ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป***** ฝุ่บ *****
หลังจากที่ทุกอย่างจบลง อสูรก็หันมามอง ชูเฟิง เพียงผ่านๆ เท่านั้น ทุกๆ อย่างๆ ก็กลายเป็นภาพเบลอ และ ชูเฟิง ก็หมดสติไป
เมื่อเขาฟื้นกลับมานั้น เขาพบว่าอำนาจพลังวิญญาณที่หายไปของเขากลับคืนมาดังเดิมแล้ว เขาพยายามประคองตัวเองขึ้น และพบว่าทางเข้าถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ และไม่มีแม้แต่ร่องรอยของอสูรอยู่
“ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยเช่นนี้ !? มันเป็นใครกันแน่ !?”
ชูเฟิง ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถนึกออกถึงการมีตัวตนอยู่ของมัน ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงควรรีบออกจากความยุ่งยากตรงนี้เสียก่อน
ชูเฟิง จงใจดำน้ำอ้อมมาอีกทางก่อนที่เขาจะโผล่ขึ้นมายังผิวน้ำ เหตุที่เขาทำเช่นนี้เพราะเขาต้องการให้คนอื่นๆ คิดว่าเขาไม่สามารถหนีจากเงื้อมมือของอสูรได้
หลังจากที่เขาขึ้นมายังผิวน้ำ สิ่งแรกที่เขาจะทำคือไปยังสถานที่ที่เสี่ยวยู่รอเขาอยู่
“อึ้ก…….เสี่ยวยู่ไปไหน !?”
เมื่อ ชูเฟิง มาถึงสถานที่นั้น เขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่น หัวใจของเขาสั่นสะท้าน แม้แต่รูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่เขาวางไว้ และเสี่ยวยู่ก็ได้หายไป
นี่คือสิ่งที่ ชูเฟิง กังวลมากที่สุด เพราะเสี่ยวยู่เป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษมาก มีหลายๆ คนต้องการจะจับตัวนางไป หากผู้ที่อ่อนโยนจับนางไป เขาอาจจะดูแลนางอย่างดี แต่หากผู้โหดเหี้ยมจับนางไปนั้น เขาอาจจะทำให้นางต้องตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน
“พี่ใหญ่!!”
ในขณะนั้น ชูเฟิง ก็ได้ยินเสียงตะโกนที่ร่าเริงของเสี่ยวยู่ดังขึ้นมาจากระยะที่ห่างออกไป
เมื่อมองไปตามต้นเสียงนั้น ชูเฟิง ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เพราะที่ผิวน้ำมีคลื่นคล้ายคมดาบก็ลังพุ่งตรงมายังทิศทางที่เขาอยู่
ด้วยความเร็วของมันนั้น มันทำให้ ชูเฟิง ลิ้นจุกปากพูดไม่ออก เพราะมันรวดเร็วยิ่วกว่าทักษะมังกรฟ้าทะยานของเขามาก และ ชูเฟิง ก็พบว่า เสี่ยวยู้เป็นอสูรที่แท้จริง
“ฮ่าๆ พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็กลับมา !! ข้าไม่ได้ไปในทุกๆ ที่ ~ ข้าเชื่อฟังท่านอย่างดี !!”
เมื่อเสี่ยวยู่เข้ามาใกล้ นางก็กระโจนขึ้นจากน้ำ ในขณะที่นางอยู่ในอ้อมกอดของ ชูเฟิง นั้น ร่างกายของนางไม่มีน้ำแม้แต่หยดเดียวที่ติดตัวนางมา
“อืม…ดีมาก เจ้าเชื่อฟังดีมาก”
เมื่อมองไปที่เสี่ยวยู่ในอ้อมกอดนั้น ความกังวลภายในหัวใจของ ชูเฟิง พลันสงบลงอย่างรวดเร็ว
“ไม่ธรรมดาจริงๆ ความสามารถของนางมีมากกว่าเจ้าซะอีก !! อย่างน้อย ความเร็วในน้ำของนาง เจ้าก็ไม่สามารถตามนางได้ทัน !!”
ต้านต้าน กล่าวพลางหัวเราะคิกคักออกมา
“ต้านต้าน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสี่ยวยู่มาจากที่ใด !?”
ชูเฟิง กล่าวถาม แม้ว่า ต้านต้าน จะเป็นอสูรวิญญาณ แต่นางก็รู้เรื่องราวมากมายที่เขาไม่รู้
“ดูสัญลักษณ์ของนาง มันเป็นสิ่งที่เฉพาะเจาะจงอย่างมาก ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน มันไม่เหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาจากโลกของเจ้า !!”
ต้านต้าน กล่าวพลางขดริมฝีปากเล็กน้อย
ชูเฟิง มองไปยังสัญลักษณ์ของนางอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ต้องพบว่าเขาไม่เคยเห็นสัญลักษณ์นี้มาก่อน จากสิ่งที่เขารู้ ขุมพลังอำนาจต่างๆ ในเขตทะเลตะวันออกนั้น ไม่มีสัญลักษณ์นี้
“นี่อาจจะเป็นขุมพลังบางอย่างในเขตทะเลตะวันออกที่ไม่มีใครรู้จัก หรือไม่ก็อาจจะเป็นขุมพลังของแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นได้”
ชูเฟิง ไม่สามารถไขข้อสงสัยของเขาได้ แต่เขามั่นใจมากว่าเสี่ยวยู่ต้องไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดาอย่างแน่นอน
และแน่นอนว่า ชูเฟิง ไม่สามารถระบุได้ว่า เสี่ยวยู่ แข็งแกร่งจริงๆ หรือไม่
โลกใบนี้มีสิ่งที่แปลกประหลาดอยู่มากมาย หากมีคนบอก ชูเฟิง ว่าเสี่ยวยู่คือสิ่งมีชิตที่ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีการที่พิเศษ เขาก็คงจะเชื่อเช่นนั้น
“เสี่ยวยู่ เจ้าบอกข้าได้ไหม ว่าชุดของเจ้ามาจากที่ใด”
ชูเฟิง กล่าวถาม
“ข้าก็ไม่รู้ !! มันอยู่กับข้ามาตั้งแต่ข้าลืมตาขึ้น !!”
เสี่ยวยู่ ตอบด้วยใบหน้าที่ใสซื่อ พร้อมกับยื่นชุดของนางออกมา
ชูเฟิง เพียงยิ้มตอบบางๆ เขาไม่สามารถได้รับคำตอบใดๆ จากสาวน้อยคนนี้ได้
***** พรึ่บ *****
ทันใดนั้น ชูเฟิง ก็ตรวจพบผู้เชี่ยวชาญที่เหนือกว่าขั้นแดนสวรรค์หลายคน กำลังทะยานอยู่บนท้องฟ้าห่างออกมา พวกเขาไม่ได้สนใจต่อ ชูเฟิง แม้แต่น้อย และมุ่งหน้าไปยังจุดที่ปิศาจถูกพบใสก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นเพียงไม่นาน คนกลุ่มนั้นก็ทะยานผ่านกลุ่มของ ชูเฟิง พวกเขามีใบหน้าที่ตื่นเต้นอย่างมาก ราวกับว่าพวกเขากำลังค้นพบสมบัติ
จากการสนทนาของพวกเขานั้น ชูเฟิง รู้ได้ว่าพวกเขาเป็นคนของหมู่เกาะประหาร และมีบุคคลหนึ่งถูกเรียกว่า หย่าเฟย
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิง ขมวดคิ้วแน่น เพราะพวก หย่าเฟย ต้องการที่จะมาจับอสูร ถ้าเป็นในก่อนหน้านี้เขาคงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัน แต่ในตอนนี้มันกลับเป็นตรงกันข้าม
เขารู้สึกถึงความผูกพันธ์บางอย่างระหว่างเขาและอสูรตนนั้น ดังนั้น เขาจึงไม่อาจนิ่งเฉยยืนดูอสูรตนนั้นตายไปได้
ดังนั้น ชูเฟิง จึงรีบแต่งตัวให้กับเสี่ยวยู่ เขาก็พบว่านางน่ารักน่าเอ็นดูมาก
“เสี่ยวยู่ เจ้าอยู่ในอ้อมกอดของพี่ใหญ่นิ่งๆนะ อย่าพึ่งพูด และไม่เคลื่อนไหวโดยที่พี่ใหญ่ไม่ได้สั่ง !?”
ชูเฟิง กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“อืมมม….”
เสี่ยวยู่ พยักหน้าสองสามครั้งพลางยิ้มบาง ท่าทางของนางน่ารัก น่าเอ็นดูมากๆ หลังจากนั้น ชูเฟิง จึงอุ้มนางขึ้น และทะยานตามกลุ่มของ หย่าเฟย ไป
เมื่อมาถึงยังจุดที่ถูกอสูรลักพาตัวไปนั้น ชูเฟิง ก็พบว่ามันถูกครอบครองโดยคนประมาณคร่าวๆ กว่าหมื่นคน
ข่าวการลักพาตัวของอสูรนั้นเป็นที่สนใจของหลายคนอย่างมาก สามารถเห็นได้ชัดการรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก ภายในกลุ่มคนเหล่านั้น หย่าเฟย ยังคงมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นเคย
เมื่อเคลื่อนผ่านฝูงชนเข้าไปนั้น ตรงจุดศูนย์กลางของกลุ่มคน ชูเฟิง ก็เห็นผู้หญิงยี่สิบคน พวกนางล้วนเป็นคนจากหมู่เกาะประหารทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของพวกนางยังอยู่ในขั้นจ้าวสงครามทั้งยี่สิบคน ในตอนนี้ ผู้ที่เปรียบได้กับตำนานของทวีปเก้าอาณาจักรได้ปรากฏตัวออกมาถึงยี่สิบคนในคราวเดียว
แม้ว่าจะมีบางคนอ่อนแอ หรือบางคนที่แข็งแกร่งกว่า แต่แน่นอนว่าพวกนางล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงคราม และพวกนางก็ไม่ได้มีอายุมากนัก พวกนางยังอยู่ในรุ่นวัยกลางคนเท่านั้น และที่น่าสนใจคือพวกนางล้วนแล้วแต่เป็นสาวงามทั้งสิ้น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทุกๆ สายตาต่างถูกดึงดูดด้วยความงดงามของทั้งยี่สิบสาวงามที่ใจกลางฝูงชนจนกลายเป็นตาเดียว
ที่มา: