ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปความเร็วของชายหนุ่มคนนี้เร็วมาก ในเวลาอันสั้นเขาก็มาอยู่ในสายตาของทั้ง 2 แล้วเขายืนอยู่บนอากาศโดยไขว้มือไว้ที่หลังของเขา เขามองไปที่’ชูเฟิง’ และ ‘จื่อ หลิง’ แล้วพูดว่า
“ข้ารอพวกเจ้าทั้ง 2 มาตั้งนาน.”
“เจ้าเป็นใคร”
‘ชูเฟิง’ตะโกนถาม
“ข้าเชื่อว่าเจ้าเคยได้ยินชื่อข้ามาบ้างแล้ว ข้าคือศิษย์สำนักมังกรฟ้า จาง เทียนยี่. “
‘จาง เทียนยี่’ พูด
“จาง เทียนยี่ ศิษย์พี่ จาง งั้นหรือ”
หลังจากที่ได้ยิน ‘ชูเฟิง’ก็รู้สึกดีใจไม่น้อย เพราะเขาเป็นศิษย์จากสำนักเดียวกันแสดงว่าเขาอยู่ฝ่ายเดียวกับ’ชูเฟิง’
“ศิษย์พี่จาง เจ้าคิดว่าเจ้าควรเรียกข้าด้วยชื่อนั้นหรือ “
‘จาง เทียน’ขมวดคิ้วแน่น และเผยจิตสังหารออกมา
“ศิษย์พี่จาง ข้าไปทำอะไรให้ท่านโกรธเคืองเช่นนั้นหรือ”
‘ชูเฟิง’ ถามด้วยความสับสนเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับ’จาง เทียนยี่’ ดังนั้น เขาไม่น่าจะมีความบาดหมางอะไร
“ฮึ่ม เจ้าไปยั่ว สำนัก หลิง หยุน และทำให้ สำนักมังกรฟ้าของข้าต้องพินาศ ประวัติของสำนักกว่าพันปี ต้องถูกทำลายเพราะเจ้า เจ้ายังมีหน้าพูดว่าเจ้าเป็นศิษย์สำนักมังกรฟ้าอีกหรือ เจ้ารู้สึกละอายบ้างหรือไม่ที่เรียกข้าว่าศิษย์พี่ “
“ข้า จาง เทียนยี่ จะกำจัดขยะให้กับสำนักมังกรฟ้า และจะ ลบ ศิษย์ที่ล้มเหลวเช่นเจ้า “
ในขณะที่พูดในตาเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร มือซ้ายของเขาสะบัดและเกิดคันธนูในมือเขา เขาใช้มืออีกข้างทำท่าดึงธนูและเกิดลูกศพในมือเขา และเขายิงมันออกมา และเล็งไปที่’ชูเฟิง’ ทักษะ ที่’จาง เทียนยี่’ใช้เป็นทักษะจากสำนักมังกรฟ้า ธนูร้อยแปลงธนูร้อยแปลงนั้นไม่ได้เป็นทักษะ ที่แข็งแกร่งอะไร
แต่เมื่อ ‘จาง เทียนยี่’ใช้มัน อำนาจการทำลายของมันก็เยอะมากลูกศรบินอยู่บน อากาศรอบตัวพวกเขา และเกิดเส้นสีดำบนอากาศที่พวกมันบินผ่าน ทำให้พลังนั้นไม่สามารถดูถูกได้เลย
‘ทำไมพลังของเขาถึงแข็งแกร่งแบบนี้’
ในตอนนั้นตา’ชูเฟิง’ นั้นเกิดประกายขึ้นและขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพบว่าพลังของ ‘จาง เทียนยี่’ นั้นน่ากลัวมาก แม้ว่าจะเป็นทักษะอย่าง ธนูร้อยแปลงแต่เมื่อเขาใช้ มันกลับน่ากลัวมากถ้ามีคนบอกว่า ผู้เฒ่าร้อยหน้าที่อยู่ในระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์นั้น นับเป็นผู้แข็งแกร่งแล้ว
แต่ ‘จาง เทียนยี่’ในตอนนี้ที่พลังระดับเดียวกัน แต่ว่าเขานั้นเหนือกว่า ผู้เฒ่าร้อยหน้าเสียอีก
“กำจัดขยะหรือ เจ้าดูมั่นัใจเสียจริงนะ จากประสบการณ์ของข้า แสดงว่าเจ้ามีดีบางอย่างถึงกล้าพูดออกมา “
ในตอนนั้น ‘จื่อ หลิง’ได้เคลื่อนไหว อำนาจวิญญาณสีฟ้าของเธอ ไหลออกมาเหมือนน้ำ และ บางส่วนถูกควบแน่นเป็นกำแพงบนอากาศกำแพงวิญญาณโปร่งใส่มีสีฟ้าเล็กน้อย เมื่อถูกแสงแดด ก็เกิดประกายเงาดั่งผลึก ทำให้มันสวยงามมาก และที่สำคัญที่สุดคือมันแข็งแกร่งมากเช่นกัน
* ปัง ปัง ปัง *
แต่ลูกศรของ ‘จาง เทียนยี่’ นั้นบินมาอย่างรวดเร็ว พุ่งใส่กำแพงวิญญาณของ’จื่อ หลิง’ อย่างต่อเนื่อทำให้กำแพงนั้นถูกทำลายลง
“เป็นไปได้อย่างไร เขาสามารถทำลายอำนาจวิญญาณของเราได้ยังไง “
ไม่ต้องพูดถึง’ชูเฟิง’ แม้แต่’จื่อ หลิง’ ในตอนนี้ ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยความตกใจเช่นกัน’จื่อ หลิง’ นางคือคนที่มีกายศักดิ์สิทธิ์ และโดยเฉพาะเมื่อนางได้ก้าวเข้าสู๋อาณาจักรสวรรค์ มันคนละเรื่องกับนางตอนอยู่ในระดับ 9 แก่นแท้วิญญาณตามการคำนวณของเธอ เธอนั้นสามารถเอาชนะ ผู้ที่ อยู่ระดับ 4 อาณาจักสวรรค์ได้
ถ้าเธอเอาจริงก็สามารถเอาชนะ ผู้ที่อยู่ระดับ 5 ได้ แม้แต่ระดับ 6 ก้ไม่ใช่ผู้ที่จะโค่นเธอลงได้ง่ายๆ นั่นคือความแข็งแกร่งของเธอในตอนนี้ พลังการต่อสู้ของเธอนั้นไม่ได้น้อยกว่า’ชูเฟิง’เลย
แต่สิ่งที่เกิดขึ่นในสายตาเขา ‘จาง เทียนยี่’ ที่อยู่ในระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์ กลับทำลายเกราะของ’จื่อ หลิง’ ได้นี่หมายความว่า ความสามารถของ ‘จาง เทียนยี่’ก็น่ากลัวเช่นกัน มันรุนแรงกว่า ผู้เชี่ยวชาญระดับ 4 อาจจะเทียบเท่ากับระดับ 5 ด้วยซ้ำไป
“เจ้าน่าจะทำได้มากกว่านี้นะ.”
‘จาง เทียนยี่’พูดขึ้นมา ทำให้ ‘จื่อ หลิง’ไม่มีทางเลือก เธอพลิกฝ่ามือของเธอ และเรียกราชรถที่งดงามออกมา จากนั้นก็โยนขึ้นไปบนอากาศ ทำให้มันขยายตัวขึ้นด้านหน้าของ ทั้ง 2 อาจพูดได้ว่า การโจมตี ของ’จาง เทียนยี่’นั้นแข็งแกร่งมาก ถึงแม้จะมีราชรถที่งดงามมาขวางเอาไว้ แต่มันก็ทำให้เกิดเสียงดังเหมือนตีเหล็กและทำให้ ราชรถนั้น ถอยกลับมาได้
“ไป ~~~~~~”
‘จื่อ หลิง’ ตะโกนออกมา และจู่ๆ ราชรถ ก็พุ่งเข้าหา ‘จาง เทียนยี่’
“โอ้ว ช่างเป็นพาหนะที่ดูดียิ่งนัก ข้ากำลังขาดพาหนะอยู่พอดีเลย งั้นข้าจะเอามันไปล่ะรวมไว้กับยอดยุทธภัณฑ์ของข้า ช่างเอาออกมาได้ถูกเวลายิ่งนัก “
เมื่อเขาเห็นราชรถ เขาก็หัวเราะขึ้นมา จากนั้นก็สะบัดมือ จากนั้นมือของเขาก็กลายเป็นกรงเล็บอินทรี และขยายใหญ่ขึ้น พลังระดับอาณาจักรสวรรค์ไหลออกมาไม่มีสิ้นสุดและไปรวมอยู่ที่มือของเขา และรับ ราชรถที่งดงามนั่นเอาไว้
ในตอนนั้น ‘จื่อ หลิง’ ก็บ่นในใจเล็กน้อย เพราะเธอพบเรื่องที่น่าตกใจว่า พลังของ’จาง เทียนยี่’ มันเยอะกว่าที่เธอคิดเอาไว้มากในตอนนั้น ‘จาง เทียนยี่’ กำลังสู้กับ ราชรถที่งดงาม และต้องการที่จะควบคุมมันให้เป็นของตนเอง
“อสูรวิญญาณ ไป ~~~~”
ในตอนนั้น ‘จื่อ หลิง’ เรียกอสูรวิญญาณของเธอออกมา พิภพนางฟ้าวิญญาณปรากฏตัวขึ้นจากประตูโลกวิญญาณที่’จื่อ หลิง’สร้างไว้หลังจากการดูดซับของ พลังงานที่ผ่านมา ในตอนนี้อสูรวิญญาณของเธอนั้นมีพลังเพิ่มขึ้นมาและมีพลังอยู่ที่ ระดับ 3 อาณาจักรสวรรค์
นอกจากนี้ พลังของอสูรวิญญาณนั้นพิเศษกว่าปกติมาก มันแข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะปกติ พลังของมันนั้นเทียบได้กับ คนที่มี ระดับ 4 อาณาจักรสวรรค์เลยทีเดียว มันบินออกมาพร้อมถือ ดาบยาวสีทอง และโจมตีเพื่อฆ่า ‘จาง เทียนยี่’
“นี่คืออสูรวิญญาณงั้นหรือ เป็นสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ นี่เป็นโอกาสที่ดี ที่ข้าจะได้สัมผัสกับสิ่งมีชีวิตนตำนาน ที่เรียกว่า อสูรวิญญาณ “
ทางอสูรวิญญาณที่กำลังโจมตี ‘จาง เทียนยี่’ แต่ ‘จาง เทียนยี่’ ก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย มือของเขา ยังคงเรียกพลังระดับอาณาจักรสวรรค์ และพยายามควบคุมราชรถที่งดงาม ที่อยู่กลางอากาศ ส่วนมืออีกข้างกำแน่น และใช้ธนูร้อยแปลงรวมตัวกัน ไปรับการโจมตีจากดาบยาวสีทองนั่น
..
: บักจาง จะกวนตีนก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยยยย
: ไปว่าพี่จางกวนตีน ได้ไง๊เขาออกจากเก่งกาจปานฉะนั้น
: เก่งก็จริง เด๋วถ้า ชูเฟิง เอาต้านต้าน ออกมาบู้ล่ะ สนุกเลยนะ
: ก็จริง!!! ฝ่ายไหนบาดเจ็บรังแต่มีผลเสีย ศัตรูไม่ใช่พวกเดียวกัน แต่ควรจะเป็น หุบเขาเทพกระบี่มากกว่า
: ใช่!!! มันขู่ว่าจะนำกระดูกบรรพชนตระกูลชูและบรรพชนอาวุโสสำนักมังกรฟ้า ไปโยนลงบ่อขี้ด้วยล่ะ
: นั้นสินะ ยิ่งเป็นคนจีนก็ยิ่งให้ความสำคัญกับบรรพชนซะด้วย นั้นถือเป็นการเหยียดหยามอย่างมากเลยล่ะ แล้วหากลูกหลานปล่อยให้บรรพชนเจอเรื่องแบบนั้นโดยไม่ทำอะไร นั้นเท่ากับเป็นการอกตัญญูต่อบรรพชนที่ตาย
ที่มา: