I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 713 – แสดงความมั่งคั่ง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 713 – แสดงความมั่งคั่ง

 

“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงกล้าเข้ามาในสำนักสี่สมุทรตามใจชอบเช่นนี้”

 

ยาม 2 คนพูดขึ้นหลังจากมองไปที่ชูเฟิง

 

พวกเขานั้นสุภาพมากเมื่อคุยกับ หลิว เฉินเปียว ไม่ใช่ทุกคนที่จะถูกกระทำเช่นนั้น ปกติแล้วพวกเขามันจะทำตัวโอหังใส่

 

ชูเฟิงนั้นไม่ได้โกรธ เพราะเขาคุ้นเคยกับคนที่เป็นเช่นนี้ พวกเขานั้นอ่อนแอและกลัวคนที่แข็งแกร่ง ดังนั้นชูเฟิงจึงไม่ โต้เถียงกับพวกเขาจากนั้น ชูเฟิงก็พูดว่า”

 

ศิษย์พี่ ไม่ใช่ข้าไม่ทำตามกฎ แต่ข้านั้นแค่ต้องการมาพบสหายของข้า ข้ามีธุระกับพวกเขา.””โอ้ น้องชาย ฟังจากที่เจ้าพูดแล้ว มันดูเหมือนเจ้าต้องการแซงแถวอย่างนั้นสินะ””เจ้าไม่รู้สึกอับอายเมื่อแซงคนจำนวนมากทีรออยู่เลยหรือ ถ้าเจ้าต้องการพบเพื่อนเจ้า ก็กลับไปรอในแถวซะ.”

 

ในตอนนั้น ก่อนที่ยามจะพูดขึ้น หลิว เฉินเปียวก็พูดขึ้นเสียก่อน

 

ในตอนนั้น ชูเฟิงก็อยากจะพูดว่า หลิว เฉินเปียวก็ไร้ยางอายเช่นกัน

 

เขาเป็นคนที่แซงแถวเช่นเดียวกัน แต่กับมาพูดเรื่องความชอบธรรมกับคนอื่น นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนปกติเขาจะทำกัน

 

หลังจากได้ยิน คำพูดของ หลิว เฉินเปียว ศิษย์แซ่ หลี่ ในที่สุดของพูดขึ้น เขาชี้ไปที่ชูเฟิงแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า .”

 

ถ้าเจ้าต้องการพบสหาย ก็กลับไปที่ แถวซะ ไม่เห็นคนที่ต่อแถวอยู่บ้างหรือไร”

 

ในตอนนั้น ศิษย์นาม หวัง ที่กำลังใจเย็นอยู่ หลังจากเขามองมาที่ชูเฟิงก็ถามว่า”

 

สหายของเจ้าชื่อว่าอะไร”

 

เขานั้นได้ถูกตั้งให้เป็นศิษย์ผู้เฝ้าประตู สำนักสี่สมุทร เขารู้จักคนดังทุกคนในสำนักนี้

 

ถ้า ชูเฟิงเป็นสหายของคนเหล่านั้นเขาก็จะไม่ทำอะไรชูเฟิง แต่ถ้าชูเฟิงมีสหายเป็นพวกไร้ชื่อเสียง เขาก็จะพบกับปัญหา

 

ไม่เพียงเขาจะตะโกนด่าชูเฟิง เขายังจะลงโทษชูเฟิงอีกด้วย เช่นให้รอคิว 10 วันถึงเข้ามาได้ เขาจะทำสิ่งที่เป็นปัญหาต่อชูเฟิง โดยการไม่ไปแจ้งให้สหายของเขาให้รู้

 

อย่างไรก็ตาม คนอย่างชูเฟิงเป็นคนแบบไหน แน่นอนเขาสามารถรู้แผนของคนเหล่านี้ได้ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า,”

 

ข้ามีสหายอยู่ 4 คนที่ฝึกฝนอยู่ที่สำนักสี่สมุทร พวกเขาคือ ซู รู่ว, ซู เหม่ย, จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชาง.””อะไรนะ เจ้าคือ!!!”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่าทางของยามทั้ง 2 นั้นต้องเปลี่ยนแปลงอย่างหนักพวกเขาได้ยินว่าทั้ง 4 นั้นเป็นศิษย์ของ ปรมาจารย์สวรรค์

 

นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นดีเยี่ยม และ ซู รู่ว และ ซู เหม่ย ไม่เพียงมีพรสวรรค์โดดเด่น แต่ยังมีความงามที่ราวกับนางฟ้าอีกด้วย ทำให้ศิษย์ชายนับไม่ถ้วนตกหลุมรักพวกนาง

 

แต่ซู รู่ว และ ซู เหม่ย ไม่ได้สนใจพวกเขา มีเพียง จาง เทียนยี่ และ เจียง หวู่ชางเท่านั้น ที่สนิทกับพวกนาง และที่สำคัญที่สุด ทั้ง 4 นั้นเคยมาที่ประตูนี้แล้วบอกว่า ให้มารายงานพวกเขาด้วยถ้าสหายของพวกเขาที่ชื่อ ชูเฟิงมาหา

 

เพื่อให้พวกเขานั้นไม่ผิดคำพูด ซู รู่ว และ ซู เหม่ยก็เคยให้ของขวัญกับพวกเขา ดังนั้นพวกเขานั้นก็ทำตามคำขออย่างตั้งใจ

 

ในตอนนั้น ใบหน้าของยามทั้ง 2 ก็ต้องเปลี่ยนทันที เขาถามในเวลาเดียวกันว่า,”

 

ท่านคือ ชูเฟิงอย่างนั้นหรือ””แน่นอน ข้าคือชูเฟิง.”

 

ชูเฟิง พยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม. “อ๋า น้องชายชูเฟิงนี่เอง เจ้าก็นับว่าเป็นพวกเราคนหนึ่ง””น้องชาย ชูเฟิง ไม่ต้องกังวลเดี๋ยวข้าจะไปแจ้งเขาให้.”

 

หลังจากยามทั้ง 2 รู้ว่าเป็นชูเฟิง ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป พวกเขาต้อนรับดีกว่า หลิว เฉินเปียวเสียด้วยซ้ำ “นี่มันไม่ดีแล้ว.”

 

แต่ในตอนนั้นใบนั้นของศิษย์แซ่หลี่ ก็บิดเบี้ยว “อะไรหรือ!”

 

ศิษย์นามหวัง ถามขึ้นลับๆ “2 ใน 4 พวกเขานั้นเข้าพบปรมาจารย์สวรรค์ พวกเราไม่อาจเข้าไปได้ จึงต้อง . . . . ต้องแจ้งช้าหน่อย””หนำซ้ำ ศิษย์น้อง ซู รู่ว และ ศิษย์น้อง ซู เหม่ย ยังอยู่ไกลกว่าที่ที่ ศิษย์น้อง หลิว (เฉินเว่ย) อยู่มาก มันไม่มีจุดเคลื่อนย้าย ต่อให้พวกเรารีบที่สุดก็กินเวลาไปครึ่งวัน แล้วใครจะไปแจ้งได้กัน”

 

ศิษย์แซ่ หลี่ พูดขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม คนไร้ยางอายเช่น หลิว เฉินเปียว ก็เป็นคนที่ฉลาดมาก เขาสามารถใช้พลังของผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณฟังการสนทนาของทั้ง 2 ได้

 

ดังนั้น เขาจึงรีบ หยิบยอดยุทธภัณฑ์ออกมาจากถุงจักรวาล และนำมาให้ยามทั้ง 2 และพูดว่า,”

 

พี่ชาย ขอโทษจริงๆ ที่สร้างปัญหาให้แก่ท่าน.””น้องชาย หลิว เจ้า..”

 

ในตอนนั้น ตาของศิษย์แซ่หลี่ก็เบิกกว้าง เมื่อเห็นเช่นนั้น เขาก็รู้ทันทีว่า หลิว เฉินเปียวต้องการติดสินบนพวกเขา ให้ไปแจ้ง หลิว เฉินเว่ยก่อน

 

อย่างไรก็ตามเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับอาณาจักรสวรรค์ และ เขาก็มียอดยุทธภัณฑ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่สนใจยอดยุทธภัณฑ์

 

ตรงกันข้ามสำหรับพวกเขา แล้ว ยอดยุทธภัณฑ์นั้น ล้ำค่ายิ้งนัก มันทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างมาก เขาไม่สนว่า หลิว เฉินเปียวจะคิดเช่นไร แต่นี่คือโอกาสทองของพวกเขา! “มันก็แค่ของขวัญเล็กๆน้อยๆจากข้า,”

 

หลิว เฉินเปียวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็หันไปมองชูเฟิงด้วยสายตาไปพอใจ และพูดว่า, “เป็นแค่ขอทาน กลับมากล้าลองดีกับข้าอย่างนั้นหรือ เจ้าสามารถทำแบบนี้ได้หรือไม่”

 

ชูเฟิงนั้นมองไปที่หลิว เฉินเปียวด้วยความไม่พอใจ จากนั้นเขาก็ล้วงเข้าไปในถุงจักรวัล และยิ้มยุทธภัณฑ์ที่มี แสง 2 อันออกมา เขามอบมันให้กับ ยามทั้ง 2 และพูดว่า”

 

พี่ชาย นี่เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆ โปรดรับมันไว้ด้วย.””สวรรค์ นี่คือ …”

 

หลังจากมองยุทธภัณฑ์ในมือชูเฟิง เหล่าศิษย์นั้นก็ต้องตกใจเพราะยุทธภัณฑ์ในมือชูเฟิงนั้น แข็งแกร่งกว่าในมือของ หลิว เฉินเปียวอย่างเห็นได้ชัด

 

ในมือชูเฟิงนั้นเป็นยอดยุทธภัณฑ์ แต่ไม่ได้เป็นยอดยุทธภัณฑ์ ทั่วไปแต่เป็น ยอดยุทธภัณฑ์ชั้นสูง นอกจากนี้ มันยังมีพลังที่น่าตกใจมาก อาจพูดได้ว่า แค้อันเดียวก็สามารถบดขยี้ยอดยุทธภัณฑ์ในมือ หลิว เฉินเปียว เป็นร้อยๆชิ้น “เจ้า…!!!”

 

ในตอนนั้น ท่าทางของ หลิว เฉินเปียวก็ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน แต่ตอนนี้ข้าเขียวคล้ำยิ่งกว่า ซุปถั่วเขียว

 

เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า เจ้าเด็กเหลือขอที่แต่งชุดจนๆ นี่จะมีความมั่งคั่งกว่าเขา เขานำ ยอดยุทธภัณฑ์ชั้นสูง 2 ชิ้นออกมา และ มอบให้กับ ยามเป็นเรื่องง่ายๆ นอกจากนั้น ยอดยุทธภัณฑ์เหล่านั้นยังแข็งแกร่งอย่างมาก

 

ในตอนนั้น ไม่ต้องพูดอะไรมากศิษย์ทั้ง 2 ก็จับจ้องไปที่ ยอดยุทธภัณฑ์ชั้นสูงในมือของชูเฟิง ถึงแม้ว่าตระกูลหลิว จะมีเงิน แต่ก็ไม่อาจซื้อมันมาได้แม้แต่ชิ้นเดียว

 

ReaDMGA///////////////////////////////////////////////////A : นี้สินะ สกิลเงินฟาดหัวของ แบล็คสมิท เวล 99 นี้ขนาดยังไม่จุตินะ ถ้าจุติแล้ว มืงโดนเห็ดฟาดหัวแน่!!!

 

B : แปลกใจเหมือนกัน ว่าชูเฟิงมันติดใจไรกับ ชุดเก่าๆ มันจะใส่ชุดเทพๆหรูๆไม่ได้หรือไง หรือต้องปลอมตัวให้คล้ายขอทาน ป้องกันคนสนใจ

 

C : เปิดรับบริจาคเสื้อผ้าให้แม่งเลยไม๊ ?!

 

A : กลัวจะไม่ถึงมือพี่เฟิงอ่ะดิ

 

C : กูก็กลัว กลัวมืงอ่ะเอาไป ของกูเอาไปคืนมาด้วย . . . . . อย่าตีเนียน เด๋วกูจะตีหัว

 

A : กูเอาไปทำบุญให้เด็กผู้ยากไร้ เกมบอยมืงก็เหมือนกัน!

 

B : ไอ. . .สันขวาน!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments