I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 911 – ข้ามแม่น้ำรือสะพาน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 911 – ข้ามแม่น้ำรือสะพาน

 

*ตูม ตูม ตูม ตูม *

 

บนท้องฟ้านั้น มู่หรง หมิงเทียนกำลังสู้กับท่านหญิงเพียวเมียวอยู่

 

ทั้ง 2 มีระดับเท่ากันและยังมียุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์เช่นเดียวกัน ทั้งคู่นั้นผลัดกันโจมตีไม่สิ้นสุด พลังของทั้ง 2 นั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องตกตะลึงและเกรงกลัวความรุนแรงที่เกิดจากคลื่นพลังที่เกิดขึ้นจากทั้ง 2 ฝ่าย

 

แม้กระทั่งคนของหมู่เกาะประหารก็ต้องหลบลูกหลงจากการปะทะที่มาเยอะมากจนต้องขมวดคิ้ว

 

การปะทะของทั้ง 2 นั้นรุนแรงและกินพื้นที่มาก ไม่ว่าจะเป็นพลังหรือความเร็ว ก็ไม่มีใครที่จะเทียบกับทั้ง 2 ได้ ผู้คนจำนวนมากนั้นไม่สามารถเห็นการต่อสู้นี้ได้ชัดเจน พวกเขาเห็นคลื่นพลังที่ปะทะกันบนท้องฟ้าเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขานั้นไม่ได้โง่ แต่พวกเขาก็ต้องขมวดคิ้วเพราะ ที่เจียง ฉีซาบอกว่า มู่หรง หมิงเทียน ไม่สามารถสู้กับท่านหญิงเพียวเมียวได้เป็นความจริง

 

แม้ตอนที่พวกเขาเริ่มต่อสู้ ท่านหญิงเพียวเมียวก็เป็นคนที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ มู่หรง หมิงเทียน นอกจากนี้ ความต่างนั้นชัดเจนยิ่งขึ้นๆ ในไม่ช้าเขาต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

 

ทุกคนรู้ว่ามู่หรง หมิงเทียนเท่านั้นที่สามารถสู้กับท่านหญิงเพียวเมียวได้ หากเกิดอะไรขึ้นกับเขา พวกเขาอาจจะไม่รอดหากท่านหญิงเพียวเมียวเรียกนกประหลาดนั่นกับมาอีกครั้ง

 

ผู้แข็งแกร่งอย่างท่านหญิงเพียวเมียวนั้นไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยคนคนเดียว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช้คนจำนวนมากเอาชนะนางได้ ถ้านางจะฆ่าพวกเขาพวกเขาคงเป็นได้เพียงมดรอวันที่ถูกเหยียบ

 

ความกลัวเริ่มผุดขึ้นมาบนหัวใจพวกเขา ความกังวลเริ่มแสดงออกบนใบหน้า พลังของท่านหญิงเพียวเมียวนั้นเหนือจินตนาการมาก

 

ก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่พรรคมารทะลายราตรียังเป็นผู้ปกครอง ประมุขพรรคมารได้แสดงพลังที่ทำให้โลกถึงกับตกตะลึง ในตอนนั้นไม่มีใครที่จะสามารถเอาชนะประมุขพรรคมารทะลายราตรีได้

 

แต่อย่างไรก็ตามในตอนนั้นก็มีหลายคนได้บอกว่าท่านหญิงเพียวเมียวนั้นเป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกับเขาแต่ก็มีหลายคนที่ไม่เชื่อจนในวันนี้พวกเขานั้นต้องเชื่อ

 

*ตูม*

 

*ตูม*

 

*ตูม*

 

ในตอนนั้นเสียงระเบิดได้ดังขึ้นอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันมีคลื่นพลังที่ควบคุมไม่ได้ระเบิดออกมา ในตอนนั้น คลื่นนั้นได้รุนแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุหมุนที่รุนแรงมาก

 

และด้วยพลังที่รุนแรงนั่น ทำให้เกิดคลื่นยักษ์ที่สามารถโถมใส่กองทัพได้ “นี่มันไม่ดีแล้ว.”

 

มู่หรง เนี่ยคง และประมุขของ 3 ตระกูลใหญ่ ก็ต้องเปลี่ยนถ้าทาง พวกเขานั้นรู้สึกได้ว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีแล้วจึงรีบวางรูปแบบเพื่อป้องกันพายุนั่น. “อ๊ากกก—”

 

อย่างไรก็ตาม พายุนั้นรวดเร็วมาก ก่อนที่พวกจะวางรูปแบบเสร็จพายุนั้นก็มาถึงแล้ว

 

ไม่มีใครนอกจากราชันย์สงคราม ที่สามารถต่อต้านพายหมุนนี่ได้ กองกำลังนับ 10 ล้านเหมือนเป็นปลาเมื่อถูกคลื่นยักษ์นั่น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นต่อเนื่องพวกเขานั้นลอยไปตามลม

 

ในตอนนั้น ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดของหมู่เกาะประหาร และ 3 ตระกูลเผ่าปีศาจ นั้นตกอยู่ในความวุ่นวาย “สวรรค์ นี่มัน…”

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อมู่หรง เนี่ยคงและคนอื่นมองไปยังตรง ทั้ง 2 ที่กำลังสู้กัน ด้วยท่าทางกังวล

 

ในตอนนั้น คลื่นนั้นก็ได้พุ่งห่างออกไปบนท้องฟ้าจากจุดที่เขาสู้กันอยู่ ในตอนนี้พวกเขานั้นสามารถเห็นทั้ง 2 ได้แล้ว

 

ผ้าไหมสีขาวในมือท่านหญิงเพียวเมียวนั้นสยาย ไปทั่วท้องฟ้า มันราวกับเป็นทะเลเมฆบนท้องฟ้าที่กลายเป็นมังกรที่โบยบินบนท้องฟ้า พลังของมันนั้นน่าเกรงขามอย่างมาก

 

ในด้านมู่หรง หมิงเทียนนั้น แม้ว่าเขาจะมีดาบสีฟ้าที่ยาว 3 ฟุตในมือนั้น แต่เขาก็ไม่อาจเทียบอีกฝ่ายได้ บนชุดคลุมสีทองของเขาเต็มไปด้วยเลือด และบาดแผลเต็มตัว “ท่าน เจียง ฉีซา โปรดช่วยบรรพชนของข้าด้วย”

 

มู่หรง เนี่ยคงหันไปขอร้องเจียง ฉีซา

 

ประมุข 3 ตระกูลเผ่าปีศาจนั้นรู้สึกสับสนในคำพูดของมู่หรง เนี่ยคงอย่างมาก แต่สักพักพวกเขาก็เข้าใจในความคิดของเขาทันที

 

ในภูมิภาคทะเลตะวันออก ชูเฟิงนั้นมีพลังที่โดดเด่นมาก เขานั้นเหมาะสำหรับชื่ออัจฉริยะมาก เขาสามารถเอาชนะคนที่มีระดับมากกว่าเขา 3 ระดับได้

 

แต่นั่นก็เป็นเพียง ภูมิภาคทะเลตะวันออก แต่ในแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ มีคนมากมายที่เป็นเหมือนเขา แม้แต่เจียง ฉีซา ก็เช่นกัน

 

ข้อสงสัยเขานั้นถูกยืนยันเมื่อพวกเขานั้นได้เห็นรูปแบบที่เขาวางก่อนหน้านี้ ใช้เพียงพลังในระดับจ้าวสงครามก็สามารถทำลายรูปแบบป้องกันได้ เมื่อเห็นเช่นนั้นพวกเขาจึงเข้าใจว่า เจียง ฉีซานั้นไม่ธรรมดาจริงๆ

 

ดังนั้นบางที เขาสามารถจะช่วยพวกเขาได้ “แล้วข้าจะได้อะไรจากการช่วยพวกเจ้า”

 

เจียง ฉีซาพูดขึ้น เขาถามกลับด้วยรอยยิ้ม ในรอยยิ้มนั้นเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน. “เจ้าพูดอะไรของเจ้า พวกเราเป็นพันธมิตรกันไม่ใช่หรือไง มันก็ชัดเจนพอแล้วถึงเหตุผลที่ต้องช่วย เจ้าต้องการผลประโยชน์อีกหรือ ก่อนหน้านี้เจ้ายังยืมพลังพวกเราทำลายรูปแบบป้องกัน เจ้าคิดว่าเจ้ายังไม่ได้ผลประโยชน์เพียงพออีกหรือไง”

 

นิรันดร์ที่ 5 พูดขึ้นมา เขารู้สึกหงุดหงิดมากเมื่อเห็นท่าทาง เจียง ฉีซา “หุบปาก.”

 

มู่หรง เนี่ยคงตะโกนสั่งให้ นิรันดร์ที่ 5 หุบปาก เขากลัวว่า นิรันดร์ที่ 5 จะก้าวร้าวใส่เจียง ฉีซา “ไม่จำเป็นเขาพูดถูกแล้ว ในตอนนี้ข้านั้นรู้สึกว่าประเมินพวกเจ้าสูงเกินไป ถ้าข้าจะกำจัดพวกเจ้า พวกเจ้าจะทำอะไรกับข้าได้หรือ”อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคิดว่า เจียง ฉีซา นั้นจะเก็บคำพูดของนิรันดร์ที่ 5 มาคิด

 

นอกจากนี้ในขณะที่เขาพูด เขานั้นมองไปที่ฝูงชนด้วยสายตาเย็นชา

 

ในตอนนั้นพวกเขาไม่มีสามารถใจเย็นได้ พวกเขานั้นถอยออกห่างจากเจียง ฉีซา และพวกเขานั้นใช้พลังเพื่อทำให้ตนเองอยู่ในสภาพพร้อมสู้มากที่สุด

 

ในตอนนั้นไม่เพียงมู่หรง เนี่ยคงเท่านั้นที่มีท่าทางเปลี่ยนไป แม้แต่ประมุขทั้ง 3 ตระกูลใหญ่ก็เช่นเดียวกัน ในตอนนั้นในสายตาของพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะโกรธ แต่ก็กลัวเช่นกัน

 

คำพูดของ เขาบ่งบอกทุกอย่างได้ชัดเจน ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ที่เขามานั้นวิเศษนัก และ ด้วยพลังที่แข็งแกร่งของเขา ถ้าเขาต้องการจะฆ่าพวกเขา เขาก็คงจะฆ่าและได้ประโยชน์จากการรวบรวมของของพวกเขาทั้งหมด.

 

• ชื่อตอน 过河拆桥 [guòhé chāiqiáo] พอข้ามแม่น้ำได้ก็รื้อสะพานทิ้ง อุปมาว่า พอบรรลุเป้าหมาย ก็ถีบส่งผู้ช่วยเหลือReaDMga////////////////////////////////////////

 

A : ปล่อยให้มืงได้ใจไปก่อนอีกไม่กี่ตอน หรอก รอให้พี่เฟิงได้ ทักษะเร้นรับครบสี่ตัวก่อน!!!

 

B : ถึงตอนนั้น พี่เฟิงเราจะได้รู้ว่า ตัวเองนั้นคือทายาทอสูร. . . . ของ. . . . .คุณยาย วรนาช

 

C : ที่ถ่ายทอดกันโดยเอาปากดูดตูดใช่ป่ะ ?!!!

 

A4 : ไอพวก จัง. . . . . .

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments