ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปในสถานที่เช่นนี้มันก็เหมือนกับนรกของเหล่ามนุษย์ กับคนปกติ ผู้ฝึกตนที่ได้เห็นคนถูกกลั่นโดยอสูรตัวนั้น ก็รู้สึกสยองอย่างมาก
ในสถานการณ์เช่นนั้น ผู้คนที่ได้เห็นการกลั่นและเสียงร้องโหยหวน ก็รู้สึกว่าเวลานั้นผ่านไปช้าเหลือเกิน
แต่สำหรับคนที่มีโอกาสรอดเช่นชูเฟิงนั้น รู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วมาก ผู้คนส่วนใหญ่นั้นถูกกลั่นโดยเจ้าอสูรนั่นไปหลายพันคนแล้ว
แม้แต่คนที่แอบเคลื่อนไหวไปยังที่ปลอดภัย ก็ไม่พ้นสายตาของเจ้าอสูรนั่น พวกเขาไม่มีทางรอดชะตาที่จะถูกกลั่นได้
“อ๊ากก~~~ อ๊ากก~~~”
เสียงร้องดังและหยุด เรื่องๆไม่มีสิ้นสุดแต่ในตอนนั้นชูเฟิง และคนอื่นๆไม่มีเวลาคิดถึงเสียงร้อง เพราะหลังจากกระดูกถูกโยนลงไป มันก็เห็นพวกเขา
“แย่แล้ว มันเห็นพวกเราแล้ว เร็วเข้ารีบใช้สมบัติของเจ้าไม่งั้นเราจะตาย, !”
ในตอนนั้นพวกเขาต่างตื่นตระหนก เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นเป้าหมายต่อไป
“หุบปากซะ!”
ในตอนนั้นขาที่ทรงพลังข้างนึงก็ถีบคนที่ตะโกนออกมา เข้าไปยังฝูงคน
คนที่เตะนั้นคือ ผู้เชี่ยวชาญระดับ 3 เจ้าแห่งสงครามจากหมู่เกาะประหาร
“เจ้า เจ้า เจ้า …”
เมื่อเห็นว่าเขาถูกทรยศ คนที่ถูกเตะก็กัดฟันแน่นด้วยความโกรธ แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรเจ้าอสูรนั่นก็ยกเขาขึ้นบนอากาศ และเริ่มที่จะกลั่นเขา
แต่นั่งก็แค่เริ่มต้น หลังจากเขาได้ถีบไปคนนึง 3 คนจากหมู่เกาะประหาร ด้วยพลังกายระดับ 3 เจ้าแห่งสงคราม ก็เริ่มที่จะถีบคนอื่นๆตามไป
“เจ้าทำอะไรของเจ้า พวกเขาช่วยเจ้านะ เจ้ายังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่”
ชูเฟิง พูดขึ้นมา
“เจ้าหนู ฟังข้า ในเวลาเช่นนี้นั้น มันต้องมีการเสียสละเกิดขึ้นบ้าง”
“เป็นเพราะพวกจ้านั้นมีพลังวิญญาณ และเจ้านั้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนทั้งหมดนั้นเป็นเหตุผลที่ข้าเก็บเจ้าไว้ เจ้ารีบใส่พลังเข้าไปมิเช่นนั้น ข้าจะถีบเจ้าไปอีกคน,”
ชายชราจาก หมู่เกาะประหารพูดขึ้น
“พลังวิญญาณอย่างนั้นหรือ เจ้าขยะ 2 คนข้างๆเจ้าไม่มีพลังวิญญาณทำไมเจ้าไม่ถีบเขาออกไปล่ะ”
ชูเฟิงถามขึ้นในขณะที่จ้องหน้าชายชรา
“หุบปาก ถ้าเจ้าต้องการจะตาย ข้าจะสงเคราะห์ให้”
ชายชราพูดขึ้นด้วยความโกรธ เขาชี้หน้าชูเฟิงและตะโกนเสียงดัง
“อย่างนี้นี่เอง เจ้าต้องการใช้ข้าเป็นสะพานเพื่อข้ามน้ำไปสินะ เจ้าฝันไปซะเถอะ ถ้าเจ้าไม่ต้องการให้พวกเรารอด เจ้าก็อย่าหวังว่าจะรอดเลย ถ้าพวกเราต้องตาย ก็ตายด้วยกันหมดนี่แหละ!”
ชูเฟิงพูดขึ้นด้วยความโกรธ
“ถูกต้อง พวกเราจะไม่ยอมเป็นสะพานให้เจ้าเหยียบ ถ้าเจ้าต้องการให้พวกเราตาย พวกเราก็จะเอาพวกเจ้าไปด้วย!”
“บัดซบ ไหนว่าหมู่เกาะประหารมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และมีมนุษยธรรม แต่นี่มันต่างกับที่ได้ยินมาอย่างริบรับเลย ถ้าพวกเราต้องตาย พวกเราก็จะขอลากเจ้าไปด้วย!”
ในตอนนั้น เมื่อผู้คนรู้แผนชั่วของพวกหมู่เกาะประหารพวกเขาก็ตะโกนเสียงดังลั่น ต้องการให้อสูรนั้นเปลี่ยนเป้าหมายมาที่พวกเขา เพื่อกลั่นคนจากหมู่เกาะประหาร
“บัดซบ พวกเจ้าทั้งหมดหาที่ตายจริงๆ!”
ในตอนนั้นชายร่างยักษ์จากหมู่เกาะประหารก็พูดขึ้นพวกเขาเริ่มจับพวกผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณพร้อมชูเฟิงมัดขา และโยนมันอออกไปด้านหน้าของอสูร
“ท่านอสูร ท่านอสูร เจ้าสัตว์3ตัวจากหมู่เกาะประหาร กำลังซ่อนอยุ่ตรงนั้น มันจะลอบทำร้ายท่าน เร็วเข้ารีบหยุด อ๊ากกกกกก ~~~~”
เขาพยายามที่จะบอกที่ซ่อนให้กับอสูรได้รู้ว่า3คนจากหมู่เกาะประหารนั้นอยู่ที่ไหน
อย่างไรก็ตาม มันไร้ประโยชน์ เมื่ออสูรนั้นไม่เข้าใจคำพูดของมนุษย์ มันจึงเพิกเฉยต่อคำพูดและเริ่มกลั่น
“บัดซบ!!!.”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิงก็ยืนขึ้น เขาไม่ได้มีพลังระดับเจ้าสงคราม ดังนั้นเขาจึงใช้พลังเพื่อให้หลุดจากต้นหญ้าน้ำที่มัดตัวเขาไว้ แต่ในตอนนั้นอสูรก็ได้มาถึงเขาพอดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาหันกลับไปและเห็นท่าทางของพวกหมู่เกาะประหารซึ่งมันทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามอสูรนั้นไม่เข้าใจคำพูดของมนุษย์ เขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว หรือว่าจะชะตาของเขาจะถูกสวรรค์ทอดทิ้งแล้วหรือ
“อ๊ากก~~~”
ในที่สุด ก็มีเสียงร้องจากคนอื่นที่ถูกกลั่น ในพื้นที่ว่างก้นสมุทร มีเพียงอสูร ชูเฟิง และ อีก3คนจากหมู่เกาะประหารที่ยังอยู่
“มาที่ข้าสิไองี่เง่า มาดูกันว่าเจ้าจะเอากระดูกและเลือดเนื้อของข้าไปได้หรือไม่!”
เมื่อร่างกายของเขาถูกยกสูงขึ้น และ อยู่ใกล้กับอสูร ชูเฟิงนั้นไม่มีการแสดงออกถึงความกลัวแม้แต่น้อย เขาตะโกนใส่อสูรตัวนั้นด้วยความโกรธ
*ฮึ่ม*
อย่างไรก็ตาม เมื่ออสูรนั้นเห็นหน้าชูเฟิง ตาที่แดงก่ำดั่งเลือดของมันก็เกิดประการแสง ในตอนนั้นชูเฟิงรู้สึกว่าร่างกายของมันสั่นเบาๆ
เมื่อมองอย่างระมัดระวังชูเฟิงก็พบว่าในตาที่แดงก่ำของมันมีความกลัวปรากฏอยู่ นอกจากนี้เขารู้สึกถึงความคุ้นเคยที่ออกมาจากตาของมันอีกด้วย
“เจ้าเป็นใครกัน!!!”
ในตอนนั้นก็เกิดความรู้สึกบางอย่างในความคิดของชูเฟิง เจ้าอสูรที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นมันช่างคุ้นเคยเสียจริง
*ตุบ*
แต่เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่ออสูรตัวนั้นปล่อยชูเฟิงลงพื้น จากนั้นมันก็หันมามองเขาแว้บนึงจากนั้นมันก็หันกลับและเดินไปยัง 3 คนที่มาจากหมู่เกาะประหาร
“บัดซบ เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงตรงมาที่เรา ทำไมมันถึงไม่กลั่นเจ้าเด็กนั่น”
เมื่อเห็นเช่นนั้น พวกเขาก็รู้สึกกลัวอย่างมาก และไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่ฆ่าชูเฟิง และตั้งเป้ามาที่พวกเขาทันที
“ชิบหายแล้ววว.”
ในตอนนั้น ชายชราที่อยู่ในระดับ 3 เจ้าแห่งสงครามก็ตะโกนดังลั่น จากนั้นเขาก็เดินมาด้านหน้าของชายร่างยักษ์ และ แบมือขึ้นทำให้สัญลักษณ์สว่านปรากฏขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อสัญลักษณ์นั้นปรากฏขึ้น มันก็หมุนทันที ซึ่งก่อให้เกิดบรรยากาศที่น่าเกรงขามมาก และ ยังมีกลิ่นอายที่น่ากลัวอีก เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้สมบัติชิ้นนี้เพื่อหลบหนีแบบนี้ ความจริงแล้วเขาต้องการใช้มันเพื่อต่อสู้กับอสูรตัวนั้น
ที่มา: