I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 450 – รูปแบบฯเทพกระบี่

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

แม้ว่า ‘ชูเฟิง’ จะอยู่แค่ในอาณาจักรแก่นแท้ระดับ 6 แต่ ต้านต้านนางอยู่ในอาณาจักรแก่นแท้ระดับ 9 ดังนั้นหากเขายืมพลังของ’ต้านต้าน’และใช้พลังอำนาจของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ออร่าของเขาจะเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ระดับ 1

ความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิม แล้วนอกเหนือจากนี้ยังมีขวานอสูรฟ้า จ้าวแห่งยุทธภัณฑ์ที่สามารถเลือกผู้ใช้ของมัน มันจึงทำให้พลังต่อสู้ของเขาเหนือขีดความสามารถ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรสวรรค์ระดับ 4 ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้ในเวลานี้

” อ่า ~~~~~ “

ตามพื้นตามถนนไม่ว่าจะเป็นสาวกหรืออาวุโสหรือแม้กระทั้งผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ ก็ไม่สามารถหนีพ้นเงื่อมือของ’ชูเฟิง’ไปได้ บัดนี้เขาเป็นดั่งเทพสังหารลงมาจุติ ภายในหุบเขาเทพกระบี่เต็มไปด้วยเลือดของผู้คนที่เขาปลิดชีวิต

ในตอนนั้นความพิโรธของ’ชูเฟิง’พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เขาเห็นกระดูกของบรรพชนในครอบครัวของเขาถูกแขวนไว้บนบ่อขี้มันยิ่งทำให้ไฟโกรธของเขาปะทุขึ้น

แต่เป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว ตอนนั้นเขาจึงหยุดมือแล้ววิ่งตรงไปยังใจกลางของหุบเขาเทพกระบี่ สิ่งที่เขาคือต้องนำกระดูกบรรพชนลงมา ไม่งั้นเขาจะสู้แบบมีห่วง

” บัดซบ. . . . ไอเจ้านี่มันไวเป็นบ้าเลย!!! “

เมื่อเห็น’ชูเฟิง’ไปถึงใจกลางของหุบเขาเทพกระบี่ได้ในชั่วพริบตา การแสดงออกของประมุขหุบเขาเทพกระบี่ที่สู้กับ’จื่อหลิง’ ก็มีท่าทีเปลี่ยนไป เขารีบหันหน้าไปทางอื่นเพื่อต้องการไปหยุด ‘ชูเฟิง’ เอาไว้

หลังจากที่’ชูเฟิง’และอื่นๆทำเป้าหมายสำเร็จ โดยที่’ชูเฟิง’สามารถนำกระดูกบรรพชนกลับมา พวกเขาก็คงใช้ความเร็วของราชรถในการหลบหนีไป และการสูญเสียครั้งนี้มันจะสาหัสยิ่งนัก

อีกอย่าง หากเขาไม่เข้าโจมตี ‘ชูเฟิง’ มันก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้เขาทำสำเร็จ เพราะภายในหุบเขาเทพกระบี่ แทบจะไม่มีใครสามารถเอาชนะ ‘ชูเฟิง’ได้

” เจ้ากำลังสู้กับข้าอยู่แล้วยังกล้าหันหน้าไปทางอื่นอีกหรอ แสดงว่าเจ้าอยากตายมากสินะ!!! “

ในตอนนั้น ‘จื่อหลิง’ที่ถูกปกคลุมไปด้วยออร่าสีม่วง ดั่งสัตว์ร้ายกระหายเหยื่อ พุ่งไปดักประมุขหุบเขาเทพกระบี่และเริ่มเข้าจู่โจมอย่างทันควัน

” มันเป็นไปได้ยังไง ? แม่นางคนนี้นางอยู่แค่อาณาจักรสวรรค์ระดับ 1 เหตุใดถึงมีพลังน่ากลัวถึงเพียงนี้ “

ตอนนั้น ประมุขหุบเขาเทพกระบี่ตกใจอย่างมาก ตาคู่นั้นของเขาสั่นระรัวจนแทบไม่อยากจะยอมรับ

มันเป็นเพราะเขารู้สึกว่าออร่าสีม่วงนั้นเต็มไปด้วยความคุกคามที่ร้ายแรง จนเขาไม่สามารถต้านทานแรงดันออร่าสีม่วงนั้นได้ หากเป็นแบบนี้ ‘จื่อหลิง’ คงจะต้องเอาชนะเขาได้แน่ๆ

” ท่านพ่อ!!! ช่วยข้าด้วย!!! “

ประมุขหุบเขาเทพกระบี่ ได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดภายในร่างกายออกมาแล้ว อีกทั้งยังใช้ทักษะที่ร้ายกาจของเขาทุกรูปแบบ และเมื่อเขาจัดการกับ’จื่อหลิง’ไม่ได้ เขาจึงได้แต่ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ

” เกิดอะไรขึ้นกับแม่นางน้อยคนนั้น เหตุใดนางถึงได้มีออร่าสีม่วง ? “

เห็นได้ชัดว่า ใบหน้าของประมุขรุ่นก่อนของหุบเขาเทพกระบี่เปลี่ยนไปอย่างมาก ก่อนที่เขาจะเข้าไปช่วยเหลือ เขาก็ต้องตกใจ ยิ่งกว่าเดิม

เมื่อเขาหันหัวกลับมา เขาก็พบว่าร่างของ ‘จาง เทียนยี่’ ปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีฟ้า นอกจากนี้ยังผิดกับกลิ่นอายของ’จาง เทียนยี่’ ไปอย่างมากซึ่งก่อนหน้านี้เขาสามารถสู้กันได้อย่างสูสี แต่ตอนนี้เขากับดูน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก

” เจ้าแก่ หากเจ้าไม่เปิดรูปแบบฯหุบเขาเทพกระบี่ อย่าโทษข้า หากจาง เทียนยี่คนนี้ลงมือฆ่าเจ้า “

‘จาง เทียนยี่’ ระเบิดเสียงตะโกนออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม เขาถือดาบไม้ศักดิ์สิทธิ์ไว้ในมือแล้วเริ่มโจมตีประมุขรุ่นก่อนอย่างดุดัน

ในตอนนั้น ‘จาง เทียนยี่’ กลายเป็นคนละคน เมื่อก่อนที่เขาแลกวรยุทธกับประมุขหุบเขาเทพกระบี่รุ่นก่อน อย่างมากที่สุดเขาก็แค่สูสี แต่ในตอนนี้เขาได้ครอบครองความได้เปรียบเอาไว้อย่างสมบูรณ์

” บัดซบ . . . . แกสามตัวร้ายนักนะ!!! พวกแกเป็นมนุษย์จริงๆหรอ หรือว่าพวกแกเป็นอสูรร้ายในร่างมนุษย์ “

ประมุขรุ่นก่อนได้แต่ขมวดคิ้วแน่น แต่เขาไม่กล้ามีร่องรอยแห่งความประมาทแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้เขาได้ยินมาเพียงว่า ‘ชูเฟิง’ มันเป็นปีศาจที่เหนือสามัญสำนึก แต่เขาไม่เคยนึกว่า ‘จื่อหลิง’ และ ‘จาง เทียนยี่’จะเป็นปีศาจด้วยเหมือนกัน พลังการต่อสู้ของพวกเขาเป็นสิ่งที่ทะลุตรรกะของมนุษย์ทั่วๆไป

” ดูนั้น! ! ! ท่านบรรพบุรษหุบเขาเทพกระบี่และประมุขตอนนี้ถูกกดดันโดย จาง เทียนยี่ และ จื่อหลิง !!! “

” สวรรค์ ข้าไม่อยากจะเชื่อ! ! ! ผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ระดับ 6 กับถูกกดดันโดยชายหนุ่มที่อยู่ในอาณาจักรสวรรค์ระดับ 3 ! ! ! “

” นำซ้ำผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ระดับ 5 กับถูกกดดันโดยผู้หญิงที่อยู่ในอาณาจักรสวรรค์ระดับ 1 เหตุใด จื่อหลิง และ จาง เทียนยี่ถึงได้แข็งแกร่งแบบนั้น “

” มันน่าประทับยิ่งนัก หากข้าไม่เห็นกับตาข้าคงไม่เชื่อ ว่าชูเฟิง จื่อหลิง และ จาง เทียนยี่ ทั้งสามคนนี้คือปีศาจขนานแท้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะกล้าบุกมาที่นี่ “

ขณะนั้นทุกคนกำลังตกใจกับการต่อสู้บนอากาศของ ‘จาง เทียนยี่’ และ ‘จื่อหลิง’ ที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ และกดดันสองผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ใคร มันเกินขอบเขตของจินตนาการของผู้คนทั่วๆไป ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ตะโกนส่งเสียงเชียร์กันอย่างเมามันส์

เพราะพวกเขารู้สึกว่าไม่เสียเที่ยวที่เดินทางไกลมายังที่แห่งนี้ ตามที่พวกเขาได้เห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือที่น่าเหลือเชื่อเกี่ยวกับ ‘ชูเฟิง’ หากพวกเขาไม่เห็นมันกับตา พวกเขาคงไม่มีวันได้สัมผัสถึงความตื่นเต้นแบบนี้ และคงจะไม่เชื่อ

ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจและยอมรับสักที เมื่อได้เห็นพลังอำนาจการต่อสู้ของ ‘ชูเฟิง’ นอกจากนี้ได้มีแค่’ชูเฟิง’คนเดียว ยังมี ‘จื่อหลิง’ ที่มีฝีมือร้ายกาจไม่ด้อยไปกว่าเขา มันทำให้พวกเขาตื่นเต้นจนเนื้อตัวสั่นสะท้าน และรู้สึกว่ามันเป็นการเดินทางไกลที่นับว่าคุ้มค่ายิ่งนัก

****  บูม บูม บูม บูม บูม ****

” อ้าาาา ~~~~~~ “

” ท่านประมุขท่านบรรพบุรุษ ช่วยพวกเราด้วย!!! “

ขณะเดียวกับที่ทุกคนกำลังสนใจการต่อสู้ในอากาศ เสียงร่ำร้องแห่งความเจ็บปวดและทรมารก็ดังระงมไปทั่วทั้งหุบเขาเทพกระบี่ พวกเขาที่ถูกไล่ฆ่าได้แต่ร้องโวยวายเสียงดัง พร้อมกับตะโกนขอความช่วยเหลือ

ในเวลาเดียวกัน ก็มีการระเบิดครั้งใหญ่อย่างไม่รู้จบบริเวณใจกลางหุบเขาเทพกระบี่ กำลังพลที่วางคุ้มกันไว้ทั้งหมดล้วนแต่สูญเปล่า ขณะนั้นมันยังคงมีเสียงระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พวกคนที่มาดูการต่อสู้ ก็ได้แต่ต้องอ้าปากค้างอยู่นาน เพราะเนื่องจาก’ชูเฟิง’ในตอนนั้น สังหารผู้คนจำนวนมากและสามารถเข้าไปยังศูนย์กลางหุบเขาเทพกระบี่ได้อย่างรวดเร็ว เขาสามารถนำกระดูกของอาวุโสสำนักมังกรฟ้าและกระดูกครอบครัวของเขาทั้งหมดลงมาได้และจากนั้นเขาก็นำทั้งหมดใส่ไว้ในถุงจักรวาล

ในเวลาเดียวกัน ‘ชูเฟิง’ก็เริ่มต้นการสังหารหมู่อย่างบ้าคลั่ง เมื่อประมุขและบรรพบุรุษหุบเขาเทพกระบี่ถูกกดดันไว้ จึงไม่มีใครสามารถหยุด ‘ชูเฟิง’

อาวุโสภายในหุบเขาเทพกระบี่ รวมไปจนถึงสาวกมีนับ สิบล้านคน แต่ ‘ชูเฟิง’กับสังหารพวกเขาเหมือนกับเทพสังหาร ที่คิดจะช่วงชิงชีวิตใครก็ได้ตามที่ที่เขาก้าวเข้าไป ‘ชูเฟิง’ตอนนั้นพุ่งทะยานถลันเข้าไปในฝูงชนจำนวนมากเสี้ยววิที่เขาก้าวย่างเข้าไป คนรอบๆตัวเขาจะตายอย่างอนาภ จนทำให้พื้นที่ขนาดใหญ่และตัวตำหนักพังถล่มลงมา ซึ่งการโจมตีของเขารุนแรงและแสนจะอำมหิต

” ข้าเคยได้ยินมาว่า ชูเฟิง โหดเหี้ยมอำมหิต จนผู้คนเรียกเขาว่าร่างจุติของเทพสังหาร วันนี้ที่ข้าได้เห็น มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาสังหารศัตรูของเขาอย่างไร้ความปราณี บางที่พวกเราต่อให้ฝึกฝนอีกหลายสิบปีก็ไม่วันทำได้ “

เห็น ‘ชูเฟิง’ เริ่มต้นสังหารหมู่ผู้คนมากมาย ใบหน้าของผู้เชี่ยวชาญอาวุโสรุ่นก่อนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขาไม่ใช่แค่กลัวฉากนองเลือดนั้นเท่านั้น หากเป็นผู้ใหญ่เขาก็พอเข้าใจ แต่นี้คนลงมือกับเป็นแค่เด็กหนุ่ม ซึ่งเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะมอง’ชูเฟิง’ว่าเป็นคนน่ากลัว

” เร็ว!!! รีบเปิดรูปแบบฯเทพกระบี่เร็วเข้า!!! “

ในที่สุดประมุขรุ่นก่อนของหุบเขาเทพกระบี่ก็พูด ในสถานการณ์แบบนี้เขาไม่มีทางเลือก จึงได้แต่เปิดรูปแบบฯเทพกระบี่ ที่เป็นดั่งไพ่ตายของพวกเขา หากไม่ทำแบบนี้หุบเขาเทพกระบี่ทั้งหมดจะถูกทำลายลงอย่างสิ้นซากโดยสามหนุ่มสาวตรงหน้าเขาซึ่งเป็นคนที่ทรงพลังอำนาจเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้

* พรึบบ *

ขณะที่ประมุขรุ่นก่อนพูดจบภายในหุบเขาเทพกระบี่ก็สว่างขึ้นด้วยแสงออร่าที่ทรงอนุภาพอย่างยิ่ง ดั่งผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลานุภาพถูกปลุกขึ้น

” ความรู้สึกนี้มัน . . . . . .ไม่ใช่การคลายรูปแบบฯที่ก่อตัวขึ้นหนิ ดูเหมือนว่ามันจะปล่อยอะไรบางอย่าง “

ตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ที่อยู่ภายในหุบเขาเทพกระบี่ได้แต่ขมวดคิ้วแน่น จากนั้นเขาก็หยุดการสังหารรีบกระโดดขึ้นบนฟ้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมุ่งหน้าไปหา’จื่อหลิง’

เพราะเขาที่เป็นผู้เชื่อมต่อฯรู้สึกว่าออร่าติ่นขึ้นภายในหุบเขาเทพกระบี่มันดูแตกต่างไปจากที่พวกเขาคาดหวังไว้

มันไม่ใช่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้อาวุโสและสาวกหุบเขาเทพกระบี่ แต่มันเป็นการปลดปล่อยสิ่งมีชีวิตบางอย่าง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรแต่ ชูเฟิง รู้สึกว่ามันคือสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอำนาจ

:..
:..

: ชิบหายล่ะ!!! มันเป็นตัวไรว่ะเนี่ย

: เห็นว่าเป็นจิตสำนึกของผู้ก่อตั้งหุบเขาเทพกระบี่ !!!

: งี้ จับแม่งดูดกลืนแห่งพลังวิญญาณก็สิ้นเรื่อง!!!

: ตามนั้น!!! แดกแม่งให้สิ้นซากกกกกกกก

เดากันไปเรื่อยเปื่อย!!!เรื่องราวจริงๆจะเป็นยังไงให้ติดตามในตอนต่อไปนะคับ

ที่มา:

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments