ตอนที่แล้ว ตอนต่อไปบทที่ 1020 – หีบสมบัติลึกลับ
“เจ้าเด็กบัดซบ เจ้ากล้าดูถูกพลังของอาวุธของข้าหรือ วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสพลังของอาวุธของข้า.”
เมื่อเห็นอาวุธที่ภาคภูมิใจโดนดูถูก เขาก็โกรธจัด เขานั้นเหวี่ยงดาบเสี้ยงจันทร์ในตอนนั้นก็มีประกายพลังระดับราชันย์สงครามออกมา พลังระดับราชันย์สงครามนั้นกลายเป็นแสงพร้อมเสียงร้องราวกับหมาป่าหอน และภูติผีพุ่งเข้าใส่ชูเฟิง
นั่นเป็นทักษะอย่างแน่นอน ไม่เพียงแค่นั้นมันยังมีพลังของความชั่วร้ายอีกด้วยมันรวมตัวกันอย่างสมบูรณ์กับยุทธภัณฑ์ที่ไม่สมบูรณ์ และแข็งแกร่งอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ถึงจะเป็นเช่นนั้นชูเฟิง ก็ไม่ได้หวาดกลัวต่อหน้าทักษะของประมุขวิหารลี้ลับ ชูเฟิงก็สะบัดมือของเขา ดาบใหญ่สีดำปรากฏบนมือของเขา “ตูม~~~~””โฮก~~~~”
เมื่อดาบสีดำนั้นปรากฏขึ้น ลมก็กรรโชกอย่างรุนแรง และ พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน ทักษะของประมุขวิหารโลหิตลี้ลับหายไปราวกับควัน ดาบนั้นคือราชันย์แห่งยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ ดาบผนึกมาร
เมื่อดาบผนึกมารปรากฏขึ้น กลิ่นอายชูเฟิงก็เปลี่ยนไป ในตอนนี้เขาคล้ายกับเทพเจ้าแห่งสงคราม ด้วยดาบผนึกมารในมือเขา เขานั้นราวกับเป็นมังกรในหมู่ทุกสิ่ง พลังของดาบผนึกมารนั้นพุ่งตรงไปที่หน้าอกของประมุขวิหารโลหิตลี้ลับ “บัดซบ.”
ในตอนนั้น ประมุขวิหารโลหิตลี้ลับ ก็พูดขึ้น เขาใช้ทุกสิ่งเพื่อป้องกันการโจมตีครั้งนี้ เมื่อเขาพร้อมจะรับการโจมตีนั่นเขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า ดาบในมือเขาไม่เพียงสั่นอย่างรุนแรงแต่มันเหมือนจะศูนย์เสียการควบคุม มันได้สุญเสียพลังที่จะต้านทานแล้ว “ฉึก.”
ในเวลาไม่นานเมื่อประมุขวิหารโลหิตลี้ลับลังเล ดาบผนึกมารของชูเฟิง ก็ได้แทงทะลุหน้าอกของเขาออกทางหลัง “อ๊ากกก.”
หน้าอกของเขานั้นถูกแทงทะลุโดยดาบยักษ์ ประมุขวิหารโลหิตลี้ลับร้องดังลั่น ในตอนนี้นั้นเขาราวถูกตะปูตอกไว้ที่แท่นบูชาไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย “เจ้า เจ้า เจ้าเป็นใครกัน”
ประมุขวิหารโลหิตลี้ลับตื่นตระหนกอย่างมาก เมื่อชูเฟิงหยิบดาบผนึกมารออกมา เขาก็รู้ได้ว่าเด็กคนนี้นั้นไม่ธรรมดาเสียแล้ว
นั่นเป็นเพราะเขานั้นสังหรณ์ ว่า ดาบผนึกมาของชูเฟืงนั้น เป็นยุทธภภัณฑ์ระดับราชวงศ์ แต่พลังของมันนั้นรุนแรงกว่า ยุทธภัณฑ์ระดับราชวงศ์ที่เขาเคยเห็นมาก่อน จึงเป็นธรรมดาที่ดาบจันทร์เสี้ยงของเขาไม่อาจต้านมันได้
ตอนนี้เขานั้นรู้แน่นอนว่า มีมหาอำนาจที่อยู่เบื้องหลังชูเฟิง นั่นเป็นเพราด้วยระดับพลังของเขาและอายุของเขา เขาไปเอาอาวุธล้ำค่านี่มาจากไหน “ผู้อาวุโส ลู่ว ท่านจะทรมานเจ้าขยะนี่หรือไม่”
ชูเฟิงไม่ได้ทำอะไรกับประมุขวิหารโลหิตลี้ลับ เขาจ้องไปยังปู่ลู่วแล้วพูดขึ้น “นี่มัน…”
แม้ปู่ลู่ว จะเกลียดอีกฝ่ายจนเข้ากระดูก แต่เมื่อชูเฟิงถามว่า จะทรมานยังไงดี เขาจึงลังเล “ไม่ว่าจะทรมานแบบไหน ก็เหมือนกัน ดังนั้นผู้น้อยคนนี้จะช่วยท่านทำมันเอง”
ชูเฟิงยิ้ม แล้วรอคำตอบของปู่ลู่ว ในตอนนี้นั้นประมุขวิหารโลหิตลี้ลับที่ถูกตรึงไว้ด้วยดาบผนึกมาร ชูเฟิงใช้มือของเขาแทงเข้าไปในร่างของประมุขวิหารโลหิตลี้ลับ “อ๊ากกก~~~~~~”
มือของชูเฟิงนั้นทรงพลังมาก ตอนที่เขาแทงเข้าไปนั้น ก็มีเสียงดัง กรึก กรึก ราวกับมีบางอย่างได้หักไปในตอนนั้น ไม่เพียงและเนื้อเท่านั้นที่ไหลออกมา แม้แต่กระดูกก็ยังถูกหักเพียงแค่พริบตามือของเขาก็ได้เข้าไปในร่างของอีกฝ่าย
หลังจากประมุขวิหารโลหิตลี้ลับได้บาดเจ็บไปทั่วร่าง และกระดูกมากมายของเขาได้หักไปชูเฟิงก็ยังไม่หยุด เขาดึงมือออกและหยิบมีดออกมา จากนั้นชูเฟิงเริ่มบรรจงแทงเข้าไปในร่างของประมุขวิหารโลหิตลี้ลับด้วยความคมของมีดนั่นมันแทงเข้าไปยังเครื่องในของประมุขวิหารโลหิตลี้ลับและตัดเส้นเลือดมากมาย “อ๊ากกกก~~~~ หยุดๆ อย่าทรมานข้าอีกเลย หีบสมบัติที่เจ้าต้องการอยู่ในถุงจักรวาลของข้า ถ้าเจ้ายากได้ก็เอาไป เพราะมันไร้ประโยชน์ข้านั้นไม่สามารถเปิดมันได้ จึงไม่ต้องการมัน ข้ายกมันให้ตกลงหรือไม่””ยกโทษให้ข้าด้วย พี่ใหญ่ลู่ว ข้าผิดไปแล้ว ช่วยข้าด้วย.”
เมื่อต้องทนรับการทรมานของชูเฟิง ประมุขวิหารโลหิตลี้ลับก็ร้องขอความเห็นใจ เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาขอจากชูเฟิงนั้นมันไร้ประโยชน์จึงหันไปขอกับปู่ลั่วแทน
เมื่อเห็นชูเฟิงทรมานประมุขวิหารโลหิตลี้ลับเช่นนั้น แม้ปู่ลั่วจะมีประสบการณ์มากมายก็ต้องขมวดคิ้ว แม้เขาจะอายุมากแล้ว เขาก็ไม่เคยเห็นการทรมานที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน “ชูเฟิงเจ้าหยุดได้แล้ว รีบเอาหีบสมบัติของข้าออกมาแล้วดูมันเถิด ลองดูว่าที่เขาพูดจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามสำหรับเขาชีวิตคงมีค่ามากกว่าสมบัตินั่น.”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นชูเฟิงก็หยุดทรมาน และหยิบถุงจักรวาลของประมุขวิหารโลหิตลี้ลับออกมา เขาพบว่าในนั้นมีสิ่งของที่ไม่ธรรมดาอยู่ในนั้น.
หลังจากหยิบมันออกมา ดวงตาของเขาก็เป็นประกายมันคือหีบสมบัติที่พวกเขาพูดกันไว้
หีบสมบัตินี้เป็นหีบไม้ มันมีสีม่วงเข้ม จากที่เห็นแล้วมันนั้นดูดีอย่างมาก ไม่ว่าใครที่เห็นก็ต้องมองมันไปหีบสมบัติแน่นอน
หีบสมบัตินี้เก่าแก่อย่างมาก มันมีอักขระมากมายบนหีบนี้ ที่สำคัญที่สุดคือมันนั้นเต็มไปด้วยพลังที่อยู่ข้างในนั่นหมายความว่าสมบัติข้างในหีบนี้ย่อมไม่ใช่ของธรรมดาๆ “ว้าววว มันเป็นสมบัติจริงๆ ชูเฟิงรีบเปิดเร็วๆ มีอะไรอยู่ข้างในนั้น.”
ในตอนนั้น ท่านราชินีผู้งดงามก็ตื่นเต้นอย่างมาก นางรีบวิ่งมาหาชูเฟิง “ฮ่าๆ เปิดสมบัตินี้หรือ เจ้าฝันไปหรือเปล่าข้านั้นใช้เวลามาหลายปีก็ไม่อาจเปิดมันได้”
ประมุขวิหารโลหิตลี้ลับพูดขึ้น “หึหึ….”
เมื่อได้ยินคำพูดของประมุขวิหารโลหิตลี้ลับ ชูเฟิงก็หัวเราะออกมาด้วยความไม่พอใจเขานั้นยังไม่ได้รีบลองเปิดหีบสมบัติ แต่เขานั้นใกล้เนตรสวรรค์เพื่อตรวจสอบรูปแบบของหีบนี้เสียก่อน
หลังจากเขาตรวจสอบมันแล้ว เขาก็กระจายพลังของเขาเข้าไปในนั้น ต่อจากนั้นรูปแบบที่อยู่บนกล่องนั้นก็เริ่มทำงาน “ฟึ่บ.”
เมื่อรูปแบบนั้นทำงานแสงก็พุ่งออกมาจากกล่องนั้น อักขระที่แข็งแกร่งนั้น ราวกับกองทัพของผู้คนแลกม้าเริ่มพุ่งเข้าใสหีบสมบัติ หีบสมบัตินั้นส่องแสงนอกจากนี้อักขระบนกล่องนั้นเริ่มประกายแสง และมีเสียงดังพรึ่บ ตอนนี้นั้นหีบสมบัตินั้นได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ข้านั้นลองมาตั้งหลายปียังเปิดไม่ได้ แล้วทำไมเจ้าถึงเปิดมันได้กัน”
เมื่อเห็นหีบสมบัติเปิดขึ้น ประมุขวิหารโลหิตลี้ลับก็ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขานั้นพยายามหาวิธีออกจากการถูกตรึงโดยดาบผนึกมาร ในเวลาเดียวกัน ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโลภ เมื่อเห็นหีบสมบัติปรากฏขึ้น เขานั้นต้องการสิ่งที่อยู่ภายในกล่องนั้น
ความจริงแล้วไม่เพียงประมุขวิหารโลหิตลี้ลับเท่านั้น แม้แต่ปู่ลู่วก็ตกใจอย่างมาก ร่างของเขาสั่นเทา ถ้าประมุขวิหารโลหิตลี้ลับใช้เวลาหลายปีก็ไม่สามารถเปิดมันได้ เช่นเดียวกับเขาที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปีที่ลองเปิดมัน
หีบสมบัติที่พวกเขาไม่สามารถเปิดได้เป็นเวลาหลายปี กับถูกเปิดโดยชูเฟิง ในเวลาสั้นๆ มันไม่ทำให้เขาตกใจได้อย่างไร
ในตอนนี้นั้น พวกเขานั้นเข้าใจทันที หีบสมบัตินั้นไม่ได้เปิดยากเลยความจริงแล้ว มันต้องใช้วิธีที่ถูกต้องในการเปิด ซึ่งสิ่งที่พวกเขาทำก็ห่างจากมันมากนัก
ReaDMGA ////////////////////////////////////////