ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 728 – เปิดนครโบราณ
ไต้กู๋ ยิ้มอย่างเหยียดหยันออกมา หลังจากเห็นปฏิกิริยาของฝูงชน
หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น เขายกมือของเขาขึ้น และดูดป้ายในมือของ ฉิน ยู่ เข้าสู่มือของเขา จากนั้นเขาก็ส่งป้ายเข้าไปในฝ่ามือของ ชูเฟิง
หลังจากส่งป้ายไปให้ ชูเฟิง แล้วนั้น เขาก็กล่าวออกมาว่า”
ทุกคนจงฟัง !! หลังจากนี้ ป้ายสถานะของข้าเป็นของ ชูเฟิง จากนี้ไป เมื่อพวกเจ้าเห็นเขา ก็เท่ากับเห็นข้า เหล่าศิษย์ของสำนักจะต้องคาราวะเขา หากมีผู้ใดไม่ทำ……ฮึ่ม…….แม้ว่าจะเป็นบุตรของพระเจ้า ข้าก็จะทำให้มันผู้นั้นกลายเป็นคนพิการ !!”
***** ฮูวววว *****
หลังจากคำกล่าวของ ไต้กู๋ นั้น มันทำให้ฝูงชนเกิดความโกลาหลขึ้นมา เพราะหากการกระทำทั้งหมดของ ไต้กู๋ ทำไปเพราะตัวเขาเอง ทุกคนต่างไม่แปลกใจ แต่หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านี้นั้น พวกเขาถึงได้เข้าใจว่า ไต้กู๋ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อ ชูเฟิง
ในขณะนั้น ทุกคนต่างแอบมองไปที่ ชูเฟิง และสงสัยถึงความเป็นมาของเขา ที่สามารถทำให้ ราชานรก ไต้กู๋ ออกตัวปกป้องเขาได้ถึงเพียงนี้
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนจึงไม่กล้าที่จะทำให้ ชูเฟิง ต้องโกรธเคือง เพราะในขณะนี้ ฉิน ยู่ ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของบุคคลที่ทำเช่นนั้น “ผู้ใดเป็นผู้รับผิดชอบเปิดผนึกนครที่สาปสูญโบราณ !!”
ไต้กู๋ ตะโกนถาม “ผู้อาวุโส ข้าเป็นคนรับผิดชอบการเปิดผนึก !!”
หัวหน้าฝ่ายลงทัณฑ์ ที่โดนไต้กู๋ ตบลงไปกอง รีบลุกขึ้นและกล่าวตอบออกมา “เวรเอ๊ย!! เจ้าเรียกข้าว่า ผู้อาวุโส ทั้งๆ ที่เจ้าอายุมากกว่าข้าเช่นนั้นรึ !!”
ขณะที่นางกล่าวออกมา นางกลับถูก ไต้กู๋ สบถมาคำใหญ่ “มันเป็นความผิดของข้า ….มันเป็นความผิดของข้า !!”
หลังจากไก้ยินเช่นนั้น นางรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก นางรีบกล่าวออกมาใหม่ว่า “อาจารย์ ไต้กู๋ ข้าเป็นผู้รับผิดชอบการเปิดผนึกนครที่สาบสูญโบาราณ !!””ชูเฟิง จะเข้าสู่นครที่สาบสูญโบราณ มีผู้ใดคัดค้านหรือไม่ !!”ไต้กู๋ กล่าวถาม “มะ..ไม่มีใครคัดค้าน !!”
หัวหน้าฝ่ายลงทัณฑ์รีบกล่าวออกมา นางไม่กล้าที่จะกล่าวค้านออกมาแม้แต่นิดเดียว “ชูเฟิง เข้าไปกับพวกเขา ป้ายนั่นเป็นของเจ้า ไม่จำเป็นที่เจ้าต้องนำมันกลับมาคืนให้ข้า !!””จากนี้ไปสำนักสี่คาบสมุทรจะเป็นบ้านของเจ้า หากเจ้าต้องการจะมาก็มาได้ตลอดเวลา หากเจ้าต้องการจะออกไปก็ไปได้ตลอดเวลา หากเจ้าต้องการจะไปที่ใดในสำนักสี่คาบสมุทร เจ้าก็สามารถไปได้ตามที่ใจเจ้าปราถนา หากมีผู้ใดขัดขวางเจ้า ก็เพียงบอกข้า ข้าจะทำให้พวกมันได้เห็นนรก !!”
ไต้กู๋ กล่าวกับ ชูเฟิง “ขอบคุณผู้อาวุโส ไต้กู๋ !!”
ชูเฟิง โค้งคาราวะ ไต้กู๋ อย่างสุภาพ เขาไม่คิดว่า ไต้กู๋ จะมาที่นี่ อีกทั้งยังทำทุกสิ่งที่เกิดขึ้น การกระทำของเขานั้น เป็นการปูทางความสะดวกสบายให้แก่ ชูเฟิง ในสำนักสี่คาบสมุทรอย่างดี
เขาและ ไต้กู๋ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน อีกทั้ง ไต้กู๋ ยังถูกปฏิเสธโดย ชูเฟิง ที่ไม่ยอมเป็นศิษย์ของเขา แม้จะเป็นเช่นนั้น ไต้กู๋ ก็ยังให้เขายืมป้าย อีกทั้งยังให้ความช่วยเหลื่อต่อเขาอย่างดี การกระทำทั้งหมดของ ไต้กู๋ มันทำให้ ชูเฟิง รู้สึกสับสน และรู้สึกขอบคุณออกมาจากหัวใจของเขา
หัวใจของมนุษย์นั้นสร้างขึ้นจากเลือดเนื้อ ไม่ใช่ก้อนหิน หากมีผู้ให้ความเมตตาแก่เรา เราก็ควรจะตอบแทนเขา และ ชูเฟิง ก็เป็นคนเช่นนั้น ดังนั้น เขาจึงแอบตัดสินใจว่าในอนาคต เขาจะต้องตอบแทน ไต้กู๋ อย่างแน่นอน “สารเลว ฉิน ยู่ เจ้าคิดว่าไม่มีใครเหนือกว่าเจ้า ถึงได้ใช้คำพูดที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายต่อผู้อื่น เขาขาดซึ่งคุณธรรมอันดีงาม ข้าจะพาเขาออกไป และมอบบทเรียนที่มีค่าให้แก่ศิษย์ผู้นี้ที่ไม่มีไร้คุณธรรม !! ผู้ใดมีหน้าที่ปลดผนึก ก็จงปลด !! ผู้ใดมีหน้าที่เข้าไปในนครที่สาบสูญ ก็จงเข้าไป !!”
หลังจากกล่าวจบ ไต้กู๋ ก็คว้าไปที่คอของ ฉิน ยู่ ซึ่งในขณะนั้น ใบหน้าของ ฉิน ยู่ ได้เปลี่ยนแปลงไปจนจำแทบไม่ได้ มันดูราวกับ ลูกไก่อยู่ในกำมือของ ไต้กู๋ เขาทะยานตัวขึ้น และหายไปจากสายตาของทุกคน “ฮู่วววววว …..”
หลังจากที่ ไต้กู๋ ได้หายไปจากสายตาของทุกๆ คนนั้น เหล่าผู้อาวุโส และเหล่าศิษย์ต่างถอนหายใจออกมาอย่าโล่งอก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หัวหน้าฝ่ายลงทัณฑ์ นางได้ฟื้นฟูใบหน้าของนางให้กลับมาเป็นปกติ พร้อมกับเช็ดคราบเลือดออกจากมุมปาก และเหงื่อที่ชโลมไปทั่วใบหน้าของนางอย่างรวดเร็ว
ในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นเหล่าผู้อาวุโส หรือเหล่าศิษย์ ก็ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะกล่าวถึง ชูเฟิง และไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่เขา ไม่ใช่ว่าพวกเขาหวาดกลัว ชูเฟิง แต่พวกเขาหวาดกลัว ไต้กู๋ ที่ให้ความสนับสนุน ชูเฟิง อยู่
หัวหน้าฝ่ายลงทัณฑ์ได้ก้าวผ่านเหล่าผู้อาวุโสออกมา และรวมพลังกันเปิดผนึก
วิธีการเปิดผนึกนี้เป็นแบบเรียบง่ายอย่างมาก มันเป็นเพียงการสร้างรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณแบบพิเศษออกมา เพื่อเปิดทางเข้าให้แก่ ชูเฟิง และคนอื่นๆ เท่านั้น
***** ครืนนนน *****
ในขณะนั้น จากการรวมพลังของเหล่าผู้อาวุโส มันก่อให้เกิดคลื่นพลังแผ่กระจายออกมาโดยรอบอย่างรุนแรง และกระจายออกไปทั่วทั้งป่า พลันก็เกิดประแสงสีทองปรากฏออกมา
ชูเฟิง รู้ว่ามันมีรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณซ่อนอยู่ แต่ด้วยรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณพิเศษของเหล่าผู้อาวุโส ก็สามารถเปิดทางเข้าได้สำเร็จ
ประกายแสงสีทองที่ปรากฏออกมานั้น ได้หลอมรวมกันจนกลายเป็นประตูทางเข้าอย่างรวดเร็ว “นครที่สาบสูญ โบราณนี้เป็นสถานที่ที่ลึกลับมาก และข้าก็มั่นใจว่าทุกๆ คนคงจะรู้เรื่องตำนานของมัน !!””ดังนั้น เมื่อพวกเจ้าเข้าไปในนั้น พวกเจ้าจะได้รับประสบการณ์ที่มีค่ามากมาย ข้าจะบอกถึงสิ่งที่สามารถทำได้และทำไม่ได้ หรือแม้กระทั่งวิธีการเอาตัวรอดเมื่ออยู่ภายในให้แก่พวกเจ้า !!””สำหรับเหตุผลที่ทำให้นครที่สาบสูญโบราณนี้เป็นสถานที่ที่ลึกลับ เพราะมันมีมานานกว่าพันปี และภายในนั้นยังมีความลับอีกมากที่ยังไม่ถูกเปิดเผย !!””ทุกคนคงรู้แล้วว่า นครที่สาบสูญโบราณแห่งนี้ ในหลายพันปีก่อนเคยเป็นรังของเหล่าสัตว์ยักษ์ที่แข็งแกร่ง !! และอารายธรรมของพวกมันก็แทบไม่แตกต่างจากของมนุษย์ !!””แต่ในตอนนี้ หลังจากที่ผ่านมาหลายพันปี แกนกลางของนครที่สาบสูญโบราณได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับว่ามันไม่เคยถูกสร้างขึ้นมาก่อน !!””ยังไงก็ตาม ในหลายพันปีมานี้ ได้มีคนออกสำรวจนครที่สาบสูญโบราณแห่งนี้ และพบว่ามันมีขนาดใหญ่อย่างมาก แต่ก็ไม่มีใครพบกับแกนกลางของนคร มันก็เปรียบได้กับคำยืนยันว่ามันหายไป หรืออาจจะถูกใครบางคนปิดผนึกเอาไว้ !!””ยังไงก็ตามนั่นไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่ทำให้มันลึกลับ แต่ทั่วทั้งป่ายังมีความกดดันแผ่กระจายออกไปอย่างทั่วถึง และความกดดันเหล่านั้นก็แข็งแกร่งอย่างมาก !!””หลังเข้าไปแล้ว จะไม่สามารถทะยานในอากาศได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง ก็ยังพบกับความลำบากในการเดินภายในนั้น !!””ส่วนแรงกดดันนั้น ท่านเจ้าสำนักได้ตรวจสอบดูแล้ว แต่ก็ไม่พบต้นกำเนิดของมันแต่อย่างใด ดังนั้น นครที่สาบสูญโบราณแห่งนี้ตะเป็นสถานที่ที่ลึกลับอย่างมาก !!”
ReaDMGA /////////////////////////////////////////////////// B : เจ้าสำนักไม่เจอ แต่ชูเฟิงเจอเว้ย!!!
A : แล้วหากพวกเขาได้สายเลือดจักรพรรดิมากันแล้ว พวกคนที่ไปด้วยจะไม่ทำความลับรั่วไหลอ่อ?!!
C : จะยากอะไร ฆ่าแม่งทิ้งให้หมด!!!
A : ไอโหด!!! แต่กูก็เห็นด้วย!!!
B : พี่เฟิงกูทำแน่ แต่จะฆ่าคนไม่มีเหตุผล นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องดี ดังนั้นต้องมีการวางแผน