงขึ้น อย่างมั่นอกมั่นใจ จนไม่แม้แต่จะเหลียวมองมันเลยด้วยซ้ำ นางพุ่งเข้าไปหา’ฉิน เล่ย’ และคนอื่นๆ ด้วยท่าทางเหมือนกับว่า สิ่งที่อยู่ภายในมือนางมันสามารถช่วย ‘ฉิน เล่ย’และคนอื่นๆได้จริงๆ

” บัดซบ!!! รีบไปจับผู้หญิงคนนั้นเร็ว!!! “

เห็นแบบนั้น สี่ราชันย์ปีศาจ ดวงตากลายเป็นสีแดงฉาน ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็พุ่งเข้าใส่แม่นาง’จื่อ หลิง’ พร้อมๆกัน พวกเขาปล่อยออร่าที่ทรงอนุภาพของพวกเขาห้อมล้อม’จื่อ หลิง’ เพื่อต้องการที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของนางแต่มันก็ไร้ประโยชน์

ถึงแม้ว่าแรงดันของพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่มีทางจับ’จื่อ หลิง’ที่กำลังใช้พลังจากกายศักดิ์สิทธิ์ได้ ด้วยแรงดันพื้นๆเพียงแค่นั้น จึงไม่อาจหยุดยั้งนางเอาไว้ได้

” ไอ้เจ้าปีศาจทั้ง 4 หากพวกเจ้ากล้าเขามาใกล้ครั้งอีกครั้ง ข้าจะใช้สมบัตินี้ฆ่าพวกเจ้าทุกตัว “

‘จื่อหลิง’ หันไปตวาดพร้อมกับพุ่งไปยังอีกฝากของพระราชวัง

” ยัยตัวแสบ ข้าจะกินเจ้าทั้งเป็น “

สี่ราชันย์ปีศาจถูกขู่โดยชื่อหลิง ดังนั้นพวกมันจึงกระหนาบ รอบ ‘จื่อหลิง’ ทั้ง 4 ด้าน

” แม่นางจื่อหลิง เล่ห์เหลี่ยมไม่เบา ต่อไปก็ถึงทีข้าบ้างแล้ว “

เห็น’จื่อหลิง’ทำให้สี่ราชันย์ปีศาจหน้าเสีย ‘ชูเฟิง’แสนจะยินดี จากนั้นเขามังกรน้อยที่ปรากฏอยู่ใต้เท้าบินไปด้วยความเร็วแสง พุ่งทะยานเข้าไปบนแท่นศิลา

” บ้าเอ้ย!! ยังมีอีกคนงั้นหรอ!!! “

ขณะที่ ‘ชูเฟิง’พุ่งเข้ามาในวัง สี่ราชันย์ปีศาจก็สัมผัสถึง’ชูเฟิง’ได้ จากนั้นพวกเขาสองตัวก็เคลื่อนย้ายไปที่ ‘ชูเฟิง’

” ปีศาจเฒ่าทั้ง 4 วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้ตาย!!! “

เห็นเช่นนั้น’จื่อหลิง’คิดอย่างชาญฉลาด จากนั้นนางก็โยนสมบัติในมือของนางออกไปกลางวงราชันย์ปีศาจทั้ง4 จากนั้นแสงที่เจิดจ้าก็แผ่ขยายออกไปรอบๆอย่างรวดเร็ว

” อันตราย!!! “

เมื่อ’จื่อหลิง’ตะโกนแบบนั้น มันก็ทำให้ภายในใจของราชันย์ปีศาจทั้งสี่เกิดหวาดกลัว พวกเขา 4 ตนไม่รอช้า รีบพุ่งเข้าโจมตีวัตถุที่ส่องแสงประกายไปทั่วอย่างชุลมุนอย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาโจมตีถึงเป้าหมาย วัตถุนั้นกับไม่ให้ความรู้สึกกดดันหรือทำให้พวกเขาแหลกเป็นผุยผง มันแค่แผ่แสงสีเขียวไปรอบๆอากาศขณะที่ค่อยๆดับลง

” นี่มันไม่ใช่สมบัติหนิ “

ตอนนั้น สี่ราชันย์ปีศาจฉุกคิดขึ้นมาได้ เพราะภายในวัตถุสีเขียวนั้นไม่ทำให้พวกเขารู้สึกถึงภัยคุกคามเลยแม้แต่น้อย แล้วมันจะเป็นสมบัติที่สามารถปลิดสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้ยังไง มันก็แค่ขยะดีๆชิ้้นหนึงเท่านั้น

“ฮ่าๆๆ เจ้าโง่ทั้งสี่ พวกเจ้ากลัวแค่มุกราตรีธรรมดางั้นหรอ!!!  “

เห็นใบหน้าตกใจของพวกนั้น ใบหน้าของ’จื่อหลิง’ก็เบิกบานจนนางอดหัวเราะออกมาไม่ได้ขณะนั้นนางสะใจอย่างมากจนนางแทบยืนไม่อยู่

” ยัยเด็กบ้า!!! ข้าจะทรมานเจ้าไปจนกว่าเจ้าจะตาย!!! “

หลังจากที่รู้ว่าพวกเขาโดนหลอก สองราชันย์ปีศาจก็โดดขึ้นบนยอดผนังสูง ขณะนั้นพวกมันกระโจนใส่’จื่อหลิง’อีกครั้ง

” ชูเฟิง ที่เหลือขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว!!! “

‘จื่อหลิง’ตวาดเสียงออกไปยังทิศทางของแท่นศิลาจากนั้นร่างกายของนางก็กลายเป็นเส้นแสงและพุ่งออกไป ขณะนั้นนางยังคงยั่วยุพวกมันโดยตะโกนไปว่า

” มาสิ   ตามข้ามา หากเจ้าจับข้าได้ เจ้าจะได้รางวัล!!! “

ในเวลาเดียวกัน ‘ชูเฟิง’ก็มาถึงบนแท่นศิลาสูง และปัจจุบันภายในใจเขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะเขาพบว่าสัญลักษณ์พิเศษปรากฏเต็มบนแท่นศิลา ซึ่งสัญลักษณ์รูปแบบการก่อตัวของมันงดงามอย่างมากอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดึงดูดสายตาของ’ชูเฟิง’มากที่สุดก็คือ การก่อตัวของสัญลักษณ์ที่สดใส

ขณะกำลังล่องลอยอยู่รอบๆตัวของวัตถุอยู่วางอยู่ใจกลางของการสร้างรูปแบบฯในสถานที่แห่งนั้น มีด้ามขวานขนาดใหญ่ปักอยู่ภายในนั้น ขวานนั้นยาวสองเมตรและมีสีดำสนิท อย่างไรก็ตามหากมองดีๆแล้วจะพบว่าบนตัวขวานที่เป็นสีดำนั้น มันคือสีแดงโลหิตที่จับตัวหนาแน่น

มันไม่ใช่สีดำแต่เป็นการรวมตัวของโลหิตที่ไร้ขีดจำกัดรูปร่างของขวานนั้นแปลกประหลาด ส่วนด้านหน้าเป็นขวานยักษ์ทั่วๆไปแต่ดูคมกริบ มันสามารถตัดผ่านวัตถุใดๆก็ได้ ต่อให้เป็นช้างขนาดใหญ่ ขวานนี้ก็สามารถตัดหัวของมันได้ภายในฉับเดียวอีกข้างของมันมีรูปทรงเหมือนพระจันทร์เสี้ยว

มันดูเหมือนง้าวทรงพระจันทร์ที่เป็นขวาน แต่ก็คล้ายกับตะขอที่สามารถเกี่ยวอวัยวะภายในของสิ่งมีชีวิตขวานยักษ์นี้เป็นอาวุธสำหรับสังหารโดยแท้ และขณะนั้น ‘ชูเฟิง’ ยังเฝ้าวิเคราะห์มันจนเขาพบว่าในช่วงกลางของขวานยักษ์ มีอักษรสามคำใหญ่ๆเขียนไว้บนนั้น

” ขวาน อสูรฟ้า “

” ขวานอสูรฟ้า เจ้าต้องมาเป็นของข้า!!! “

‘ชูเฟิง’มาถึงหน้าขวานยักษ์พร้อมกับขยายมือของเขาไปคว้ามัน เขาจับไปที่ด้ามของขวานอสูรฟ้า แต่ขณะที่เขาออกแรงดึงขวานอสูรฟ้า สีหน้าของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ รู้สึกว่าเขาไม่สามารถดึงเจ้าขวานอสูรฟ้านั้นออกมาได้ จนดูเหมือนกับว่าขวานยักษ์นี้เป็นหนึ่งเดียวกับแท่นศิลาโดยไม่มีทางขยับมัน

” ฮ่าฮ่าฮ่า โง่บรมเลย!!! เจ้าคิดว่าเจ้าจะดึงขวานอสูรฟ้าออกอย่างงั้นหรอ “

ในตอนนั้น ก็มีเสียงหัวเราะระเบิดดังขึ้นมาด้านหลังของ’ชูเฟิง’ และเมื่อเขาหันหน้าไปมองก็พบว่า ราชันย์อสรพิษกำลังยืนอยู่ด้านหลัง โดยที่มันค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆ’ชูเฟิง’ และในตอนนั้นมันก็ใช้แรงดันของมันปิดผนึกทางหนีของ’ชูเฟิง’เอาไว้

* ฟิ้วววว *

ในเวลาเดียวกัน ราชันย์แมงป่องก็รีบตรงมายังแท่นศิลา เพื่อปิดทางหนีของ ‘ชูเฟิง’ ขณะที่ปรากฏขึ้นมาด้านหน้า เขาค่อยๆเดินมาที่ ‘ชูเฟิง’ พร้อมกับกล่าว

” นี่คือขวานอสูรฟ้าที่ติดอยู่กับแท่นศิลานี้เป็นเวลาหลายร้อยปี แม้แต่ประมุขของข้าและราชันย์ปีศาจตนอื่นๆในปีนั้นก็ยังไม่มีใครสามารถดึงมันออกมาได้ เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถดึงมันออก และได้ครอบครองมันงั้นหรอ “

” ช่างน่าขันสิ้นดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า . . . . . . . “

: เราว่ายังไงก็ออก!!!

: มันมีเคล็ดอยู่ เราเชื่อว่าใครๆก็รู้ ก็ดูชื่อของมันดิ ???

: ขวานอสูรฟ้า แล้วจะมีใครอีกล่ะที่จุะดึงมันออกมาได้

: ใช่ๆ ใครไม่รู้ นี่ต้องพิจารณาตัวเองได้แล้วนะ

: แต่จะว่าก็ว่าเหอะ อาวุธพระเอกให้เป็นขวานดีแล้วหรอ ส่วนใหญ่อาวุธของพระเอกนิยายแนวๆนี้้จะต้องเป็นอาวุธแปลกๆ ที่เทพๆแบบโกงโครตพ่อโครตแม่ไม่ใช่หรอ

: ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ขวาน แต่เป็นความลับของมันต่างหาก ส่วนหลักๆนั้นมันก็ช่วยเพิ่มอำนาจพลังวิญญาณให้แก่ผู้ใช้

: ก็เห็นๆอยู่ว่ายอดยุทธภัณฑ์ส่วนใหญ่เปนแบบนั้น ของไอ้เจี่ยกระหนามก็เปนออร่าสีแดง ส่วนพี่ สู่ จงหยู เกราะแน่นแน่นนะหน่อยนะน้องนะ เป็นออร่าสีทอง ส่วนขวานนี้จะพิเศษหน่อย จะดำก็ไม่ดำจะออกโทนสีเลือดหมูแบบเข้มๆ แต่ยังไม่หมดแค่นั้นของพี่เขายังเป็นยอดยุทธภัณฑ์พิเศษใส่ไข่ดาว แต่จะเป็นอะไรนั้นต้องไปรอดูกัน. . . . . . .

: ถ้าแปลงร่างเป็น หญิงได้ล่ะแจ่มเลย!!!

: ขวานนะเว้ย!!! แต่ท่าแปลงได้นายจะเอา มิยาบิหรืออาโออิ ???

: ใครก็ได้ชั่วโมงนี้!!!

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments