ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปในตอนนั้น’ชูเฟิง’กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในเต็นท์ของเขาและกำลังบ่มเพาะ แต่ต่อมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกเขาก็ออกจากการบ่มเพาะทันที
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนเรียกเขาแต่โดยปกติแล้ว’ชูเฟิง’ต้องออกไปดูไม่งั้นมันจะเป็นเสียมารยาท เมื่อ’ชูเฟิง’เดินออกมาจากเต๊นท์ของเขาก็พบว่ามีสาวงามยืนอยู่
สาวงามคนนี้มีใบหน้าละอ่อนและงดงามมาก ดวงตาของเธอกลมโตเหมือนกับ วอลนัทที่อยู่ภายใต้ขนตาของเธอที่ยื่นออกมา
ไม่แปลกเลยถ้ามีคนบอกว่าเธอเป็นคนที่มีเสน่ห์มากที่สุดคนนึง นอกจากหน้าตาที่น่ารัก ยังมีภูเขาเอเวอเรสต์ สองลูกยื่นออกมาจากหน้าอก ‘ชูเฟิง’ที่มองเห็นมันก็ใจสั่นอย่างรุนแรงสาวงามคนนี้มีระดับการบ่มเพาะไม่ได้ต่ำ ระดับการบ่มเพาะของเธออยู่ในระดับ 9 แก่นแท้วิญญาณ และเธอเป็น 1 ใน 9 สาวงามที่ ‘ไป่ หยุนเฟย’ และ เดอะ แก๊ง จับตามอง
“ชูเฟิงน้อย ข้ามีชื่อว่า เซี่ย เหลอ “
สาวงามพูดแนะนำตัวกับ’ชูเฟิง’
‘เซี่ย เหลอ’ อ่าน เซี่ย เล่อร์ หวังว่าไม่มีใครอ่าน เห+ลอ
“ศิษย์พี่เซี่ย ท่านมีเหตุผลอันใดที่มาหาข้าในเวลาเช่นนี้ “
‘ชูเฟิง’ถาม
“ชูเฟิงน้อย เจ้าทานอาหารเย็นหรือยัง”
‘เซี่ย เหลอ’ถาม
“เอ๊ะ … ข้ายังไม่ได้ทานเลย.”
‘ชูเฟิง’หันไปรอบๆและเห็นคนอื่นๆกำลังทานอยู่ ในตอนแรกเขาตกใจเพราะตั้งแต่ตั้งเต็นท์เสร็จ’ชูเฟิง’ ก็นั่งบ่มเพาะมาตลอด เขาจึงไม่รู้ตัวว่านี่มันถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว
“บังเอิญข้าพึ่งทำอาหารเย็นเสร็จเลยอยากมาชวนให้เจ้าไปกินด้วยกัน ข้าอยากให้เจ้าได้ลองชิมอาหารฝีมือข้าดู “
‘เซี่ย เหลอ’พูดเบาๆ
“นี่ … คงไม่เหมาะสมหรอกมั้งมันจะดูไม่ดี”
‘ชูเฟิง’ ลังเลเล็กน้อย เพราะที่พักของฝั่งชายและหญิงถูกแยกจากกันถ้าเป้นอย่างนั้น’ชูเฟิง’ก็ต้องเข้าไปในที่พักฝั่งหญิง
“โฮ … ชูเฟิงเจ้ากำลังกลัวว่าข้าจะทำอะไรเจ้าใช่หรือไม่? “
‘เซี่ย เหลอ’ถาม
“แน่นอนว่าไม่ ถ้าอย่างนั้นขอยอมไปกับท่านก็ได้ “
‘ชูเฟิง’ตอบ เพราะถ้า’ชูเฟิง’ปฏิเสธไปมันคงไม่เหมาะเพราะ’เซี่ยเหลอ’ลงทุนมาเชิญเขาด้วยตนเอง ดังนั้น’ชูเฟิง’จึงเดินตาม’เซี่ยเหลอ’ไปยังที่พักฝังผู้หญิง
“เขาสมควรตายจริงๆ ทำไมเขาช่างโชคดีเช่นนี้ถึงได้ถูกสาวงามเชิญไปร่วมทานอาหาร “
“อ่า ในขณะที่พวกเรากำลังรับประทานอาหารอย่างขมขื่น แต่เขากลับได้รับประทานอาหารจากฝีมือของสาวงาม เขาช่างน่าอิจฉายิ่งนัก “
“บัดซบ แม้ว่าหญิงสาวจากนครอันทรงเกียรติจะงดงามแต่พวกเธอนั้นช่างตาต่ำยิ่งนักที่ไปเลือกเจ้าเด็กเหลือขออย่างเจ้าชูเฟิง “
หลังจากเห็น’ชูเฟิง’ และ ‘เซี่ย เหลอ’ ไปด้วยกัน หลายๆคนจึงอิจฉา โดยเฉพาะ แก๊ง 4 อัจฉริยะ ที่กำลังขบฟันด้วยความหงุดหงิดอย่างมาก
หลังจากที่แห้วจาก’จื่อ หลิง’ พวกเขาเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็น ‘เซี่ยว เหลอ’ และคนอื่นๆ แม้ว่าพวกเธอจะไม่ปฎิเสธพวกเขาตรงๆ เหมือน’จื่อ หลิง’ แต่พวกเธอก็ปฎิเสธพวกเขาอ้อมๆเช่นกัน
เมื่อพวกเขาเห็นหญิงที่ตนชอบนั้นมาสนิทกับ’ชูเฟิง’นั้นพวกเขาก็ไม่สามารถที่ทำใจยอมรับได้ ทำให้ความเกลียดชังที่มีต่อ’ชูเฟิง’จาก 4 อัจฉริยะนั้นเพิ่มมากขึ้น
“หืม ข้าไม่เคยคิดเลยว่าท่านจะทำอาหารได้เก่งเช่นนี้!”
เต็นท์ของ’เซี่ย เหลอ’ นั้นไม่ได้เรียบๆ เหมือนเต็นท์’ชูเฟิง’ แต่มันเป็นเต็นท์ที่หรูหรามากภายในเต็นท์ มีเก้า อี้ โต๊ะ และอีกหลายๆอย่างที่มองดูแล้วรู้สึกว่าเหมือนอยู่ในห้องปกติ
แต่ว่า’ชูเฟิง’นั้นไม่ได้มีความคิดที่จะชื่นชมห้อง เขากำลังจดจ่ออยู่กับอาหารบนโต๊ะ และ ทานอาหารด้วยความหิว
“ดีแล้วที่เจ้าชอบมัน ถ้าเจ้าชอบก็กินเยอะๆเลย!”
เซี่ย ‘ อยู่ข้างจือฮและเก็บไว้ในเทไวน์และนำอาหารสำหรับจือฮ เธอให้การบริการที่ดีมาก
“พี่หญิง เซี่ยท่านได้เทไวน์มาให้ข้ากว่า3ชามใหญ่แล้ว แต่ว่าขวดไวน์ของท่านนั้นขวดเล็กแค่นั้นทำไมถึงได้เทไวน์ให้ข้าได้มากมายเช่นนี้กัน “
‘ชูเฟิง’ถาม เพราะสงสัยว่าไวน์ที่ขวดเล็กแค่มือจับแต่สามารถเทไวน์ได้มากขนาดนี้ได้อย่างไร
“คิกคิก ชูเฟิงน้อย ขวดไวน์ของข้าคือของวิเศษ มันเหมือนกับถุงจักรวานและ แต่เพียงแค่ในนี้นั้นได้บรรจุไวน์ กว่า 3 ถังใหญ่ มันทำให้เจ้าสามารถดื่มได้ตลอดเดือนเลยเชียว “
‘เซี่ย เหลอ’ ยิ้ม และพูด
“หือมันช่างน่าสนใจยิ่งนัก พี่หญิง เซี่ย เหลอ ขอข้าดูหน่อยได้ไหม “
‘ชูเฟิง’ นั้นเมื่อเห็นของที่ไม่เคยพบจึงอยากร็อยากเห็นและอยากใช้พลังวิญญาณตรวจสอบขวดไวน์นั้นดู
‘ชูเฟิง’ไม่สามารถตรวจสอบได้แค่พื้นผิว ดันนั้นเขาจึงต้องใช้อำนาจวิญญาณตรวจสอบเข้าไปในขวดไวน์อย่างจริงจัง
* ตูม*
แต่ใครจะคิดล่ะว่าเมื่อ’ชูเฟิง’ใช้พลังวิญญาณตรวจสอบมันมันกลับระเบิดทันที ทำให้ไวน์จำนวนมากสาดใส่เขาทำให้เขาเปียกไปทั้งตัว
“ชูเฟิงน้อยเจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า ข้าลืมเตือนเจ้าว่า อย่าใช้อำนาจวิญญาณตรวจสอบไม่งั้นมันจะระเบิด “
‘เซี่ย เหลอ’ พูดและรีบเช็ดไวน์ตามร่างกาย’ชูเฟิง’
“พี่หญิง เซี่ย เหลอ ข้าต้องขอโทษจริงๆข้าไม่ทราบว่ามันจะเป็นเช่นนี้ แต่ท่านไม่ต้องกังวลข้าจะชดใช้ให้ “
‘ชูเฟิง’ พูดด้วยความรุ้สึกผิด
“ชูเฟิง สิ่งนี้ก็เหมือนของเล่นของข้ามันไม่ได้มีค่าเท่าใดนัก เจ้าไม่ต้องชดเชยอะไรหรอก “
“ดูสิ! เสื้อผ้าของเจ้าเปียกโชกเลย ถ้าปล่อยไว้เจ้าต้องเป็นหวัดแน่นอน เดี๋ยวข้าจะออกไปก่อนเจ้ารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าของเจ้าก่อน หลังจากนั้นค่อยมาทานอาหารต่อ “
‘เซี่ย เหลอ’ พูด
“ตกลง”.”
หลังจากได้ยิน ‘เซี่ย เหลอ’พูด ‘ชูเฟิง’ก็รู้สึกดีอย่างมาก สิ่งที่เธอทำมันทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและทำให้เขาคิดว่าเธอเป็นมิตรสำหรับเขา ดังนั้น ‘เซี่ย เหล่อ’ จึงเดินออกมา และให้’ชูเฟิง’เปลี่ยนเสื้อผ้า
*พรึ่บ*
แต่เวลาต่อมา เต็นท์ก็ได้ถูกเปิดขึ้นในขณะที่’ชูเฟิง’กำลังถอดเสื้อ
“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยข้าที “
ในตอนนั้นก็มีเสียงตะโกนด้วยความหวาดกลัวดังมาจากข้างหลัง’ชูเฟิง’เมื่อเขาหันไปมองก็พบว่าเป็นเสียงของ ‘เซี่ย เหลอ’
ในตอนนั้น กระโปรงของนั้นเหมือนถูกฉีกออกมาก่อน และปรากฏให้เห็นผิวขาวของเธอ มือทั้ง 2 ข้างวาดปิดบนหน้าอกของเธอและเธอก็กำลังนอนร้องไห้อยู่
“พี่หญิง เซี่ย เกิดอะไรขึ้น”
‘ชูเฟิง’เข้าไปพยุงตัวเซี่ย เหลอรีบถามอย่างเคร่งเครียด
“ปล่อยข้า!”
ใครจะคิดว่าในขณะที่เขาเข้าไปใกล้เธอจะถูกเธอผลักออกมาและเธอก็ได้ทิ้งล่างลงบนดินและชี้ไปที่’ชูเฟิง’พูดว่า
“ชูเฟิงเจ้าเดรัจฉาน ข้าอุตส่าห์เชิญเจ้ามาทันอาหารด้วยกัน แต่เจ้ากับใส่ยาพิษในไวน์และกำลังหาโอกาสข่มขืนข้าอย่างนั้นหรือ เจ้ามันเลวมากเจ้ายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า”
. . . . . .
แปลโดยคุณ#
ที่มา: