I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 712 – แซงแถว

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 712 – แซงแถว

 

ไม่เพียง แต่การเพาะปลูกในระดับ 5 อาณาจักรสวรรค์ ของชายผู้นี้จะทำให้ผู้ที่เข้าแถวเงียบ แม้แต่ศิษย์ที่เฝ้าประตูยังรู้สึกว่าเขาไม่ธรรมดา เขาจึงเดินไปถามว่า”

 

ท่านเป็นใคร ? ทำไมท่านถึงไม่ปฏิบัติตามกฏและไม่รอในแถว ?””ศิษย์พี่ ข้าชื่อ หลิว เฉินเปียว เป็นน้องชายของ หลิว เฉินเว้ย ที่เป็นศิษย์ของสำนักสี่คาบสมุทร ข้ามีธุระด่วนต้องการพบเขา ดังนั้นข้าจึงจำเป็นต้องทำแบบนี้ ข้าอยากทราบว่า . . . . . ท่านจะพอช่วยข้าน้อยได้หรือไม่ ?”

 

ชายที่บอกว่าตัวเองชื่อ หลิว เฉินเปียว อมยิ้ม ถาม “ศิษย์น้อง หลิว เฉินเว้ย คือพี่ชายเจ้างั้นหรอ ?”

 

หลังจากได้ยินคำพูดนั้น ดวงตาของศิษย์เฝ้าประตูก็เบิกกว้าง เพราะเขารู้จัก หลิว เฉินเว้ย

 

แม้ว่า หลิว เฉินเว้ย เป็นศิษย์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสำนักสี่คาบสมุทร แต่ด้วยอายุของเขา ก็มีการเพาะปลูกใน ระดับ 5 อาณาจักรสวรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นลูกศิษย์ 1 ใน 10 ปรมาจารย์สวรรค์ ด้วยสถานะตำแหน่งของเขา นับว่าอยู่ในขั้นที่สูงทีเดียว

 

แม้ว่าในแง่ของความอาวุโส ศิษย์เฝ้าประตูจะเหนือกว่า หลิว เฉินเว้ย แต่ในด้านสถานะตำแหน่งเขายังอยู่ต่ำกว่า ดังนั้นดวงตาเขาจึงเบิกกว้าง เมื่อเห็นน้องชายของ หลิว เฉินเว้ย เขาย่อมไม่กล้าที่จะหยาบคายใส่จึงต้องปฏิบัติกับเขาด้วยความเคารพ “นี้ คือหลักฐานของข้า”

 

หลิว เฉินเปียว พยักหน้า ขณะที่พูด เขาก็เอาป้าย ที่เขียนคำว่า ตระกูล หลิว ให้ดู

 

เมื่อเขาเห็นป้ายนั้น ศิษย์ที่เฝ้าประตูก็รีบเปลี่ยนทัศนคติต่อชายผู้นี้ใหม่ พร้อมกับรีบกล่าว”

 

ที่แท้ท่านก็คือศิษย์น้องหลิวนี้เอง พี่ชายท่านเป็นส่วนหนึ่งของสำนักเรา ดังนั่นเราจะจัดการเรื่องของท่านอย่างเร่งด่วน””ตอนนี้ รอศิษย์ที่รับผิดชอบส่งข่าวกลับมาก่อน แล้วข้าจะแจ้งกับพี่หลิว จากนั้นก็ให้เขามารับท่าน”

 

เขาพูด กระซิบเบาๆเพื่อกันคนอื่นได้ยิน “ต้องรบกวนท่านท่านแล้ว”

 

หลิว เฉินเปียว กล่าวขณะอมยิ้ม จากนั้นเขาก็ยิ่งสายตาดูแคลนเหลือบมองคนที่กำลังเข้าแถว กับกล่าวคนเฝ้าประตูว่า”

 

ข้าสงสัยว่า . . . . .เมื่อไหร่คนส่งข่าวจะมาถึงสักที ข้าละสงสารคนพวกนี้จริงๆ ที่ต้องเหนื่อยจากการรอคอย เราให้เขากลับไปดีหรือเปล่าพวกเขาจะได้ไม่ต้องรอเกอร์!!!”

 

แน่นอนว่าคำพูดนั้นเป็นการถากถาง เขาพูดตัดถอนโดยไร้ซึ่งความละอาย และยังกล่าวปิดโอกาสของคนอื่นๆ ตอนนี้ที่เขากล้าพูดคำเหล่านี้ได้ เพราะเขามั่นใจว่าตัวเองได้เข้าไปแน่ๆ เขาเลยจงใจล้อเลียนผู้ที่ไร้ซึงเส้นสาย

 

สำหรับศิษย์เฝ้าประตู เขาไม่ได้โง่ และเข้าใจเจตนาของหลิว เฉินเปียว เป็นอย่างดีจากนั้นเขาก็กล่าวว่า”

 

เมื่อเร็วๆนี้ มีบางอย่างในสำนักที่ต้องจัดการ จึงเหลือคนค่อนข้างน้อยในการจัดการงานที่นี่ จริงๆแล้วพวกเราขาดคนจำนวนมากเลยล่ะ มิเช่นนั้นเหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้น””แม้ว่าจะมีตราประทับเคลื่อนย้ายทั่วทุกมุมของสำนักสี่คาบสมุทร แต่สำนักก็กว้างใหญ่มาก ถึงแม้ว่าจะมีตราประทับเคลื่อนย้าย แต่ยังไงก็มีจำนวนจำกัด นอกจากนี้ ที่พักบรรดาศิษย์ยังอยู่ห่างจากที่นี่ ดังนั้นหากเราต้องการแจ้งข่าวกับพวกเขา เราต้องใช้เวลาสำหรับการเดินทางพอสมควร จากการประเมินของข้า ข้าเกรงว่าคนต่อไปจะกลับมาในวันมะรืน””อะไรนะ?! วันมะรืน!””ใครมันจะรอได้ ? ข้ามีธุระด่วนในตระกูลต้องแจ้งกับคุณชายนะ!””ใครมันจะด่วนเท่าข้า ? ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งกับนายหญิง”

 

คนที่กำลังจะถึงคิว ตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดนั้น บางคนอาจคิดว่าดีสำหรับคนที่อยู่หน้าๆ แต่ใครจะรู้ว่าจะได้แจ้งข่าว วันไหน เดือนไหน กว่าคนส่งข่าวจะกลับมา ก่อนที่พวกเขาจะได้บอกเรื่องสำคัญกับคนที่ต้องการพบ ถ้าเป็นแบบนี้ ใครมันจะทนไหว “อ่า เงียบหน่อย เงียบหน่อย!!”

 

ในตอนนั้นชายที่ชื่อ หลิว เฉินเปียว โบกมือใส่ฝูงชน เพื่อให้พวกเขาเงียบ แล้วพูดต่ออีกว่า”

 

เจ้าก็ได้ยินคำพูดของเขาเมื่อกี้แล้วนะ ว่ามีปัญหามากมายที่ต้องจัดการภายในสำนักสี่คาบสมุทร พวกเขาจึงขาดคน ไม่งั้นเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น””ดังนั้นทุกคนควรเข้าใจเขาหน่อย! ว่าพวกเขาต้องทำงานกันหนักแค่ไหน ถ้าเจ้าไม่สามารถรอได้ ก็ไม่มีใครบังคับให้เจ้าอยู่ที่นี่””บักห่า . . . . . . .!!!”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของ หลิว เฉินเปียว มันทำให้ฝูงชนโกรธมาก ทุกคนกัดฟันด้วยความแค้นใจ พวกเขาได้แต่ทน ถูกบั่นทอนจิตใจ โดนเยาะเย้ย มันทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

 

แต่ก็ไม่มีผู้ใดในนี้โง่พอที่จะออกไปต่อต้าน เพราะพวกเขาสามารถบอกได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา แม้แต่คนเฝ้าประตูก็ยังปฏิบัติกับเขาด้วยความเคารพ แล้วพวกเขาจะทำอะไรได้ ? นอกจากแค่อดทนเอาไว้ “ศิษย์พี่หวัง มันเกิดอะไรขึ้น ? ข้าเพิ่งกลับจากพื้นที่หลัก ทำไมคนมากขนาดนี้แล้วเราจะได้พักกันเมื่อไหร่”

 

ตอนนั้นก็มี รุ้งลงมาจากท้องฟ้า เขาคือศิษย์ของสำนักสี่คาบสมุทร ที่เป็นผู้ส่งสาร “อ้า น้องหลี่หากเป็นไปได้เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากให้เจ้าพักผ่อนหรอ แต่ข้าก็มีงานสำคัญเร่งด่วนรอให้เจ้ากลับมา”

 

ศิษย์เฝ้าประตูกล่าว “มีอะไรเร่งด่วน สาวกที่รับผิดชอบในสถานที่นี้ไปไหนหมด แล้วอาวุโสสู่ ที่ดูแลที่นี้หายไปไหน ตอนนี้ถึงได้มีแค่เราสองคน ที่ทำงานงกๆๆ นี้หลายวันมาแล้วนะ ที่ข้าวิ่งไป วิ่งมา ข้าเกือบจะสลบเพราะหมดแรง ในที่สุดข้าก็นึกว่าจะได้พัก แต่แล้วฝันข้าก็พังทลายเพราะท่าน”ศิษย์ที่แซ่ หลี่ กล่าวอย่างอารมณ์เสีย “นี่คือ น้องชายของ หลิว เฉินเว้ย เขามาถึงสำนักสี่คาบสมุทรจากสถานที่ที่ห่างไกล แล้วเราจะปล่อยให้เขาที่นี่ ใช่มั้ย ?”

