I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 415 – ขอทานชรา

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

แต่นั่นไม่ใช่ส่วนสำคัญ ส่วนสำคัญคือ ‘ชูเฟิง’ สามารถสังหารคนของหกมหาอำนาจ และสามารถแย่งชิงสมบัติมาได้อีกเล็กน้อย อีกทั้งเขายังมีส่วนร่วมในการค้าขายใต้ดินของอาณาจักรฉิน

สถานที่ในการค้าขายใต้ดินนั้น มีขนาดกว้างขวางใหญ่โตมาก เหล่าผู้เชี่ยวชาญจากหลายๆ แห่งมารวมตัวกันที่นี่ สินค้ามากมายมาจากมุมมือของทั่วทั้งทวีป บางอย่างเป็นสมบัติที่ไม่อาจหาค่าประเมินได้ สินค้าของที่นี่จึงมีชื่อเรียกว่า “สินค้ามืด”

ภายในตลาดใต้ดินนั้น ‘ชูเฟิง’ ได้นำแบบจำลองเกราะหนามที่สร้างโดย ‘เจี่ย หยาน’ เละมอบให้กับ ‘ซ่ง ฉิงเฟิง’ และคนอื่นๆ มันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นลูกแก้ววิญญาณกว่าห้าหมื่นเม็ด เห็นได้ชัดว่า แม้จะเป็นเพียงแบบจำลองก็ยังคงเป็นสิ่งที่ได้ยากยิ่ง ตระกูลเจี่ยพยายามใช้สิ่งของเหล่านี้

เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับอีกสี่มหาอำนาจ เพื่อมเสริมฐานอำนานให้แก่ตนเอง และในปัจจุบัน หุบเขากระบี่ก็ยังคงร่วมอยู่กับตระกูลเจี่ย จึงมีมหาอำนาจทั้งห้าที่คอยหนุนหลังตระกูลเจี่ยอยู่

อย่างไรก็ตาม ‘ชูเฟิง’ ไม่ได้สนใจตระกูลเจี่ยแม้แต่น้อย เขาสนใจเพียงแบบจำลองเกราะหนามที่สามารถทำกำไรให้เขาได้ เมื่อรวมกับลูกแก้ววิญยาณที่เขาชิงมาจาก ‘ซ่ง ฉิงเฟิง’ และคนอื่นๆ นั้น จึงทำให้ตอนนี้ ‘ชูเฟิง’ มีพลังวิญญาณอยู่ในระดับหก ขั้นแก่นวิญญาณ

หลังจากใช้ลูกแก้ววิญญาณกว่าล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นเม็ด ‘ชูเฟิง’ จึงสามารถเข้าสู่ระดับหก ขั้นแดนสวรรค์ได้ และในเวลานั้น ที่จุดตันเถียนของเขาก็เหมือนกับหลุมลึก เพื่อรอ ‘ชูเฟิง’ นำทรัพยากรมาเติมเต็มมันอีกครั้ง

‘ชูเฟิง’ รู้สึกว่า เขาจะต้องใช้ลูกแก้ววิญญาณอีกหลายล้านเม็ด ในการก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ด ขั้นแก่นวิญญาณ ในวันนั้น ‘ชูเฟิง’ ได้ฆ่าเหล่าลูกศิษย์ของสำนักหยวนกัง และนำศพของพวกเขาแขวนไว้บนต้นไม้ อีกทั้งยังสลักตัวหนังสือไว้สรีพยางค์ว่า “ฆ่า โดย ชูเฟิง”

จากนั้นเขาก็เอาพรางตัวด้วยการสวมหมวกทีรงกรวย และมุ่งหน้าเข้าสู่โรงเตี๊ยมเพื่อพักผ่อน แม้ว่า ‘ชูเฟิง’ จะถูกหมายหัวโดยหกมหาอำนาจ จนทำให้เขากลายเป็นผู้ต้องหา แต่เขาก็ไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด เมื่อเขาพบคนจากหกมหาอำนาจ ที่มีความแกร่งน้อยกว่าตัวเขาเอง เขาจะเข้าไปสังหารบุคคลเหล่านั้นทันที

และเมื่อเขาเจอกับบุคคลที่แข็งแกร่งกว่าเขา เขาจะใช้ทักษะมังกรทะยานเก้าสวรรค์ เพื่อหลีกหนีพวกเขาทันที ด้วยวิธีการเหล่านี้ ‘ชูเฟิง’ จึงยังไม่พบกับคนของหกมหาอำนาจคนใด ที่สามรถสร้างปัญหาให้กับเขาได้

“อะไรนะ !! เจ้าบอกว่าลูกศิษย์ และผู้อาวุโสของสำนักหยวนกังถูกสังหาร อีกทั้งสาขาย่อยของสำนักยังถูกทำอย่างราบคาบโดยเขารึ”

“ใช่ !! ข้ายังได้ยินมาอีกว่า ชูเฟิง แข็งแกร่งราวกับปิศาจ หกมหาอำนาจช่างโชคร้ายยิ่งนัก ที่ไปทำให้เขาโกรธแค้นเช่นนั้น”

“อ่า…..ถ้าหกมหาอำนาจไม่สามารถหยุดเขาได้ และเขายังพัฒนาต่อไปเช่นนี้ในอนาคต เขาจะดั่งกับผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าคนที่สอง”

“เรื่องนั้น….ข้าได้ยินมาว่า ชูเฟิง ก็มาจากอาณาจักรมังกรฟ้า เช่นเดียวกับผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า……..ทำไมอาณาจักรมังกรฟ้าถึงได้มีปิศาจที่แข็งแกร่งเช่นนี้”

“ถูกต้อง !! อาณาจักรมังกรฟ้าไม่เคยเป็นที่กล่าวขานถึงมานานแล้ว ในหลายร้อยปีที่ผ่านมาก็ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์ปรากฏ แต่ในต้อนนี้กลับมีปิศาจเช่น ชูเฟิง ปรากฏออกมาได้”

“ไม่ใช่แค่เพียง ชูเฟิง เท่านั้น ก่อนหน้านี้ก็มี ชาง เทียนยี่ เมื่อนานมาแล้ว ชาง เทียนยี่ สามารถเอาชนะทั้ง ซ่ง ฉิงเฟิง , หลิว เสี่ยวเหยา , ไป่ หยุนเฟย และ ถัง ยี่สุ่ยได้”

“ไม่ๆ !! จากที่ข้าห็น ชูเฟิง แข็งแกร่งกว่า ชาง เทียนยี่ มาก ถึงแม้ ชาง เทียนยี่ จะสามารถเอาชนะพวกเขาได้ แต่ในตอนนั้น เขามีระดับพลังเทียบเท่ากับ ซ่ง ฉิงเฟิง และคนอื่นๆ อีกทั้งอายุของพวกเขานั้นยังใกล้เคียงกันอีก”

“แต่ ชูเฟิง นั้นแตกต่างออกไป เขามีพลังแค่ระดับเจ็ด ขั้นแก่นวิญญาณเท่านั้น แต่กลับสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญระดับหนึ่ง ขั้นแดนสวรรค์ได้ อีกทั้งอายุของเขายังน้อยกว่ามาก เขามีพลังต่อสู้ที่เกินจากสามัญสำนึกของคนทั่วๆไป”

“มันไม่สำคัญว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน แต่ที่สำคัญคือพวกเขาทั้งสองคนมาจากอาณาจักรมังกรฟ้า อาจกล่าวได้ว่าอาณาจักรมังกรฟ้ามักจะทำให้ผู้คนต้องประหลาดใจ จากการเงียบหายเป็นเวลานานนั้น อาณาจักรมังกรฟ้าได้ให้กำเนิดปิศาจสองตนออกมา และชะตากรรมของพวกเขาจะต้องทำใฟ้แผ่นทั้งเก้าอาณาจักรตั้งสั่นสะเทือน”

ภายในโรงเตี๊ยมแห่งนั้น ผู้คนที่กำลังกินอาหารอยู่ พวกเขาก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องราวของ ‘ชูเฟิง’ อย่างออกรสออกชาติ ‘ชูเฟิง’ ที่นั่งอยู่ภายในโรงเตี๊ยมแห่งนั้น กำลังดื่มเหล้า และกินอาหารอย่าเพลิดเพลิน เขาได้รับฟังเรื่องราวของตัวเอง และฟังการคาดเดาระดับพลังของตัวเขาอย่างสนอกสนใจ

ในความเป็นจริงนั้น บรรยากาศรอบตัวของ ‘ชูเฟิง’ ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ภายใต้ฝูงชนจำนวนมากนั้น เรื่องที่เหล่าผู้คนกล่าวถึงมากที่สุด คือเนื่องราวของตัวเขาเอง

“อืม….ชูเฟิง ใกล้จะถึงจุดจบของชีวิตแล้ว”

ในขณะนั้น ได้มีชายร่างสูงใหญ่ เดินเข้ามาภายในโรงเตี๊ยม และในขณะที่เขากล่าว เขาเอาใบประกาศตบลงบนโต๊ะ

“ทำไมรึ พี่ชาย หรือว่าหกมหาอำนาจได้มีคำสั่งอะไรออกมา”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้คนพากันกล่าวถามออกมาอย่างตื่นเต้น

“หกมหาอำนาจได้ออกประกาศใหม่มาแล้ว !! ทุกคนมาดูนี่”

ชายร่างสูงใหญ่กล่าวพร้อมกับชี้ไปที่ใบประกาศบนโต๊ะ

“สวรรค์……นี่มัน !!”

เมื่อเหล่าผู้คนที่อยากรู้อยากเห็นเดินเข้าไปดูใบประกาศนั้น พวกต่างจมไปกับความตกตะลึง เพราะมันไม่ใช่ประกาศจับอีกต่อไป แต่มันคือประกาศสังหาร

“นี่มันผู้เฒ่าร้อยหน้า เขาคือหนึ่งในยอดนักฆ่า……นี่เขาออกมาเพื่อจัดการกับ ชูเฟิง เลยเชียวรึ”

“ชูเฟิง ดวงกุดแล้ว ผู้เฒ่าร้อยหน้าแข็งแกร่งมาก ข้าไม่เคยได้ยินเลยว่า จะมีใครรอดมาได้หลังจากที่ถูกผู้เฒ่าร้อยหน้าหมายหัว”

พวกเขากล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัว

“ถูกต้อง !! ใบประกาศนี้ไม่ได้ออกโดยหกมหาอำนาจ แต่เป็นใบประกาศจากผู้เฒ่าร้อยหน้า ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานจะมีข่าวว่า ชูเฟิง ถูกสังหารโดยผู้เฒ่าร้อยหน้าอย่างแน่นอน”

ชายร่างสูงใหญ่กล่าวอย่างมั่นใจ

“ผู้เฒ่าร้อยหน้า !!”

เมื่อได้ยินการสนทนาของผู้คนรอบข้าง ‘ชูเฟิง’ ยิ้มบางออกมา แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไรนัก เพราะนอกจาก ‘เจี่ย ชิงเผิง’ แล้วนั้น ก็ไม่มีใครที่สามารถจับเขาได้อีก แม้แต่ผู้นำของห้ามหาอำนาจก็ตาม

ดังนั้นจึงไม่ต้องกล่าวถึงนักฆ่าอย่าง ผู้เฒ่าร้อยหน้า แม้แต่น้อย

“ชิ้ว !! ชิ้ว !! ชิ้ว !! ไปให้พ้น !! เจ้ากำลังทำให้หน้าโรงเตี๊ยมของข้าต้องสกปรก”

“นายท่าน จะเป็นพระคุณอย่างมาก หากท่านให้อาหารแก่ข้า …..ข้าไม่ได้กินอะไรมมาสามวันแล้ว ได้โปรด…..”

ในเวลานั้น ที่ทางเข้าของโรงเตี๊ยม มีเสียงจะโกนโหวกเหวกดังขึ้น ในขณะนั้น ‘เสี่ยวเอ้อ’กำลังชี้ไปที่ขอทานชราผู้หนึ่ง ซึ่งกายเต็มไปด้วยแผลมากมาย ‘เสี่ยวเอ้อ’ตะโกนขับไล่ด้วยเสียงดัง

แต่ขอทานชราก็ยังไม่ไปไหน เขายังคงอ้อนวอนพร้อมกับโขกศรีษะของเขาลงพื้นอย่างรุนแรง ด้วยอำนาจพลังวิญญาณของ ‘ชูเฟิง’ นั้น เขาตรวจสอบขอทานชราอย่างรวดเร็ว และพบว่าขอทานชราไม่มีร่องรอยของพลังวิญญาณแม้แต่น้อย เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่เคยบ่มเพาะพลังวิญญาณมาก่อน และท้องของเขาก็ว่างเปล่า หากเขายังไม่ได้กินอะไร เขาจะตายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments