ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปและสำหรับการบ่มเพาะส่วนสมองนั้น ผลที่ได้นั้นสุดยอดมาก เพียงแค่คำไม่เกิน 100 คำที่ได้รู้นั้นก็แทบจะไขความลึกลับของโลกได้ เพียงแค่คำเดียวนั้นก็สามารถทำให้เข้าใจได้ถึงหลายๆอย่าง ทั้งหมดนั่นขึ้นอยู่กับผู้บ่มเพาะด้วย
ในเวลาสั้นๆ ชูเฟิงสามารถเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้งเขารู้สึกว่าถ้าเขาบรรลุมันได้ในอนาคตเขาจะไม่ต้องกังวลเรื่องทรัพยากร เพราะเขาสามารถใช้มันค้นหาได้
ดังนั้นเวลา 2 เดือนของชูเฟิงก็หมดไปกับการบ่มเพาะวิธีค้นหาเส้นชีพจร
ใน 2 เดือนนั้น ยอดยุทธภัณฑ์ราชรถ ได้บินผ่าน ป่า ทะเลทราย แม่น้ำ ทะเลสาบ ภูเขา มาจำนวนมาก
และหลังจาก 2 เดือนที่เดินทางแบบไม่หยุดพักพวกชูเฟิงก็ถึง ภูมิภาคทะเลตะวันออก
“ชูเฟิง ชูเฟิง!”
ในตอนนั้น ชูเฟิงนั้นอยู๋ในห้องของเขากำลังศึกษาเรื่องวิธีค้นหาเส้นชีพจรอยู่ ก็มีเสียงของซูเหม่ยดังขึ้นมา ชูเฟิงจึงหยุดการบ่มเพาะ
“เหม่ย น้อย มีอะไรหรือ”
เมื่อเปิดตาขึ้นชูเฟิงก็เห็น ทั้ง ซูรู่ว และ ซูเหม่ยยืนอยู่หน้าเขา นอกจากนี้ยังยืนยืมอยู่ด้วย
“เห้ มาเร็วเข้า รีบมาดูนี่เร็ว เจ้าจะได้รู่เมื่อเจ้าได้เห็นเอง!”
ซูเหม่ยไม่บอกอะไร เธอจับมือชูเฟิงและดึงเขาออกไป
หลังจากเดินออกมาจากห้องและมาที่หน้าต่าง ดวงตาของชูเฟิงก็ต้องหดลงอย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
นั่นเพราะว่าในตอนนี้ ด้านใต้ราชรถนั้น มีทะเลที่กว้างใหญ่ไม่มีสิ้นสุดอยู่ ทะเลนั้นต่างจากที่ชูเฟิงเคยเห็นมาก่อน
น้ำทะเลนั้นมีสีฟ้า และมีคลื่นลูกใหญ่ที่สูงเสียดฟ้า แม้แต่คลื่นลูกเล็กก็สูงเป็นเมตร ในขณะที่ลูกใหญ่สุดนั้นสูงกว่า 100 เมตร นั่นทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก
ในตอนนั้นแม้จะยืนอยู่ในราชรถแต่ก็ได้ยินเสียงคลื่นเสียงชัดเจน เห็นได้ชัดว่า ทะเลแถบนี้นั้นคนปกติทั่วไปไม่สามารถอยู่รอดได้ และนี่คือทะเลของภูมิภาคทะเลตะวันออก
“ภูมิภาคทะเลตะวันออก ช่างกว้างใหญ่ยิ่งนักแล้วเหนือทะเลนั้นยังมีเกาะอีกด้วย แต่เกาะนี่ขนาดของมันน่าจะใหญ่กว่าทวีปเก้าอาณาจักรเสียอีก”
“ทะเลของภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้นมีความลึกมาก จากที่ข้าเคยได้ยิน ที่ก้นทะเลนั้น มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มากมาย และยังมีสัตว์ยักษ์ที่แข็งแกร่งอาศัยอยู่ในทะเลส่วนลึกอีกด้วย.”
“ในทำนองเดียวกันก้าทะเลนั้น มีสิ่งก่อสร้างจำนวนนับไม่ถถ้วนอยู่ และในนั้นยังมีสมบัติอยู่มากมายอีกด้วย.”
เจียง หวู่ชาง พูดขึ้นจากด้านข้าง
“มันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก เมื่อได้เข้ามาในที่แบบนี้มันก็เหมือนได้เข้ามาในโลกใหม่แล้ว.”
ชูเฟิงพูด
ภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้นใหญ่มาก ส่วนสำนัก4สมุทรก็ตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนตะวันออกของภูมิภาคนี้ ถ้าพวกเขาต้องการไปที่นั่น ก็ต้องใช้เวลาเดินทาง2-3 วันหรือมากกว่านั้น
หลังจากเดินทางได้ 2 อาทิตย์แล้ว พวกเขาก็เห็นเกาะ และ เห็นมนุษย์บ้างแล้ว
“ดูนั่น มีโรงเตี๊ยมอยู่ตรงนั้น พวกเราก็อยู่ไม่ไกลจากสำนักสี่สมุทรแล้ว ทำไมไม่ไปหาอะไรทานซักมื้อหน่อยล่ะ ที่สำคัญจะได้รู้ว่าอาหารของภูมิภาคทะเลตะวันออกมีรสชาติเป็นยังไง.”
เจียง หวุ่ชาง พูดขึ้นแล้วหัวเราะออกมา และเมื่องมองไปที่โรงเตี๊ยมขนาดใหญ่นั่น ก็เห็นว่ามีราชรถและม้าพันธุ์พิเศษอยู่ข้างนอกและยังมี สัตว์ยักษ์อยู่อีกด้วยพวกมันถูกมัดโดยเชือกรูปแบบวิญญาณ
ในโรงเตี๊ยมนั้นมีคนอยู่มากมาย แม้ว่ามันจะไกลมาก แต่พวกเขาทุกคนก็สามารถเห็นได้ และเห็นว่าแทบทุกคนในนั้นเป็นผู้ฝึกตนทั้งสิ้น
โรงเตี๊ยมนี้มันยังไงกันแน่ มันเหมือนกับเมืองขนาดเล็กๆในทวีปเก้าอาณาจักรเลย ชูเฟิงและคนอื่นๆไม่เคยเห็นโรงเตี๊ยมเช่นนี้มาก่อน พวกเขาไม่เคยเห็นโรงเตี๊ยมที่มีผู้ฝึกตนมากมายมารวมตัวกันในที่เดียว
“หวา ที่นี่มีคนเยอะจังเลย เราไปดูกันเถิด หลังจากกินอาหารแห้งมานาน ข้าอยากกินอาหารอร่อยๆบ้าง.”
ในตอนนั้น ซูรู่วก็พูดขึ้นมา พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปราถนา
เมื่อเห็นเช่นนั้น จาง เทียนยี่ที่รับผิดชอบในเรื่องการขับราชรถ ก็มองไปที่ชูเฟิง แล้วก็พยักหน้า จากนั้นเขาก็ขยับราชรถลง เพื่อที่จะเข้าไปยังโรงเตี๊ยมนั่น
ส่วนทางเข้าราชรถนั้น มีชูเฟิงและคนอื่นอยู่ จึงเป็นที่สนใจจากผู้คนในโรงเตี๊ยมอย่างมาก เพราะยอดยุทธภัณฑ์นั้น เป็นเหมือนสมบัติ แม้แต่ในภูมิภาคทะเลตะวันออกมาก็ยังคงมีค่ามาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราชรถที่พวกชูเฟิงและคนอื่นๆนั่งมานั้น มันหรูหราและงดงามมาก จึงมีผู้คนมาสนใจจำนวนไม่น้อย
แม้บางคนจะเกิดความคิดอกุศล เพราะพื้นที่นี้ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของ สำนัก 4 สมุทร และมันอยู่ห่างไกลมากจึงไม่มีคนมาตรวจเรื่องการฆ่า ปล้น ใดๆ ดังนั้น จึงมีอาชญากรอยู่ในที่นี้เต็มไปหมด
อย่างไรก็ตาม หลังจากพวกชูเฟิงนั้นเดินออกมาจากราชรถพวกที่คิดจะปล้นก็ได้แต่นื่งเงียบทันที
5 หนุ่มสาว ที่มี 3 คนอยู่ในระดับ3 อาณาจักรสวรรค์ และอีก 2 คนอยู่ในระดับ 2 อาณาจักรสวรรค์ ด้วยอายุเพียงนี้ และพลังขนาดนี้ แม้แต่ในภูมิภาคทะเลตะวันออกนั้น ก็ไม่ถือว่าน้อย
เมื่อเห็นความแข็งแกร่งของชูเฟิงและคนอื่น พวกเขาก็รีบหลบออกมาด้วยความกลัวทันที
และมีบางคนนั้น เมื่อเห็นความงามของ ซูรู่ว และ ซูเหม่ย จึงจ้องมองอย่างน่ารังเกียจ
แต่เมื่อพวกเขาเห็น สายตาของชูเฟิงพวกเขาก็ยิ้มขอโทษและคนอื่นๆ จึงทำให้พวกเขารีบเดินหนีออกมาอย่างรวดเร็วโทษ
“ดูเหมือนว่าแถวนี้จะมีพวกชั่วร้ายเยอะทีเดียว.”
เมื่อเห็นคนถอยออกไปเนื้องจากสัมผัสพลังของพวกเขาได้ จาง เทียนยี่ก็พูดขึ้น
“คนอ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่ง นั่นเป็นกฎของโลกนี้ “
ชูเฟิงยิ้มแล้วพูดออกมา
“ คุณชายคุณหนู ท่านจะมาพักหรือรับทานอาหาร”
ในตอนนั้น ก็มีเสี่ยวเอ้อวิ่งออกมาด้วยรอยยิ้ม
ในตอนนั้นพวกเขาก็พบว่า แม้จะเป็นชุดบริกร แต่มันก็ดูหรูหราอย่างมาก และมันกว่าทวีปเก้าอาณาจักรหลายเท่า
แต่สิ่งที่ตกใจคือ เสี่ยวเอ้อ นั้นมีระดับอยู่ท่ กำเนิดวิญญาณ
“โห ในภูมิภาคทะเลตะวันออก แม้แต่เสี่ยวเอ้อ ก็ยังอยู่ระดับกำเนิดวิญญาณเลยหรือ.”
ในตอนนั้น ซูเหม่ยก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ.
นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านี้ ระดับของเธอก็อยู่แค่กำเนิดวิญญาณเช่นกัน ถ้าไม่ได้ไข่มุกคิมหันต์ เข้ามาในตัวเธอ เธอก็ยังอยู่ในระดับกำเนิดวิญญาณ
ใน ภูมิภาคทะเลตะวันออก เสี่ยวเอ้อที่ต่ำต้อยคอยรับหน้าที่เทชาให้คนอื่นๆ ยังอยู่ในระดับกำเนิดวิญญาณ นั่นทำให้เธอตกใจอย่างมาก และรู้สึกว่าช่างไม่ยุติธรรมเสียจริง
แปลโดยท่าน#ฮาย
ที่มา: