ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปด้วยมังกรทะยานผ่านก้าวสวรรค์ทำให้ ‘ชูเฟิง’เดินทางได้อย่างรวดเร็ว แต่หลังจากที่บินมาได้ 2 ชั่วยาม ยาต้องห้ามก็เริ่มส่งผลออกมาอย่างฉับพลัน ทำให้ร่างกายของเขาเหมือนจะกระชากออกจากกัน
ในสถานการณ์นั้น ‘ชูเฟิง’ ไม่รอช้า เขาจึงจำเป็นต้องเลือกสถานที่ปลอดภัยบริเวณที่ใกล้ที่สุด เขาเลือกที่จะซ่อนตัวอยู่ภายในซอกเขาลูกไม่ใหญ่นัก
ดั่งที่มีคำกล่าวว่า “ สถานที่อันตรายที่สุดคือที่ปลอดภัยที่สุด “ ซึ่งประโยคนี้เป็นเช่นนั้นจริงๆ
รอบหุบเขาลูกนี้สภาพมันไม่เหมือนพื้นที่ทั่วๆไป มันอาจไม่ใช่พื้นที่ที่ดีที่สุดในการซ่อนตัว แต่ด้วยเหตุนั้น มันอาจจะทำให้ผู้คนที่ออกตามหาเขาไม่สงสัย ‘ชูเฟิง’จึงรู้สึกว่ามันเหมาะที่จะซ่อนตัวยิ่งนัก
*** บูม บูม บูม ***
หลังจากที่ ‘ชูเฟิง’ เหวี่ยงขวานอสูรฟ้าทำลายปากทาง หินบนภูเขาก็ถล่มลงมา
หลังจากที่เขาปิดปากเขา ‘ชูเฟิง’ก็วางอำนาจวิญญาณตรวจสอบสิ่งผิดปกติไว้ภายนอก หลังจากนั้นก็วางรูปแบบฯปิดซ้อนปากถ้ำเอาไว้อีกที ทั้งหมดนี้ก็เพื่อทำให้เขาซ่อนอยู่ภายในนั้นได้อย่างปลอดภัย
” อ้า~~~~~~~~ “
ทันใดนั้นการตอบสนองฤทธิ์ยาต้องห้ามก็เริ่มส่งผลรุนแรง แม้เขาจะใช้ยาระงับที่ได้จาก รองประมุขเกา ‘ชูเฟิง’ก็ยังต้องอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างยากลำบาก
เขารู้สึกเหมือนว่ามดนับล้านเจาะเข้าไปในร่างกาย ไม่ว่าตามเนื้อตัว ผิวหนัง หรือแม้แต่อวัยวะภายใน มันเหมือนกับว่าร่างกายเขาจะฉีกออกมาให้ได้ ซึ่งมันเป็นความทรมานที่หาใดเปรียบ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเจ็บปวดทรมานที่เหมือนมดลุมกัดกินก็ค่อยๆบรรเทาลง หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็รุ้สึกถึงความร้อนที่แผดเผา ดั่งตกลงไปในเตาหลอม ซึ่งเขาต้องอดทนต่อความทรมานนั้นอย่างมหาศาล หากจะพูดให้ถูกต้องบอกว่ามันมีเตาความร้อนฝังอยู่ภายในร่างของ’ชูเฟิง’
เขาต้องทรมานจากความร้อนดั่งเปลวเพลิงดั่งของดวงอาทิตย์ที่แสนน่ากลัว ‘ชูเฟิง’ตอนนั้นได้แต่ดิ้นทุรนทุรายฉีกเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ ออกเป็นชิ้นๆ ขณะที่กลิ้งไปมาอยู่ภายในถ้ำ เหมือนกับว่าเขาทนต่อความร้อนนี้ไม่ไหว
ในที่สุด ความร้อนก็จางหายไป แต่สิ่งที่’ชูเฟิง’ยังต้องเผชิญจากฤทธิ์ยาต้องห้ามยังคงไม่จบเพียงเท่านั้น มันยังมีความหนาวเย็นที่แทรกเข้าไปถึงกระดูก จนเขาหนาวสั่นดั่งกับไปยืนอยู่กลางพายุหิมะ
แต่เหงื่อของ ‘ชูเฟิง’ ยังคงหลั่งไหลออกมาไม่หยุด ในบางครั้งเขารู้สึกเหมือนร่างกายเขาจะสูญสลาย ในบางครั้งเขาทนไม่ไหวจนต้องทุบอกของตัวเอง หรือบางครั้งก็กระทึบเท้าขณะที่เกือกกลิ้งเหมือนจะตายให้ได้
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ ‘ชูเฟิง’ ตะโกนออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวดที่เขาได้รับ หลังจากนั้น ไม่นาน ‘ชูเฟิง’ ก็หมดแรงที่เขาจะส่งเสียง โดยที่ทิ้งกายแผ่กับพื้นขณะที่ร่างกายกระตุก กระตุก
ต้องบอกว่าผลของยาต้องห้ามนั้นมันทรมานสุดๆจริงๆ ผู้ที่ใช้ไม่มีใครเรียกหนีจากความเจ็บปวดนี้ได้ จนทำให้เขาได้ประสบการณ์ที่เจ็บปวดไปทั้งร่างกายและจิตใจ แบบที่ไม่อยากสัมผัสมันอีกครั้ง
นี้คือราคาที่ต้องจ่าย เมื่อต้องการใช้พลังอำนาจที่ไม่ใช่ของตัวเอง มันช่างเป็นราคาที่โหดร้ายสำหรับการใช้ยาต้องห้าม ซึ่งความเจ็บปวดทรมานในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเคยได้สัมผัสมันมาก่อน
แต่ ‘ชูเฟิง’ไม่เสียใจที่เขาเลือก อีกทั้งเขายังได้รับยาแก่นแท้วิญญาณถึง ล้านห้าหมื่นเม็ด
ด้วยจำนวนลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณ ล้านห้าหมื่นเม็ด มันอาจทำให้เขาก้าวไปถึงระดับ 7 แก่นแท้วิญญาณ ซึ่งเป็นหนทางที่เขาใกล้ได้สัมผัส และนั้นยังหมายความว่าเขาใกล้จะสำเร็จเป้าหมายในการช่วยสองสาว ‘ซูรู่’และ’ซูเหม่ย’ ซึ่งนี้มันนับว่าคุ้มค่าอย่างมากกับความเจ็บปวดครั้งนี้ หรือต่อให้เขาทรมานมากกว่านี้มันก็นับว่าคุ้ม
ต้องบอกว่า การที่ จื่อ ซวนหยวน กันเขาจาก เจี่ย ชิงเผิง ครั้งนี้ นั้นทำให้ ‘ชูเฟิง’ ปลอดภัยในชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม การที่’ชูเฟิง’ต้องมาทรมานด้วยฤทธิ์ยาต้องห้ามอยู่ภายในถ้ำของภูเขาที่ไม่รู้จัก แต่สำหรับความเจ็บปวดทรมานนี้ก็เทียบไม่ได้กับพวกเขาที่ต้องเสีย ลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณถึงล้านห้าหมื่นเม็ดให้กับ ‘ชูเฟิง’ฟรีๆ แล้วมีหรือว่าพวกนั้นมันจะไม่เคลื่อนไหว
สำนัก หยวนกัง, สำนัก เทพอัคคี, นิกายไป๋, ที่ราบหุบเขาไร้ใจ, หุบเขาเทพกระบี่ และตระกูล เจี่ย หกมหาอำนาจ ได้ติดป้ายประกาศจับพร้อมกับตั้งรางวัลเต็มไปทั่วทุกพื้นที่ของ 9 อาณาจักร
สำหรับเหตุผลที่พวกเขาได้ออกป้ายประกาศจับ นั้นเป็นเรื่องที่เหลวไหลสิ้นดี ซึ่งเขาบอกว่า เจ้าแห่งยุทธภัณฑ์ อย่างขวานอสูรฟ้า ที่แสนจะทรงอนุภาพ นั้นทุกชิงไปโดย’ชูเฟิง’ เนื่องจากเขานั้นได้วางยาผู้เชี่ยวชาญของเหล่ามหาอำนาจ จนทำให้พวกเขาเสียหายย่อยยับ
พวกเขาบอกกันว่า ‘ชูเฟิง’แม้จะเป็นเด็กแต่เขาก็นับเป็นเนื้อร้ายที่ต้องถูกกำจัด ไม่งั้นจะมีภัยพิบัติตามมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เรื่องไร้สาระนี้นิกายโลกวิญญาณไม่ได้ออกมาพูดอะไรตอบโต้ เพราะพวกเขาทั้งหมดได้ช่วย ‘ชูเฟิง’ ให้หนีไปได้
ซึ่งเรื่องนี้ สำนัก หยวนกัง และมหาอำนาจอื่นๆต่างรู้ดีอยู่แก่อก มันจึงทำให้พวกเขาเกลียดนิกายโลกวิญญาณเข้าไส้ ถึงขนาดมีบางคนอยากจะโจมตีนิกายโลกวิญญาณ เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ นิกายโลกวิญญาณจึงทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องของ’ชูเฟิง’ไม่ได้เลย หากเขาเคลื่อนไหวใดๆนั้นเท่ากับเป็นการทำลายตัวเอง
นครอันทรงเกียรติก็ไม่ได้ออกความเห็นเรื่องนี้ จึงได้แต่ทำตัวเงียบๆและยอมรับเรื่องที่ ‘ชูเฟิง’ โจรลูกแก้วแก่นแท้วิญญาณ ล้านห้าหมื่นเม็ดไปแต่โดยดี ส่วนเหตุผลนั้นไม่ต้องสงสัยว่ามันเกี่ยวข้องกับ ‘จื่อ ซวนหยวน’
ต้องบอกว่าที ที่ประกาศจับถูกเผยแผ่ งานชุมนุมการแต่งงานทั้งหมดก็เริ่มร้อนแรง วีรกรรมของ ‘ชูเฟิง’ หรือชื่อเสียงที่เขาสร้างไว้โดยทิ้งความประทับใจไว้กับใครหลายคน ซึ่งมองว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่น
ซึ่งพวกเขาคงนึกไม่ถึงว่า ‘ชูเฟิง’ จะเป็นคนแบบนั้น มันทำให้ใครหลายคนที่มีความประทับใจต่อ ‘ชูเฟิง’ นั้นพังทลาย
โดยเฉพาะหกมหาอำนาจ ที่ยัดเหยียดความน่ารังเกียจ ไร้ยางอาย ชัวร้าย ไปให้ ‘ชูเฟิง’ นั้นทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนเกลียดขี้หน้าเขาอย่างมาก
ผ่านไปสิบวันหลังจากที่’ชูเฟิง’หลบหนีออกจากนครอันทรงเกียรติ ทุกคนที่เข้าร่วมชุมนุมการแต่งงานได้ไปรวมกันที่ยอดเขา
จะก๊อปก็กรุณาให้เกียรติตัวเองนิดหนึ่งนะคับ
เหตุผลนั้นก็เป็นเพราะ’จื่อหลิง’ ที่เก็บตัวเป็นเวลานาน ในวันนี้จะเป็นวันที่นางจะประกาศชื่อคนที่นางรัก
“ ข้าล่ะสงสัยจุง ว่าแม่นางจื่อหลิงจะเลือกใคร “
“ น่าจะเป็น เจี่ย ฉิงหมิง ? หากไม่ใช่ เจี่ย ฉิงหมิง ก็น่าจะเป็น สู่ จงหยู๋ เพราะทั้งสองคนนี้เป็น บุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดาผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมการแต่งงาน ดังนั้นพวกเขาแหละที่เหมาะสมกับเทพธิดา จื่อหลิง “
“ ก็เป็นไปได้ ถ้าไม่ใช่เจี่ย ฉิงหมิง กับ สู่ จงหยู่ แล้วจะมีใครในนครอันทรงเกียรติที่เหนือไปกว่าพวกเขา ? “
“ พวกเขาคนใดคนหนึ่งหากได้แต่งงานกับจื่อหลิง นั้นจะทำให้มหาอำนาจฝ่ายนั้นเป็นดองกัน นี้ก็นับว่าเป็นวิธีที่ฉลาดไม่เลว แต่นั้นต้องเป็นกรณีที่แม่นางจื่อหลิง เลือกสองคนนี้ ? “
“ ผลของการแต่งงานนี้ไม่มีใครรู้ เนื่องจากพวกเขานั้นได้ถูกกำหนดโดยกฎ นอกจากนี้แม่นางจื่อหลิง ได้แยกตัวออกจากงานครั้งนี้ เพราะว่านางได้เลือกคนที่นางรักไว้ภายในใจแล้ว “
“ ไม่ว่าคนที่นางเลือกจะเป็นใคร ข้าเชื่อว่า ในบรรดาผู้คนที่เข้าร่วมชุมนุมในงานนี้ไม่มีใครที่จะปฏิเสธนาง “
ในยามนั้น บนยอดเขาสูงสุดเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย พวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่คาดเดาเรื่องของ’จื่อหลิง’ และหลายคนรู้สึกว่าคนที่’จื่อหลิง’จะเลือก มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็น ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ หรือ ‘สู่ จงหยู๋’ ที่พอจะเป็นไปได้มากที่สุด แต่บางคนก็ออกความคิดเห็นตรงกันข้าม จึงเกิดการโต้เถียง
“ หืม!!! นอกจากคนรุ่นเยาว์อย่าง เจี่ย ฉิงหมิง และ สู่ จงหยู๋ แล้วจะไม่มีใครอีกหรือไง ที่มีความสามารถเหนือพวกเขาที่อยู่ใน 9 อาณาจักร ? “
ภายในฝูงชนโดยรอบ จู่ๆ ‘ถัง ยี่ซิ้ว’ ก็พูดขึ้นมา และในตอนนั้นใบหน้าของ ‘ไป๋ หยวนเฟย’ ‘หลิว เสียวเหยา’ และ ‘ส้ง ฉิงเฟิง’ ที่อยู่ข้างเขา ก็มีท่าทีที่ไม่ค่อยพอใจ
สำหรับคนที่ได้รับจดหมายเชิญอย่างพวกเขา กับถูกมองข้าม สมควรแล้วทีทำให้พวกเขาขมขื่น ที่ทุกๆคนเอาแต่ให้ความสนใจไปที่ ‘เจี่ย ฉิงหมิง’ และ ‘สู่ จงหยู่’
แปลโดยคุณ@
: คนเกลียดพี่เฟิง โดยไม่สนใจความเป็นจริงสมควรถูกฆ่ายิ่งนัก โดยเฉพาะไอ้ 3
: ไอ้นั้นตัวดีเลย!!! แม่งน่าโดนชูเฟิงเก็บที่สุด หากมันหลุดไปอยู่ในนิยายมันคงหายไปเป็นคนแรก
: แต่จะว่าก็ว่าเถอะ หกมหาอำนาจแม่งเหี้ยได้ใจ รอชูเฟิงฟื้นจากความตายแล้วบ่มเพาะ ลูกแก้วล้านเม็ดนี้เสร็จก่อน
: สังสัยจังน้า ว่ามหาอำนาจฝ่ายไหน จะโดนเก็บเป็นที่แรก แล้วอีกเรื่องที่อยากรู้ คือ จื่อหลิง จะเลือกใคร ???
: อย่าแกล้งโง่ ไอฟายยย!!! แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็น เนี่ยหลี่!!!
: หลี่ แม่!!!
ที่มา: