ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 692 – ตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“ถูกต้อง เราต้องรวมพลังกันแล้วโจมตีออกไป โดยใช้ไพ่ที่เก็บซ่อนไว้ ในตอนนี้ ถ้าพวกเราไม่ยอมร่วมมือกัน พวกเราจะพ่ายแพ้และถูกเจ้าเด็กนั่นแย่งทุกอย่างไป””ในตอนนี้ ด้านหน้าของพวกเรามี วิญญาณตราประทับ หลายพันดวงอยู่ ถ้าพวกเรานำมันไปแลกอาจจะได้ทักษะต้องห้ามระดับพสุธาที่เป็นตำนานของหุบเขาสายหมอกเลยก็เป็นได้ เจ้าจะยอมพลาดมันไปอย่างนั้นหรือ?”
ฉาน เฟิง พูดขึ้น คำพูดของพวกเขานั้นทำให้ชูเฟิงเข้าใจว่าพวกเขาจะใช้ทักษะต้องห้ามเพื่อต่อสู้กับเขา
อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นต่างไม่ได้มีความสัมพันธ์กันที่ดีนัก จึงต้องขอความร่วมมือจากคนอื่นๆ
และนอกจากนี้ ด้วยชื่อของอัจฉริยะที่โดดเด่นจากหมู่เกาะประหาร มันคงจะไม่ดีนักหากพวกเขามาแพ้ให้กับคนคนเดียว
ทักษะต้องห้ามระดับบาดาลนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ก็มีผลกระทบที่รุนแรงเช่นเดียวกัน แต่ทั้ง 3 ก็ต้องการจะใช้มัน เพราะ พวกฉาน เฟิงนั้นไม่อยากแพ้ให้กับการต่อสู้และพลาดสมบัตินี้ ดังนั้นพวกฉาน เฟิง จึงต้องใช้ทักษะต้องห้ามระดับบาดาลเพื่อเอาชนะชูเฟิง
นั่นเป็นสิ่งที่หยา เฟย ต้องการให้ทำตั้งแต่แรก หยา เฟย ต้องการให้ทั้ง 3 คนใช้ทักษะต้องห้ามในเวลาเดียวกัน แต่นั่นมันเป็นเพราะนางรู้ว่า ฉาน เฟิง กับ มู่หรง ว่านไม่ยอมใช้มันอย่างแน่นอน “ดี!!! ในตอนนี้พวกเราโจมตีร่วมกัน ใครก็ตามที่ไม่ยอมทำตาม ข้าจะให้พี่ชายของข้าให้บทเรียกแก่มันซะ.”
ในตอนนั้น มู่หรง ว่านพูดขึ้น
ในตอนนั้นมือซ้ายของเธอก็มีพิณปรากฏขึ้น และมือขวาของเธอนั้นก็เริ่มบรรเลงมัน และนั่นทำให้พลังของเธอนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลิ่นอายจองเธอนั้นพุ่งขึ้นเกือบถึงระดับ 6 จ้าวแห่งสงคราม
ในเวลาเดียวกัน ประกายตา ของ ฉาน เฟิง และ หยา เฟย ก็เปลี่ยนแปลงไป ทั้งคู่กำกระบี่แน่น และนั่นก็ทำให้พลังของทั้ง 2 พุ่งสูงขึ้นเช่นเดียวกับ มู่หรง ว่าน
ในตอนนั้น พลังของทั้ง2เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจนสุดท้ายมันก็พุ่งขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับ มู่หรง ว่าน “ทักษะต้องห้ามระดับบาดาล เพลงกระบี่ลวงตา!”
ในตอนนั้น หย่า เฟย ก็ตะโกนออกมา และเหวี่ยง กระบี่ของเธอทำให้เกิดเส้นแสงขนาดยักษ์พุ่งตรงไปยังชูเฟิง
แสงสีขาวที่มีพลังมหาศาลนั้น มีพลังพอที่จะส่งชูเฟิงไปสู่ความตาย ในตอนนั้น ชูเฟิงรู้ดีว่ากระบี่แสงนี้แข็งแกร่งเพียงใด เมื่อนึกย้อนกลับไปตอนที่หยา เฟย โจมตี หยวนรู่ว “ทักษะต้องห้ามระดับบาดาล เพลงกระบี่ลวงตา!!”
ในเวลเดียวกับ มู่หรง ว่าน และ ฉาน เฟิง ก็ตะโกนออกมา แสงสีขาวนั้นปรากฏขึ้นจากยุทธภัณฑ์ของทั้ง 2 เช่นเดียวกับ หย่า เฟย
ทักษะต้องห้ามของพวกเขานั้น เกิดขึ้นแทบจะพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ชูเฟิงนั้นได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับมันแล้ว เขากำดาบตราประทับมังกรแน่น จากนั้นพลังของเขาก็พุ่งสูงขึ้นและใช้พลังของมันเพื่อต่อสู้กับทั้ง 3 นั่น ต่อจากนั้นเขาได้ปล่อยฝ่ามือ ออกไป 3 ฝ่ามือ
*โฮก!!!*
*โฮก!!!*
*โฮก!!!*
เมื่อฝ่ามือทั้ง 3 ทุกปล่อยออกมา ก็ปรากฏร่างของพยัคฆ์ขาวขนาดยักษ์พุ่งออกมา รูปลักษณ์ของมันนั้นดูเบลอๆ แต่เสียงคำรามของมันน่าเกรงขามมาก มันแสดงให้เห็นถึงพลังของทักษะเร้นลับ ทักษะพยัคฆ์ขาวสังหาร
ทักษะพยัคฆ์ขาวสังหาร นั้นเป็นทักษะที่แข็งแกร่งมากในการโจมตีและยากที่จะหยุดได้ ดังนั้นเมื่อทักษะพยัคฆ์ขาวสังหารนั้นถูกปล่อยออกมา ท่าทาง ของทั้ง 3 ที่ใช้ทักษะต้องห้ามก็ต้องเปลี่ยนแปลงทันที “นั่นมัน ทักษะเร้นลับ!”
ทั้ง 3 ตกใจอย่างมาก พวกเขารู้ทันทีว่าทักษะที่ชูเฟิงปล่อยออกมานั้นไม่ใช่ทักษะทั่วไปแต่เป้นทักษะเร้นลับในตำนาน
ทักษะเร้นลับนั้นเหนือกว่าทักษะต้องห้ามมาก แม้แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถจะมีได้ แต่ชูเฟิงนั้นมี นอกจากนี้เขายังใช้มันอย่างเป็นธรรมชาติอีก จะไม่ทำให้เขาตกใจได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นไม่ได้อ่อนแอ แต่ทักษะเร้นลับนั้นแข็งแกร่งมากเกินไป พวกเขารู้ว่าทักษะเร้นลับนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นไปตามเจ้านายของตน และด้วยพลังของชูเฟิงในตอนนี้ ทักษะเร้นลับนั้นยังสำแดงเดชได้ไม่มากนัก พวกเขาจึงคิดว่ามันน่าจะอ่อนแอกว่าทักษะต้องห้ามของพวกเขา
*ตูม*
*ตูม*
*ตูม*
ในที่สุด เสียงระเบิดก็ดังขึ้น และก่อให้เกิดคลื่นที่น่าเกรงขามกระจายออกไปทั่วทุกพื้นที่ แม้แต่อารามนั้นยังถึงกับถูกทำลายใบบางส่วน
พลังนั้นทำให้อากาศถึงกับแยกออก และหลังจากนั้นมันก็ค่อยๆคืนตัวอย่างช้าๆ “มันหายไปอย่างนั้นหรือ!!!”
อย่างไรก็ตามชูเฟิงก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะทักษะของเขานั้นแข็งแกร่งมาก แต่ต่อหน้าทักษะต้องห้ามของพวกเขานั้นมันก็ไม่อาจเทียบได้และพ่ายแพ้ไป
มันเป็นครั้งแรกที่ทักษะพยัคฆ์ขาวสังหารของชูเฟิงนั้นพ่ายแพ้ให้กับทักษะของคนอื่น มันบอกได้ชัดว่าทักษะต้องห้ามนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน พวกมันนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาเทียบกับทักษะปกติได้เลย
เมื่อเห็นว่าเพลงกระบี่ลวงตาทั้ง 3 กำลังเข้ามาใกล้ ชูเฟิงก็ไม่ได้ตกใจ แม้มันจะเอาชนะ ทักษะพยัคฆ์ขาวสังหารของเขาได้ แต่มันก็สูญเสียพลังไปมาก
เห็นได้ชัดว่าพลังของมันด้อยกว่าแต่ก่อนมาก และชูเฟิงยังมีพลังอย่างอื่นที่ใช้รับมือกับมันอยู่นั่นคือ ทักษะเร้นลับ เกราะเต่าดำ
*ฮึ่ม*
ใครจะกล้าลังเลในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ ชูเฟิงนั้นรีดพลังของเขาเพื่อใช้งานทักษะเกราะเต่าดำ
เขารู้ว่าหลังจากใช้ทักษะต้องห้าม พลังของทั้ง 3 ต้องลดลงงอย่างมาก และบางทีนั้นถึงกับไม่สามารถที่จะสู้ต่อได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสของเขา ถ้าเขาไม่สามารยืนหยัดอยู่ได้ เขาก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้เช่นกัน
ชูเฟิงนั้นไม่สนใจอะไร เมื่อเห็นว่าทักษะพยัคฆ์ขาวสังหาร ไม่ได้ผลเขาจึงรีบใช้ทักษะเกราะเต่าดำ เพื่อป้องกันการโจมตีทันที
*ตูมมมม* เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อ เพลงกระบี่ลวงตานั้นพุ่งเข้าใส่ชูเฟิง “ศิษย์น้อง หวู่ฉิง!”
ชุน หวู และ ฉิว ชือ ตะโกนออกมา พวกเธอนั้นเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญญาณ จึงใช้พลังวิญญาณเข้าไปตรวจสอบ และพบว่าชูเฟิงนั้นถูกล้อมรอบด้วยคลื่นบางอย่างอยู่ ทำให้พวกเธอรู้สึกว่าชูเฟิงนั้นยังอยู่ที่นั่น และยังยืนหยัดอยู่
นั่นหมายความว่าต่อหน้าอันตรายเช่นนี้ ชูเฟิงนั้นไม่ได้เลือกที่จะทำลายยันต์นิรันดร์เพื่อหนี แต่เขาเรื่องที่จะต้านทานมัน
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 คนที่ใช้ทักษะต้องห้ามนั้นไม่มีใครคิดว่าชูเฟิงจะสามารถต้านทานได้ ถ้าหากชูเฟิงเลือกที่จะไม่ทำลายยันต์นิรันดร์ เขาคงจะตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ReaDMGA//////////////////////////A : พี่เฟิงนี้นะตาย!!! แต่เสียดายจริงๆที่พยัคฆ์ขาวแพ้
B : ชูเฟิงถ้าทุ่มพลังทั้งหมดเหมือนพวกนั้นก็อาจจะชนะ แต่ชูเฟิงต้องเก็บแรงไว้ เพราะพวกมันใช้พลังขนาดนี้ต้องหมดแรงอย่างแน่นอน จากนั้น หย่า เฟย กับ มู่หรง ว่าน ก็จะเสร็จชูเฟิง เพราะไร้เรี่ยวแรงขัดขืน 55555+
C : ว้าววว!!! ชั่วร้ายดีแท้!!!!
A : ร้ายกาจ ร้ายกาจ ไม่นึกเลยว่า ชูเฟิงจะคำนวณไว้แล้ว!!!