I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 485 – ปัญหาของสำนักไร้ตัวตน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

ในปัจจุบัน สำนักมังกรฟ้า ภายใต้นามของ’ชูเฟิง’ นั้นได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

แม้สำนักมังกรฟ้านั้นยังสร้างไม่เสร็จ แต่อัจฉริยะรุ่นเยาว์จากทั่วทั้ง 9 อาณาจักรนั้น เริ่มมาที่หุบเขามังกรฟ้าและต้องเขาที่จะเข้าร่วมสำนักมังกรฟ้าแล้ว

และในตอนนั้น สำนักมังกรฟ้าได้แต่ทดสอบล่วงหน้าเท่านั้น แม้สำนักยังสร้างไม่เสร็จแต่เขาก็เริ่มที่จะรับศิษย์แล้ว เพราะว่านี่เป็นสำนักของมนุษย์ ดังนั้นเขาจึงไม่ยากพึ่งสัตว์มหึมา จากหุบเขาพันอสูร จึงต้องรับศิษย์เข้ามา

นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการเข้าเป็นศิษย์สำนักมังกรฟ้านั้นมีคนที่มีพรสวรรค์ที่ดีเลิศอยู่มากมาย พวกเขานั้นโดดเด่นกว่าศิษย์ของสำนักมังกรฟ้าก่อนหน้านี้นัก และมีชายหนุ่มจำนวนมากที่อยู่ในระดับ แก่นแท้วิญญาณ ด้วยความแข็งแกร่งนั่นทำให้ ‘หลี่ ชางฉิง’ ต้องรีบเคลื่อนไหว และไม่สามารถเมินได้

สำนักมังกรฟ้านั้น ต้องกรรับศิษย์จำนวนมาก เพราะ ศิษย์และผู้อาวุโสที่ออกไป ช่วงที่ คฤหาสน์องค์ชายกิเลนประกาศลบสำนักมังกรฟ้า และ’ชูเฟิง’ นั้นเป็นจำนวนมาก และพวกเขาก็แบกหน้ากลับมาและขอเข้าร่วมสำนักมังกรฟ้าอีกครั้ง

แต่พวกเขาก็ได้ปฏิเสธอย่างเลือดเย็น เพราะสำนักมังกรฟ้านั้นไม่รับคนที่เห็นแก่ตัวที่หนีไปตอนที่สำนักกำลังลำบาก

นอกเหนือจากศิษย์และผู้อาวุโสที่อยู่และตายเพื่อสำนักมังกรฟ้า ที่ได้เข้าไปสุสานพันกระดูก นั้นไม่มีผุ้อาวุโสและศิษย์จากสำนักมังกรฟ้าคนไหนจะถูกเลือกเข้ามาอีกครั้ง และ เริ่มที่จะเลือกผู้ที่โดดเด่นเป็นอย่างแรก

สำหรับการพัฒนาสำนักนั้น ‘ชูเฟิง’ได้มอบ ลูกแก้วแก่นแท้จำนวน 10 ล้านให้กับสำนัก และด้วยจำนวนนั้น ทำให้ ‘หลี่ ชางฉิง’ ราวกับฝันไป

ในตอนแรก เขาไม่ต้องการรับมันไว้ แต่สุดท้าย’ชูเฟิง’ยัดเยียดให้เขาจนได้ รับของโจร!!!!

หลังจากรับลูกแก้วแก่นแท้จำนวน 10 ล้านเม็ดมา ‘หลี่ ชางฉิง’ต้องการมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้กับ’ชูเฟิง’ เขารู้ว่ามีคนจำนวนมากต้องการเข้าสำนักนั้นไม่ใช่เพราะเขา ‘หลี่ ชางฉิง’ แต่มันเป็นเพราะ’ชูเฟิง’ เขาจึงคิดว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นเจ้าสำนักมังกรฟ้า และคนที่มีคุณสมบัตินั้นควรจะเป็นคนที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับเหล่าศิษย์ได้

แต่’ชูเฟิง’ ก็ได้พูดว่า ตอนนี้ผู้ก่อตั้งอยู่ที่นี่แล้ว ในอนาคตเมื่อเขาฟืนขึ้นมา ในเวลานั้น ควรจะเป็นเขาที่ได้รับตำแห่นงนี้ไป เขาต้องการเป็นแค่ศิษย์ธรรมดา ดังนั้นจึงให้ ‘หลี่ ชางฉิง’เป็นประมุขไปจึงดีที่สุด

ในด้าน ‘หลี่ ชางฉิง’ ไม่รู้สึกเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ในใจเขาตอนนี้รู้สึกขอบคุณ’ชูเฟิง’ มาก เพราะเขานั้นไม่ได้เลือกพลาดที่อยู่ข้างเด็กหนุ่มคนนี้ คนที่ถูกเกลียดด้วยคนมากมายในตอนแรก แล้วก็เป็นคนที่พลิกชะตาของสำนักมังกรฟ้า

และทำให้สำนักมังกรฟ้ากลายเป็นสำนักอันดับ 1 และเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง

แต่ในขณะที่ สำนักอื่นๆที่มีชื่อเสียงเมื่อพันปีในอาณาจักรมังกรฟ้า ยังคงเป็นเหมือนเคย ยกตัวอย่างเช่น สำนักไร้ตัวตน ในหุบเขาไร้ตัวตน

“เฮ้อ~~~”

ในห้องโถงของสำนักนั้นมีเสียงถอนหายใจดังออกมา

เจ้าของเสียงคือ ประมุขสำนักไร้ตัวตน ที่อยู่ในห้องโถง เขากวาดสายตามอง ผู้อาวุโสคนอื่นๆในห้องนั้นและ พูดว่า

“ สำนักมังกรฟ้านั้นได้โด่งดังขึ้นอีกครั้งแล้ว แต่ สำนักไร้ตัวตนของข้า ยังไม่เป็นที่รู้จักเช่นเคย หนำซ้ำตอนนี้เราอาจจะถูกบีบให้ออกจากหุบเขาไร้ตัวตนด้วยซ้ำไป เพราะ สำนักดอกบัวนั่น ที่สร้างขึ้นมาไม่กี่ 10 ปีก่อน ข้าคงไม่มีหน้าไปพบผู้ก่อตั้งแล้วล่ะ”

“ท่านประมุข ท่านไม่ทราบหรือ ว่าชูเฟิงนั้น คือ ชายยชุดเทา ที่ข้าอยากบอกก็คือสำนักของเรามีความสัมพันธ์บางอย่างกับชายชุดเทานั่น หากชูเฟิงเป็นชายชุดเทาจริงๆ เราควรจะขอความช่วยเหลือจากสำนักมังกรฟ้า.”

“ถ้าสำนักมังกรฟ้าให้ความช่วยเหลือ มีหรือสำนักดอกบัวจะบีบให้เราออกจากหุบเขาไร้ตัวตนนี้ได้”

ผู้อาวุโสพูดขึ้น

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แม้ว่าชูเฟิงจะเป็นชายชุดเทาจริงๆ แต่เขาเคยตอบแทนให้เราแล้ว มันจะมีเรื่องอะไรที่เราจะไปขอให้เขาช่วยเหลือได้”

ประมุขสำนักยิ่มและส่ายหัว เขาคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ถ้าจะลองเสี่ยงโชคขอความช่วยเหลือจาก’ชูเฟิง’ดู

เมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อสำนักมังกรฟ้าอยู่ในอันตราย สำนักของเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย และในตอนนี้เขานั้นเฟื่องฟูอีกครั้ง เขาก็คิดว่ามันไม่ถูฏนักถ้าจะไปขอความช่วยเหลือ มันดูไร้ยางอายเกินไป

“ท่านประมุข แต่ตอนนี้สำนักไร้ตัวตนของเรากำลังเผชิญหน้ากับการล่มสลาย ถ้าสำนักดอกบัวปล่อยให้เราอยู่ที่หุบเขาไร้ตัวตนต่อไปมันก็ดี”

“แต่ถ้า พวกเขาไม่ยอม มันก็ยากมากที่เราจะต่อต้านได้ ข้าเกรงกว่าสำนักของพวกเรานั้นจะถูกลดไปอยู่ระดับ 3 และนั่นก็อาจจะทำให้สำนักของเราถูกถอนรากถอนโคนเลย.”

ผู้อาวุโสพูดขึ้น

“นี่มันช่วยไม่ได้จริงๆ ใครบอกให้พวกเราไปเปิดศึกชิงพื้นที่กับสำนักดอกบัวล่ะ ถ้าพวกเราไม่โลภขนาดนั้น พวกเราอาจจะไม่ต้องเสียที่ของเราไป.”

ประมุขของสำนักนั่งหน้าเศร้า

เมื่อย้อนกลับไป ในเขตของสำนักไร้ตัวตน ได้ค้นพบแร่โลหิต ซึ่งแร่โรหิตนี้มีราคาสูงมาก และถ้าพวกเขาขุดมันขึ้นมาพวกเขาก็จะนำไปแลกกับทรัพยากรบ่มเพาะได้มาก และมันจะทำให้สำนักของเขาแข็งแกร่งขึน

แต่เพื่อนบ้านของเขา สำนักดอกบัว ก็ขุดพบเหมือนกัน ทั้ง2 จึงเกิดการแย่งชิงกัน และทำให้เกิดการรบระหว่างสำนักระดับ 2 เกิดขึ้น

สำนักดอกบัวนั้นถูกสร้างขึ้นมาหลาย10ปีแล้ว และเนื่องด้วยเหตุผลบางอย่างผู้ก่อตั้งสำนักก็ได้หายตัวไปกว่า10ปีแล้ว และหากเขาไม่หายไป เขาอาจจะแก่ตายตามอายุก็เป็นได้

ความแข็งแกร่งของสำนักดอกบัวนั้นความแข็งแกร่งของประมุขของเขายังห่างกับประมุขสำนักไร้ตัวตนอยู่นัก และเช่นเดียวกับผู้อาวุโสเขา ดังนั้นจึงบอกได้ว่า พวกเขานั้นอาจด้อยที่สุดในสำนักระดับ 2

ดังนั้นจึงเกิดศึกแตกหากขึ้น สำนักไร้ตัวตนเปิดศึกกับสำนักดอกบัว และในตอนที่สำนักไร้ตัวตนได้รุกเข้าไปในสำนักดอกบัวนั้น ผู้ก่อตั้งสำนักดอกบัวก็ปรากฏตัวขึ้นมา

เขาไม่ควรมีมีชีวิตอยุ่แล้วเนื่องจากอายุของเขาได้ผ่านไปกว่า 100 ปีแล้ว และ การบ่มเพาะของเขายังอยู่ในระดับ 8 แก่นแท้วิญญาณ มันดูเหมือนว่าเขาจะได้รับสมบัติบางอย่างจากผู้เชี่ยวชาญเมื่อหลาย 10 ปีที่ผ่านมา และได้กินยาพิเศษบางอย่างที่ทำให้เขามีอายุยืนยาว จึงทำให้ที่ผ่านมาเขาเก็บตัวและนั่งบ่มเพาะอยู่เงียบๆ

และหลังจาก เขาปรากฏตัว ก็ได้ทำสิ่งที่ทำให้สำนักไร้ตัวตนต้องลำบากใจ เขาไม่มีเพียงแต่ไม่โจมตีสำนักไร้ตัวตน แต่ยังปล่อยให้เขากลับไป

และด้วยน้ำใจของชายชราผู้นั้น ทำให้ประมุขสำนักไร้ตัวตนรู้สึกอับอาย และในขณะเดียวกันเขาก็เตรียมจะยกสายแร่โลหิตให้สำนักดอกบัวพร้อมกับส่งของขวัญให้กับสำนักดอกบัว แต่ใครจะคิดว่ามันจะเกิดเรื่องที่เขาไม่คาดคิดขึ้น

ผู้ก่อตั้งสำนักดอกบัวนั้น หลังจากที่ปล่อยให้กองทัพของสำนักไร้ตัวตนกลับไป เขายังบีบให้สำนักไร้ตัวตนออกจากหุบเขาไร้ตัวตนภายใน 1 เดือน และยังบังคับให้ยกหุบเขาไร้ตัวตนให้กับสำนักดอกบัว หรือจะแลกกับการตายหมู่

และในวันนี้เป็นวันครบกำหนดแล้วที่สำนักไร้ตัวตนจะต้องออกไป

“สำนักดอกบัวของเขายังเป็นเพียงสำนักเล็กๆ แต่ก็เป็นสำนักระดับ 2 ถ้ามันไม่ได้โชคดีได้รับสมบัติของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ก่อตั้งของมันก็ไม่มีอายุขนาดนี้และการบ่มเพาะก็ไม่สูงขนาดนี้หรอก แล้วมีหรือมันจะสามารถเอาชนะสำนักของพวกเราได้”

ผู้อาวุโสพูดขึ้น

“อย่างไรก็ตาม เราก็ไปว่าเขาไม่ได้หรอก พวกนั้นใจดีแค่ไหนแล้วที่ไม่โจมตีพวกเรา แต่เพียงแค่เอาหุบเขาไร้ตัวตนไป หากเราจะโทษใครก็โทษความสามารถตนเองเถิดที่ไปสู้พวกเขาไม่ได้”

“รับคำสั่งไป ให้ผู้อาวุโสและศิษย์ทั้งหมด ไปกับข้า เราจะออกไปจากหุบเขาไร้ตัวตน หากสำนักไร้ตัวตนของเราคงอยู่ พวกเราก็ยังสามารถทวงคืนได้.”

ประมุขสำนักไร้ตัวตนพูด.

หลังจากนั้นศิษย์นับแสนคนของสำนักไร้ตัวตน ด้วยการนำของประมุขของเขาและผู้อาวุโส ก็เตรียมความพร้อมเพื่อออกจากหุบเขาไร้ตัวตนไป

แต่ในขณะที่พวกเขาเดินทางมาถึงทางเข้า ในที่แห่งนั้นก็มีกลุ่มคนและม้าปรากฏขึ้น

..

แปลโดยท่าน#ฮาย

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments