ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ ชูเฟิง ตื่นขึ้น เขาก็พบว่า ซูรู่ ไม่ได้อยู่ข้างๆ อีกแล้ว แต่บนเตียงนอนนั้น ยังคงมีกลิ่นหอมของนางติดอยู่ แน่นอนแล้วว่า เมื่อคืนนี้ ซูรู่ ได้มาหาเขา
เมื่อเขาออกมาจากห้อง เขาก็เห็น ซูรู่ และ ซูเหม่ย สองพี่น้องกำลังจำมือพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้
ความกังวลใจเล็กๆ ภายในหัวใจของเขาพลันหายไปราวกับควัน เขาเข้าใจได้ทันทีถึงสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของสองพี่น้อง ว่าไม่มีความยัดแย้งใด ทำให้พวกนางผิดใจกันได้
“เป็นไงบ้าง !! หลับสบายไหมในคืนสุดท้าย”
ซูเหม่ย ใช้มือเล็กๆ ของนางแตะไปหลังของ ชูเฟิง ในขณะที่เดินเข้ามา และกล่าวเบาๆ ไปที่ข้างหู
“อ๊ะ แม่นางน้อย…….”
ชูเฟิง ยังคงระวังตัวอยู่มาก หลังจากความเขินอายเมื่อคืนนี้ เขาแอบมองไปที่ ซูรู่ และเห็นว่านางเพียงขดริมฝีปาก พลางยิ้มบางๆ และหันหน้าไปทางอื่น แสร้งทำเป็นไม่สนใจต่อเขาอีก
ในขณะนั้น ชูเฟิง ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาคิดไปว่า ซูรู่ ได้เล่าเรื่องราวระหว่างเขากับนางเมื่อคืนนี้ ให้แก่ ซูเหม่ย ฟัง
ในเวลาเดียวกันนั้น ริมฝีปากของ ซูเหม่ย ก็ขยับเล็กน้อย นางส่งข้อความทางจิตสู่ ชูเฟิง ว่า
“ครั้งหน้า หาที่ลับตาและข้าจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างของข้าให้แก่เจ้า แต่ต้องระวังอย่าให้พี่สาวข้าจับได้อีก ไม่เช่นนั้น พี่สาวข้าจะไม่ยกโทษข้าแน่ๆ”
แม้แต่ในคืนเทศกาลชมจันทร์ ชูเฟิง ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการร่วมรักกับ ซูเหม่ย แม้ว่าเขาจะได้ร่วมรักกับ ซูรู่ แทนก็ตาม แต่มันก็ไม่เทียบได้กับ ซูเหม่ย ที่เขารัก
เหตุผลที่พวกนางทำตัวเช่นนี้ เพราะว่า พวกนางรู้ดีว่าในวันนี้ ชูเฟิง จะออกจากสำนักสี่คาบสมุทร และออกเดินทางสู่การผจญภัยที่ไม่แน่นอน
ในวันนี้ คือวันสุดท้ายของการสอบเข้าเป็นศิษย์สำนักสี่คาบสมุทร สำหรับคนที่ผ่านการสอบก่อนหน้านี้ พวกเขาจะมีอาจารย์ และได้เข้าสู่สำนักสี่คาบสมุทร
สำหรับ ซูรู่ และ ซูเหม่ย นั้น พวกนางได้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์สวรรค์ ทำให้เกิดความอิจฉาอยู่บ้าง
นอกจากสองพี่น้องแล้วนั้น ยังมี จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง ที่ได้รับคำชื่นชม และมีโอกาสที่จะได้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์สวรรค์
โอกาสทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับพวกเขา อีกทั้งฐานะ และตำแหน่งของพวกเขา ก็ขึ้นอยู่กับความสมารถของพวกเขาเองเช่นกัน
ภายในบรรดาผู้ที่แข่งขันกัน เพื่อจะได้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์สวรรค์นั้น ล้วนเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง และขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะทั้งสิ้น แต่ในสายตาของ ชูเฟิง นั้น ไม่มีแม้แต่คนเดียว ที่สามารถเอาชนะเขาได้
เมื่อมองไปยังสมาชิกรุ่นใหม่เหล่านั้น เต็มที่พวกเขาก็มีพลังเพียงระดับหก ขั้นแดนสวรรค์ และหากว่า ชูเฟิง ใล้พลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นั้น มันจะทำให้พลังของเขาก้าวเข้าสู่ระดับหก ขั้นแดนสวรรค์เช่นกัน และในระดับพลังเท่ากันนั้น ย่อมไม่มีผู้ใดเอาชนะ ชูเฟิง ได้ นอกจาก จื่อ หลิง เท่านั้น
ในความเป็นจริงนั้น นอกจาก ชูเฟิง แล้วนั้น จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง เอง ก็ไม่ได้มีอุปสรรคใดๆ ในการสอบ พวกเขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย และกลายเป็นบุคคลที่โดดเด่น และถูกจับตามองจากหลายๆ คน
นั่นเป็นเพราะพลังขอกพวกเขาอยู่ในระดับสาม ขั้นแดนสวรรค์เท่านั้น ทางด้าน เซินถู่ เจียง และ เซินถู่ ไฮ่ ที่มีพลังระดับสี่ ขั้นแดนสวรรค์ ก็ได้รับคำชมเชยจากการต่อสู้มาไม่น้อย
ชูเฟิง รู้สึกมีความสุขอย่างมาก เมื่อเขารู้ว่า ซูรู่ , ซูเหม่ย , จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง เป็นที่จับตามองของหลายๆ คน เพราะนั่นจะทำให้พวกเขามีโอกาสกลายเป็นศิษย์ของปรมาจารย์สวรรค์ ซึ่งนั่นคือทางที่ดีที่สุดภายในสำนักสี่คาบสมุทร
อีกทั้ง การที่พวกเขาเป็นถึงอัจฉริยะของทวีปเก้าอาณาจักร แม้จะมาอยู่ที่ทะเลตะวันออก พวกเขาก็ยังคงขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะอยู่
หลังจากที่ จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง ประสบความสำเร็จในการเป็นศิษย์ของปรมาจารย์สวรรค์นั้น ชูเฟิง ก็เตรียมที่จะออกจากสำนักสี่คาบสมุทร เพราะในวันนี้ คนที่ไม่สามารถเข้าสู่สำนักสี่คาบสมุทรได้ จะต้องออกจากสำนัก
เมื่อ ชูเฟิง กำลังจะจากไปนั้น เขาไม่ได้ร่ำลาคนอื่นๆ แต่อย่างใด เพราะเขาไม่ให้ทุกคนต้องเศร้าเสียใจ เขาอยากให้ทุกคนมีความสุข และเขาเองก็จะมีความสุขกับการเดินทาง
ในขณะที่เขามาถึงที่ประตูวาร์ปนั้น เขาก็พบกับชายสองคนที่เขาคุ้นเคย นั่นคือ เซินถู่ เจียง และ เซินถู่ ไฮ่ ใบหน้าของพวกเขากำลังปูดบวม เพราะถูกอัดโดย จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง กำลังยืนอยู่ท่ามกลางเสียงซุบซิบของฝูงชนรอบด้าน
ชูเฟิง สังเกตเห็นว่า ริมฝีปากของพวกเขากำลังขยับ นั่นหมายความว่า พวกเขากำลังส่งข้อความทางจิตเพื่อสนทนากันอยู่
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิง จึงไม่รอช้า เขารีบแผ่อำนาจพลังวิญญาณของเขาออกไปในทันที เพื่อฟังการสนทนาของพวกเขา
“บ้าเอ๊ย !! พวกเราพ่ายแพ้ให้กับคนที่มีพลังเพียงระดับสาม ขั้นแดนสวรรค์ ในตอนนี้พวกเราไม่มีหน้า ที่จะอยู่ที่นี่แล้ว”
“เฮ้อ ถ้าพี่ใหญ่ เซินถู่ หลาง อยู่ที่นี่ล่ะก็ เขาจะต้องสั่งสอนเจ้าพวกนั้นแน่”
“แน่นอน ถ้าเขาอยู่ที่นี่ ภายในจำนวนผู้เข้าสอบปีนี้ เขาจะต้องกลายเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดอย่างแน่นอน”
“แต่ทำไมเขาถึงยังไม่มา !? เราไม่ได้บอกเขาเหรอว่า พวกเราจะเข้าสำนักสี่คาบสมุทร !! นี่เขาทำบ้าอะไรของเขาอยู่กัน !?”
“ข้าก็ไม่รู้ !! แต่ข้ามั่นใจว่า พี่ใหญ่ เซินถู่ หลาง จะต้องมีแผนที่ยอดเยี่ยมแน่นอน”
เซินถู่ เจียง และเซินถู่ ไฮ่ กำละงสนทนากันเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ของพวกเขา และดูเหมือนว่าคนรอบข้างของพวกเขานั้น ไม่ใช่คนของพวกเขาแต่อย่างใด
“โอ้ นึกว่าใคร ที่แท้ก็ เซินถู่ เจียง และ เซินตู่ ไฮ นี่เอง ไม่เจอกันแปปเดียว ทำไมใบหน้าของพวกเจ้าถึงได้กลายเป็นหมูไปซะแบบนี้”
“อ่า ข้ารู้แล้ว เจ้าพ่ายแพ้ในการต่อสู้มาซินะ พวกเขาเป็นใคร…ใช่ จาง เทียนยี่ กับ เจียง หวู่ชาง ถูกต้องไหม”
“นี่มันน่าละอายจริงๆ !! ในคืนนั้น พวกเจ้าบอกว่าจะจัดการกับพวกเขา แต่ไหนในตอนนี้พวกเจ้ากลับพ่ายแพ้จนสารรูปดูไม่ได้เช่นนี้กัน !! พวกเจ้ามันก็ดีแต่ปากเท่านั้นแหละ”
หลังจากฟังการสนทนาอยู่นานนั้น ชูเฟิง ก็ตั้งใยเดินเข้าไปหาทั้งสองคน และกล่าวออกมาเสียงดังด้วยความเย้นหยัน
“เจ้า !!”
ทันที่นั้น ทั้งสองคนตะโกนออกมา ในท้องของงพวกเขารู้สึกปั่นป่วนไปด้วยความโกรธเคือง เมื่อพวกเขาถูกฉีกหน้าโดย ชูเฟิง
“ฮึ่มมม !!”
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถกล่าวอะไรออกมาได้ เพราะความพ่ายแพ้ของพวกเขานั้น ทุกคนต่างรับรู้เป็นอย่างดี หากเขากล่าวอะไรออกไป มันยิ่งเป็นการทำให้พวกเขาต้องตกที่นั่งลำบากไปเท่านั้น ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาทำได้เพียงแค่อดทนเท่านั้น
“อ่า….อย่าเงียบซิ มาคุยกับข้าก่อน”
“อะไรนะ !! พวกเจ้าไม่ได้ยินรึ !! ข้าแนะนำว่า พวกเจ้าควรไปแคะหูบ้างนะ”
“สวะ !! ถ้าข้าเป็นพวกเจ้าสองคน ข้าคงมุดรูหนีไปแล้ว ราชวงศ์เซินถู่ คงจะเป็นสถานที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญสวะล่ะซิท่า !!”
แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ตอบโต้ใดๆ ออกมา ชูเฟิง ก็ยังคงด่าทอพวกเขาด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองคนก็หายจากสายตาของทุกคน ในเวลาเดียวกันนั้น ชูเฟิง กลับยิ้มบางๆ ออกมา ราวกับแผนการที่ชั่วร้ายของเขาได้สำเร็จลุล่วงแล้ว
เขาไม่รอช้า รีบเข้าไปยังพื้นที่เคลื่อนย้าย และออกมาจากสำนักสี่คาบสมุทรอย่างรวดเร็ว ชูเฟิง สัมผัสได้ทันทีว่ามีบุคคลสองกำลังรอเขาอยู่
แม้ไม่ต้องตรวจสอบ ชูเฟิง ก็รู้ได้ทันทีว่า สองคนนั้น จะต้องเป็น เซินตู่ เจียง และ เซินตู่ ไฮ อย่างแน่นอน เพราะพวกนั้นไม่สามารถทนต่อคำดูถูกเหยียดหยามของ ชูเฟิง ได้
แน่นอนว่าพวกเขาตั้งใจจะมาสั่งสอน ชูเฟิง แต่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่า คำเย้ยหยันเหล่านั้า คือหลุมพลางที่ ชูเฟิง ขุดเอาไว้สำหรับพวกเขา พวกเขายังคงมั่นใจว่าด้วยพลังของพวกเจานั้น สามารถจัดการกับ ชูเฟิง ได้อย่างง่ายดาย และไม่รู้เลยว่า พวกเขาเองกำลังจะก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความตาย
: ชูเฟิงจะล่อมัน ไปรูดทรัพย์อีกสิท่า
: แต่รีดเดอร์บอก เด๋วสองคนนี้ ถูกจับไปขังบ่อขี้เหมือนกับพี่มัน
: งั้นก็ฮา เลยอ่ะดิ ถ้าหากพวกมันเห็นพี่ใหญ่ ถูกขังในบ่อขี้ พวกมันจะทำหน้าไงนะ
: แค่คิดก็สะใจล่ะ ตามไปอ่านเลยดีกว่า . . . . .
ที่มา: