I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 773 – ตายด้วยกัน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 773 – ตายด้วยกัน

 

“อ่า~~~~”

 

เสียงร้องที่ดังออกมา ทำให้ มู่หรง ว่าย และ หย่า เฟย ถึงกับตกใจ

 

พวกนางเห็นแค่ว่า มู่หรง ซุน กำลังก้มหน้าไปกระซิบพูดอะไรบางอย่างใกล้ๆกับชูเฟิง จากนั้นไม่นานเขาก็ตะโจนออกมา พร้อมกับเลือดที่ไหลอาบแก้มชโลมใบหน้าของ มู่หรง ซุน

 

พวกเขารีบเหวี่ยงสายตาไปที่ ชูเฟิง และพบว่าตอนนั้นเขาดูน่ากลัวอย่างมาก แววตาที่เย็นชาปรากฏภายในดวงตาของเขา พร้อมจิตสังหารอันรุนแรง ปากของเขาชโลมไปด้วยเลือดสดๆ ขณะที่กำลังเคี้ยวอะไรบางอย่างในปาก “ข้าจะกินเจ้า!!!”

 

ชูเฟิงตะโกนอีกครั้ง พร้อมกับอ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือด ตอนนั้นเขาดูเหมือนกับปีศาจกระหายเลือด กระโจนเข้าใส่ มู่หรง ซุน “ท่าน พี่ ระวัง!!!”

 

มู่หรง ว่าน ตกใจอย่างมากเมื่อเห็น ชูเฟิง แบบนั้น นอกจากจิตสังหาร นางยังหวาดกลัวเขาอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากพฤติกรรมประหลาดปีศาจของเขา “บ้าเอ้ย!! ข้าจะฆ่าเจ้า!!!”

 

แต่มู่หรง ซุน ไม่ได้รู้สึกเหมือนมู่หรง ว่าน แม้เขาจะหวาดกลัวลึกๆภายในจิตใจ เขาต้องหาทางรับมือกับ ชูเฟิง เพราะเขาเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าพลังระดับ 8 จ้าวแห่งสงคราม คงไม่มีปัญหาในการจัดการ ชูเฟิง นำซ้ำยังคิดว่า การฆ่า ชูเฟิง นั้นเขาสามารถทำได้เหมือนกับการขยี้มดตัวนึง

 

* ปั้งงง * มู่หรง ซุน เหวี่ยงหมัดเข้าใส่ ชูเฟิง ความแรงของมัน ทำให้ ชูเฟิง ถอยกรูออกไป พร้อมกับกระอักเลือดออกมา จากนั้นเขาก็ล่วงหล่นจากท้องฟ้า ลงสู่พื้นที่สูงนับหมื่นเมตร

 

ตอนนั้น เสียงแตกหักดังมาจากร่างกายทุกส่วนของ ชูเฟิง หมัดของ มู่หรง ซุน นั้นได้บดขยี้กระดูก หน้าอก รวมกระทั้งอวัยวะภายในของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาบาดเจ็บสาหัส

 

แค่แผล จาก หย่า เฟย ที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ก็นับว่าแย่แล้ว กระทั้งอวัยวะภายในของเขายังได้รับบาดเจ็บ เป็นเรื่องยากมากที่เขาจะเอาตัวรอดกลับไปได้อย่างปลอดภัย

 

ในตอนนี้ ชูเฟิง ยังแขนหัก ขาหัก รวมทั้งกระดูกตามร่าง ในตอนนี้แค่การที่เขารอดมาได้ก็นับว่าปฏิหาริย์แล้ว

 

แต่สิ่งที่สำคัญส่วนที่เป็นดั่งแหล่งฟื้นฟูพลังงานและรักษาอาการบาดเจ็บของเขา คือสิ่งประหลาดที่ซ่อนอยู่ในตันเถียนองเขา หากสิ่งนั้นไม่ได้รับอันตราย ต่อให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ร่างกายของเขาก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ดั่งเดิม

 

* ตูมม * หลังจากที่ ชูเฟิง ล่วงถึงพื้นดิน มู่หรง ซุน ก็ดิ่งลงมา พร้อมกับใช้เท้าบดขยี้ขาข้างหนึ่งของ ชูเฟิง “คุกเข่าลง เรียกข้าว่า ท่านปู่ แล้วข้าอาจให้เจ้าได้ตายสบาย ไม่งั้นข้าจะให้เจ้าให้เจ้าทรมานยิ่งกว่าตาย ข้าจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่อย่างน่าสมเพช “

 

ในช่วงเวลานั้น เลือดยังคงไหลอาบใบหน้าของมู่หรง ซุน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด หลังจากที่เนื้อเขาถูกกระชากออกไป ปัจจุบันความโกรธแค้นเขาจึงทวีคูณ เป็นเหตุให้เขาโมโหร้าย ทั้งยังดูน่ากลัวมากขึ้น เขาโกรธมาก เพราะถูกคนที่อยู่ห่าง 6 ระดับ ทำให้เกิดบาดแผล นั้นนับเป็นเรื่องเสียหน้าที่สุดที่เขาเคยได้รับ

 

ปัจจุบัน ชูเฟิง ยังคงยิ้มอยู่บนใบหน้า ขณะที่ถูก มู่หรง ซุน บังคับให้ขอร้อง

 

รอยยิ้มนั้นยากจะอธิบายออกมา หลังจากที่มู่หรง ซุน เห็นหัวใจเขาพลันสั่นสะท้าน ความไม่สบายใจพลุ่งพล่านเข้ามา ลามไปทั่วร่างของเขา ในขณะนั้นเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่น่ากลัว แม้ว่าเขาจะไม่รู้เหตุผลแต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ “ยิ้ม!! แกยังยิ้มได้อีกใช่ไม๊ ดีล่ะ!!!”

 

มู่หรง ซุน ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับกระทึบชูเฟิง ไป 2 ดอก เพื่อให้เขาร้องออกมา

 

แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของ ชูเฟิง ไม่เพียงแต่จะไม่หายไป มันยังกว้างขึ้น กว้างขึ้น

 

หลังจากที่ ต้านต้านตาย เขาก็เตรียมใจไว้แล้วว่าเขาจะเอาชีวิตของมู่หรง ซุน ไปพร้อมกับชีวิตของเขา

 

ถ้าเขาอยากให้ มู่หรง ซุน มันตาย เขาก็ต้องแลกด้วยความตายของเขาเอง นั้นหมายความว่าวางแผนที่จะฆ่า มู่หรง ซุน โดยการเปิดผนึกอสูรวิญญาณอีกตน ที่อยู่ในร่างกายของเขาออกมา

 

อย่างไรก็ตาม อสูรวิญญาณตนนั้น อยู่ในความบ้าคลั่งและเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น หากมันถูกปล่อยออกมา ชูเฟิง จะต้องเป็นคนแรกที่ถูกฆ่า เพราะ ร่างกายของเขา ใช้กักขังมันเอาไว้มานานหลายปี

 

หนึ่งอาจกล่าวได้ว่า อสูรวิญญาณตนนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับ ชูเฟิง ในการใช้อำนาจพลังของมัน เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม ในเวลาแบบนี้ ข้อห้ามเหล่านั้นไม่มีประโยชน์สำหรับชูเฟิงอีกต่อไป เพราะเขาคิดจะใช้มันในการล้างแค้น “บ้าเอ้ย ยังจะยิ้มอีก ดูสิว่าเจ้ายังจะยิ้มได้อีกไม๊!!!”

 

เขาถูกรอยยิ้มของชูเฟิงกดดันจนทำให้หวาดกลัว และในตอนนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงสิ่งที่ไม่ดีมากขึ้น มากขึ้น ตอนนั้น มู่หรง ซุน ยกเท้าของเขาขึ้นพร้อมกับกระทืบลงไปที่ ตันเถียนของ ชูเฟิง หวังจะทำลายการเพาะปลูกของเขา

 

แต่ ชูเฟิง ได้เตรียมใจตายไว้แต่แรก เขาจึงไม่ได้สนใจเรื่องนั้น เขารู้อยู่แล้วว่ามู่หรง ซุน คงไม่ฆ่าเขาเพราะแบบนั้น มันทำให้เขามีเวลาพอที่จะสามารเปิดผนึกประตูโลกวิญญาณอีกบานได้ ตราบใดที่เขายังทำไม่สำเร็จ เขาก็จะไม่ยอมให้ทุกอย่างจบ

 

* บูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม * “อ้า ~~!”

 

แต่ฉากที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น พริบตาที่ มู่หรง ซุน กระทืบเท้าลงไปที่ตันเถียน แรงระเบิดมหาศาลก็ปะทุออกมา

 

ไม่เพียงแต่ มู่หรง ซุน จะไม่ได้กระทึบเขา เขายังถูกซัดกระเด็นออกไป

 

ร่างของเขาลอยไปในอากาศ ผิวของเขาซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง เพราะในขณะที่เขาจะกระทืบตันเถียนของชูเฟิง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังดิ่งลงสู่ขุมนรกอเวจี

 

แค่แวบเดียวแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ในตอนนั้นร่างกายของเขาเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ แม้แต่ขาเขายังสั่นพลับๆๆ “ผู้ชายคนนี้ . . . . เกิดอะไรกับเขากันแน่ ?!!!”

 

เป็นครั้งแรกที่ มู่หรง ซุน รู้ว่าจริงๆแล้ว นอกจากต้านต้าน อสูรวิญญาณจากพิภพอสูรฟ้า ชูเฟิงยังมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดา สิงสถิตอยู่ภายในร่าง มันเป็นเหมือนสิ่งที่น่าหวาดกลัวขนาดที่ไม่อาจจินตนาการได้ “ท่านพี่ ท่านไม่เป็นไรใช่ไม๊ ?”

 

มู่หรง ว่าน ถามด้วยความกังวล เมื่อพบว่า มู่หรง ซุน ดูมีอาการผิดปกติ “มันเกิดอะไรขึ้น ?!!”

 

หย่า เฟย ก็ตรงเข้ามาเช่นกัน เพราะเป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นใบหน้าที่ตกใจของ มุ่หรง ซุน แบบนั้น “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า~~”

 

จู่ๆ ชูเฟิง ที่นอนกองอยู่บนพื้น ก็หัวเราะออกมา

 

เสียงหัวเราะของเขาดังสนั่น และแฝงไปด้วยการเยาะเย้ย รวมจนกระทั่งความโกรธแค้นที่อัดอั้น และจิตสังหารอันไร้จุดสิ้นสุด

 

แม้แต่สถานกาณณ์ที่เขาจะเสียเปรียบ ชูเฟิง กับไม่แสดงท่าทีว่าสิ้นท่าหรือยอมแพ้ออกมาเลย เขามอง มู่หรง ซุน เริ่มแต่ที่หัวจรดเท้า สายตาที่เขามองมานั้นเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม “หัวเราะงั้นหรอ!!! เด๋วข้าจะทำให้เจ้าหัวเราะไม่ออก!!!”

 

แม้จะจมอยู่ในความหวาดกลัว มู่หรง ซุน ยังแสดงความโกรธออกมา เขาปรี่ออกไปพร้อมกับสบัดมือที่ถือกระบี่ ใส่ชูเฟิง จนเกิดเป็นเส้นแสงวงค์พระจันทร์ที่คมกริบ เขาคิดจะใช้มันสับไปที่คอของ ชูเฟิง เพื่อจะปลิดชีวิตเขา

 

ตอนนั้น ชูเฟิง ก็ไม่ลังเล เขาเตรียมตัวที่จะย้ายจิตไปในโลกวิญญาณของตน เพื่อปลดปล่อยอสูรร้ายภายในร่าง หวังจะตายไปพร้อมกับมู่หรง ซุน และคนอื่นๆ

 

* เปร๊งง * ในตอนนั้น ก็มีคนเข้ามาขัดขวาง เพียงเขาสะบัดแขนเบาๆก็กับทำให้คมกระบี่ที่น่ากลัวของ มู่หรง ซุน กระเด็นหายไป

 

หลังจากนั้น เขาก็ยกหัวขึ้นเบาๆและกล่าวด้วยรอยยิ้มเบาๆ”

 

มู่หรง ซุน เจ้าอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ถึงไม่รู้สึกละอาย ที่รังแกคนหนุ่มที่อายุไม่ถึง 20 ?!”

 

ReaDMGA////////////////////////////////////////A : อาจารย์พี่เฟิง ?!!!

 

B : ถ้าอาจารย์พี่เฟิงมา คงไม่ต้องพูดไรมากแบบนี้ หัวมู่หรง ซุน คงกระเด็นหลุดออกจากบ่า

 

A : ก็จริงว่ะ!!! แล้วใครกัน ?!!!

 

B : จุ๊ๆๆ!!! รอลุ้นเอา แต่รับรองว่าฝีมือร้ายกาจ!!!!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments