ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป“มันเป็นเช่นนั้นรึ !!”
“อาจจะผู้เชี่ยวชาญบางคนเข้าไปในสุสาน และได้ไปสัมผัสบางอย่างเข้า จนทำให้ทางเข้าอื่นๆ ปิดตัวอัติโนมัติก็เป็นได้”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของ ชูเฟิง นั้น ราชาวานร ก็กล่าวคาดการณ์ออกมา
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งก็ยังไม่สามารถคาดเดาเหตุผลออกมาได้ แต่ใบหน้าของ ราชาวานร ก็มีแต่ความกังวงเต็มใบหน้าของเขา เขากล่าวออกมาว่า
“ชูเฟิง เจ้าอย่าไปเลย”
“ถ้าหากมันเป็นอย่างที่ข้าบอก แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญคนนั้นจะจากไปแล้ว แต่แน่นอนเลยว่า เขาจะต้องเอาสมบัติภายในสุสานไปจนหมดแน่”
“หากเจ้าต้องการไปที่นั่น ข้ารับรองเลยว่า เจ้าจะเข้าไปได้เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น ถึงอย่างไรความแข็งแกร่งของสุสานจักรพรรดิก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมองข้ามได้ หากเจ้าไป ก็เท่ากับว่าส่งตัวเองไปตาย”
“พี่ลิง ท่านไม่ต้องกังวลไป ตราบใดที่ข้ามีเขา สุสานจักรพรรดิย่อมไม่ใบ่ปัญหาสำหรับข้า”
ชูเฟิง กล่าวพลางหันกลับไปมองที่ชายลึกลับที่เดินตามมาที่ด้านหลังของเขา ขณะนั้นชายคนนั้นกำลังหาว และกินขาไก่ไปด้วย
เมื่อมองไปยังชายลึกลับนั้น ดวงตาสีแดงฉานของ ราชาวานร สั่นไหวเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ทันทีว่า ชายคนนี้แข็งแกร่งกว่าราชวงศ์เจียง และยังสัมผัสได้ถึงออร่าของราชันย์ที่เล็ดลอดออกมา
ออร่าแห่งราชันย์ของชายลึกลับ และบรรพบุรุษของราชวงศ์เจียง ในสายตาของราชาวานรนั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ราชาวานร กลับรู้สึกหวาดกลัวต่อชายลึกลับผู้นี้
หลังจากผจญเรื่องราวต่างๆ มากมายนั้น ราชาวานร ไม่เคยหวาดกลัวต่อสิ่งใดมาก่อน แต่เมื่อเขามองไปยังชายลึกลับผู้นี้ เขากลับเกิดความกลัวขึ้นภายในจิตใจของเขา เขาประเมินพลังของชายลึกลับไว้ว่า จะต้องแข็งแกร่งกว่าขั้นจ้าวแห่งสงครามอย่างแน่นอน
แต่เมื่อเขาเห็นว่า ชูเฟิง ไม่ได้รับอันตรายจากชายลึกลับนั่น และเรื่องของ จื่อ หลิง ก็ทำให้ ชูเฟิง ต้องการเสริมความแข็งแกร่งของตัวเขาเองอย่างเร่งด่วน ราชาวานร จึงกล่าวออกมาอย่างจนปัญญาว่า
“หากเจ้าจะไป ข้าก็คงรั้งเจ้าไว้ไม่ได้”
“แต่เจ้าจงระมัดระวังให้มาก หากเกิดอะไรขึ้นในนั้น เจ้าจงหนีออกมาให้เร็วที่สุด อย่าได้ฝืนมากเกินไป เพราะถึงอย่างไร“สำหรับสำนักมังกรฟ้า ข้าจะช่วยดูแลให้ ก่อนที่ท่านผู้ก่อตั้งจะกลับออกมาจากการบ่มเพาะพลัง ข้ารับรองว่า ที่นี่จะปลอดภัย”
“ขอบคุณมากพี่ลิง ข้าจะระวังตัวให้มาก และกลับมาให้เร็วที่สุด”
ชูเฟิง มีความสุขอย่างมาก ที่ราชาวานรอนุญาตให้เขาเข้าไปยังสุสานจักรพรรดิ อีกทั้งจะช่วยดูแลสำนักของเขาให้อีก ดังนั้น เขาจึงสามารถสำรวจสุสานจักรพรรดิได้อย่างหมดกังวล
ด้วยความร้อนรุ่มภายในจิตใจ ชูเฟิง จึงรีบออกเดินทางสู่หุบเขาวิหคเพลิงอย่างรวดเร็ว เพื่อเข้าสู่สุสานจักรพรรดิ
เมื่อเขาได้กลับเข้าไปยังสุสานจักรพรรดิอีกครั้งนั้น มันทำให้เขารู้สึกพิเศษบางอย่างภายในหัวใจของเขา
เมื่อกลับมายังสุสานจักรพรรดิอีกครั้งนั้น ชูเฟิง ยังคงเชื่อมั่นอย่างมาก ว่าเขาจะต้องได้รับสมบัติบางอย่าง ที่ถูกทิ้งไว้โดยจักรพรรดิสงความ แม้ว่าในครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมานั้น เขาจะเข้ามาด้วยความกังวล
แต่ในครั้งนี้ เมื่อเขากลับมาอีกครั้งนั้น เขามาพร้อมกับความมั่นใจอย่างมาก เพราะเขามาพร้อมกับชายลึกลับที่แข็งแกร่ง แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับชายชราที่สวมชุดคลุมสีดำเขาก็หวาดกลัวแม้แต่น้อย
เมื่อเขากลับมาและนึกถึงการกระทำของชายชราผู้นั้น แววตาของเขาก็ลุกโชนด้วยไฟแห่งโทสะ ผมยาวด้านหลังเขาพริ้วไสว
ในขณะนั้น ชูเฟิง ก็ถูกปกคลุมไปด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณสีทองจากชายลึกลับ แม้ว่าตอนนี้เขาจะปลอดภัย และเขายังมีพลังระดับหนึ่ง ขั้นแดนสวรรค์ก็ตาม
“ฆ่าทุกอย่างที่พบ !!”
ชูเฟิง ชี้ไปข้างหน้าพร้อมกับกล่าวบัญชาออกมา
“ตามที่ท่านต้องการ !!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายลึกลับ ไม่กล้ารอช้า เขากลายเป็นประกายแสงพุ่งตรงไปข้างหน้าตามทางเดินในสุสานจักรพรรดิ
ความเร็วของเขานั้นรวดเร็วกว่ามนุษย์ปกติมาก เพียงพริบตาเดียวเขาก็มาถึงจุดที่ ชูเฟิง และคนอื่นๆ เคยมา ในก่อนหน้านี้ ตรงบริเวณที่เคยมีการปิดผนึกทักษะวิหคหวนคืนอยู่
“ตาย !!”
เมื่อเขาวิ่งมาถึงจุดที่ ชูเฟิง และ ราชาวานร เคยซ่อนตัวนั้น เขาก็ตะโกนออกมาเสียงดัง
***** วู้ววววว *****
หลังจากเสียงตะโกนดังขึ้นนั้น เสียงร้องวิญญาณแห่งความทรมานก็ดังขึ้นมาจากด้านล่าง พลันฝุ่นควันฟุ้งกระจายอย่างบ้าคลั่ง วิญญาณที่ชั่วร้ายก็ลอยออกมาอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ร่างกายขนาดใหญ่ของวิญญาณที่ชั่วร้ายได้กลายเป็นประกายแสงลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยของชีวิต
“แข็งแกร่งมาก วิญญาณชั่วร้ายระดับเก้า ขั้นแดนสวรรค์ถูกสังหารภายในพริบตาเดียว !!”
ชูเฟิง รู้สึกตกใจอย่างมาก แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าชายลึกลับผู้นี้แข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่า ชายผู้นี้จะสังหารผู้เชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์ได้เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญขั้นแดนสวรรค์ ที่เปรียบได้กับพระเจ้าของเก้าอาณาจักร กลับเทียบได้เพียงมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าชายลึกลับผู้นี้เท่านั้น มันช่างเป็ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของโลกใบใหญ่นี้
หลังจาก ชูเฟิง ได้ออกคำสั่งให้ฆ่าทุกอย่างนั้น สิ่งมีชีวิตทุกอย่าง ก็ถูกสังหารโดยไร้ความปราณโดยชายลึกลับ
วิญญาณชั่วร้ายที่ปรากฏออกมานั้น แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่มีเพียงแค่วิญญาณชั่วร้ายเท่านั้น แต่ยังมีอินทรีย์ขนาดใหญ่ และสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณด้วย
ตลอดเส้นทางที่ผ่านเข้าไปนั้น ชูเฟิง รู้สึกประหลาดใจกับความแข็งแกร่งของอันตราย ที่เพิ่มขึ้นเป็นขั้นๆอย่างต่อเนื่อง และ ชูเฟิง ยังรู้สึกทึ่งในความกว้างใหญ่ของสุสานจักรพรรดิ ที่มันมีขนาดใหญ่ราวกับเป็นโลกใต้ดินก็ว่าได้
ในเวลาเดียวกันนั้น ชูเฟิง ก็แอบดีใจ แม้ว่าเขาจะไม่พบสมบัติต่างๆ ตามทางเดินนั้น แต่เขากลับพบว่าอุปสรรค์ หรือรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่เคยขวางกั้นได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง
“แปลกมาก เห็นได้ชัดว่าอุปสรรคต่างๆ ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว แต่ทำไมวิญญาณชั่วร้ายยังคงคอยคุ้มครองที่นี่อยู่”
ชูเฟิง เต็มไปด้วยความสับสน เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้
“ง่ายมาก มันคือความเกรงกลัว”
เสียงของ ต้านต้าน ดังขึ้น
“ความเกรงกลัว หมายถึงอะไร !?”
ชูเฟิง รู้สึกสับสน
“เมื่อผู้เชี่ยวชาญแข็งแกร่งมากๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องออกคำสั่งย้ำๆ เพียงแค่ประโยคเดียว หรือคำสั่งเพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำให้มีผู้ปฏิตามคำสั่งของเขาไปจนชั่วชีวิตได้”
“ไม่ต้องคิดให้ไกล เพียงเจ้าดูคนที่ฟังคำสั่งของเจ้า เขาแข็งแกร่งอย่างมาก แต่เหคุใดเขาจึงฟังคำสั่งของเจ้า เพราะอะไร !?”
ต้านต้าน กล่าว
“อ่อ มันเป็นเช่นนี้เอง”
ชูเฟิง สามารถเข้าใจได้ในทันที
เหตุผลที่ชายลึกลับฟังคำสั่งของเขา เพราะว่าพ่อของเขาได้ออกคำสั่งไว้นั่นเอง
และเหตุผลที่ทำไมวิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้ถึงยังคอยปกป้องสุสานจักรพรรดิอยู่นั้น เพราะว่าจักรพรรดิสงครามได้ออกคำสั่งเอาไว้ มันเป็นเพราะคำสั่งของเขา ทำให้เหล่าวิญญาณชั่วร้ายต้องปฏิบัติตาม และไม่กล้าที่ออกไปไหน แม้ว่าเขาจะได้จากไปกว่าหมื่นปีแล้วก็ตาม
หลังจากนั้น ชูเฟิง ยังคงก้าวเข้าไปในสุสานจักรพรรดิอย่างต่อเนื่อง และเขายิ่งพบกับผู้ดูแลที่แกร่งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ทุกๆ ครั้งที่ผู้ดูแลเหล่านั้นปรากฏออกมา มันทำให้ ชูเฟิง แทบจะหัวใจวาย ด้วยความแข็งแกร่งของพวกมันนั้น มันได้สร้างแรงกดดันส่งมาถึงตัวเขาอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกมันเหล่านั้นจะแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ตาม แต่พวกมันกลับไม่สามารถหยุดยั้งการทะลวงของชายลึกลับไปได้ ความแข็งแกร่งของเขาราวกับ เปลวเพลิงจากสวรรค์ ที่สามารถเผาไหม้ทุกอย่างให้มลายหายไปได้ในพริบตา
: จะได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้างน้อ ?
: เป้าหมายคือ ทักษะเร้นลับ ที่มีความสามารถในการฟื้นฟู วิหคคืนชีพ ส่วนจะได้อะไรเป็นความลับ ซึ่งคนที่ยังไม่ได้เนียนไปอ่านก่อน จะคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน เพราะ ชูเฟิงพาชายลึกลับเข้าไปถึงด้านในสุด ซึ่งมีสมบัติที่คนมากมายต้องการแต่ไม่มีสามารถนำไปได้ อีกอย่างสมบัติภายในนั้นมีอายุมานับหมื่นๆปี
: ยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่!!!
: รออ่านพร้อมกันสนุกกว่า
ที่มา: