ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“ชูเฟิง?”
หลังจากที่ได้เห็น’ชูเฟิง’แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นเชลยอยู่แล้วแต่ก็ยังคงแสดงความเกลียดชังที่มีต่อ’ชูเฟิง’ออกมาอย่างชัดเจนโดยเฉพาะ ซ่ง ฉิงเฟย, ไป๋ หยุนเฟย และ หลิว เสี่ยวเหยา พวกเขาเผยเจตนาฆ่าออกมาทางสายตาของพวกเขาอย่างชัดเจน
“นี่มันอะไร?”
หลังจากที่เห็นว่า’ชูเฟิง’ถูกนำตัวเข้ามาราชาคางคกจึงได้เอยปากถาม
“เรียนท่านราชาเจ้ามนุษย์สารเลวผู้นี้มันได้ริบังอาจบุกรุกล้ำเข้ามายังเขตแดนของเราข้าจึงได้เข้าจับกุมมันมายังที่นี่ และนอกเหนือจากนี้ข้าเกรงว่ามันอาจยังเป็นคนจากนครอันทรงเกียรติอีกด้วย”
หนึ่งในสัตว์ยักษ์แดนสวรรค์อธิบาย
“โอ้?”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นตาของราชาคางคกเริ่มลำพองกลายเป็นสีแดงใหญ่โตขึ้นมาและขณะเดียวกันก็ได้เริ่มการประเมิน’ชูเฟิง’อีกครั้ง
“เหอะอย่าได้เข้าใจผิด ข้าไม่ได้เป็นคนจากนครอันทรงเกียรติ อันที่จริงข้าก็แค่เดินผ่านมาเท่านั้นและความจริงข้าก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะรุกล้ำเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ด้วย”
‘ชูเฟิง’ปรากฏแสงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เขารู้ว่า ‘จือ ซวนหยวน’ นั้นไม่ได้เกรงกลัวเหล่าสัตว์ยักษ์พวกนี้และเขาจะต้องซ่อนตัวอยู่ในเงามืดที่ไหนสักแห่งในสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอนแม้ว่าราชาคางคกนั้นจะแข็งแกร่งมากแต่ด้วยการคาดเดาของ’ชูเฟิง’แล้วเขาคิดว่าความแข็งแรงของ ‘จือ ซวนหยวน’นั้นต้องไม่ด่อยไปกว่าราชาคางคกอย่างแน่นอน
และเป็นไปได้ว่าความแข็งแรงของพวกเขาทั้งสองนั้นอาจเท่าเทียมกันและถึงแม้ว่าความจริงสัตว์ยักษ์เหล่านี้นั้นจะมีจำนวนมากนับพันแต่ความแข็งแกร่งที่เป็นแกนหลักจริง ๆ ก็คือราชาคางคก เพียงแค่ถ้าสามารถกักตัวราชาคางคกเอาไว้ได้ล่ะก็ อย่างน้อยๆ ‘จือหลิง’และคนอื่น ๆก็ยังสามารถที่จะจัดการกับสัตว์ยักษ์ตัวอื่น ๆได้
“แหม่ ชูเฟิงเจ้ามาที่นี่ก็เพื่อมาช่วยพวกเราใช่หรือไม่?”
เพียงแต่ในเวลานั้นการแสดงออกของ ‘หลิว เสี่ยวเหยา’ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน ใบหน้าและน้ำเสียงของเขานั้นสัมผัสได้ถึงความกตัญญูและความรักที่เปรียบมิได้อย่างแท้จริงต่อ’ชูเฟิง’ขณะที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหันของ ‘หลิว เสี่ยวเหยา’
ในตอนแรก ‘ซง ฉิงเฟย’ และ ‘ไป๋ หยุนเฟย’ นั้นไม่อาจที่จะทำความเข้าใจได้ว่า ‘หลิว เสี่ยวเหยา’นั้นกำลังต้องการที่จะทำอะไร แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นพวกเขาก็ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็วและเข้าใจมันทั้งหมด พวกเขาทั้งสองได้ปรากฏแสงรอยยิ้มแปลกหันไปทาง’ชูเฟิง’พร้อมกล่าว
“ใช่ชูเฟิงข้ารู้ว่าเจ้าให้ความสำคัญต่อพวกเราเหล่าพี่น้องมากแค่ไหนและแน่นอนว่าพวกเรานั้นจะไม่ทิ้งกัน! มันเป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่แล้วเจ้าได้แจ้งไปยังเหล่าผู้อาวุโสถึงเรื่องราวของพวกเราที่ถูกกักขังเป็นเชลยอยู่ในสถานที่แห่งนี้แล้วใช่หรือไม่? พวกเขาจะมาที่นี่อย่างรวดเร็วใช่ไหม?”
“ชูเฟิงเจ้าชั่งน่าประทับใจอย่างแท้จริงเหมาะสมแล้วที่เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในหมู่พวกเรา ในเส้นทางของเจ้าเจ้าจะต้องเป็นหนึ่งในผู้ที่ฆ่าเหล่าสัตว์ยักษ์ได้มากที่สุดอย่างแน่นอนและหลังจากผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้เจ้าจะต้องได้รับรางวัลจากผู้นำเมืองนครอันทรงเกียรติฉิน เล่ย อย่างมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน”
“บัดซบนี่พวกเจ้าว่างคิดแผนการบ้า ๆที่จะใส่ร้ายข้าเช่นนี้เลยอย่างงั้นเชียวรึ? เจ้าคิดว่าทุกในที่นี้จะโง่เง่าเช่นพวกเจ้ารึยังไงกัน?”
‘ชูเฟิง’พ่นลมออกมาทางจมูกและกล่าวออกไปอย่างเย็นชาสายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจ เขารู้ว่า ‘หลิว เสี่ยวเหยา’ และคนอื่นๆ นั้นคิดที่จะใช้กลยุทธ์การยืมมือฆ่า พวกเขาจึงพยายามที่จะโกหกและกระตุ้นเหล่าสัตว์ยักษ์เพื่อที่จะยืมมือพวกมันฆ่า’ชูเฟิง’
“หืม?”
แต่อย่างไรก็ตามราชาคางคกนั้นถือได้ว่าฉลาดมากและเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่า’ชูเฟิง’จะต้องมีเรื่องบาดหมางบางอย่างที่มาก่อนกับเหล่าสามคนนั้นอย่างแน่นอน เพราะบนใบหน้าของ’ชูเฟิง’นั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจและยังเป็นคำใบที่บ่งบอกถึงความไม่ชอบมาพากลนี้ด้วยราชาคางคกจึงได้ตัดสินใจกล่าว
“เช่นนั้นดูเหมือนว่าพวกเจ้าและพวกคนอื่นๆจะรู้จักกันมาอยู่ก่อนแล้วซินะ”
“แน่นอนเรารู้พวกเรารู้จักพี่ชายชูเฟิงเป็นอย่างดีและข้าจะขอแนะนำไว้ก่อนเลยว่าถ้าหากเจ้ากล้าที่จะแตะต้องเขาแม้แต่ปลายก้อยล่ะก็ พ่อของเขาจะมาเหยียบภูเขาพันปีศาจที่นี่ให้ราบคราบเป็นหน้ากองอย่างแน่นอน”
‘หลิว เสี่ยวเหยา’ ยังไม่คิดที่จะปล่อย’ชูเฟิง’ไปง่ายๆเขายังคงที่จะพยายามสานต่อคำโกหกของเขาต่อไป
“ใช่แล้ว พ่อของชูเฟิงนั้นเกลียดเหล่าสัตว์ยักษ์มากที่สุด ทุก ๆวันพ่อของเขานั้นกินสัตว์ยักษ์เป็นอาหารและไม่ว่าจะเป็นของใช้ในบ้าน ผ้าปูที่นอน หลังคา ฝ่า ผนัง หรือ แม้แต่ พรมเช็ดเท้า ก็ยังทำมาจากเนื้อหนังของเหล่าสัตว์ยักษ์อีกด้วย!!”
‘ไป๋ หยุนเฟย’ ก็ยังใส่สีตีไข่เพิ่มลงไป
“นี่เจ้ายังกล้าสบถไร้ยางอายอยู่อีกอย่างงั้นรึ? พวกเจ้ายังไม่ชัดเจนถึงอันตรายที่เป็นอยู่ในตอนนี้ใช่หรือไม่? นี่ถามจริงๆพวกเจ้าโง่หรือโง่กันแน่มีวัวผสมบ้างรึป่าว?”
‘ชูเฟิง’โต้แย้ง
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ น่าสนใจน่าสนใจ! เช่นนั้นดูเหมือนว่าจะมีเรื่องบาดหมางระหว่างพวกเจ้ากันจริงๆซินะ!”
“วัวน้อยจงบอกสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกมันให้ข้าฟังหน่อยสิ”
ราชาคางคกทมิฬกล่าวด้วยน้ำเสียงหัวเราะที่ดังและโบกมือของเขาเรียกปีศาจวัวที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมาหาเขาสัตว์ปีศาจตนนี้นั้นนับได้ว่าแตกต่างจากตัวอื่น ๆเพราะมันในขณะนี้ได้อยู่ในร่างของมนุษย์และใส่เสื้อผ้าของมนุษย์ มันเดินไปด้านข้างของราชาคางคกทมิฬและเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังด้วยใบหน้าที่เคารพและนอบน้อม
“เรื่องราวมันเป็นเช่นนี้ราชาของข้า เด็กคนนี้มีชื่อเรียกว่าชูเฟิงซึ่งก่อนหน้านี้เขามีความต้องการที่จะข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่งแต่กลับถูกพบซะก่อนด้วยกลุ่มมนุษย์กลุ่มนี้พวกเขาจึงโกรธแล้วมีความต้องการที่จะอยากฆ่าชูเฟิงแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำได้ ชูเฟิงได้ทำการหลบหนีจนสำเร็จแต่ก็ไม่คิดว่าจะมาโพล่ในสถานที่แห่งนี้”
ในที่สุดชูเฟิงก็รู้แล้วว่าปีศาจวัวนั้นเป็นสายลับที่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มพวกเขาเพราะถ้าหากไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้วจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ปีศาจวัวจะรู้เรื่องเหล่านี้
“ฮ่า ๆ เรื่องทั้งหมดเป็นเช่นนี้ มนุษย์แค้นมนุษย์ด้วยกันชั่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจและไร้ความปราณี เจ้าต้องการจะยืมมือของข้าเพื่อฆ่าศัตรูของเจ้า เชอะ เจ้าไม่คิดว่าเจ้ากำลังประเมินข้าต่ำไปอย่างนั้นหรอกรึ?”
หลังจากที่ทราบความจริงทั้งหมดราชาคางคกมองไปที่ ‘หลิว เสี่ยวเหยา’ และคนอื่นๆ ด้วยความชิงชังจากนั้นเขาก็ชี้นิ้วไปที่’ชูเฟิง’แล้วสั่ง
“โยนเจ้าคนที่เรียกว่าชูเฟิงผู้นี้ไปไว้รวมกับพวกมัน นอกจากนี้จงไปนำกลุ่มมนุษย์คนอื่น ๆจากอีกกลุ่มหนึ่งมานี่ซะเพราะคืนนี้ข้าต้องการที่จะเล่นเกมที่น่าสนใจบางอย่าง?”
หลังจากที่ราชาคางคกได้สั่ง’ชูเฟิง’ก็ได้ถูกโยนลงไปรวมกับ ‘หลิว เสี่ยวเหยา’ และคนอื่นๆ แม้ว่า ‘หลิว เสี่ยวเหยา’ และคนอื่นๆมีความต้องการที่อยากจะฆ่า’ชูเฟิง’แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรมากไปกว่าคิดได้
เพราะพวกเขาในตอนนี้ก็ถูกจับในสถานะเชลยเช่นกันมีเพียงแค่สายตาเท่านั้นที่มองคุกคามไปยังชูเฟิงแต่ชั่งน่าเสียงดายเพราะ’ชูเฟิง’ไม่มีความสนใจในสายตาเหล่านั้นเขาได้กระเถิบเข้าไปใกล้กลับ ‘จือหลิง’ แล้วค่อยๆเบียดร่างกายของนางและเขายังแสดงท่าทางที่ไร้ยางอายด้วยการขยับหน้าของเขาเข้าไปใกล้กับใบหน้าของ ‘จือหลิง’
“จือหลิง ข้ามาที่นี่เพื่อมาช่วยเจ้าออกไป”
‘ชูเฟิง’กระซิบข้างหูของ ‘จือหลิง’ แล้วพูดด้วยเสียงต่ำจือหลิง แรกมองไปที่’ชูเฟิง’แล้วก็มองออกไปยัง ‘เซี่ย เหลอ’ ที่อยู่ในกลุ่ม หลังจากนั้นเธอก็หันหน้ามาจ้อง’ชูเฟิง’ด้วยท่าทีที่รุนแรงจากนั้นเธอก็พ่นลมหายใจเย็นออกมาใส่หน้าของ’ชูเฟิง’ก่อนที่เธอจะหันใบหน้าเล็ก ๆของเธอออกไปและไม่ให้ความสนใจใด ๆต่อ’ชูเฟิง’อีก
“โอ้ว? นี่เจ้ากำลังหึงข้า?”
เห็นครั้งแรก’ชูเฟิง’หัวเราะ แต่หลังจากที่เขาสังเกตว่า ‘จือหลิง’ ไม่ได้ให้ความสนใจใด ๆแก่เขา’ชูเฟิง’ก็เลยเริ่มที่จะอธิบายตัวเองแก่เธอว่า
“ เจ้าคงไม่เชื่อคำกล่าวของ เซี่ย เหลอ หรอกใช่หรือไม่? ด้วยสติปัญญาของเจ้า เจ้าไม่คิดหรอว่าข้ากำลังถูกใส่ร้ายและไม่ได้รับความเป็นธรรม”
“ชูเฟิงไอ้เด็กเวรสารเลวออกให้ห่างจากน้อง จือหลิง ของข้าเดี้ยวนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วล่ะก็ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เห็นว่า’ชูเฟิง’กำลังเซาะแซะ’จือหลิง’ ความโกรธก็ลุกเผาไหม้ ‘หลิว จือซุน’ เขาได้ตะโกนออกไปด้วยความโกรธและเสียงดังต่อ’ชูเฟิง’
“ฮ่า มามา! แสดงให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าจะมีปัญญาเอาวิธีไหนมาฆ่าข้า!”
พอเห็นเช่นนั้นแล้ว’ชูเฟิง’ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อย ‘จือหลิง’ เขายังได้ลูบคล่ำร่างกายของ ‘จือหลิง’ อีกต่อหน้าของ ‘หลิว จือซุน’สำหรับ ‘จือหลิง’แล้วเธอไม่สามารถที่จะบ่ายเบี่ยงหรือหลบหลีกได้ด้วยพื้นที่ที่มีจำกัดเธอได้ถูกลวนลามโดย’ชูเฟิง’และท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้และก็ตกอยู่ในกำมือของ’ชูเฟิง’ในที่สุด
“ชูเฟิงเจ้าปล่อยนางเดี้ยวนี้ไม่เช่นนั้นแล้วล่ะก็หากข้ามีชีวิตรอดออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้เจ้าจะต้องไม่ตายดีแน่และข้าให้สัญญาได้เลยว่าเจ้าจะต้องเสียใจไปกับมันที่กล้ามาท้าทายข้าเช่นนี้!”
ในทันที ‘หลิว จือซุย’ได้กัดฟันของเขาและพูดออกมาด้วยความโกรธหูของเขานั้นยังได้ปล่อยควันออกมา แม้แต่ดวงตาของเขายังกลายเป็นแดงกล่ำเขาได้ถูกจุดฉนวนความโกรธแล้วโดย’ชูเฟิง’แล้วมันยังเป็นความโกรธที่ไม่ได้ดูถ้าว่าจะน้อยด้วย
“หุบปาก! ถ้าขืนเจ้ายังกล้าแหกปากและปล่อยลมเหม็น ๆออกมาอีกล่ะก็ข้าจะตัดลิ้นเจ้า”
แต่เพียงแค่ในเวลานั้นสัตว์ยักษ์แดนสวรรค์วิญญาณที่ไม่ชอบขี้หน้า ‘หลิว จือซุน’ ก็ได้เปิดปากข่มขู่ของมันออกมามันเดินไปทางของ ‘หลิว จือซุน’ และเตะเข้าไปที่ชายโครงของเขาพร้อมเหยียบฝ่าเท้าของมันลงไปที่หัวของ ‘หลิว จือซุน’ จนใบหน้าของเขานั้นได้กระแทกเข้ากับพื้นดินหน้าผากของเขานั้นได้เกิดรอยแผลและปากของเขาก็ยังแตก
ลักษณะโดยรวมแล้วเรียกได้ว่าอนาถเหลือใจและในขณะที่ทุกคนได้เห็นภาพเหล่านั้นพวกเขาก็ได้ปิดปากของพวกเขาสนิทและไม่กล้าที่จะเปิดปากพูดคุยข่มขู่’ชูเฟิง’อีกต่อไป พวกเขาสามารถทำได้แค่ดู’ชูเฟิง’กำลังลูบคล่ำไปตามร่างกายของ ‘จือหลิง’ และเอาเปรียบเธออยู่เพียงแค่นั้น
หลังจากนั้นไม่นานนักก็ได้มีคลกลุ่มที่สองเพิ่มเข้ามาในใจกลางของพระราชวังเพิ่มจากอีกด้านหนึ่ง ด้วยการจับตามองฝ่ายตรงข้าม’ชูเฟิง’ก็อดไม่ได้ที่จะต้องรู้สึกตกใจเพราะคนในกลุ่มนั้นได้มีรูปร่างที่คุ้นเคยอยู่ด้วยกันหลายคนภายในกลุ่มนั้นมีทั้ง กู่ โบ๋, ซู ซ่งหยู่ และคนอื่น ๆจากนิกายโลกวิญญาณ และนอกจากนี้ก็ยังมีคนของตระกูลเจี่ย เจี่ย ฉิงหมิง อีกด้วย
ซึ่งแท้จริงแล้วพวกเขานั้นถูกจับมาก่อนหน้าที่กลุ่มของ’ชูเฟิง’จะถูกจับมายังสถานที่แห่งนี้อยู่ก่อนแล้ว
“ชูเฟิงแม้แต่พวกเจ้าทั้งหมดก็….”
หลังจากที่ได้เห็น’ชูเฟิง’และคนอื่น ๆ ใบหน้า ‘กู โบ๋’ และคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและตกใจเพราะนั้นหมายความสถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้นั้นกล่าวได้ว่าไม่ดีเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้น ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ และคนอื่น ๆ ก็เป็นเหมือนกับ’ชูเฟิง’พวกเขาได้ถูกผลักลงไปยังศูนย์กลางห้องโถงของพระราชวังและพวกเขาก็ได้นั่งอยู่ในลักษณะเป็นวงกลมในทันทีราชาคางคกก็ได้ลุกขึ้นและก้าวเดินออกมาอย่างเอื่อยเฉื่อยและมาถึงในด้านหน้าของ’ชูเฟิง’และคนอื่น ๆ
ในทันทีใบหน้าที่หน้าเกลียดของราชาคางคกก็ได้เผยร้อยยิ้มออกมาพร้อมกล่าว
“ เจ้ามนุษย์ไร้อย่างอายทุกคน ณ ตอนนี้ก็ได้ถึงเวลา…เล่นเกมที่น่าสนใจกันแล้ว”
#################################################################################################
เอาละในช่วงท้ายก็มาพบกับเราเหล่าพี่น้อง 3 หัวดอที่จะมาเผาชูเฟิงไปพร้อมกลับคุณ
1 : เป็นใงล่ะ จือหลิง เจอฝ่ามือลูบคล่ำเข้าไปถึงกับต่อต้านไม่ได้เลยเชียว ฮ่า นายคิดว่านางจะแฉะไหม 2
2 : เราก็ไม่รู้เหมือนกัน 1 แต่ดูจากทรงแล้วก็คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ยว่าชูเฟิงจะฝึกทักษะในตำนานด้วย
1 : ทักษะในตำนาน??
2 : ใช่ทักษะนี้มันร้ายกาจมากไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหนก็ตามของแค่ได้โดนเข้าไปเท่านั้นแหละถึงกลับแพ้จนยืนไม่ได้
เลยครับ
1 : มันคืออะไรอย่างนั้นรึท่าน 2 ???
2 : มันก็คือฝ่ามือขวาขยี้หัวฝ่ามือซ้ายขยี้แต…นั้นเองบอกเลยขอแค่ได้โดนมีล้มแน่นอนครับผม ถ้าท่านไม่เชื่อระก็ลองไป
ทำกับเมียท่านที่บ้านดูครับเวลาตอนเมียกำลังโมโหยังเงี้ยเจอทักษะนี้เข้าไปรับลองล้มเลยครับ
3 : เมียล้ม!!
2 : ป่าวครับกูล้มเอง เมียมันบอกชินแล้วโดนมาบ่อย!!
3 : เอ้าไอ้สัสและเอามาบอกเพื่อ หลังให้ดีใจนี่หว่า
1 : แหม่อย่างพึ่งใจร้อนไป 3 เขาก็บอกอยู่ว่าเมียที่ชินแล้วมันจะได้ผลอยาก แต่ถ้าเมียที่พึ่งได้มาใหม่ๆสดๆร้อนๆ นี่ลองดู
ได้เลยรับลองล้ม พี่เฟิงเรารับประกันมาแล้ว
2 : ใช่ไม่ว่าจะเป็น ซูรู่ หรือ หยวนหรู่ ต้องก็โดนทักษะนี้กันมาแล้วทั้งนั้นแรกๆต่อต้านพอน้ำเดินเท่านั้นแหละเคลิ้มเลย
จริงๆไม่เชื่อลอง!!
3 : เห้อพวกมึงนี่จริงๆ
#################################################################################################
…..####เอาล่ะก็ขอจบสาระเร้าใจ : นายกระทิข้น ไว้เท่านี้ก่อนนะครับขอบคุณครับสำหรับผู้อ่านทุกท่าน####…..
ที่มา: