ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปหุบเขาเทพกระบี่กว้างใหญ่ไพรศาลเป็นที่อาศัยของเหล่าอาวุโสและเหล่าสาวกนับสิบล้านคน อาคาร ตำหนัก ที่พักอาศัย ถูกสร้างขึ้นนับไม่ถ้วน
โดยรอบมีภูเขาสูงปกคลุม มีสายน้ำไหลผ่าน ลงสู่ทะเลสาบขนาดเล็ก ซึ่งสถานที่แห่งนี้เปรียบได้กับนครขนาดใหญ่
แต่ในตอนนั้น มีแสงปกคลุมไปทั่วทั้งหุบเขาเทพกระบี่ พุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า ราวกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กำลังจะปรากฏออกมา
” จื่อหลิง ศิษย์พี่จาง หนีเร็ว “
‘ชูเฟิง’บินแหวกผ่านอากาศ พร้อมกับตะโกนเสียงดัง เขารู้ว่ารูปแบบฯเทพกระบี่นี้ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน
” พลังนี้มันน่ากลัวยิ่งกว่าในข่าวลือซะอีก ? “
ประกายแสงที่เจิดจ้ากว่าแสงตะวัน เป็นธรรมดาที่’จื่อหลิง’ และ ‘จาง เทียนยี่’ ก็สังเกตุได้ถึงการเปลี่ยนแปลง
ในตอนนั้น พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นความหวาดกลัวและความอึดอัดที่ปรากฏออกมาไม่มากก็น้อย พวกเขาจึงเปลี่ยนการเคลื่อนไหวเพื่อที่ต้องการจะหลบหนี
* พรึบบบ *
อย่างไรก็ตาม ความเร็วของแสงนั้นมันย่อมเร็วกว่า มันปิดโอกาสของ ‘ชูเฟิง’ และคนอื่นๆ ในการหลบหนี ตอนนั้นพวกเขาถูกห่อหุ้มด้วยแสงที่เข้าปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
” บัดซบ!!!. . . รูปแบบฯเทพกระบี่นี้ไม่เพียงแค่เพิ่มอำนาจให้กับคนของหุบเขาเทพกระบี่ มันยังปิดกั้นพลังวิญญาณของพวกเราด้วย “
‘จาง เทียนยี่’ ขมวดคิ้วแน่น เนื่องจากพลังของเขากำลังถูกกดดัน
” ไม่!!! มันไม่ใช่แค่นั้นแน่!!! “
ในตอนนั้น ‘ชูเฟิง’ และ ‘จื่อหลิง’ พุ่งออกจากประมุขหุบเขาเทพกระบี่ มุ่งหน้าไปข้างๆ ‘จาง เทียนยี่’
” ชูเฟิง สมแล้วที่เจ้าเป็นผู้เชื่อมต่อฯ ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นสินะ “
เห็นสีหน้าไม่สบายใจของ ‘ชูเฟิง’ และคนอื่นๆ ประมุขรุ่นก่อนของหุบเขาเทพกระบี่ก็แสยะยิ้มออกมาพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
” หืมม อย่ามาพูดให้เราไขว่เขว สุดท้ายมันก็แค่รูปแบบฯ ข้า จาง เทียนยี่ มาที่นี้ก็เพื่อฆ่าเจ้า ดังนั้นรูปแบบฯเทพกระบี่นี้ก็อยู่ในความคาดหมายของข้าตั้งแต่แรก มันไม่พอที่จะสร้างความหวาดกลัวให้กับข้าได้หรอก “
‘จาง เทียนยี่’ ตะโกนออกมา พร้อมกับระเบิดเปลวเพลิงสีฟ้าบนร่างกายในขณะที่ถือดาบไม้ศักดิ์สิทธิ์ พุ่งเข้าโจมตีใส่ประมุขรุ่นก่อนอีกครั้ง
” ฮ่า ฮ่า ก่อนหน้านี้เจ้าอาจฆ่าข้าได้ แต่ตอนนี้เจ้าคงไม่มีปัญญาแล้วล่ะ “
ตอนนั้น ประมุขรุ่นก่อนได้แต่หัวเราะออกมา ขณะที่ถูก ‘จาง เทียนยี่’ ไล่จู่โจม
” ชูเฟิง จื่อหลิง ทิ้งชีวิตของเจ้าไว้ที่นี่ซะ!!! “
ในตอนนั้นประมุขหุบเขาเทพกระบี่ก็พุ่งเข้าใส่ ‘ชูเฟิง’ และ ‘จื่อหลิง’
” อย่าได้ผยองนักนะ แค่พลังของข้าคนเดียวก็สามารถรับมือกับเจ้าได้แล้ว “
‘จื่อหลิง’ม้วนปากเล็กๆของนาง แล้วระเบิดออร่าสีม่วงออกจากร่างกายของนางขณะที่ปะทะกับประมุขหุบเขาเทพกระบี่
แต่พลังจากรูปแบบฯเทพกระบี่นี้ มันยับยั้งพลังกายศักดิ์สิทธิ์ของ’จื่อหลิง’ไว้ไม่น้อย แต่เดิมนางไม่มีปัญหาที่จะกำราบประมุขหุบเขาเทพกระบี่ แต่ตอนนี้เขาสามารถสู้กับนางได้อย่างสูสี
” นี้คือผลลัพธ์จากแสงจากรูปแบบฯเทพกระบี่ที่ปกคลุมภายในหุบเขาเทพกระบี่สินะ ? “
” สุดยอด แข็งแกร่ง แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ข้าได้ยินมาว่ารูปแบบฯเทพกระบี่นี้ ถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษรุ่นแรกๆของตระกูล มู่หรง ท่าน มู่หรง เฟิง “
” ข้าก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน เขาว่า มู่หรง เฟิง นั้นเป็นคนที่มีพลังอำนาจมากที่สุดใน 9 อาณาจักร รองจากผู้ก่อตั้งมังกรฟ้า แต่ยังไรก็ตามวีรกรรมของเขาค่อนข้างน้อย เขาจึงไม่อาจเทียบเท่ากับชื่อเสียงของผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้าได้ “
” ใช่ๆ มีข่าวลือว่า มู่หรง เฟิง เคยขึ้นไปยังจุดสูงสุด ที่ไม่ด้อยไปกว่าผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า ข้าได้ยินว่าในปีนั้นเขาได้พยายามปกป้องดูแลรักษาความสงบสุขของลูกหลานเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ร่างกายที่เหนื่อยล้าทำให้ตัดสินใจใช้พลังทั้งหมดสร้างรูปแบบฯเทพกระบี่นี้ขึ้นมา ซุึ่งเป็นรูปแบบฯที่เป็นเลิศหาใดเทียบเทียม “
” อ่า เมื่อรูปแบบฯเทพกระบี่นี้วางสำเร็จอาจกล่าวได้ว่ามันเป็นสาเหตุทำให้หุบเขาเทพกระบี่เป็นที่น่าหวาดกลัว เมื่อข้ามาเห็นแบบนี้ต้องบอกเลยว่า สมแล้วกับข่าวลือ!!! “
” ถูกต้อง แม้แต่ตระกูลมหาอำนาจยังคิดแล้วคิดอีก มันก็จริงที่สามารถเข้ามาโจมตีหุบเขาเทพกระบี่ได้แต่การออกจากหุบเขาเทพกระบี่นี้สิยาก ดังนั้นจึงไม่เคยมีกล้าเข้ามาโจมตีหุบเขาเทพกระบี่นั้นเอง แล้วรูปแบบฯเทพกระบี่ ก็ยังไม่มีใครสามารถทำลายมันได้ “
” ใช่หรอ ใช่หรอ หากคิดกลับกัน ประมุขรุ่นก่อนหุบเขาเทพกระบี่ ก็แค่ออกมาต้อนรับศัตรูที่มาถึงที่ ไม่ใช่จะไล่ตามศัตรูไปทุกที่สักหน่อย ดีไม่ดีเขาอาจจะกลัวเสียหน้าก็ได้เลยงัดไพ่ตายออกมา “
” ตอนนั้นหากเขาไม่ได้ตกหน้าผา แล้วโชคดีที่ไปเจอดาบไม้ศักดิ์สิทธิ์และประโยชน์อีกนานับประการ ปัจจุบันเขามันก็แค่ไอแก่ ที่อาจจะยังอยู่ในระดับ 1 อาณาจักรสวรรค์ก็ได้ “
” อ่า . . . . ตอนแรกก่อนที่เขาจะนำดาบไม้ศักดิ์สิทธิ์กลับมา มีแต่คนคิดว่าประมุขรุ่นก่อนคงตายไปแล้วเนื่องจากบาดเจ็บซะขนาดนั้น ขนาดตอนนั้นบรรดาลูกหลานยังจัดงานศพให้ซะยิ่งใหญ่ ใครจะไปนึกว่าเขาจะรอดอยู่บนโลกนี้ “
” หากลองคิดทบทวนดีๆ หุบเขาเทพกระบี่นี้ค่อนข้างจะพิเศษสักหน่อยในบรรดาขุมอำนาจทั้ง 9 อาณาจักร เมื่อพวกเขาทำตัวเงียบๆ ผู้คนเกือบลืมไปว่าเขานั้นก็เป็น 1 ใน มหาอำนาจที่ยืนอยู่จุดสูงสุด ที่แม้แต่ขุมพลังขนาดใหญ่อย่าง สำนักเทพอัคคี และ สำนัก หยวนกัง ยังไม่กล้าแตะต้อง “
” จริงๆมันอาจไม่ได้เป็นแบบนั้น พวกขุมอำนาจที่ยืนอยู่จุดสูงสุดอย่างเช่น สำนักเทพอัคคี สำนักหยวนกัง นิกายไป๋ ที่ราบหุบเขาไร้ใจ แม้พวกเขาจะไม่ได้ป่าวประกาศว่าบรรพบุรุษของพวกเขายังมีชีวิตอยู่แต่พวกเขาล้วนแต่หายไปหลายปี พวกเขาเล่นละครตบตาให้คนภายนอกคิดว่าพวกเขาล้วนตายไปแล้ว “
” แต่เมื่อถึงยามคับขันหรืออันตรายมาเยือน พวกเขาทั้งหมดก็ล้วนแต่แสดงตัวออกมา แม้จะออกตัวมาแบบไม่ค่อยอลังการหวือหวาสักเท่าไหร่ แต่พวกเขาล้วนเก็บไพ่ตายที่คนอื่นไม่รู้ซ่อนไว้ และบรรพบุรุษของแต่ละมหาอำนาจต่างก็ล้วนแต่ถือไพ่ตายที่ทรงประสิทธิภาพเอาไว้ทั้งนั้น “
“วางหินไปที่แหล่งกำเนิดพันจุด!!! “
หลังจากที่รูปแบบฯเทพกระบี่ถูกเปิด พวกเขาก็เริ่มต้นนำเนินการกับสิ่งที่หมุนอยู่รอบๆหุบเขาเทพกระบี่
” นี่! ! ! รูปแบบฯเทพกระบี่นี้ดูเหมือนจะมีจุดอ่อน! ! ! “
ทันใดนั้น ก็มีคนตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ
” มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ข้าสามารถมองเห็นชูเฟิงและคนอื่นๆที่อยู่บนท้องฟ้าได้แล้ว มันเกิดอะไรขึ้น ? เป็นไปได้ว่ารูปแบบฯเทพกระบี่นี้มีไว้เพื่อทำให้คนอื่นหวาดกลัวเท่านั้น ไมงั้นทำไมพลังของมันถึงได้ลดลงอย่างรวดเร็ว “
ในเวลาเดียวกันทุกคนก็ทอดสายไปไปยังขอบฟ้า พร้อมกับความรู้สึกประหลาดใจ
” ฮ่าๆๆๆ ไอ้สารเลว รูปแบบฯเทพกระบี่นี้ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์สินะ “
แน่นอนหลังจากที่แสงจากรูปแบบฯเทพกระบี่ลดลง พลังที่ควบคุม ‘จาง เทียน’และคนอื่นๆก็ถดถอยเช่นกัน ในเวลานั้น ‘จาง เทียนยี่’ ก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาชี้ปลายดาบไปยังใบหน้าของประมุขรุ่นก่อนพร้อมกับพูดต่ออีกว่า
” ไอ้เฒ่าระยำ ชอบแกล้งตายนักใช่ไม๊ วันนี้ข้า จาง เทียนยี จะช่วยให้เจ้าได้ตายจริงๆในดาบเดียว “
” หืม!! เจ้าคนโอหัง ภัยพิบัติมาเยือนแล้วยังกล้าพูดจาเหลวไหล พอถึงเวลานั้นเจ้าจะหัวเราะไม่ออก “
ถึงแม้ว่าพลังของ’จาง เทียนยี่’จะเริ่มกลับมา แต่ประมุขรุ่นก่อนของหุบเขาเทพกระบี่กับไม่มีท่าทีกลัวแม้แต่น้อย อีกทั้งยังแสยะยิ้มที่มุมปากพร้อมกับทำน่าตาน่ากลัว
ในเวลาเดียวกัน ‘จื่อหลิง’ เองก็พลังฟื้นคืน พร้อมกับเริ่มโจมตีใส่ประมุขหุบเขาเทพกระบี่อย่างบ้าคลั่ง ประมุขที่สูสีกับ’จื่อหลิง’ในตอนแรกตอนนี้ก็ได้แต่หลบหนีไปทั่วทุกแห่งอีกครั้ง
แต่ยังไงก็ตาม แม้พลังต่อสู้จะดีขึ้นมากและรุนแรงกว่าเดิม ‘ชูเฟิง’ ก็ยังคงยินอยู่นิ่งๆในอากาศ และใช้สายตายกวาดรอบๆ พร้อมกับควบคุมอำนาจพลังวิญญาณตรวจสอบ การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบฯเทพกระบี่
‘ชูเฟิง’พบว่าแสงที่น่ากลัวพวกนั้นไม่ได้หายไปไหน แต่มันเข้ามารวมตัวอยู่ด้วยกันอย่างแน่นหนา จนเป็นร่างอยู่ที่พื้น
” จื่อหลิง ศิษย์พี่จาง อย่าเข้าไปปะทะ รีบถอยออกมา “
” รูปแบบฯเทพกระบี่นี้ไม่ใช่ยกระดับการเพาะปลูกผู้คนในหุบเขาเทพกระบี่ หรือยับยั้งพลังของเราแต่อย่างใด “
” มันใช้สำหรับฟื้นฟูผู้เชี่ยวชาญของพวกเขา ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญจะฟื้นขึ้นมา เราต้องรีบออกไปเดี๋ยวนี้!!! “
ในที่สุด ‘ชูเฟิง’ ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างจากนั้นเขาก็ตะโกนบอกทั้ง2คน
..
:..: กลัวไรล่ะ เรียกผู้ก่อตั้งมังกรฟ้า มาตบก็สิ้นเรื่อง
: หากผู้ก่อตั้งมังกรฟ้าฟื้นคืนชีพแล้วก็ว่าไปอย่าง ตอนนี้ยังเฝ้าร่าง ซูรู่ ซูเหม่ย อยู่เลย
: นั้นสินะ พวกมันโกงชะมัดยาก เรียกบรรพบุรุษในอดีตออกมาช่วย!!!
: กลัวไร หากพ่อชูเฟิงมา ให้มันขุดมาทั้งโครตเง่าเต่าล้านปี ก็ไม่ขณามือ อย่าว่าคนจำนวนแค่ 10 ล้าน ต่อให้ 1000 ล้าน พ่อชูเฟิงก็บ่อย้านนน
: พ่อชูเฟิงจะออกมาหรออ!!!
: ไม่อ่ะ!!!
: แล้วมึงจะพูดทำส้น . . . . . .เด๋วอัดแม่ง
ที่มา: