บทที่ 996 – เงา
 
 
 
“ชูเฟิง ระวังตัวด้วย ไม่ว่ามันจะทำอะไรอย่าขัดขืน จงระลึกเสมอว่าเจ้ากำลังเผชิญหน้ากับจักรพรรดิสงคราม !!””บางครั้ง การยอมถอยก็สามารถรักษาชีวิตของเจ้าได้ !!”
 
 
 
ทันไท่ เซว่ ส่งข้อความทางจิตหา ชูเฟิง เป็นคำเตือนหลังจากที่สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่จากไป “หืม !! ถ้าเป็นเจ้า เจ้าจะยอมถอยหรือ !?”
 
 
 
ชูเฟิง กล่าวพร้อมยิ้มบาง “ข้า…….”
 
 
 
ทันไท่ เซว่ ไม่กล้าตอบออกไป บางคนยอมหัก ไม่ยอมงอ แม้ต้องเผชิญหน้ากับความตายก็ตาม และ ชูเฟิง กับนาง ก็เป็นคนเช่นนั้น “เอาล่ะ !! แม่นาง ทันไท่ ไม่ว่าเจ้าจะพูดเช่นไร ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า และก็หวังว่าพวกเราจะได้พบกันอีกครั้งในดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ในอนาคต !!”
 
 
 
ชูเฟิง กล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะติดตามสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ค่อยๆ ห่างออกไป 
 
 
 
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นั้นเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมาก เพียงพริบตาเดียวนั้น มันก็หายลับไปในหมอกเลือด ชูเฟิง จึงรีบตามไปอย่างรวดเร็ว 
 
 
 
ในเวลานี้ เหลือเพียงแค่ ทันไท่ เซว่ ที่ยืนอยู่ที่เดิม และต้องมองมายังทิศทางที่ ชูเฟิง และสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่จากไป พร้อมกับพึมพำออกมาว่า”
 
 
 
ทำไมจักรพรรดิสงครามต้องมารอพบ ชูเฟิง ในสถานที่แห่งนี้ !?”
 
 
 
นางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แต่นางก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ นางจึงเลิกคิดและพุ่งไปยังทิศทางที่สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ชี้ไป เพื่อเข้าสู่ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ 
 
 
 
ชูเฟิง ติดตามสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ไปอย่างใกล้ชิด 
 
 
 
ในเวลานี้ หมอกเลือดได้จางหายไป ทำให้เขาสามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ได้อย่างชัดเจน 
 
 
 
มันไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน และเหตุผลที่มันไม่ใช่มนุษย์นั้น เพราะศรีษะของมันคล้ายกับศรีษะของสุนัขมากกว่า หากจะพูดให้ชัดเจนนั้น มันดูคล้ายกับศรีษะของหมาป่าอยางมาก แต่ในความเป็นจริงนั้น มันไม่ใช่หมาป่า แต่มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ ชูเฟิง ไม่เคยพบมาก่อน 
 
 
 
ร่างกายของมันสวมเกราะสีทอง แต่เกราะนั้นไม่ได้เปล่งแสงใดๆ ออกมาแม้แต่นิดเดียว 
 
 
 
แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของ ชูเฟิง มากที่สุดนั้น คืออาวุธของมัน มันเป็นคทาที่มีความพิเศษอย่างมาก 
 
 
 
มันดูราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นี่ อีกทั้งมันดูแข็งแกร่งอย่างมาก 
 
 
 
ตลอดเส้นทางนั้น ชูเฟิง พยายามสื่อสารกับมันตลอดเวลา แต่มันก็ไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย มันเมินเขาไปโดยไม่ได้กล่าวอะไรออกมาแม้แต่อย่างเดียว หากจะกล่าวว่ามันช่วยเหลือ ชูเฟิง นั้น สมควรจะบอกว่ามันมานำทาง ชูเฟิง คงจะเหมาะสมกว่า “ชูเฟิง เจ้าหัวสุนัขนี่จะต้องช่วยเจ้าโดยมีเหตุผลบางอย่างแน่ๆ บางทีมันอาจจะเป็นญาติของเจ้าก็เป็นได้ !! หึหึ……..”
 
 
 
ต้านต้านกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ซุกซน “หึ !! ไร้สาระน่า !!”
 
 
 
ชูเฟิง รู้สึกอ่อนแรง เพราะแม้ว่าจะอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แต่ ต้านต้าน ก็ยังเห็นทุกอย่างเป็นเรื่องตลกสำหรับนาง 
 
 
 
แม้ว่าจะเป็นเรื่องตลกสำหรับนาง แต่ ชูเฟิง ก็พยายามเรียบเรียงความคิด และพยายามหาจุดเชื่อมโยงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ แม้ว่าสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นี้อาจจะไม่ใช่ญาติของเขา แต่ก็ดาจจะมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับเขา 
 
 
 
ยิ่ง ชูเฟิง คิดมากเท่าไหร่ เขายิ่งตื่นเต้นอย่างมาก เพราะเขาคิดว่ามันกำลังจะพาเขาไปยังสถานที่ที่ ฮวางฟู่ ห่าวเยว่ พบกับเขาครั้งแรก 
 
 
 
เขาติดตามมันไปอย่างใกล้ชิด เพราะเขาไม่อยากพลาดโอกาสที่จะไขปริศนาของบรรพบุรุษของเขา 
 
 
 
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นี้ได้นำทาง ชูเฟิง ลอดผ่านอุโมงค์มากมาย และผ่านเส้นทางหลายเส้นทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง 
 
 
 
เมื่อมองไปยังโครงสร้างต่างๆ นั้น มันยิ่งทำให้ ชูเฟิง ตื่นเต้นอย่างมาก เพราะมันคล้ายกับสิ่งที่ ฮวางฟู่ ห่าวเยว่ ได้บอกเขาเอาไว้ 
 
 
 
หากจะอธิบายนั้น ภายใต้ความมืดมิดทั้งหมด มันกลับดูศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก 
 
 
 
โครงสร้างเหล่านี้ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด แต่มันกลับให้ความรู้สึกที่ยริสุทธิ์อย่างมาก “ว้าววว !! มีหัวสุนัขเยอะเลย !!”
 
 
 
ต้านต้าน ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นหลังจากเดินลึกเข้ามา 
 
 
 
เพราะสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของ ชูเฟิง นั้น คือรูปปั้นสีเทาขนาดใหญ่ที่สูงขึ้นไปหลายร้อยเมตรทและมันก็มีลักษณะเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่นำทาง ชูเฟิง มา 
 
 
 
ความแตกต่งเพียงอย่างเดียวนั้น คือทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็น รูปปั้น แต่ที่นำทาง ชูเฟิง มานั้น คือสิ่งมีชีวิตที่มีพลังขั้นจักรพรรดิสงคราม 
 
 
 
ในตอนแรกนั้น ชูเฟิง คิดว่ารูปปั้นทั้งหมดนี่ถูกสร้างขึ้นโดยสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นี่ แต่ในไม่ช้า เขาพบว่าเขาคิดผิดอย่างมาก 
 
 
 
ในขณะที่เดินลึกเข้ามานั้น ที่ด้านหน้าของ ชูเฟิง ก็มีประตูบานหนึ่งปรากฏอยู่ ภายในประตูบานนั้นมีแสงสลัวๆ เล็ดลอดออกมา และมันสามารถป้องกันอำนาจพลังวิญญาณได้ แม้แต่เนตรสวรรค์ก็ไม่มีข้อยกเว้น 
 
 
 
แต่สิ่งที่ทำให้ ชูเฟิง ประหลาดใจนั้น ไม่ใช่เพราะประตูที่ถูกเปิดเอาไว้ แต่เป็นที่ด้านหน้าของประตู ที่มีรูปปั้นยืนอยู่ตัวหนึ่ง สั่นอีกด้านนั้นรูปปั้นได้หายไป 
 
 
 
ในขณะนั้น สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่นำทาง ชูเฟิง เข้ามาก็ก้าวเข้าไปยืนในจุดที่รูปปั้นหายไปอย่างเป็นระเบียบเช่นเดียวกับรูปปั้นอื่นๆ 
 
 
 
***** วูบบบบ ***** 
 
 
 
เพียงพริบตาเดียวนั้น สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น หลังจากสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ขึ้นไปยืนนั้น เกราะสีทองของมันก็ค่อยเปลี่ยนเป็นหินสีเทา พร้อมทั้งออร่าพลังขั้นจักรพรรดิสงครามค่อยๆ จางหายไป ในท้ายที่สึดนั้น สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ก็กลายเป็นรูปปั้นไปโดยสมบูรณ์ “ว้าววว !! เจ้าหัวสุนัขที่ช่วยเจ้าเป็นรูปปั้นหรือเนี่ย !!””อย่าบอกนะว่าพวกมันทั้งหมดนี่มีพลังขั้นจักรพรรดิทั้งหมดเลย !!”
 
 
 
ต้านต้าน อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง เพราะนี่เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงอย่างมาก “ฮ่าๆ น่าสนใจจริงๆ !! ไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะสามารถผนึกข้าไว้ในร่างของเจ้าได้ !! ชูเฟิง ข้าอยากรู้เรื่องราวของตระกูลเจ้าแล้วสิ !!””รีบไปเร็วเข้า !! รีบๆ เข้าไปเร็ว !! ข้าอยากเห็นข้างใน !!”
 
 
 
ไม่เพียงแต่ ชูเฟิง เท่านั้นที่ใจร้อน แต่ในตอนนี้ ต้านต้าน ก็ใจร้อนอย่างมาก ที่นะไขปริศนาตระกูลของ ชูเฟิง เพราะนั่นอ่จจะเป็นการคลายผนึกของนางออกก็เป็นได้ 
 
 
 
หลังจากหายใจเข้าลึกๆ แล้วนั้น ชูเฟิง ก็ก้าวเข้าไปในประตูบานนั้นทันที 
 
 
 
หลังจากที่ก้าวเข้ามานั้น สภาพแวดล้อมโดยรอบก็เปลี่ยนแปลงไป แม้ว่าจะยังคงมืดมิด แต่ภายในนี้ก็ยังสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมได้อยู่บ้าง 
 
 
 
แต่ภายใต้ประตูบานนี้ เขาได้สูญเสียอำนาจพลังวิญญาณทั้งหมด จึงทำให้เขาไม่สามารถตรวจสอบพื้นที่โดยรอบได้ และแม้แต่เนตรสวรรค์ก็ไม่สามารถใช้งานได้ 
 
 
 
ดังนั้น ชูเฟิง จึงมุ่งหน้าผ่านความมืดไปอย่างช้าๆ อย่างไม่มีทางเลือก 
 
 
 
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้ว่าแสงไฟสลัวๆ ที่ลอดออกจากประตูไปนั้น มาจากกองไฟกองหนึ่ง แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาคือคนผู้หนึ่งที่นั่งไขว่ห้างอยู่ข้างๆ กองไฟนั้น 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////
 
 
 
A : ใกล้เจอพ่อพี่เฟิงแล้ว ตื่นเต้นๆ!!! 
 
 
 
B : มันจะไวแบบนั้นเลยหรอ แต่ชื่อตอนที่ 1003 ก็คงใช่ เห็นเขียนว่า Chu Feng’s Father !!! 
 
 
 
A : งี้ก็เยี่ยมเลย แต่ว่าพรุ่งนี้เราจะเดินเรื่องไปถึง 1003 งั้นหรอ
 
 
 
B : งั้นก็รอไปอีก 1 วัน ^^