ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป**** บูมมมมม บูมมม บูมม ****
ทันใดนั้น เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นบนท้องฟ้า ในเวลาเดียว ก้มีคลื่นพลังที่บ้าคลั่งพัดกระจายออกไปเป็นวงกว้าง จนทำให้เมฆนั้นสลายวับ
ภายในสิบวัน การกระจายตัวของเมฆและเสียงระเบิด อาจจะพูดได้ว่าเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้ สังเกตุได้ชัดเจนว่าหลังจากการระเบิดครั้งที่ผ่านมา ร่างกายของ ชูเฟิงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้าไปได้ ในเวลาต่อมาเขาก็ได้ถึงขีดจำกัด จึงทำให้เขาล่วงหล่นจากท้องฟ้า
“ชูเฟิง!!!”
เห็นแบบนั้น เจียง เฮิงหยวน รีบโดดเข้าไปรับร่างของชูเฟิงไว้ในอ้อมแขนของเขา
แต่ในทันทีที่เขารับตัวของชูเฟิง สีหน้าของเจียง เฮิงหยวนก้เปลี่ยนไป เพราะเขารู้สึกว่าร่างกายของ ‘ชูเฟิง’ อ่อนแอลงอย่างมาก ในปัจจุบันบอกได้เลยว่าเขาแทบจะไม่มีแรง อีกทั้งพลังสายเลือดราชวงศ์ผสานอำนาจยังหายไปอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นออร่าของเขาที่อยู่ในระดับ 8 สวรรค์วิญญาณ ลดลงเกลือ ระดับ 2 สวรรค์วิญญาณ
หลังจากนั้นประกายสายฟ้าภายในตาของเขาก็เลือนหายไป มันจึงทำให้ออร่าของชูเฟิงลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกลับมาถึงระดับพลังวิญญาณที่แท้จริงของเขา ก้คือ ระดับ 9 แก่นแท้วิญญาณ
” ชูเฟิง เป็นไงบ้าง? “
หลังจาก ‘ชูเฟิง’ ลงถึงพื้นดิน ทุกคนรอบๆตัวเขาก็วิ่งเข้ามา มองเขาด้วยสายตาที่เป็นห่วงเป็นใย เจ็บปวด และเปี่ยมด้วยความกตัญญู
แม้ว่าตอนนี้พวกเขาไม่อาจรอดพ้นจากความตาย แต่ระยะเวลา 10 วัน มันเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาจะแอบย้าย เจียง ยี่หนี่ และรุ่นใหม่ของราชวงศ์เจียงไป และโอกาสนั้นล้วนแต่เป็น ชูเฟิง ที่มอบให้กับพวกเขา
” ไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร “
หลังจากที่พลังสายเลือดราชวงศ์ผสานอำนาจหายไป สีหน้าของเขาก็ค่อยๆดีขึ้น เนื่องจากเขาไม่ต้องรับภาระหนัก โดยใช้การควบคุมพลังขั้นสูง ซึ่งมันต้องใช้พลังอำนาจเป็นอย่างมาก
” ฮ่า ฮ่า ฮ่า เด็กนั้นมันมีพลังวิญญาณแค่ระดับ 9 อาณาจักรแก่นแท้ มันคงจะมีทักษะบางอย่างที่ทำให้ออร่าพลังวิญญาณสูงขึ้น มันจึงปะทะกับเราทั้งสองได้ถึง 10 วัน 10 คืน”
“แต่ช่างน่าเสียดาย ที่เจ้ามันโง่ เจ้าคงไม่รู้สินะว่าเราตั้งใจถ่วงเวลาเอาไว้ รอให้พลังวิญญาณของเจ้าหายไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า “
จู่ๆ บรรพบุรุษราชวงศ์จีก็หัวเราะขึ้นมา
” งั้นหรอ ? พวกเจ้าคงคิดจริงๆสินะว่าสามารถเอาชนะเราได้ในวันนี้ ? “
‘ชูเฟิง’ยิ้มอย่างเย็นชา
” เด็กบ้า เจ้ายังคิดว่าตัวเองยังมีโอกาสเอาชนะอีกงั้นหรอ “
บรรพบุรุษราชวงศ์หลิวถามอย่างเย้ยหยัน
” ข้ารู้แต่แรกว่าพวกเจ้าจงใจถ่วงเวลา แต่พวกเจ้าคงคาดไม่ถึงสินะว่าข้าเองก้เช่นกัน”
ชูเฟิงกล่าวขณะที่ยิ้มอย่างเย็นชา
” เจ้าก็ถ่วงเวลาเช่นกันงั้นหรอ ? เจ้ามีเหตุผลอะไรให้ต้องถ่วงเวลาพวกเรา ? “
” โอ้!! ข้ารู้ว่าเจ้าถ่วงเวลาเพื่อแอบเคลื่อนย้ายคนราชวงศ์เจียงไปที่ปลอดภัย”
” ช่างไร้เดียงสานัก มันก้แค่กลุ่มคนรุ่นใหม่ เจ้าคิดหรอว่าพวกมันจะหนีพ้นเงื่อมมือข้า หากข้าต้องการกำจัดพวกมันจะไม่ใครรอดไปจาก 9 อาณาจักรได้ “
บรรพบุรุษราชวงศ์จีกวาดสายตาตรวจสอบ เขาจึงพบร่องรอยบางอย่าง
” ผิดแล้ว เหตุผลที่ข้าถ่วงเวลาไว้นานขนาดนี้เพราะว่าข้ารอกำลังเสริมที่สามารถบดขยี้กองทัพของพวกเจ้า!!!”
ชูเฟิงยิ้มเบาๆที่มุมปาก
“กำลังเสริม!? นี่เจ้ากลัวจนบ้าไปแล่วหรอ ใน9อาณาจักร จะมีใครสามารถเอาชนะเราได้ “
คำว่า ‘กำลังเสริม’ ทำให้บรรพบุรุษราชวงศ์หลิวตกใจได้นิดหนึ่ง
เพราะหลังจากที่ผ่านการสู้ที่ยาวนานถึง 10 วัน 10 คืน เขามีประสบการณ์ว่าชูเฟิงร้ายกาจแค่ไหน แม้ว่าพวกเขาจงใจถ่วงเวลาชูเฟิง แต่ต่อให้พวกเขาต้องการฆ่าก้ไม่สามารถได้
ตอนแรกเขาทั้งสองคนตั้งใจที่จะฆ่า ‘ชูเฟิง’ให้ไวที่สุด โดยรวมพลังของพวกเขาเพื่อคว้าชัยชนะ แต่พวกเขาก็ทำอะไร’ชูเฟิง’ไม่ได้ เนื่องจาก’ชูเฟิง’ร้ายกาจอย่างมาก ไม่เพียงแต่พลังต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา ปฏิกิริยาตอบโต้ยังรวดเร็วสุดๆ ไม่หมดแค่นั้นชูเฟิง ยังมีอำนาจพลังวิญญาน ไหวพริบเฉียบคม กลยุทธก้แยบยล 10 วันที่ผ่านมาพวกเขาเอาจริงโดยไม่กล้าที่จะประมาท แต่มันก้ไม่เพียงพอที่จะปลิดชีวิตชูเฟิง พวกเขาจึงเปลี่ยนแผนมาถ่วงเวลา
ดังนั้นเมื่อ’ชูเฟิง’บอกว่าเขาถ่วงเวลารอกำลังสนับสนุน มีหรือพวกเขาจะไม่ตกใจ ถึงแม้พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ แต่หากมีเด็กหนุ่มร้ายกาจแบบนี้ใน 9 อาณาจักร บางทีคนที่ชูเฟิงรอคอยอาจจะแกร่งมากกว่าตัวเขาก็เป็นได้
” อย่าไปฟัง ไอเจ้านั้นมันพูดไร้สาระ หากราชวงศ์เจียงมีกำลังเสริม พวกเขาคงจะปรากฏขึ้นมาก่อนที่พวกเราทำลายรูปแบบฯไปนานแล้ว ?”
บรรพบุรุษราชวงศ์จีกล่าว
” นั้นมันก็เรื่องของเจ้าว่าจะเชื่อข้าหรือไม่ ตอนนี้หายนะกำลังย่างกายเข้ามาหา หากพวกเจ้าไม่รีบถอยไปตอนนี้ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน!!! “
ชูเฟิงไม่ได้อธิบายมากนัก เขายังคงยิ้มอย่างเย็นชา อีกทั้งยังเกริ่นวกับพวกเขาว่าตระกูลทั้งสองของพวกเขาต้องพังพินาศ
” หายนะย่างกายมาหาเรา ? จากเท่าที่ข้าเห็น หายนะมันกำลังไปหาเจ้ามากกว่า เจ้าไร้ซึ่งพลังแล้วจะเอาอะไรมาสู้กับพวกเรา รออยู่ตรงนั้นเงียบๆให้เราไปบดขยี้เจ้าจะดีกว่า “
บรรพบุรุษราชวงศ์จีโบกแขนของเขาออกไป พร้อมกับเตรียมตัวโจมตี ชูเฟิง
” ใครข้าแตะ ชูเฟิง!!! “
ในตอนนั้น ท้องฟ้าไกลมีเสียงตะโกนดังกังวาลเข้ามาพร้อมกับออร่าที่มหาศาล
” อาณาจักรสวรรค์ระดับ 9 !!!? “
ในตอนนั้น ใบหน้าของทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะบรรพบุรุษราชวงศ์จีและบรรพบุรุษราชวงศ์หลิว พวกเขาแสนจะตื่นตระหนก
มันเป็นเพราะพวกเขาทั้งสองสัมผัสได้ชัดเจนว่า ออร่าอาณาจักรสวรรค์ระดับ 9 กำลังพุ่งเข้ามาใกล้ทุกที
” สวรรค์ ที่ชูเฟิงพูดเป็นเรื่องจริงงั้นหรอ เขามีกำลังเสริมจริงหรือเนี่ย ? “
ตอนนั้น อย่าว่าแต่คนของราชวงศ์หลิวราชวงศ์จี แม้แต่ฝูงชนของราชวงศ์เจียงก็ยังไม่วายตกใจ
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าคำพูดของชูเฟิงเป็นแค่คำขู่ไว้หลอกสองตระกูล แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่เขากล่าวนั้นเป็นความจริง!!!
*** โฮ่กกก ****
ในตอนนั้นมีเสียงร้องคำรามของมังกรดังออกมา จนพัดพาคนจากราชวงศ์ทั้งสองปลิวไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีแสงสีฟ้าทะลุผ่านลงมาจากเมฆ หยุดอยู่ด้านบนของ ชูเฟิง และคนอื่นๆ
” สวรรค์ นี้คือ ? ! “
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้เห็นรูปร่างของแสงสีฟ้า ทุกคนถึงกับอ้าปากค้าง เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่บนหัวของพวกเขาคือมังกรฟ้าขนาดใหญ่มหึมา
มังกรจะถูกโอบล้อมด้วยควันสีฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเกล็ดมังกร กรงเล็บ รูปร่างทั้งหมด ล้วนแต่ดูสดใสจนสมจริง ซึ่งไม่ต่างกับมังกรตัวเป็นๆเลย
บนหัวของมังกรฟ้า มีร่างสองร่างยืนอยู่บนนั้น หนึ่งในนั้นมีหลายคนที่ใน 9 อาณาจักรรู้จักเขาเป็นอย่างดี นั้นคือ พี่ใหญ่ของ ชูเฟิง ผู้เชี่ยวชาญอาณาจักรสวรรค์ระดับ 8 วิญญาณ อสูรราชันย์วานร
และด้านหน้าของราชันย์วานร ก็มีชายชราผมขาวยืนอยู่ เสื้อคลุมสีเทาของเขาปลิวไสว บนตัวก็มีกลิ่นอายที่น่าเกรงขามปกคลุมอยู่รอบๆตัว
” เจ้าเป็นใคร ? “
เห็นคนคนนั้น บรรพบุรุษราชวงศ์จีได้แต่ขมวดคิ้วแน่น ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะอยู่ในอาณาจักรสวรรค์ระดับ 9 เหมือนกัน แต่เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความคุกคามจากตัวชายชรา การเพาะปลูกของคู่ต่อสู้พวกเขาแข็งแกร่งอย่างมาก ไม่แน่เขาอาจจะใกล้เข้าสู่อาณาจักรจ้าวแห่งสงคราม
เมือ่เผชิญกับคำถามของพวกเขา ชายชราขี่มังกรฟ้าสบัดมือของเขา พร้อมกับค่อยๆยิ้มและกล่าว
” ผู้คนเรียกข้าว่า ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรฟ้า!!! “
ที่มา: