ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 814 – มันคือยอดยุทธภัณฑ์ราชวงค์
“เจ้าเด็กโอหัง เจ้าบอกว่าข้าไร้ประสบการณ์งั้นหรือ ถ้างั้นก็ลองดูหน่อยเป็นไง.”
ในตอนแรกเขาต้องการอวดพลังจากยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศที่ไม่สมบูรณ์ของเขาแต่เขาไม่คิดว่าจะถูกชูเฟิง เหยียดหยามเช่นนี้ เขาจึงโกรธมาก “มันก็แค่ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศที่ไม่สมบูรณ์ เจ้าบอกว่ามันแข็งแกร่งสุดอย่างนั้นหรือ นี่ไม่ใช่ว่าเจ้านั้นไร้ประสบการณ์อย่างนั้นหรือ ทุกๆคนคิดว่าอย่างไร”
ชูเฟิงนั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เขาพูดถูกต้อง ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศที่ไม่สมบูรณ์นั้นแข็งแกร่ง แต่ว่า ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์นั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่า เมื่อเทียบกันแล้ว ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศที่ไม่สมบูรณ์ นั้นด้อยกว่ามากนัก”หลังจากชูเฟิง พูดก็มีคนเห็นด้วยกับเขา
และต่อจากนั้นก็ให้เกิดการซุบซิบกันไปทั่ว ทำให้ใบหน้าของ ผู้นำนั้น ถึงกับเปลี่ยนไป และหลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า”
แม้ว่ายุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์นั้นจะแข็งแกร่ง แต่มันก็มีไม่มากนักในภูมิภาคทะเลตะวันออก นอกจากนี้สำหรับคนเยี่ยงเจ้าไม่ต้องถึงยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ แค่เพียง ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ที่ไม่สมบูรณ์ก็ทำให้เจ้าเป็นฝุ่นได้แล้ว.”
หลังจากพูดขึ้น ผู้นำตระกูลนั้นก็ไม่ได้พักหายใจ เขากำยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ที่ไม่สมบูรณ์ ในมือเขาและจู่โจมทันที โดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว
เมื่อดูจากความก้าวหน้าแล้วเขาต้องยอมรับว่าเขาประเมินเจ้าเด็กเหลือขอนี่ต่ำไป เด็กเหลือขอที่มาจากทวีปเล็กๆ ที่เขาสามารถทำให้เป็นฝุ่นได้ง่ายๆ กลายเป็นปัญหาขนาดใหญ่ ที่เขาไม่สามารถปล่อยไว้ได้ในอนาคต
*วูบ*
เมื่อเขาสะบัดดาบของเขา ก็มีคลื่นพลังระดับเจ้าสงครามล้อมรอบมันและก่อร่างเป็นรูปร่างตามดาบ ราวกับเป็นดาบพลังงานที่มี สีเขียวดั่งหยก ที่ตัดผ่านอากาศ และแช่แข็งทุกสิ่งอย่างที่มันผ่านไว้ เมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนก็ตกใจอย่างมาก ถึงพลังของอาวุธชิ้นนี้ “นี่มันไม่ดีแล้ว.”
เมื่อสัมผัสถึงพลังนั่น จื่อ ซวนหยวน และครอบครัว จื่อหลิง ก็สูดหายใจเข้าไปลึก และลุ้นไปกับชูเฟิงอย่างมาก
แม้แต่จื่อหลิง ก็ต้องขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าของนางนั้นปรากฏเห็นความกังวลอย่างเห็นได้ชัด มือขวาของนางกำมีดแน่น นางมีแผนที่จะแลกชีวิตนางกับผู้นำตระกูล แต่เมื่อนางเห็นว่าชูเฟิงนั้นไร้ความกลัวใดๆ นางก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น เพราะนางนั้นรู้สึกว่าชูเฟิงสามารถรับมือมันได้
อย่างไรก็ตามการโจมตีนั้นน่าเกรงขามมาก นางต้องการรู้ว่าชูเฟิงสามารถต้านทานมันได้หรือไม่จึงพูดขึ้นกับตัวเองว่า”
ชูเฟิงในตอนนี้เจ้าแข็งแกร่งเพียงใดกัน”
จื่อหลิง นั้นเชื่อใจชูเฟิง แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆจะเชื่อเขา ในตอนนั้นแทบทุกคนคิดว่าชูเฟิงต้องตายโดยการโจมตีของผู้นำตระกูล ที่โจมตีในครั้งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตาม ชูเฟิงนั้นก็แสยะยิ้ม และเมื่อเห็นทุกสิ่งทุกอย่างมันใกล้จะจบแล้วเขาก็พูดขึ้นว่า”
ข้าบอกเจ้าแล้วแต่เจ้ากลับไม่ยอมรับมัน ตกลง ในวันนี้ข้าจะเปิดวิสัยทัศน์ของเจ้าให้กว้าง และแสดงให้เห็นว่ายุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร.
*ฮึ่ม* หลังจากนั้น ชูเฟิงก็แบมือของเขา และในตอนนั้นก็มีหอกสีเงินปรากฏขึ้นบนมือของเขา
*โฮ่งงง* เมื่อหอกนั้นปรากฏขึ้น เสียงคำรามที่น่าเกรงขามก็พุ่งสูงเสียดฟ้า และ พุ่งลงสู่งดินก็ให้เกิดการสั่นไหวไปทั่ว
ไม่ว่าเขาจะยืนอยู่บนอากาศ หรือพื้นดิน ทุกๆคนต่างรู้สึกถึงการสั่นไหวได้ทั้งสิ้น และบางคนนั้นถึงกับล้มลงไป ส่วนปรมาจารย์ตระกูลจื่อ นั้นสูญเสียความทรงตัวในขณะโจมตีนั่น “เสียงนี่ มันอะไรกัน มันราวกับเป็นเสียงคำรามของมังกร”
เสียงนั้นทำให้ทุกคนตกใจอย่างมาก พวกเขาเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
*ตูม ตูม ตูม * เมื่อยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ปรากฏขึ้น ใครจะกล้าต่อต้านมัน หลังจาก หอกมังกรเงินปรากฏขึ้น มันไม่เพียงกระจายอำนาจออกไปทั่ว แต่มันทำให้ท้องฟ้าถึงกับ เปลี่ยนสี
ในตอนนั้น ไม่ว่าดวงอาทิตย์หรือพระจันทร์ ก็ถูกกลืนไปกินไปกับความมืดมิ้น เมฆสีดำและความมืดกำลังกลืนกินไปทั่วท้องฟ้า สายฟ้าที่ราวกับงูยักษ์ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
และล้อมรอบชูเฟิง แม้จะไม่มีแสงใดๆ แต่ในด้วยสายฟ้าที่ดั่งเป็นงูยักษ์นั่นทำให้ทุกคนเห็นชูเฟิง ที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า อย่างชัดเจน
ผมที่ยาวปลิวไสวพร้อมกับเสื้อคลุมสีดำ และอีกมือถือหอกสีเงินอยู่นั่น ทำให้เขาราวกับเป็นจักรพรรดิ ผู้ปกครองโลกนี้และไม่มีใครสามารถเทียบเท่าได้ “สวรรค์ พลังนี่มัน ช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก”
เมื่อเห็นภาพนั้นหลายๆคนก็ตกอยู่ในความกลัวทันที แม้พวกเขาจะมีประสบการณ์ทางโลกมามาก แต่พวกเขาก็ไม่เคยสัมผัสของบรรยากาศที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน มันทำให้พวกเขากลัวอย่างมาก “พลังนี่มัน ถ้าข้าคาดไม่ผิด มันคือยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ สิ่งที่อยู่ในมือชูเฟิงคือ ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์!”
ในตอนนั้น ก็มีบางคนที่รับรู้บางอย่างได้ และยืนยันว่าพลังที่มาจากชูเฟิงนั้น คือพลังของยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ “อะไรนะ ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ เจ้าเด็กเหลือขอนั่นมียุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์อย่างนั้นหรือ เป็นไปได้อย่างไร มันเป็นไปได้อย่างไร”เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนที่ตกใจมากที่สุดย่อมเป็นปรมาจารย์ตระกูล จื่อ
ในตอนนั้นเขาถึงเดินถอยกลับไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว เขานั้นตื่นตระหนกไปกับพลังที่ชูเฟิงได้แสดงออกมาแล้ว เพราะเขานั้นที่มีพลังของยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ที่ยังไม่สมบูรณ์ สามารถรู้ถึงความต่างในตอนนี้ได้อย่างเด่นชัด
มันเป็นดั่งสุภาษิตที่ว่า หนูเผชิญหน้ากับแมว หรือหมู่ป่าเผชิญหน้ากับเสือ ความกลัวนั้นถูกฝังลงบนใจเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ในตอนนั้นเขาแทบจะไม่มีพลังจะสู้ต่อเลย “มันเป็นยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ มันเป็นยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์จริงๆ พลังที่น่าเกรงขามเช่นนี่มีเพียงยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์เท่านั้น!!!”
ในตอนนั้นมีเสียงร้องที่เหลือเชื่อดังมาจากฝูงชน พวกเขานั้นยอมรับแล้วว่าสิ่งที่อยู่ในมือชูเฟิงคือ ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์
อย่างไรก็ตาม เมื่อชายชราผมขาวที่อยู่ในระดับ 5 เจ้าแห่งสงครามพูดขึ้น สิ่งที่เขาพูดนั้น ทำให้ทุกคนจากหุบเขาดอกไม้ถึงกับตกใจอย่างมาก “ข้ารู้แล้วว่าเขาคือใคร ข้ารู้แล้วว่าชูเฟิงเป็นใคร เขาคืออัจฉริยะที่ชื่อก้องภูมิภาคทะเลตะวันออก และเป็นคนที่ได้ 6000 วิญญาณตราประทับในหุบเขาสายหมอก และเป็นคนที่ฆ่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนิรันดร์ที่ 2 ในหุบเขาคนโฉด หวู่ฉิง!”
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
A : ฉลาดมาก เดาได้ถูกเผง!!!
B : วรีกรรมนี้ยังไม่เท่าไหร่ กูไปอ่านสปอยมา ตอนที่เริ่มสงครามครั้งใหญ่ ชูเฟิง แม่งโหดโครตๆ!!! ขนาดอาจารย์ ฉิว ซานเฟิง ยังต้อง สูฮกเลย!!!
C : ขนาดนั้นเลยหรอว่ะ แต่ก่อนจะไปไกล เอาเรื่องใกล้ๆนี้ดีกว่าไม๊ เมื่อทุกคนรู้ว่าเขาเป็นใคร คนที่เกี่ยวข้องคงได้รับผลกระทบไปด้วย ถึงตอนนั้นจะจัดการยังไง?!
B : พวกซูรู่อยู่ในการคุ้มครองของไต้กู๋ แต่สำหรับคนในเก้าอาณาจักร เด๋วพี่เฟิงมีแผนการรับมือ ถึงตอนนั้นพี่เฟิงเราจะกลับไปเยือน 9 อาณาจักรอีกครั้ง พร้อมกับความยิ่งใหญ่!!!