ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 822 – ปาฏิหารย์
***** ฝุ่บ *****
ภายใต้ท้องฟ้ายามราตรีที่มืดมิด เหนือเมฆสีขาว มีประกายแสงที่เคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วสูง ความรวดเร็วของมันนั้นสูงมาก แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นจ้าวสงครามก็ไม่อาจจับการเคลื่อนไหวของมันได้ด้วยตาเปล่า
มันคือ ชูเฟิง และคนอื่นๆ ในเวลานั้น ชูเฟิง ได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อเพิ่มความเร็วในการเดินทางของเขา เขาต้องเร่งออกจากบริเวณไปให้เร็วที่สุด เพื่อหาที่ปลอดภัยในการซ่อนตัว และสถานที่นั้นก็คือสถานที่ที่ ชูเฟิง อยู่ก่อนที่จะมายังตระกูลจื่อ
ซึ่งเหตุที่ต้องเร่งนั้น ก็เพราะว่าในเวลานี้ ดวงตาของ ชูเฟิง ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงกร่ำ ผิวหนังของเขากลายเป็นสีดำ แม้ว่าพลังของ ต้านต้าน จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น แต่ร่างกายของ ชูเฟิง ก็ยังได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงอย่างมาก
ในการช่วย จื่อหลิง ในครั้งนี้ ชูเฟิง ก็พร้อมที่จะแลกกับชีวิตของเขา แม้ว่าในท้ายที่สุดเขาจะทำสำเร็จ แต่ ชูเฟิง ก็รู้ดีว่าเขาอาจจะปกป้อง จื่อหลิง ได้อีกไม่นาน ดังนั้น เขาจึงต้องรีบพานางไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย “อั่ก !!”
ในขณะนั้น ชูเฟิง ก็อ้าปากออก พร้อมกับเลือดไหลออกมาจากปากของเขากองหนึ่ง เลือดนั้นมีลักษณะที่แปลกอย่างมาก เพราะมันเป็นสีดำสนิท อีกทั้งมันยังปล่อยความร้อนออกมา ราวกับเลือดสีดำที่กำลังเดือดพล่าน
***** วูบบบ *****
ในเวลานั้น ชูเฟิง สูญเสียการทรงตัวในทันที เขาเอนตัวไปใต้มังกรสีฟ้า อีกทั้งราวกับว่าเขาสูญเสียความสามารถในการบิน มันจึงทำให้เขาค่อยๆ ล่วงลงมาจากอากาศ “ชูเฟิง !!”
จื่อหลิง และคนอื่นๆ ที่เห็นก็ตกใจในทันที จื่อหลิง ที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบประคองร่างของ ชูเฟิง เอาไว้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของ ชูเฟิง นั้น ใบหน้าของ จื่อหลิง ก็เต็มไปด้วยความกังวล พร้อมกับความหวาดกลัวที่ค่อยๆ ปรากฏออกมา
มันเป็นเพราะ ชูเฟิง ได้หมดสติไป พร้อมๆ กับเกราะสีดำที่สร้างจากเปลวเพลิงสีดำที่หุ้มร่างกายของเขาค่อยๆ สลายออกไปอย่างช้าๆ
หลังจากที่เกราะสีดำสลายออกไปจนหมดนั้น พวกเขาก็พบว่าบนร่างกายของ ชูเฟิง ไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว อีกทั้งผิวหนังของเขายังเปลี่ยนเป็นสีดำราวกับถ่าน บนพื้นผิวมีรอยปริแตก และเลือดสีแดงที่ไหลซึมออกมา
อย่างไรก็ตาม มันไม่ดูเหมือนร่างกาย แต่มันกลับคล้ายกับศพที่ถูกเผามากกว่า “ท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านแม่ !! มาดูเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น !?”
ปกตินั้น จื่อหลิง มักจะเป็นคนสุขุมอย่างมาก แต่เมื่อนางเห็น ชูเฟิง ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ นางก็ไม่อาจเก็บความกังวลเอาไว้ได้ “ให้ข้าดูหน่อย!!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น พ่อ และแม่ของ จื่อหลิง ที่มีการบ่มเพาะพลังสูงที่สุดก็เข้าไปดูในทันที หลังจากเห็นแล้วนั้น พวกเขาก็ขมวดคิ้วแน่นและจมไปกับความเงียบงัน “เขาเป็นอะไร !? บอกอะไรออกมาสักอย่างสิ !!”
จื่อหลิง กล่าวออกมาอย่างร้อนรน “นี่….เอิ่ม…..อ่า…!!”
แม่ของ จื่อหลิง ไม่รู้ว่าจะกล่าวออกมาเช่นไร
แต่ในเวลานั้น พ่อของ จื่อหลิง ก็กล่าวออกมาว่า”
จื่อหลิง เจ้าต้องทำใจเอาไว้บ้าง ชูเฟิง ได้ยืมพลังจากอสูรวิญญาณของเขา มันเป็นสิ่งที่ผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสีม่วงไม่อาจทำได้ !!””ระดับต่ำสุดที่จะทำเช่นนี้ได้ ต้องเป็นผู้เชื่อมต่อโลกวิญญาณระดับชุดคลุมสีทอง !! ที่เขายังมีชีวิตอยู่ ก็นับว่าปาฏิหารย์แล้ว !!””นี่มันน่าเหลือเชื่ออย่างมาก คนทั่วๆ ไปไม่อาจรองรับพลังของอสูรวิญญาณได้ แต่ไม่เพียงแค่ ชูเฟิง จะสามารถรับพลังงานได้ แต่เขายังสามารถทนต่อมันได้อยย่างยาวนาน !!””แม้ว่าอสูรวิญญาณจะสามารถให้ยืมพลังได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงการเพิ่มพลังอำนาจพลังวิญญาณเท่านั้น มันไม่น่าจะสามารถเพิ่มการบ่มเพาะพลังได้ !!””ต้องบอกว่าเด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยาก แต่น่าเศร้า…….”เมื่อได้ยินเช่นนั้น นอกจาก จื่อหลิง แล้วนั้น คนอื่นเองก็ต่างกังวลอย่างมาก พวกเขามองไปที่ ชูเฟิง ด้วยความสงสาร “อะไร !? ท่านจะบอกอะไร !?”
จื่อหลิง กล่าวออกมาเสียงดัง เพราะนางสัมผัสได้ว่สมีบางอย่างที่ผิดปกติ “หลิงเอ๋อ ชูเฟิง จะเป็นง่อย ไม่เพียงแต่ร่างกายของเขาจะถูกทำลาย แม้แต่จิตใจของเขาก็ได้รับความเสียหาย ข้าไม่รู้ว่าจะสามารถรักษาการบ่มเพาะพลังของเขาได้ไหม หากเขามีชีวิตอยู่ เขาก็จะต้องพิการ !!”
พ่อของ จื่อหลิง กล่าว “ไม่….!! ข้าไม่เชื่อ !! ข้าไม่เชื่อ !!”
ในเวลานั้น จื่อหลิง สูญเสียการควบคุมอารมณ์ของตัวเองในทันที นางกอด ชูเฟิง แน่นพร้อมกับร้องไห้ออกมา นางรู้ดีว่าทำไม ชูเฟิง ถึงเป็นแบบนี้ มันเป็นเพราะเขาเข้ามาช่วยนาง จึงทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้ “เดี๋ยวก่อน !! ดูสิ ร่างกายของเขากำลังฟื้นฟู !! แม้ว่ามันจะช้า แต่ร่างกายของเขาก็กำลังฟื้นฟู !!”
ในขณะนั้น จื่อ ซวนหยวน ก็กล่าวออกมา ด้วยใบหน้าที่อิ่มเอมอย่างมาก “สวรรค์ !! จริงรึเนี่ย !! เจ้าหนุ่มนี่มันปิศาจชัดๆ !!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น พ่อแม่ของ จื่อหลิง และคนอื่นๆ ต่างมองมาที่ ชูเฟิง ด้วยความตกตะลึง “อย่าเพิ่งพูดอะไรมาก !! รีบหาที่ซ่อนก่อน !!””เหตุผลที่ ชูเฟิง ใบ้พลังของอสูรวิญญาณอย่างยาวนาน เพราะเขาตั้งใจที่จะพาพวกเราออกจากหุบเขาดอกไม้ไปยังที่ปลอดภัย พวกเรายะทำให้เขาผิดหวังไม่ได้ !!”
จื่อ ซวนหยวน กล่าวออกมาอีกครั้ง “อืม”
พ่อของ จื่อหลิง เข้ามาประคอง ชูเฟิง ขึ้น และบินออกไปในอากาศเพื่อค้นหาที่ปลอดภัย
เวลาได้หมุนไปอย่างต่อเนื่อง เพียงพริบตาเดียวนั้นทเวลาหนึ่งเดือนก็ได้ผ่านพ้นไป
ชูเฟิง ยังคงไม่ได้สติไปหนึ่งเดือนเต็ม เขามีความฝันที่เจ็บปสดแสนยาวนาน
ร่างกายของเขาตกอยู่ภายในเตาไฟ ร่างของเขาถูกห้อมล้อมไปด้วยเปลวเพลิงสีดำที่กำลังแผดเผาเขาอย่างรุนแรง
แต่โชคดีที่สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในจุดตันเถียน และในกระแสเลือดของเขาน่น คอยต้านทานพลังของเปลวเพลองสีดำ และคอยช่วยฟื้นฟูร่างกายของเขาตลอดเวลา ทำให้เขาไม่รู้สึกทรมานมากนัก และในตอนนี้ ร่างกายของเขาก็พ้นขีดอันตรายแล้ว “อืม”
ทันใดนั้น ชูเฟิง ก็ลืมตาขึ้น และเขาก็พบส่าเขานอนอยู่ใต้หุบเขา อีกทั้งรอบๆ ตัวของเขายังมีผนึกที่คอยปกป้องเขาอยู่ และบนร่างของเขาก็มีผ้าห่มหนาๆ ที่ห่มเอาไว้ มันให้ความรู้สึกที่มีความสุขสำหรับเขาอย่างมาก
แม้ว่าในตอนนี้ ชูเฟิง จะยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากเปลวเพลิงสีดำอยู่ แต่มันก็อยู่ในขอบเขตที่เขาสามารถทนได้ และไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเขา
เมื่อเขามองไปรอบๆ เขาก็พบสาวงามที่นอนอยู่ข้างๆ ที่นอนของเขา นางก็คือ จื่อหลิง ในเวลานั้น ใบหน้าของนางเป็นสีขาวซีด หากมองอย่างละเอียดนั้น จะเห็นคราบน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาของนางอย่างชัดเจน
ชูเฟิงรู้สึกมีความสุขอย่างมาก ที่เขาสามารถช่วยคนที่เขารักออกมาได้ แต่เขาก็รู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นนางต้องทรมาน หลังจากนั้น เขาก็เอื้อมมือออกไปลูบผมสีดำเงาของ จื่อหลิง อย่าแผ่วเบา “อืมมม”
อย่างไรก็ตาม จื่อหลิง เป็นคนที่ระมัดระวังตัวอย่างมาก เพียงแค่ ชูเฟิง ลูบผมของนางเบาๆ นางก็ลืมตาขึ้นพร้อมลุกขึ้นมานั่งและมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นางเห็น ชูเฟิง ฟื้นขึ้นมานั้น นางก็สะดุ้งเฮือกและขยี้ตาของตัวเอง เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ และเมื่อนางมั่นใจว่า ชูเฟิง ฟื้นขึ้นมาแล้วนั้น นางก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน หลังจากที่นางไม่เคยยิ้มมาเป็นเวลานาน พร้อมกับเข้าไปสู่อ้อมกอดของ ชูเฟิง “ชูเฟิง เจ้าฟื้นแล้ว !! ดีจริงๆ !!””จื่อหลิง ข้าทำให้เจ้าเป็นห่วงแล้ว!!”
ชูเฟิง ยิ้มบางพร้อมกับกอดสาวงามไว้ในอ้อมอกของ เขารู้สึกว่าความเจ็บปวดที่เขาได้รับนั้น มันคุ้มค่าอย่างมาก
***** ตูมมมม ***** “เร็วเข้าจับมัน !! รีบปิดผนึกไว้อย่าให้มันหนีไปได้ !!”
อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น เสียงระเบิดก็ดังออกมานากด้านนอก พร้อมกับเสียงโหวกเหวกที่ตามมา
ชูเฟิง ผงะและลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองไปด้านนอกพลางขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะกล่าวออกมาว่า”
เสียงนี้มัน ของผู้อาวุโส ซวนหยวน และคนอื่นๆ นี่ !! เกิดอะไรขึ้นด้านนอก !?”
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : ศัตรูบุกแล้วหรอ?!!!!
B : ป่าว กำลังล่าควายป่า !!!
C : ควายป้ามืงสิ มาอยู่ที่ป่าในเขาแบบนี้!!!
A : หรือว่าศัตรูกำลังจะมาชิงตัวจื่อหลิงกลับไป จะทำไงดีอ่ะ พี่เฟิงก็หาย แล้วจะสู้ได้ยังไง?!
B : ก็บอกว่ากำลังล่าควายป่า!!!
A : จริงป่ะเนี่ย ?!!!
B : ไม่แน่ใจ . . . . . . . .
A : ควายเอ้ยยยยย