 

ศิษย์ที่เฝ้าประตูมองมาที่ หลิว เฉินเปียว “ขออภัยที่ทำให้ท่านลำบาก”

 

หลิว เฉินเปียว ยิ้มพร้อมกับกุมมือให้ ศิษย์แซ่ หลี่

 

ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ เขาที่มีตำแหน่งเป็นน้องชายที่มีพี่อยู่สำนักสี่คาบสมุทร จะไม่ค่อยสุภาพกับศิษย์ระดับล่างเท่าไหร่

 

แต่ปัจจุบัน เขาได้ยินมาจากคำพูดของศิษย์ที่เฝ้าประตู ว่าตอนนี้มีคนทำงานเหลือแค่ 2 คน ที่ทำงานอย่างหนักในการแจ้งข่าวสาร

 

เพื่อไม่ให้ธุระของเขาล่าช้า เขาเองจะต้องสุภาพเอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะมีตำแหน่งในระดับล่างก็ตาม หากพวกเขาไม่พอใจ แล้วเลื่อนเวลาออกไป เขาก็จะทำอะไรไม่ได้

 

ถ้าเขาคิดจะให้บทเรียน เรื่องของเขาก็จะยิ่งล่าช้าไปอีก หากมองผลได้ผลเสียในปัจจุบีน เขาก็ทำได้แค่ลดทัศนคติลงและขอร้องเขาแทน “โอ้!! ท่านเป็นน้องชายของท่าน หลิว งั้นหรอ ท่านนี่สุภาพจริงๆ พี่หลิวเองก็มักจะสุภาพกับพวกเรา เราจึงนับถือพี่ชายท่านเป็นเหมือนกับพี่ใหญ่เรา! ดังนั้นเรื่องนี้ก็เหมือนปัญหาของเราเหมือนกัน””น้องชาย รอสักครู่ เราจะไปแจ้งข่าวให้กับพี่หลิว ก่อนมืดข้าจะพาเขามาที่นี่ เพื่อต้อนรับเจ้าอย่างแน่นอน”

 

หลังจากทราบว่า หลิว เฉินเปียวเป็นน้องชายของ หลิว เฉินเว้ย ศิษย์แซ่หลี่ ก็เก็บอารมณ์ที่ขุ่นเคือง และเปลียนเป็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยการประจบสอพลอ

 

ผู้ที่รอในแถวมาหลายวัน มีท่าทีการแสดงออกแทบทุกคน แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจาก หลิว เฉินเปียว มีพลังวิญญาณสูงกว่า และเขาก็มีเส้นสาย “ช้าก่อน!!!”

 

แต่ขณะที่ศิษย์แซ่หลี่ กำลังจะไป ก็มีเสียงสั่งให้หยุดดังออกมา จากนั้นก็มีคนพุ่งออกมาจากแถวหลังสุดของฝูงชนและตรงไปยัง หลิว เฉินเปียว คนๆนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกซะจาก พี่เฟิง

 

ชูเฟิง ได้ยินชัดทุกๆคำพูดของพวกเขา ดังนั้นเขารู้ว่ามีการขาดกำลังคนภายในสำนักสี่คาบสมุทร

 

เขาเองก็รีบเหมือนกัน ถ้าเขายังคงรออยู่ในแถว หลิว เฉินเปียวคงได้ไปก่อน แม้เขาจะทำเหมือน หลิว เฉินเปียว แต่เขาก็ยังต้องรอจนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ กว่าเขาจะได้มีโอกาสส่งข่าว

 

ตอนแรก ชูเฟิง ไม่ได้คิดจะเล่นตุกติก และใช้วิชามารในการแซงแถว เพราะไม่ว่ายังไงพวกเขาก็คือผู้ที่มาก่อน และยืนรอคอยมาเป็นเวลานาน

 

แต่ในตอนนี้ หลิว เฉินเปียว กำลังประสบความสำเร็จในการแซงแถว แทนที่จะปล่อยให้คนอย่างเขาได้รับสิทธิประโยชน์ ทำไมเขาไม่ใช่โอกาสนี้เพื่อตัวเองล่ะ ดังนั้นนี้คือเหตุผลที่ ชูเฟิง เสนอหน้าออกไป เยี่ยงวีรบุรุษ ReaDMGA////////////////////////////////////////A : ถ้าไต้กู๋ ออกมารับชูเฟิงด้วยตัวเองล่ะ

 

B : วงแตกอ่ะดิ!!!

 

C : ไต้กู๋หรอจะมา ป่านนี้ยังนั่งเกาไข่อยู่ในกระท่อมอยู่เลย

 

A : ถ้าว่างขนาดเกาไข่ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องออกมารับนะ!!!

 

C : แล้วแต่มืงเลย!!!

 

B : ไม่ต้องถึงมือไต้กู๋ แค่ จาง เทียนยี่ หรือ เจียง หวู่ชาง สองคนนี้มา ขี้ข้าก็หลีกทางกันหมดล่ะ ดูด้วยไผเปนไผ เด๋วได้เห็นสกิล เงินฟาดหัว ของแบล็คสมิทเวล 99

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments