ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 710 – การกลับมา
หลังจากที่ ชูเฟิง กล่าวจบนั้น เหล่าสมาชิกนิกายมงกุฏเขียว พลันถูกชโลมไปด้วยเหงื่อที่เย็นเยียบจากความหวาดกลัว เพราะพวกเขาต่างเป็นเพียงทหารเลวที่ไม่มีความแข็งแกร่ง และในตอนนี้ แม้แต่ผู้นำของพวกเขายังถูกหารอย่างง่ายดาย
ดังนั้น พวกเขาจึงไม่รอช้า ด้วยพลังที่มีทั้งหมดของพวกเขานั้น พวกเขารีบแตกฮืออกไป โดยที่กล้าจะยึดเสียเวลาแม้แต่วิเดียว
ในขณะเดียวกันนั้น เหล่าผู้สังเกตการณ์ต่างก็หนีเอาตัวรอดจากการเอาชีวิตของ ชูเฟิง เพียงพริบตาเดียวนั้น ทั่วบริเวณที่เกิดความโกลาหลในก่อนหน้านี้ ก็เหลือเพียงตระกูลหลี่ และ ชูเฟิง อยู่เท่านั้น
ในทันทีนั้น ผู้นำตระกูลหลี่ และเหล่าสมาชิกตระกูลก็ก้าวมาที่ลานประลอง และคุกเข่าลงที่ด้านหน้าของ ชูเฟิง
หลังจากนั้น ผู้นำตระกูลหลี่ก็กล่าวออกมาเสียงดังว่า”
นายท่าน พวกเราขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ พวกเราตระกูลหลี่จะไม่มีวันลืมความเมตตาของท่าน !!”
ในขณะที่เขากล่าวนั้น เหล่าสมาชิกของตระกูลต่างแสดงออกถึงความจริงใจของพวกเขา ใบหน้าของพวกเขาอาบไปด้วยน้ำตาของความปลาบปลื้ม
แต่ ชูเฟิง ไม่แม้แต่จะสนใจผู้นำตระกูลหลี่ หรือเหล่าผู้อาวุโส เขาเดินตรงไปที่ หลี่ ชาน พร้อมกับประคองนางขึ้นมา และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า”
แม่นางโปรดลุกขึ้นเถิด !!””นายท่าน ท่านมีนามว่า หวู่ฉิง จริงหรือ !?”
หลี่ ชาน กล่าวถามพลางมองไปที่ ชูเฟิง อย่างระมัดระวัง “ทำไมรึ !?”
ชูเฟิง กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม “เอิ่ม….ก็ไม่มีอะไร เพียงแต่ข้ามีสหายที่ขื่อว่า หวู่ฉิง เช่นกัน อีกทั้งข้ายังรู้สึกคุ้นเคยกับท่าน แต่…..”
หลี่ ชาน ลังเลเล็กน้อยเมื่อนางกล่าวถึงจุดนี้ “แต่อะไรรึ !?”
ชูเฟิง กล่าวถาม “แต่อายุของนายท่านยังน้อยกว่าเขา และการบ่มเพาะของท่านยังสูงกว่าเขามาก มันช่างน่าประทับใจมากหากผู้ที่มีอายุเพียงเท่านี้ แต่กลับสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นจ้าวสงครามได้ !!”
หลี่ ชาน กล่าวออกมา แววตาของนางเต็มไปด้วยความชื่นชม แต่นางก็อดเปรียบเทียบ ชูเฟิง กับ หวู่ฉิง ไม่ได้
แม้ว่าชายหนุ่ม หวู่ฉิง ผู้นี้จะแข็งแกร่งกว่าชายวัยกลางคน หวู่ฉิง มากก็ตาม แต่คนที่อยู่ในกลางใจนางก็คือชายวัยกลางคน หวู่ฉิง เพราะเขาคือคนที่ทำให้ชีวิตของนางเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ “ฮ่าๆ !!”
ชูเฟิง หัวเราะออกมา หลังจากที่เขาได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น เขายกแขนเสื้อขึ้นมาปิดบังใบหน้าของเขา และเมื่อเขาลดแขนเสื้อของเขาลงนั่น ใบหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไป เขามองไปยัง หลี่ ชาน และกล่าวว่า”
แม่นาง ทีนี้เจ้ารู้จักข้าหรือยัง !?””สวรรค์ !! เจ้า…….!!”
เมื่อ หลี่ ชาน มองกลับไปที่ ชูเฟิง อีกครั้ง ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง เพราะตอนนี้ใบหน้าของเขาได้เปลี่ยกลับไปเป็นใบหน้าของชายวัยกลางคน
อย่างไรก็ตาม การบ่มเพาะพลังของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง ตอนนี้พลังของเขายังคงอยู่ในระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม……แต่ใบหน้าของบุคคลตรงหน้านี้คือบุคคลที่นางคุ้นเคย เขาคือคนที่ช่วยเหลือนางกับตระกูลหลี่ ให้สามารถเอาชนะตระกูลหม่ามาได้ “นี่…..”
ในความเป็นจริงนั้น ไม่ใช่เพียง หลี่ ชาน เท่านั้นที่ตกใจ แต่สมาชิกตระกูลหลี่ทั้งหมดก็เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำตระกูลหลี่ เขาตกใจอย่างมาก
พวกเขาทั้งหมดต่างรู้จักกับใบหน้าที่เปลี่ยนไปของ ชูเฟิง เพราะเขาคือคนที่ช่วยเหลือ ตระกูลหลี่ และคือคนที่เกือบสังหารผู้นำตระกูลหลี่ “หวู่ฉิง เป็นเจ้า !! เป็นเจ้าจริงๆ !!”
หลี่ ชาน ตกตะลึงอย่างมาก คำกล่าวของนางพลั่งพรูออกมาตามอารมณ์ของนาง เพราะนางไม่คิดว่า หวู่ฉิง ทั้งสองคนจะเป็นคนๆ เดียวกัน มันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก
ในตอนที่ หวู่ฉิง ได้จากไปนั้น เขามีพลังเพียงระดับแปด ขั้นแดนสวรรค์ แต่ในตอนนี้เขากลับมีพลังถึงระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม นอกจากนี้ ความสามารถในการต่อสู้ของเขายังน่ากลัวอย่างมาก เพราะเขาสามารถสังหารประมุขนิกาย โอว หยาง ได้อย่างง่ายดาย เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันจึงเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบความตื่นเต้นของ หลี่ ชาน นั้น เหล่าสมาชิกของตระกูลต่างหวาดกลัวต่อ ชูเฟิง แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเขามาช่วยเหลือตระกูลหลี่ แต่ในก่อนหน้านี้นั้น ผู้นำตระกูลหลี่ได้ตอบแทนความเมตตาของ ชูเฟิง ด้วยการหักหลัง มันทำให้เหล่าสมาชิกตระกูลหวาดกลัวว่า ชูเฟิง จะยังคงจดจำ และต้องการจะล้างแค้นพวกเขาอยู่
และในตอนนี้ ชูเฟิง ได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับพลังที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น หากเขาต้องการจะล้างแค้นนั้น ตระกูลหลี่ย่อมต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติในไม่ช้าอย่างแน่นอน “แม่นาง แน่นอนว่าเป็นข้า !!”
ชูเฟิง พยักหน้า “ตะ…ตะ…แต่ ใบหน้า และการบ่มเพาะพลังของเจ้า !!”
หลี่ ชาน กล่าวด้วยความตกใจ ขณะที่ชี้ไปที่ใบหน้าของ ชูเฟิง “อ่า นี่เป็นเพียงเทคนิคบางอย่างที่ข้าใช้เพื่อปิดบังใบหน้าที่แท้จริงของข้าเท่านั้น !!”
ชูเฟิง กล่าวพลางยกแขนเสื้อขึ้นมาปิดใบหน้า และเมือเขาลดแแขนลงไปนั้น ใบหน้าของเขาก็กลับไปเป็นใบหน้าของชายหนุ่มที่หล่อเหลา เขากล่าวพลางยิ้มบางๆ ว่า”
ส่วนการบ่มเพาะพลังของข้า…..ข้ามีพลังระดับหนึ่ง ขั้นจ้าวสงคราม ตั้งแต่ครั้งแรกที่ข้าเข้ามายังหุบเขาเขี้ยวหมาป่าแล้ว !!”
ชูเฟิง ไม่ได้กล่าวความจริงออกไปทั้งหมด หลังจากที่เขาเปลี่ยนใบหน้าของเขานั้น เขาปล่อยให้ หลี่ ชาน และคนอื่นๆ คิดว่ามันเป็นเพียงอุปกรณ์ หรือความสามารถบางอย่างของเขาเท่านั้น
ส่วนการบ่มเพาะพลังของเขานั้น เขาขี้เกียจที่จะอธิบาย ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่าเขามีพลังระดับนี้ตั้งแต่แรก และปล่อยพวกเขาคิดว่า ชูเฟิง คืออัจฉริยะตั้งแต่แรก “หวู่ฉิง เจ้า !!…….. ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนที่โดดเด่นเช่นนี้ !!”
ในความเป็นจริงนั้น หลังจากที่ทุกคนได้ยินสิ่งที่ ชูเฟิง กล่าว ด้วยอายุ และระดับพลังของ ชูเฟิง ในตอนนี้ พวกเขาต่างยอมรับว่า ชูเฟิง คืออัจฉริยะเหนืออัจฉริยะ และบุคคลเช่นนี้ย่อมมีผู้สนับสนุนที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ในทันทีนั้น ผู้นำตระกูลหลี่ พลันรู้สึกราวกับถูกค้อนยักษ์ตีไปที่หัว ลมเย็นพัดโชยมา ทำให้เขาหนาวไปถึงกระดูกสันหลังด้วยความหวาดกลัว
ตราบใดที่เขาคิดถึง ชูเฟิง เช่นนี้ มันยิ่งทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว เพราะด้วยพลังของเขาในตอนนี้ เขาสามารถกวาดล้างตระกูลหลี่ได้อย่างง่ายดาย
แต่ในขณะที่ทุกๆ คนของตระกูลหลี่กำลังกังวลอยู่นั้น ชูเฟิง ก็พลิกฝ่ามือเบาๆ พลันเห็ดที่สดใสก็ปรากฏออกมาบนฝ่ามือของเขา พร้อมกับแผ่พลังมหาศาลออกมา
หลังจากเห็ดนิรันดร์แห่งการทำลายปรากฏออกมานั้น สมาชิกของตระกูลหลี่ทุกคนต่างดวงตาเป็นประกาย จากการดึงดูดของเห็ด พวกเขารู้สึกได้ทันทีว่ามันคือทรัพยากรการบ่มเพาะพลังที่ยอดเยี่ยม
พลังของมันแข็งแกร่งยิ่งกว่า ไข่ของวิหคน้ำแข็งที่ ชูเฟิง นำออกไปจากหุบเขาเขี้ยวหมาป่าอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นทรัพยากรการบ่มเพาะในตำนาน
และในขณะที่ทุกๆ คนกำลังจ้องมองไปยังเห็ดนิรันดร์แห่งการทำลายด้วยความปราถนานั้น ชูเฟิง ก็กล่าวออกมาจนทำให้พวกเขาถึงกลับพูดไม่ออก “แม่นาง ข้า หวู่ฉิง ได้จากไปพร้อมกับไข่วิหคผลึกน้ำแข็ง และกล่าวว่าจะตอบแทนอย่างแน่นอน และนี่คือเห็ดนิรันดร์แห่งการทำลาย มันมีค่าเท่าเทียมกัน ข้าจะตอบแทนด้วยสิ่งนี้ !!”
ReaDMGA /////////////////////////////////////////////////// A : นายหล่อมาก พี่เฟิง!!!
C : แม่งทำเหมือนเกมส์ฮาเวทมูนเลย เอาของไปจีบสาว เพิ่มระดับค่าความชอบ!!! ใช้ไม่ได้ๆ!!!
B : ใช้ไม่ได้บ้าไร ได้ผลสุดเลยล่ะ กูนี้ เอาไข่กะดอกไม้ไปให้ ทุกวัน ลืมไปล่ะตัวที่จีบชื่อไร!!!
C : เคยเล่นๆ!!! ในเกมส์บอย ยังมีตลับอยู่เลย!!! ตัวเครื่องหายไปไหนไม่รู้ จำได้คร่าวๆว่าเพื่อนยืมไป แต่จำไม่ได้ว่าใคร
A : . . . . . . . . . .
B : ไอ A มัน ดูแปลกๆว่ะ!!!
A : ไม่ค่อยสบาย ขอตัวไปหายากินก่อน!!!
C : กูจำได้ล่ะใครเอาไป!!!