ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบรรยากาศของพื้นที่รอบๆนิกายโลกวิญญาณเปลี่ยนแปลงในทันที และต่อมาเกิดพายุหมุนขึ้นในพื้นที่นั้น และกลางมีร่าง3ร่างอยู่บนพายุนั่น และสุดท้ายร่าง ทั้ง 3 นั้นก็ปรากฏขึ้นในสายตาของผู้คน
ทั้ง 3 นั้นไม่ใช่ใครอื่น พวกเขาคือ ‘จื่อ หลิง’ ‘ชูเฟิง’ และ สัตว์มหึมาที่ถูกผนึกไว้ใน หอคอยอสูรฟ้านับ 100 ปี
หลังจากช่วย สัตว์มหึมาออกมาแล้ว ชูเฟิงก็ได้พูดคุยกับเขาเกี่ยวกับ ตัวเขาและหุบเขาพันปีศาจ นอกจากนี้เขายังพูดถึง เรื่องที่ ขวานอสูรฟ้ายอมรับเขาเป็นนายอีกด้วย
หลังจากได้ยิน สัตว์มหึมาก็อึ้งไปชั่วขณะ แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงบอกให้’ชูเฟิง’รักษาขวานอสูรฟ้าให้ดีเพราะมันอาจเกี่ยวข้ออะไรกับหอคอยอสูรฟ้าก็เป็นได้
แต่หน้าเศร้าหลังจากสัตว์มหึมานั้นเป็นอิสระแล้ว มันก็ไม่สามารถช่วยให้’ชูเฟิง’เข้าไปในหอคอยอสูรฟ้าในที่ที่ลึกกว่านี้ได้ มันได้เพียงแต่บอก’ชูเฟิง’ว่า ถ้า’ชูเฟิง’นั้นยังไม่ถึงระดับเจ้าสงครามก็ยังไม่ควรเข้าไปลึกกว่านี้
เพราะว่ารูปแบบคุกวิญญาณนั้น เป็นเพียงด่านแรกของหอคอยอสูรฟ้าเท่านั้น และหลังจากผ่านเข้าไปได้แล้วพวกเขาไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรอีกหรือไม่ แต่คิดว่ามันคงไม่ง่ายแน่นอนที่จะเข้าไป
‘ชูเฟิง’ที่ไม่มีความรู้อะไรเลยเมื่อเขาได้รู้เกี่ยวกับพลังที่อยู่ข้างในนั้น เขาจึงไม่เข้าไป แต่อย่างไรก็ตาม’ชูเฟิง’ ก็ได้รู้บางอย่างเกี่ยวกับสัตว์มหึมาตนนี้เช่นกัน
สัตว์มหึมาตัวนี้มีอายุกว่า 200 ปีแล้ว เขาเคยเป็น สัตว์มหึมารูปร่างเป็นลิงปกติ ในหุบเขาพันปีศาจ แต่ว่าเขาดันไปได้รับสมบัติบางอย่างที่ ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดทองทิ้งไว้ ในหุบเขาพันปีศาจ
และจากนั้น เขาก็เริ่มที่จะบ่มเพาะตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยเทคนิคพิเศษ และมันก็ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นต่อตัวเขา และเพิ่มพลังให้กับเขา เขาจึงกลายเป็นราชาสัตว์มหึมาของหุบเขาพันปีศาจ และผู้คนต่างเรียกเขาว่า อสูรราชันย์วานร
เพราะจิตใจของอสูรราชันย์วานรนั้นไม่ได้ดำมืดและชั่วร้าย มันได้บ่มเพาะตนเองตั้งแต่เช้ายันค่ำและพยายามอย่างหนัก มันจึงได้เป็นสัตว์ที่ผู้เชื่อมต่อชุดทองลึกลับถูกใจ ดังนั้นผู้เชื่อมต่อชุดทองจึงมอบสติปัญญาให้กับมันและแนะแนวทางให้มันฝึก นอกจากนี้ยังถ่ายพลังวิญญาณให้มันจนมันกลายเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณอีกด้วย
หลังจากได้รับการแนะนำของ ผู้เชื่อมต่อชุดทอง เจ้าลิงก็ไปพบขวานอสูรฟ้าและกลายเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณที่แข็งแกร่ง แต่น่าเศร้านักที่ขวานสอสูรฟ้าไม่ยอมรับมันเป็นเจ้านาย
ผู้เชื่อมต่อชุดทองนั้นไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับขวานอสูรฟ้า และไม่ได้ถ่ายทอดอะไรให้กับอสูรราชันย์วานรอีกเลย
ส่วนเจ้า 5 ราชันย์ที่อยู่ในหุบเขาพันปีศาจนั่น คือศิษย์ของอสูรราชันย์วานร พวกมันนั้นมีสายเลือดพิเศษและความแข็งแกร่งของพวกมันนั้นเกิดจากการชี้แนะและฝึกฝนของอสูรราชันย์วานร
แต่มีอยู๋วันหนึ่ง ผู้เชื่อมต่อชุดทองก็ปรากฏตัวอีกครั้ง และบอกว่าเขานั้นได้ทิ้งจิตสำนึกไว้ที่หุบเขาพันปีศาจแต่มันอยู่ได้ไม่นานนัก แต่ก็นานจนกว่าจะมีคนรับความต้องการสุดท้ายของเขาไป
อสูรราชันย์วานรนั้นฉลาดมาก เขาไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับความต้องการสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ในหุบเขาพันปีศาจ ซึ่งนั่นมันทำให้ ผู้เชื่อมต่อชุดทองพอใจมาก
ดังนั้นเขาจึงบอกกับอสูรราชันย์วานรว่า ในหอคอยอสูรฟ้านั้นมีสมบัติอยู่ แต่ก่อนที่จะอยุ่ในระดับเจ้าสงคราม ห้ามเข้าไปเด็ดขาด
แต่อสูรราชันย์วานรก็ไม่ได้สนใจคำแนะนำนั่น เขาเข้ามาในอาณาจักรวิญญาณเพราะเขาคิดว่าเขาแข็งแกร่งพอแล้ว และด้วยความแข็งแกร่งของเขาก็ได้จัดการกับ ‘กู่ เทียนเซิน’ และ ‘เจีย ฉือ’ไป และในที่สุดมันก็ถูกผนึกไว้ในหอคอยอสูรฟ้าถ้า’ชูเฟิง’ไม่มาพบเสียก่อนมันอาจถูกผนึกจนตาย
“เจีย ฉือ กู่ เทียนเซิน เจ้ากระจอกทั้ง 2 เจ้ายังจำข้าได้หรือไม่”
ในตอนนั้นอสูรราชันย์วานร ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับ’ชูเฟิง’ และ ‘จื่อ หลิง’ และมองไปที่ ชายชราทั้ง 2
“ทะทะทะ ท่าน หรือว่าท่านเป็นอาจารย์ของชูเฟิงอย่างนั้นหรือ”
‘เจีย ฉือ’ จำได้อย่างแน่นอนเพราะอสูรราชันย์วานรตนนี้นั้นเป็นคนทีจัดการเขาอย่างง่ายดาย ในตอนนั้นใบหน้าเขาเปลี่ยนแปลงอย่างหนักและเกิดความกลัวในดวงตาของเขา มาดของราชาผู้แข็งแกร่งก่อนหน้านี้หายไปทั้งหมด
‘เจีย ฉิงเผิง’ และคนอื่นๆ ตั้งสมมุติฐานว่าอสูรราชันย์วานรคืออาจารย์ที่อยู่เบื้องหลัง ของ’ชูเฟิง’ และ หลังจากที่ ‘เจีย ฉือ’รู้เกี่ยวกับ’ชูเฟิง’ จึงเป็นธรรมดาที่เขารู้สึกว่า’ชูเฟิง’นั้นจะได้รับอะไรบางอย่างมาจากผู้เชี่ยวชาญตนนี้
ในตอนนี้ เขาเห็นอสูรราชันย์วานรและเห็นได้ชัดว่ามันเป็นอาจารย์ของ’ชูเฟิง’แน่นอน อย่างไรก็ตามเขาในตอนนี้เขารู้สึกเพียงว่า หายนะมาถึงแล้ว
“โอ้ อาจารย์ หรือ ฮ่า ฮ่า …”
อสูรราชันย์วานรมองไปที่’ชูเฟิง’และหัวเราะเสียงดังจากนั้นก็หันไปที่’เจีย ฉือ’ และบรรพบุรุษของมหาอำนาจทั้ง 4 และพูดว่า
“ เจ้านี่มั่วนิ่มจริงๆ เขาไม่ใช่ลูกศิษย์ข้า เขาเป็นน้องชายข้าต่างหากโว้ย.”
“ข้าได้ยินมาว่า ตอนที่ข้าไม่อยู่เจ้าบังอาจมารังแกน้องข้าหลายครั้งหลายครา วันนี้ ข้าพี่ชายที่แสนดีคนนี้จะมาคิดบัญชีทั้งหมดนั่นกับเจ้า.”
เสียงของ อสูรราชันย์วานรนั้น น่าเกรงขามมาก และเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าและเมื่อคนจากตระกูลเจีย และ 4 มหาอำนาจได้ยินเสียงนั้นก็ถึงกับเข่าอ่อนทันที
“พี่ชาย เจีย ฉือ เจ้าสัตว์มหึมานี่เป็นใครกัน ทำไมเจ้าต้องไปสุภาพกับมันด้วย”
ในตอนนั้นบรรบุรุษ สำนักเทพอัคคีถามขึ้น
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ใกล้กัน แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าทำไม’เจีย ฉือ’ ถึงต้องเกร็งด้วย ทั้งๆที่พวกเขาคิดว่าร่างกายของ ‘เจีย ฉือ’น่าจะเป็นอิสระแล้ว และพลังของ’เจียฉือ’นั้น อยู่ในระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์ ด้วยพลังระดับนั้นในทวีปเก้าอาณาจักรนี้นอกจากตระกูลเจียงแล้ว ก็มีไม่กี่คนที่สามารถต่อกรกับเขาได้สามารถกล่าวได้ว่าเขาคือผู้ยิ่งใหญ่ในทวีปนี้
“ฮ่า ฮ่า เจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรือว่าเขาคือใคร ข้า กู่ เทียนเซิน จะแถลงไขให้พวกเจ้าฟัง แหกหูฟังให้ดีดี เขาคือคนที่เอาชนะข้า และ เจีย ฉือ ได้พร้อมๆกัน และยังเป็น ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณชุดม่วงที่แข็งแกร่ง และยังมีพลังอยู่ในระดับ 7 อาณาจักสวรรค์ นี่คือเรื่องเมื่อ 100 ปีก่อน.”
ในตอนนั้น ‘กู่ เทียนเฉิน’ ก็พูดขึ้น
แม้ว่าขาและแขนของเขาจะถูกฉีกออกไปแล้ว แต่ใบหน้าของเขาก็เต็มด้วยรอยยิ้ม เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า’ชูเฟิง’ นั้นจะมีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับ อสูรราชันย์วานร เขาจึงรู้ทันทีว่าวันนี้ นิกายโลกวิญญาณของเขารอดแล้ว
“อะไรนะ มันเป็นคนจัดการ เจีย ฉือ และ กู่ เทียนเซิน พร้อมกัน เมื่อ 100 ปีก่อนหรือ และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับ 7 อาณาจักรสวรรค์เมื่อ 100 ปีก่อน โอ้ พระเจ้า ผู้เชี่ยวชาญลึกลับระดับสุดยอดคนนั้นแท้จริงแล้วเป็นสัตว์มหึมาหรือนี่”
“สวรรค์ ผู้เชื่อมต่อชุดม่วง นั้นยังไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในทวีปเก้าอาณาจักร มันต้องเป็นตำนานแน่นอน และ ตำนานบทนี้ถูกเขียนขึ้นโดย สัตว์มหึมาอย่างนั้นหรือ”
หลังจากรู้เรื่องเกี่ยวกับอสูรราชันย์วานร ใบหน้าของทุกคนนั้นก็เปลี่ยนแปลง ใบหน้าของพวกเขาราวกับเต็มไปด้วยขี้เถ้า
พวกเขานั้น เต็มไปด้วยความผิดหวังและความเศร้า เพราะพวกเขารู้ดีว่าวันนี้ หายนะมาถึงแล้ว ชีวิตของพวกเขานั้นจะได้พักแล้ว
,.
ท่าน#
: บอกแล้วเด๋วพี่ลิงออกมาตบ!!!
: ใช่ๆ เตรียมตัวได้พวกมืง
: มีเรื่องกับใครไม่มี ดันมามีกับ ชูเฟิง
: แล้วเรื่องราวจะเปนเช่นไร ต้องรอดูตอนต่อไป . . . . . .
ที่มา: