I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1040 – ความหวังของหุบเขาไม้ครามตอนใต้

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1040 – ความหวังของหุบเขาไม้ครามตอนใต้

 

“ท่านปรมาจารย์ ได้โปรดอภัยให้พวกเราด้วย ได้โปรดเมตตาตระกูลฮั่นของเราที่ได้ซื่อสัตย์เเละทุ่มเทเเรงกายเเรงใจให้กับหุบเขาไม้ครามตอนใต้มาหลายปี ดังนั้นท่านปรจารย์ พวกเราขอให้ท่านให้โอกาสพวกเราด้วย”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของปรมาจารย์ ฮั่น ฉิงหยู่ เเละสมาชิกตระกูลฮั่นทั้งหมดต่างตกตะลึงในทันทีนั่นเป็นเพราะว่านี้ไม่ใช่ว่าพวกเขาต่างถูกเนรเทศออกจากที่นี้เเละทำให้ฐานะของพวกเขาลดลงจนถึงขั้นวิกฤติเลยอย่าง งั้นหรือ

 

การที่ขับไล่สมาชิกทั้งหมดของตระกูลฮั่นให้ออกจาก หุบเขาไม้ครามตอนใต้ เเละห้ามลูกหลานในตระกูลย่างกายเข้ามาเเม้เเต่ครึ่งก้าว การตัดสินเช่นนี้นับว่า โหดร้ายอย่างมาก ไม่เพียงเเต่ตัดอำนาจที่มีมาทั้งหมดของตระกูลฮั่นทิ้งไป เเต่ยังตัดเส้นทางการหลบหนีของตระกูลฮั่นทิ้งไปด้วยด้วยเหตุนี้หลายคนจากตระกูลฮั่นนั้นยากที่จะยอบรับการกระทำนี้ได้ “ท่านปรมาจารย์ถึงเเม้ว่าตระกูลฮั่นของเราจะทำผิดจริงเเต่ด้วยความชอบทั้งหมดที่เขาได้สร้าง รวมถึงการส่งผู้คนจากตระกูลไปพิทักษ์รักษาหลายสถานที่ในหุบเขาไม้ครามตอนใต้ การกระทำของพวกเขาในครั้งนี้ พวกเขาก็น้อมรับความผิดแล้ว ได้โปรดโอกาสพวกเขาอีกสักครั้ง?”

 

ไม่เพียงเเต่สมาชิกตระกูลฮั่นเท่านั้นที่คุกเข่าขอร้องเเม้เเต่ผู้อาวุโสคนอื่นๆต่างก็ขอร้องท่านปรมาจารย์ตัดสินใจใหม่

 

ถึงเเม้ว่าตระกูลฮั่นได้ปกครองเเบบเผด็จการในหุบเขาไม้ครามตอนใต้มาอย่างยาวนาน การที่จะมีคนเกลียดพวกเขาก็นับว่าเป็นเรื่องปกติเเต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ถึงการที่พวกเขาได้ทำประโยชน์ให้หุบเขาไม้ครามตอนใต้ไว้มากทีเดียว

 

ตระกูลฮั่นนั้นเป็นตระกูลใหญ่ที่ทรงพลัง ถึงเเม้ว่าพวกเขาจะยืมทรัพยากรของหุบเขาไม้ครามตอนใต้มาเพื่อใช้บ่มเพาะพลัง ไม่เพียงเเค่นั้นบุคคลจากตระกูลของพวกเขาก็นับว่ามีความสามารถที่โดดเด่น

 

ยกตัวอย่างเช่นศิษย์ที่โดดเด่นของหุบเขาไม้ครามเเห่งนี้ คนรุ่นเยาว์ของตระกูลฮั่นก็ติดหนึ่งในสาม ซึ่งเป็นเรื่องก่อนที่ชูเฟิงจะมาถึงหุบเขาไม้ครามตอนใต้ พวกเขาก็นับว่าทรงพลังมากที่สุดนั้นเพราะทุกคนมาจากตระกูลฮั่น นั่นก็เพียงพอเเล้วว่ามันสามารถบ่งบอกได้ถึงความสำคัญของตระกูลฮั่นที่มีในหุบเขาไม้ครามตอนใต้เเห่งนี้

 

ถ้าไม่คำนึงถึงการก่ออาชญากรรมต่างๆของตระกูลฮั่น พวกเขาก็นับเป็นขุมกำลังส่วนนึงของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ที่เเข็งเเกร่ง ถ้าหากตระกูลฮั่นถูกขับไล่ออกจากหุบเขาไม้ครามตอนใต้อย่างเเท้จริง ก็นับว่าเป็นการสูญเสียอย่างมากสำหรับหุบเขาไม้ครามตอนใต้

 

ดังนั้นถึงเเม้ว่าจะมีผู้อาวุโสหลายคนไม่ชอบหน้าตระกูลฮั่นเเต่เมื่อพิจารณาถึงสภาพโดยรวมพวกเขาก็ไม่อยากให้ขับไล่ตระกูลฮั่นออกจากหุบเขาไม้ครามตอนใต้ นั่นเป็นเพราะว่าในดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์นั้นเต็มไปด้วยขุมพลัง หากตระกูลฮั่นถูกขับไล่ออกจากหุบเขาไม้ครามตอนใต้พวกเขาก็ยังคงสามารถเข้าร่วมกับขุมกำลังเหล่านั้นที่เป็นศัตรู ถ้าพวกเขาเข้าร่วมเเละเป็นส่วนหนึ่งของขุมกำลังพวกนั้นนั่นก็เท่ากับว่านับว่านี่คือการสูญเสียครั้งใหญ่ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้เลยไม่ใช่หรือ? “พวกเจ้าทั้งหมดหุบปากซะ”

 

ปรมาจารย์ ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ตระโกนออกมาด้วยความโกรธเสียงของเขาถึงกับทำให้ฝืนฟ้าเเละผืนดินสั่นสะเทือนเลยทีเดียว

 

เสียงของเขาดังเเละชัดเจน เเม้เเต่หมู่เมฆในผืนฟ้ายังเเตกสลายออกจากกันผู้คนทั้งหมดที่ได้ยินเสียงต่างนิ่งเงียบเเละตัวเเข็งทื่อในทันที นั่นเพราะว่าพวกเขาได้ยินชัด ว่าถูกสั่งให้หุบปากปิดให้สนิท ในขณะนี้พวกเขาไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งสิ้นนั้นเป็นเพราะพวกเขารู้สึกได้ถึงความโกรธของปรมาจารย์ ที่ต้องการขับไล่ตระกูลฮั่นออกจากหุบเขาไม้ครามอย่างเเน่วเเน่ “ไม่ใช่ว่าข้าได้กล่าวออกไปก่อนหน้านี้หรืออย่างไร หากใครก็ตามที่กล้าที่จะขัดคำสั่งของข้า ข้าจะฆ่ามันผู้นั้นโดยไม่มีข้อยกเว้น หรือว่าพวกเจ้ากล้าที่จะขัดคำสั่งของข้ากัน?”

 

ปรมาจารย์ของหุบเขาไม่ครามตอนใต้ได้โยนสายตาจ้องมองไปที่หลายคน ในเวลานี้ไม่มีเเม้เเต่ใครที่จะกล้าพูดต่อต้านอีกเเม้เเต่ผู้อาวุโสของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ที่มักจะยึดมั่นในคำพูดของตัวเอง ในตอนนี้พวกเขารู้เเล้วว่าถ้าเกิดพวกเขาปริปากพูดอีกทีคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกสังหารในพริบตา

 

การตัดสินในขณะนี้นั่นเเสดงให้เห็นว่า ตระกูลฮั่นในหุบเขาไม้ครามตอนใต้ได้ถูกขับไล่โดยสมบูรณ์ถึงเเม้ว่าความผิดนั้นจะมาจาก ฮั่น ฉิงหยู่หรือคนเพียงไม่กี่คน เเต่พวกเขาทุกคนหรือเเม้เเต่ศิษย์ที่โดดเด่นของตระกูลฮั่นก็ไม่ละเว้น พวกเขาได้ถูกขับไล่ออกไปทั้งหมด ผู้คนจากตระกูลฮั่นได้ถูกขับไล่โดยไม่ให้ย่างกายเข้ามาใกล้หุบเขาไม้ครามตอนใต้เป็นครั้งที่สอง

 

ถึงเเม้ว่าผู้คนหลายคนจะคาดเดาเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้นั่นเพราะตระกูลฮั่นที่เเข็งเเก่รงได้วางอำนาจเเละวางเเผนที่มองเห็นการกระทำได้ชัด ถ้าจะกล่าวตามจริงคือพวกเขามีความคิดที่จะยึดครองอำนาจทั้งหมดของหุบเขาไม้ครามตอนใต้เเละกลายเป็นผู้ปกครองซะเอง นี้คือสิ่งที่ปรมาจารย์นั้นไม่อาจที่จะทนเเละให้อภัยได้

 

อย่างไรก็ตามในวันนี้พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวก็จะสามารถทำให้ตระกูลฮั่นถูกขับไล่ออกจากหุบเขาไม้ครามตอนใต้ได้ พวกเขาเหล่านั้นต่างสันนิษฐานว่า เด็กหนุ่มที่ชื่อชูเฟิง ในวันนี้ชื่อเสียงของเขา จะถูกเเพร่กระจายไปทั่วหุบเขาไม้ครามตอนใต้อย่างเเน่นอน การกระทำของเขาไม่เพียงเเต่จะสร้างหน้าประวัติศาตร์เหตุการณ์ที่สำคัญ จนหน้าตกใจ

 

ในขณะนี้ชูเฟิงที่อยู่ในพระราชวังใหญ่ของปรจารย์ นอกจากนี้อาการบาดเจ็บของเขาได้รับการเยียวยาจนหมดสิ้น อย่างไรก็ตามเขาได้ถูกทิ้งไว้ในห้องโถงพระราชวังเเละดูเหมือนจะเขาจะค่อนข้างเหงาหงอยมิใช่น้อย

 

นั่นเพราะปรมาจารย์ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ได้เชิญชูเฟิงมายังสถานที่เเห่งนี้อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ออกไปจัดการเองโดยลงมือขับไล่ผู้คนจากตระกูลฮั่นทั้งสิ้นเเละลงโทษผู้อาวุโสบางคน นอกจากนี้เขายังจัดการภาระเเละธุระทุกอย่างที่ค้างคาในทันที การที่ปรมาจารย์ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้จะไม่ได้นั่งอยู่คุยกับเขาตลอดเวลาก็นับว่าไม่แปลก

 

.”

 

เอ๊ยด~~”

 

ในที่สุดประตูห้องโถงของพระราชวังที่ถูกปิดก็ถูกเปิดออกในทันทีเบื้องหลังประตูบานนั้นปรากฏผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ดูชราที่ด้านหลังประตู เขาคือปรมาจารย์ของหุบเขาไม่ครามตอนใต้ “สหายน้อย ชูเฟิง ขออภัยที่ข้ามาช้า ข้าเพียงเเต่มีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการ ข้าคงทำให้เจ้ารอนานสินะ”

 

เมื่อชูเฟิงมองออกไปเขาก็พบกับใบหน้าของปรมาจารย์ ใบหน้าของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดเเละขอโทษ “ท่านปรมาจารย์ ข้าเป็นเพียงเเค่ศิษย์ไม่สมควรได้รับคำขอโทษจากท่าน”

 

ชูเฟิงรีบลุกขึ้นเเละต้อนรับปรมาจารย์ด้วยท่าทีสุภาพ ไม่เพียงเเต่เขาได้มาเข้าร่วมหุบเขาไม้ครามตอนใต้ ในอีกเเง่นึงเขายังได้เป็นศิษย์ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้อีกด้วยเมื่อต้องเผชิญกับปรจารย์ที่เป็นถึงผู้ปกครองสูงสุดของที่นี่ ใครกันจะกล้าหยาบคาย นอกจากนี้ปรจารย์ผู้นี้ยังได้เคยช่วยชีวิตของเขาไว้ด้วยครั้งนึง “เฮ้อ เจ้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสุภาพกับข้าขนาดนั้นก็ได้ สหายน้อย ชูเฟิง ถ้าเป็นไปได้ข้าอยากจะให้เจ้าปฏิบัติกับข้าราวกับสหายคนนึงก็พอ” “ชื่อของข้าคือ ฉีคง ไจ๋ชิง สหายน้อยชูเฟิงเจ้าจะเรียกข้าด้วยชื่อ เฉยๆก็ได้”

 

ใบหน้าของปรมาจารย์ เเต่งเเต้มไปด้วยรอยยิ้มทัศนคติของเขาค่อนข้างอัธยาศัยดีเเละเป็นกันเอง

 

ถึงเเม้ว่ามันจะเป็นเกียรติอย่างมากสำหรับชูเฟิงที่สามารถพูดคุยกับปรจารย์ใหญ่ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ได้อย่างเสรีเช่นนี้ เพียงเเต่ว่าคำพูดเหล่านั้นไม่เหมาะสม เขาที่เป็นเพียงเเค่ศิษย์ไม่อาจยินยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นได้ มิฉะนั้นสถานะของเขาที่เป็นถึงปรมาจารย์ของหุบเขาไม้คราม ยังจะหลงเหลืออีกอย่างงั้นหรือ?

 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่คิดเกี่ยวกับมันความคิดที่สดใสของชูเฟิงก็เเทนด้วยน้ำเสียงเเสดงความเคารพถึงเเม้ว่าเขาจะไม่เรียก ฉีคง ไจ้ชิง sikong เเต่ว่าเขาก็ยังคงคิดถึงชื่อเรียกที่ยังบ่งบอกถึงการให้เกียรติอีกฝ่ายอยู่ดี”

 

เช่นนั้นผู้เยาว์ขอคำนับอาวุโส ฉีคง” “ฮ่าๆ แบบนี้ก็ไม่เลว ถึงเเม้ว่าข้าจะบอกให้เจ้าเรียกชื่อข้ายังไงก็ได้ ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ยังคงให้เกียรติเราผู้เฒ่าในฐานะผู้อาวุโส ก็ถือว่ายังดีกว่าเจ้าเรียกเราว่า ปรมาจารย์ ล่ะนะ”

 

ปรมาจารย์หัวเราะเสียงดังลั่น เขาเเลดูเหมือนจะมีความสุขอย่างมากจากนั้นเขาก็ตรวจสอบชูเฟิงด้วยสายตาที่กังวลเเละถามขึ้น”

 

สหายน้อยชูเฟิง อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ?!” “ขอบคุณผู้อาวุโสสำหรับโอสถต่างๆที่ท่านได้มอบให้ อาการบาดเจ็บของข้าหายดีเเล้ว”

 

ชูเฟิงกล่าว “เช่นนั้นก็เยี่ยมไปเลย”

 

ปรมาจารย์พยักหน้าด้วยความพึงพอใจก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า”

 

สหายน้อยชูเฟิงข้าอภัยที่ข้าทำให้เจ้าเจอเรื่องเช่นนี้” “ผู้อาวุโสอย่าได้ใส่ใจสิ่งที่ผ่านมา สำหรับข้าเเล้วถ้าเพื่อความยุติธรรมเเม้ว่าข้าจะต้องเสี่ยงเเบบนั้นอีกสักกี่ครั้ง ก็นับว่าคุ้มค่า”

 

ชูเฟิงตอบ “สหายน้อยชูเฟิง ตระกูลฮั่น นั้น ได้ทำสิ่งที่เป็นภัยต่อหุบเขาไม้ครามตอนใต้มานานหลายปี เพียงเเต่ว่าข้าไม่ได้ใส่ใจเเละยื่นมือเข้าไปยุ่งหรือจัดการการกระทำของพวกเขา นั่นอาจทำให้เจ้าคิดว่าข้า ไม่นั้นไร้ความสามารถ เเละไม่คู่ควรที่จะเป็นปรมาจารย์ใช่ไม๊ล่ะ ?!”

 

ฉีคง ไจ้ชิง กล่าวออกมา “ผู้น้อยไม่ได้คิดเช่นนั้น ผู้อาวุโส ฉีคง ข้ารู้สึกว่าท่านนั้น คอยจับตามองการปฏิบัติตัวของตระกูลฮั่นที่ผ่านมา”

 

ชูเฟิงส่ายหัวในทันที เขารู้ว่าปรมาจารย์ใหญ่ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้กำลังเกลียดชังตัวเองที่ไร้ความสามารถ เเต่ว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น “ฮ่าๆ สหายน้อยชูเฟิง เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องพูดประจบข้าก็ได้ ข้านั้นรู้ตัวเองดีว่าข้านั้นไร้ความสามารถ เเละนี้ก็เป็นเพียงเเค่เหตุผลที่เห็นเเก่ตัวของข้าเพียงเท่านั้น” “ในฐานะที่เป็นปรมาจารย์ใหญ่ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ ถึงอย่างนั้นข้ากลับปล่อยปะละเลยเเละไม่จัดการกับตระกูลฮั่นเลย” “เเต่ข้าก็มีเหตุผลที่ข้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาเช่นเดียวกัน? ถึงเเม้ว่าข้าจะพึ่งพาตระกูลฮั่นเสมอมาเพราะว่า ตระกูลฮั่นเป็นตระกูลขนาดใหญ่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในพื้นที่เเห่งนี้ เดิมทีพวกเขาคือขุมกำลังของภูมิภาค เเละหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้สร้างความสัมพันธ์กับคนของเรา จากหุบเขาไม้ครามตอนใต้ ผู้อาวุโสต่างได้ทำข้อตกลงเเละจบด้วยการที่พวกเขาได้ส่งส่วนหนึ่งของลูกหลานที่โดดเด่นของพวกเขาเข้าร่วมกับหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเราเพื่อบ่มเพาะพลัง” “นี่นับว่าดำเนินการมาเป็นอย่างนี้หลายปีเเล้ว พวกเขาได้ส่งศิษย์จำนวนมากมายังหุบเขาไม้ครามตอนใต้ เเละในสัญญานั้นพวกเขาได้ปฏิเสธตระกูลของพวกเขาว่าห้ามเข้าร่วมกับขุมกำลังอำนาจต่างๆ” “เหตุผลที่ตระกูลฮั่นทรงพลังนั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาได้รับการปฏิบัติตามข้อตกลงตามผู้อาวุโสของเรานั่นคือพวกเขาได้รับทรัพยากรจากหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเรา อย่างไรก็ตามตระกูลฮั่นมีความสามารถมากพอที่เราจะส่งเสริมทรัพยากรของเราไปทางนั้น พวกเขาที่ตอนนั้นได้เป็นส่วนนึงของขุมกำลังพลังอำนาจของเรา ทำให้เราตรวจสอบยากยิ่งขึ้นถึงการที่พวกเขาพยายามจะลักลอบนำเอาทรัพยากรของเราให้ตระกูลฮั่น” “สำหรับเหตุผลว่าทำไมข้าถึงได้ปิดหูปิดตาตัวเองเเละทำเป็นมองไม่เห็นถึงการกระทำของตระกูลฮั่น ไม่ใช่เพราะว่าข้าทำเพราะข้อตกลงระหว่างผู้อาวุโสระดับสูงของเรา เเต่มันเป็นเพราะว่าหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเรา ไม่สามารถที่จะละทิ้งหรือเเยกตัวกับตระกูลฮั่นได้” “หุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเรามีต้นกำเนิดมาจากหุบเขาไม้ครามสาขาหลักที่เป็น 1 ในขุมกำลังที่ยิ่งใหญ่ เหตุผลที่ว่าทำไมหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเราถูกสร้างขึ้นก็เพื่อที่เราจะได้ทำการค้นหาบุคคลที่มากความสามารถเเละโดดเด่นส่งไปยัง หุบเขาไม้ครามสาขาหลัก จุดประสงค์ของพวกเราคือส่งคนรุ่นใหม่ที่โดดเด่นเข้าสู่หุบเขาไม้ครามเพื่อที่พวกเขาจะได้รับบุคคลเหล่านั้นเเละเลี้ยงดูฟูมฟักเป็นศิษย์” “เพียงเเต่สถานที่เเห่งนั้นมีเพียงอัจฉริยะที่เเข็งเเกร่งเท่านั้น นอกจากนี้ถ้าเกิดบุคคลที่ส่งไปมีความสามารถที่คับเเคบหรือจำกัดอย่างไร การพิจารณาของพวกเขาต่อพวกเราก็จะถดถอยลงไป พวกเราที่ส่งศิษย์ต่างๆไปยังหุบเขาไม้ครามนั้นเทียบไม่ได้กับสาขาอื่นเลยเเม้เเต่น้อย นั่นทำให้พวกเขาดูเเคลนพวกเราราวกับตัวตลก” “เเละตระกูลฮั่นที่เป็นผู้มีความสามารถเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ศิษย์จากตระกูลฮั่นนั้นนับว่ามีพรสวรรค์มากกว่ามาก ทุกปีของพวกเขาล้วนเเล้วเเต่เป็นตัวเเทนของเขาที่สร้างความโดดเด่นขึ้นที่หุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเรา” “เเละจำนวนคนที่หุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเราส่งไป บ้างก็มีความสามารถมาก บ้างก็มีความสามรถน้อย ไปยังหุบเขาไม้คราม เมื่อเทียบกับหุบเขาไม้ครามอีก 3 สาขาเเล้วละก็ทั้งปริมาณเเละคุณภาพของบุคคลที่ส่งไปนั้น เราด้อยกว่าอย่างมากนั่นจึงทำให้พวกเราเป็นที่ไม่พอใจในสายตาของคนพวกนั้น” “เเละในตอนนี้เราได้ขาดการคงอยู่ของตระกูล ฮั่น ไปเเล้ว ข้ากลัวว่าจำนวนศิษย์รุ่นเยาว์ต่างๆที่หุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเรา ที่มีความสามารถที่จะส่งไปยังหุบเขาไม้ครามจะลดน้อยลงทุกที ในขณะนั้นหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเราใกล้สิ้นทั้ง อำนาจ เเละชื่อเสียง เเละไม่สามารถที่จะกระทั่งส่งคนไปยังหุบเขาไม้ครามได้อีก เมื่อเป็นเช่นนั้นข้าเกรงว่า เราไม่เพียงแต่จะเสียหน้าเท่านั้น เเม้เเต่ชื่อเสียง หรืออำนาจของเราคงถูกลบเลือนไปจนหมด”

 

เมื่อสังเกตุท่าทีของ ฉีคง ไจ้ชิง ตอนนี้การเเสดงออกของเขาล้วนเเล้วเเต่หดหู่นั้นเพราะว่าหลังจากที่ชูเฟิงรู้เรื่องราวทั้งหมดเเล้วเขาก็เริ่มรู้สึกอยากจะกล่าวขอโทษในทันที เขานับเป็นเหตุที่ทำให้ ฉีคง ไจ้ชิง ไล่คนจากตระกูลฮั่นออกไปจากหุบเขาไม้ครามตอนใต้ เขารู้สึกได้ว่านี่นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ “เเต่เหตุผลที่ข้ามีความมุ่งมั่นกล้าที่จะขับไล่ตระกูล ฮั่น ออกจาก หุบเขาไม้ครามของเราก็เป็นเพราะว่าข้าได้พบกับความหวังของหุบเขาไม้ครามเเล้วตอนนี้ ความหวังที่พวกเราพูดถึงนั่นก็คือเจ้า!”

 

ทันใดนั้น ฉีคง ไจ้ชิง พูดขึ้นอีกที เขาจ้องมองไปที่ชูเฟิงด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ใบหน้าเเละสายตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังเป็นอย่างมาก

 

P’Film

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments