ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป*บู๋มบุ๋มบุ๋มบุ๋ม*
ในตอนนี้น้ำทะเลสีเลือดนั้นก็ไม่ได้สงบแล้ว หลังจากนั้นก็เกิดการระเบิดรุนแรงบนผิวของน้ำทะเล ทำให้น้ำนั้นลอยขึ้นสูงมากและเกิดคลื่นที่รุนแรงบนทะเล
*ตูม*
อย่างไรก็ตามตอนที่พวกเขานั้นกำลังประเมินพลังของอสูรนั้นขณะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า จู่ๆก็มีแรงระเบิดที่รุนแรงขึ้นมาจากทะเลหลังจากนั้นก็เกิดน้ำวนขึ้นบนผิวทะเลลอยขึ้นมาน้ำวนนั้นหมุนแรงขึ้นและแรงขึ้น และสร้างเสียงที่ดังก้อง
จนทะเลสีแดงเลือดนั้นหมุนแรงมากจนแทบจะกลายเป็นผิวน้ำเรียบๆนอกจากนี้ ไม่เพียงแค่น้ำวนที่อยู่บนทะเล แม้แต่ท้องฟ้าก็ถูกครอบคลุมโดยพลังนั่น
“อ๊ากก~~~”
ในตอนนั้น แม้แต่คนที่อยู่บนอากาศก็ไม่สามารถหนีจากพลังที่มาจากทะเลนั้นได้ พวกเรานั้นเริ่มที่จะถูกดูดลงไปสู่ทะเลในตอนนั้น ก็มีเสียงร้องราวกับหัวใจถูกขยี้จนแหลกละเอียดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีสิ้นสุด ต่อหน้าพลังของอสูรนั้นทุกคนต่างหวาดกลัวอย่างมาก และไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยได้
*ตูม*
ในตอนนั้นก็มีเสียงระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า และปรากฏร่างของสาวงาม 100 คนปรากฏขึ้นบนนท้องฟ้า พวกเธอคือ กลุ่มของ หย่า เฟยนั่นเอง
“เจ้าอสูรผู้โง่เขลา เจ้ายังกล้าสร้างความวุ่นวายในที่แห่งนี้อีกหรือ วันนี้ข้าจะส่งเจ้ากลับบ้านเก่า!”
ในตอนนี้ ชุดกระโปรงของหย่า เฟยนั้น กำลังพัดปลิวอย่างรุนแรง และ กลิ่นอายของเธอนั้นก็รุนแรงอย่างมากเช่นกัน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความงดงามของเธอลดลงเลย และยังเพิ่มความเป็นวีรสตรีบนใบหน้าเธอด้วยแต่นั่นก็เป็นเพียงในสายตาคนอื่น
ในสายตาชูเฟิง เขาเห็นว่าคู่หมั้นของนายน้อยแห่งหมู่เกาะประหารนั้นเป็นคนรุนแรงมาก
“รูปแบบหมื่นสวรรค์ดูดกลืนทุกสรรพสิ่ง!”
ทันใดนั้นหย่า เฟยก็ตะโกนออกมาเสียงดัง บนหัวของเธอเกิด ลมหมุนสีเงินขึ้น และ เมื่อลมหมุนนั้นปรากฏตัวก็ก่อให้เกิดพลังที่รุนแรงกระจายออกมา พลังของมันนั้นทำให้ทุกคนรุ้สึกว่าทะเลกำลังถูกดูดเข้าไปในลมหมุน
“นี่มันอะไรกันทำไมมันถึงทรงพลังเช่นนี้.”
ในตอนนั้น ชูเฟิงก็ตกใจมาก เพราะมันไม่ใช่รูปแบบวิญญาณ แต่มันเป็นทักษะ นั่นเป็นเพราะเขารู้สึกว่าทักษะที่ หย่า เฟย ใช่มันแข็งแกร่งกว่าน้ำวนที่ถูกสร้างโดยอสูรนั่นเพียงพริบตาหย่า เฟย ก็คุมสถานการณ์ไว้ได้ เธอดึงทุกคนกลับเข้ามาในลมหมุนที่อยู่ในอากาศ เพื่อให้พวกเขาได้อยู่ในที่ปลอดภัย
*ตูมม*
เมื่อ หย่า เฟย ช่วยผู้คนจนหมดแล้ว ใจกลางน้ำวนก็เกิดระเบิดขึ้น ในตอนนั้นก็มีบางสิ่งพุ่งออกมาจากระเบิดนั่นมันสูงกว่า 2 เมตร และมีหญ้าน้ำอยู่เต็มตัว ดวงตาสีแดงก่ำและสว่างราวกับตะเกียง เมื่อเห็นเช่นนั้นชูเฟิงก็จำได้ทันทีว่ามันคืออสูรตัวนั้น
*โฮก~~~*เมื่ออสูรปรากฏตัวขึ้น มันก็ส่งเสียงคำรามทันที
หลังจากนั้น กลิ่นอายแห่งความดิบเถื่อนก็ลอยออกมาจากตัวมัน และรวมตัวกันกลายเป็นคมดาบ คมดาบนั้นมันดูเหมือนกับสว่าน และมีความยาวหลายฟุต จากนั้นอสูรตัวนั้นก็ได้ปล่อยดาบพุ่งมาที่ หย่า เฟย
“มันมีระดับ 5 เจ้าสงคราม เช่นนี้ข้าย่อมไม่แพ้อย่างแน่นอน.”
เมื่อรู้สึกถึงพลังของอสูร หย่า เฟย ก็ไร้ซึ่งความกลัว แต่เธอมีกลับมีความสุข เธอนั้นอยู่ในระดับ 5 เจ้าสงคราม และมันเป็นระดับเดียวกับอสูรตัวนั้น เธอจึงมั่นใจว่าเธอสามารถเอาชนะมันได้เมื่อเผชิญหน้ากับดาบที่มีพลังระดับเจ้าสงครามนั่น หย่า เฟย ก็ยังใจเย็น และเธอก็ไม่ได้สวนกลับไปเมื่อคมดาบนั่นเข้ามาใกล้เธอก็ได้เคลื่อนมือของเธอมาเพื่อรับคมดาบนั้นเอาไว้
“นี่มันอะไรกัน แม่นาง หย่า เฟย ต้องการทิ้งชีวิตอย่างนั้นหรือ”
เมื่อเห็นเช่นนั้น คนทั้งหลายต่างรู้สึกตกใจ ในพวกเขานั้นระดับต่ำสุดยังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ แต่พวกเขาก็รู้สึกเกรงกลัวในคมดาบนั้นมากในตอนนั้นผู้คนต่างรู้สึกกังวล และคิดว่า มือของ หย่า เฟย จะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ แต่หลังจากนั้นก็มีแสงประกายออกมาจากมือของเธอ และเกิดเสียงดัง ปัง ดาบนั้นค่อยๆแตกที่ละเล็กทีละน้อย สุดท้ายมันกลายเป็นเศษๆการโจมตีที่น่าเกรงขามของอสูรนั่น ถูกหยุดโดย หย่า เฟย อย่างง่ายดาย
“ดินแดนแห่งเถาวัลย์!”
หลังจากหยุดการโจมตีนั้นได้ หย่า เฟย ไม่ได้หยุด และโจมตีทันที เถาวัลย์นับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากแขนเสื้อของเธอ และพวกมันก็พุ่งไปรัดอสูรนั้นและโจมตีมันทันที ความเร็วของพวกมันนั้นสูงมาก เมื่อมันค้นพบอสูรมันจึงเริ่มโจมตีทันที
*โฮก~~~~*
ในตอนนั้น อสูรก็คำรามด้วยเสียงที่แสบแก้วกูออกมา
พลังของมันนั้นเล็ดลอดออกมาจากเถาวัลย์ทุกคนรุ้ว่าเจ้าอสูรนั้นกำลังต่อต้านอยู่ แต่มันไม่สามารถต้านทานเถาวัลย์ที่ หย่า เฟย ปล่อยออกมาได้หมด เถาวัลย์พวกนั้นมันเริ่มที่จะรัดมันแน่นขึ้นๆ
“สุดยอด แม่นาง หย่า เฟย ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก เจ้าอสูรตัวนี้ มันคืออสูรที่ก่อเรื่องใน ทะเลโลหิตนิรันดร์และไม่มีใครปราบมันได้ ข้าไม่เคยคิดว่าหลังจาก แม่นาง หย่า เฟย มาที่นี่ เธอจะจัดการกับมันได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ พลังระหว่างเธอ กับ มันช่างต่างกันเหลือเกิน”
เมื่อเห็นว่า หย่า เฟย กำลังได้เปรียบ ผู้คนต่างรู้สึกยินดีแต่ชูเฟิงไม่เห็นเป็นเช่นนั้น เขาได้พึมพำกบตัวเองว่า
“ ไม่ใช่ นี่มันแปลกไป พลังของอสูรตัวนี้ไม่ได้มีแค่นี้.”
ชูเฟิงนั้นเคยเห็นพลังของมันมาก่อน เขาจึงรู้ว่ามันทรงพลังแค่ไหน แต่ในตอนนี้ พลังของมันที่แสดงให้เห็นนั้นทำให้เขารู้สึกสงสัย
*ฮึ่ม*
แต่ในตอนนั้น ก็เกิดพลังไร้รูปออกมาจากร่างของอสูรนั้น และมันพุ่งตรงไปยังทะเล
*ตูม*
หลังจาก มันได้พุ่งเข้าใส่ทะเล น้ำทะเลที่นิ่งสงบ ก็เกิดการเคลื่อนไหว ราว กับภูเขาไฟประทุ มันพุ่งขึ้นทันทีและไปล้อมรอบอสูรนั้นไว้
*โฮก*
ในตอนนั้นพลังของเจ้าอสูรนั้นเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง และมันได้คำรามออกมาด้วยความโกรธ จากนั้นมันก็พุ่งลงไปในน้ำทะเลทั้งที่มีเถาวัลย์ล้อมรอบอยู่
*วู่บ*
ในตอนนั้น หย่า เฟย ที่อยู่อีกด้านของ เถาวัลย์ก็ถูกมันลากลงไปด้วยพลังที่ทรงพลังมาก และมุ่งตรงไปยัง ทะเลโลหิตนิรันดร์
“แม่นาง หยา เฟย โปรดระวังด้วย เจ้าอสุรตัวนี้จะแข็งแกร่งขึ้นเมื่ออยู่ในน้ำ อย่างไปสู้กับมันเมื่อมันอยู่ในน้ำเลย.”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้คนจากหมู่เกาะประหารก็พูดขึ้นเสียงดัง
“ฮึ่ม เจ้าต้องการดึงข้าลงไปในน้ำอย่างนั้นหรือ แสดงให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าแข็งแกร่งแค่ไหนเมื่ออยู่ในน้ำ!”
แต่เพราะเธอไม่รู้ว่าเจ้าอสูรตัวนี้จะแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหนเมื่ออยู่ในน้ำ อย่างไรก็ตามเธอก็พุ่งตามมันไปด้วยความมั่นใจ และไม่สนใจเกี่ยวกับมัน ไม่เพียงเธอจะไม่ปล่อยเถาวัลย์ในมือ
เธอยังพุ่งตามมันไปด้วย
*ตูม บุ๋ม บู๋ม*
หลังจาก หย่า เฟย ลงไปในน้ำนั้น ชูเฟิงก็สามารถเห็นทั้ง2ได้ชัดเจนว่า ทั้ง 2 นั้นไม่ปะทะกัน แต่หย่า เฟยปล่อยให้มันลากไปตามทาง พูดให้ชัดๆก็คือ มันกำลังมุ่งหน้าไปทางอื่น แต่หย่า เฟยก็ไม่ได้ขัดขืนปล่อยให้มันลากไปด้วย
ที่มา: