ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป” อย่าได้หลงกลมันนั้นเป็นกับดัก ตอนนี้ท่านและข้าต้องร่วมมือกับกำจัดมัน ไม่งั้นหากราชวงศ์จีของข้าถูกทำลาย ราชวงศ์หลิวเองก็คงหนีไม่พ้นความพินาศเหมือนกัน “
เห็น’ชูเฟิง’ยื่นข้อเสนอให้กับบรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์หลิวแบบนั้น บรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์จีก็รีบก้มหน้าก้มตาหาทางเกลี่ยกล่อม
” แต่เขาจะละเว้นชีวิตของบุตรชายข้า “
บรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์หลิวกล่าวกับบรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์จีด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความลังเล
” เจ้ามีบุตรอีกมากมาย สละไปคนเดียวจะเป็นไร “
บรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์จีตะโกน
” ข้าจะทำแบบนั้นได้ยังไง!!! เขาคือบุตรชายที่ข้าคอยดูแลเอาใจใส่มาหลายสิบปี เขาคือลูกที่ยอดเยี่ยมที่สุดของข้า “
บรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์หลิวตอบ
” เจ้า เจ้า เจ้า!!! “
บรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์จีโกรธไม่ใช่น้อย แต่เขาก็พยายามระงับไว้ขณะที่เขาปรับอารมณ์ได้เขาก็กล่าวต่อไป ” เจ้ามันตาบอด จนมองไม่เห็นอะไร!!! “
” ชีวิตของลูกเจ้าคนเดียวมีค่ากว่าหมื่นชีวิตของราชวงศ์เจ้า? เรื่องที่สำคัญคือเป้าหมายในการล้างแค้นให้กับบรรพชนของเจ้าตั้งหาก!!! “
” ข้า . . . . . “
บรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์หลิวได้แต่อ้ำอึ้ง
” อย่าได้ลังเลต่อไป องค์จักรพรรดิตายยังมีคนใหม่ขึ้นมาแทน แต่หากราชวงศ์สูญสิ้น มันก็จะไม่เหลืออะไรสักอย่าง เจ้าอยากถูกตราหน้าและถูกราชวงศ์หลิวสาปแช่งไปชั่วอายุคนงั้นหรอ ? “
” ตอนนี้ก็เห็นแล้วว่าตาแก่ตระกูลจ้าวตายยังไง แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญราชวงศ์เขาที่พามาก็ตายหมด หากเจ้าและข้าร่วมมือกันทำลายราชวงศ์เจียงสำเร็จ ความมั่งคั่งในทุกอาณาจักร ก็จะตกเป็นของสองตระกูลเรา “
” เจ้าสละบุตรไปเพียงหนึ่ง ไม่เพียงแต่เจ้าสามารถปกป้องราชวงศ์หลิว เจ้ายังจะกลายเป็นคนที่ถูกสรรเสริญว่ายอมเสียสละเพือ่ราชวงศ์หลิว ในวันหน้าเจ้าจะถูกมองเป็นต้นแบบสมควรแก่การยกย่อง ผู้คนจะมองเจ้าว่าวีรบุรุษ “
เห็นว่าบรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์หลิวจะคล้อยตาม บรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์จีก็เร่งรีบหาทางดึงตัวกลับมา
” ท่านพ่อ เชื่อเขา!!! ถ้าเพื่อตระกูลหลิวของข้า ข้ายอมเสียสละ !!! “
ในตอนนั้น จักรพรรดิ์แห่งราชวงศ์หลิวที่ถูกจับเป็นตัวประกันโดย เจียง เฮิงหยวน ตะโกนออกไปเสียงดัง
” บรรพบุรุษหลิว เชื่อที่พ่อข้าบอกเถอะ เจ้า ชูเฟิงคนนี่เจ้าเล่ห์เพทุบาย และหากท่านเลือกจะดูโดยไม่ทำอะไร ท่านคิดว่าเขาจะยอมปล่อยท่านไปงั้นหรอ “
ในเวลาเดียวกันจักรพรรดิของราชวงศ์จีก็ตะโกนร่วมอีกแรง
” ก็ได้ เจ้าและข้าจะร่วมมือกันฆ่าไอบ้านี่ . . . . “
ในที่สุดบรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์หลิวก็กัดฟันพูด หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว เขาก็พุ่งทะยานเข้าใส่ ชูเฟิง
” ฮ่าๆ ถูกต้อง!!! “
เห็นแบบนั้นบรรพบุรุษรุ่นก่อนราชวงศ์จีก็เต็มไปด้วยความยินดี จากนั้นก็พุ่งตามเขาไปติดๆ
” ยังไงก็ตามวันนี้ ข้าจะเป็นคู่มือให้กับเจ้าทั้งสองเอง “
” ผู้คนจากราชวงศ์หลิวและราชวงศ์จีจงฟัง ตอนนี้ข้าจะสู้กับบรรพบุรุษรุ่นก่อนของพวกเจ้า แต่ใครก็ตามที่สัมผัสคนของราชวงศ์เจียง ข้าจะตัดหัวจักรพรรดิของพวกเจ้า “
‘ชูเฟิง’ไม่กลัวแม้แต่น้อย หลังจากที่เขาตะโกนจบประโยค เขาก็จับขวานอสูรฟ้าพุ่งเข้าใส่บรรพบุรุษรุ่นก่อนทั้งสอง
เมื่อเห็นบรรพบุรุษรุ่นก่อนทั้งสองลงมือ เจียง เฮิงหยวน ก็เตรียมตัวที่จะบั่นคอของสองจักรพรรดิ
แต่หลังจากได้ยินคำพูดของ ชู เฟิง เขาก็เริ่มลังเล และเมื่อผู้เชี่ยวชาญจากสองราชวงศ์ได้ยินคำพูดนั้น พวกเขาก็ไม่มีใครกล้าจะโจมตี เมื่อ เจียง เฮิงหยวนคิดอย่างถี่ถ้วน เขาก็ต้องล้มเลิกการประหารสองจักรพรรดิ
” ชูเฟิง ช่างน่าประทับใจยิ่งนัก เรื่องความคิดความอ่านของเขาก็ไร้ที่ติจริงๆ “
ตอนนั้น ‘เจียง เฮิงหยวน’ ชื่นชม’ชูเฟิง’อย่างไม่รู้จบ เนื่องจากสมองของชูเฟิงเฉียบแหลมเกินไป แม้ว่าเขาจะขู่บรรพบุรุษรุ่นก่อนทังสองราชวงศ์ไม่สำเร็จ แต่เขาก็ยังคงใช้ประโยชน์จากสองจักรพรรดิข่มขู่กองทัพทั้งสองยอมสยบ
และถ้าหากไม่ใช่ ‘ชูเฟิง’ พูดมาแบบนั้น ‘เจียง เฮงหยวน’ คงสังหารสองจักรพรรดิจนหัวขาด แล้วในขณะที่เขาต้องรับมือกับสองบรรพบุรุษ กองทัพทั้งสองราชวงศ์ก็คงเข้าสู้กับคนราชวงศ์เจียงอย่างบ้าคลั่งไปแล้ว
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของราชวงศ์เจียง พวกเขาจะได้เปรียบหากต้องสู้กับกองทัพเพียงหนึ่งตระกูล แต่หากพวกเขาสู้กับสองตระกูลพร้อมกัน แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเสียเปรียบ นอกจากนี้ทุกคนจากสองตระกูลล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ในขณะที่หลายคนในราชวงศ์เจียงมีฝีมือไม่ถึงขั้น หากเขาห่ำหั่นกันเมื่อใด คนจำนวนมากคงได้รับบาดเจ็บสาหัส
นั้นคือเหตุผลที่เขาชื่นชมชูเฟิง และก็อาจพูดได้ว่า เป็นอีกครั้งที่ ชูเฟิง ได้ช่วยชีวิตผู้คนจากราชวงศ์เจียง
สำหรับสองบรรพบุรุษ แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมใจสำหรับเรื่องการเสียสละบุตรชายของพวกเขา แต่อีกใจของพวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะเสียสละ ดังนั้นเขาจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ ” กลืนไม่เข้า คายไม่ออก “
: การกระทำที่ตัดสินใจไม่ถูก ตัดสินใจได้ยากว่าจะเลือกทางไหน เนื่องจากทั้งสองทาง ก็ส่งผลกระทบด้านลบทั้งสองทางเลือก เปรียบเปรยถึง มีก้างปลาติดอยู่ในคอซึ่งกลืนก็ไม่เข้าท้อง คายก็ไม่สามารถทำได้ง่าย
แต่ตราบใดที่พวกเขาฆ่าชูเฟิงได้แล้ว การทำลายราชวงศ์เจียง แล้วช่วยบุตรของเขาก็คงไม่สายเกินไป ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สั่งให้คนในตระกูลเข้าโจมตี
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถดูถูกชูเฟิงได้ แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะไม่ธรรมดา แต่พวกเขาก็เคยเห็นความร้ายกาจของทักษะเร้นลับมาแล้ว พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะประมาทชูเฟิง พวกเขาต้องปะทะกับชูเฟิงด้วยทุกอย่างที่มี และมุ่งเน้นทุกอย่างไปที่การต่อสู้ไม่งั้นหากพวกเขาพลาดท่าทุกอย่างก็ต้องจบสิ้น
” ฮ่าๆ ชูเฟิง เจ้านับว่ามีฝีมือไม่เลวทีเดียว ข้าละชื่นชมเจ้ามากจริงๆ ที่เจ้าสามารถสู้กับไอแก่ทั้งสองได้ขนาดนี้ ด้วยพลังที่ไม่คงที่ “
ต้านต้านที่อยู่ภายในร่างของชูเฟิง ถอนหายใจออกมาด้วยความชื่นชม ที่ชูเฟิง สามารถสู้กับทั้งสองได้ถึงขนาดนั้น ด้วยพลังวิญญาณอาณาจักรสวรรค์ระดับ 8 ที่ไม่เสถียร
นอกจากนี้ พลังที่ได้รับจากสายเลือดราชวงศ์ผสานอำนาจถึงจะไม่เสถียร แต่ในบางมุมมอง มันก็ทำให้พลังต่อสู้ของชูเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
และหากเป็นคนปกติทั่วไป ไม่ต้องพูดถึงการต่อสู้ในลักษณะดังกล่าว ชีวิตของพวกเขาก็อาจจะจบสิ้นไปนานแล้ว
นั้นยังไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ต้านต้านประหลาดใจ แต่เป็นเพราะชูเฟิงสามารถควบคุมพลังวิญญาณที่ไม่เสถียรได้ถึงขนาดนี้ นั้นแหละที่ทำให้นางประหลาดใจ
” อาวุโส เฮิงหยวน ท่านจับไอแก่สองตัวนั้นไว้ แล้วใช้โอกาสนี้ย้ายคนรุ่นใหม่ของราชวงศ์เจียงไปซะ “
ใบหน้าของ ‘เจียง เฮิงหยวน’ เปลี่ยนไปทันที หลังจากได้ที่รับข้อความผ่านทางจิตจาก ชูเฟิง
หลังจากที่ได้รับข้อความผ่านจิต เจียง เฮิงหยวน ไม่รอช้า เขารีบดำเนินการ เพื่อต้องการจะย้ายคนรุ่นใหม่ที่โดดเด่นของราชวงส์ออกไปอย่างลับๆ โดยไม่ให้ใครรู้
ปัจจุบัน ภายในกลุ่มคนจากราชวงศ์จีและราชวงศ์หลิวมีคนคอยจับตามอง มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปอย่างเปิดเผย จึงต้องแอบพาคนออกไปอย่างลับๆ แต่มันจำเป็นต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร
ตอนนั้น เจียง เฮิงหยวน กังวลว่าเวลาจะไม่พอ แต่สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงคือการที่ ชูเฟิง ต่อสู้กับสองบรรพชนเป็นเวลา 10 วัน 10 คืน
การต่อสู้เวลา 10 วัน 10 คืน มันช่างน่าอัศจรรย์จนทำให้ทุกคนตกใจ เพราะว่าการโจมตีของสองบรรพชนแสนจะรุนแรง และต้องบอกว่าการต่อสู้ของพวกเขา ควรยกนิ้วให้
เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานถึง 10 วัน มันจึงทำให้สองบรรพบุรุษเกิดความเหนื่อยล้า แต่หากเทียบกับคนทั้งสอง ใบหน้าของ ชูเฟิง ดูแย่กว่ามาก หน้าของเขาขาวซีด นำซ้ำออร่าของเขาก็ยังลดลงเรื่อยๆ
หากเป็นสถานการณ์ปกติ ไม่ต้องพูดถึงเวลา 10 วัน 10 คืน ต่อให้เป็นเวลา 1 วัน 1 คืน กับการต้องสู้กับทั้งสองคนนั้น จะมีสภาพแย่ก็คงไม่แปลก
แต่ตอนนี้ ชูเฟิงกับใช้พลังที่ยืมมา และอีกทั้งยังรักษาให้มันคงสภาพ ในสถานการณ์แบบนี้เขายังสามารถทนได้เป็น เวลา 10 วัน 10 คืน ต้องบอกว่า ปาฏิหาริย์
ที่มา: