บทที่ 1041 – จักรพรรดิสงครามที่ยิ่งใหญ่
 
 
 
“ผู้อาวุโส ฉีคง ท่าน………”
 
 
 
เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยคาดหวังของ ฉีคง ไจ้ชิง นั้น ชูเฟิง ก็รู้สึกกดดันอย่างมาก 
 
 
 
แม้ว่าเขาจะรู้มาก่อนแล้วว่า ฉีคง ไจ้ชิง นั้นคาดหวังกับเขาเอาไว้มาก เพราเขาสามารถทำลายรูปแบบอำนาจพลังวิญญาณที่อยู่หน้าทางออกจากเส้นทางสวรรค์เขตใต้ได้ และยังให้เหล่าผู้อาวุโสออกค้นหาตัวของเขาก็ตาม 
 
 
 
แต่เขาก็ไม่คิดว่า ฉีคง ไจ้ชิง นั้น จะตั้งความหวังไว้กับเขามากขนาดนั้น มันจึงทำให้ ชูเฟิง รู้สึกกดดันอย่างมาก 
 
 
 
หาก ชูเฟิง ไม่สามารถทำสำเร็จได้นั้น ความหวังของ ฉีคง ไจ้ชิง คงจะพังทลายลงไปพร้อมความล้มเหลวของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลฮั่น ในท้ายที่สุดนั้น หุบเขาไม้ครามตอนใต้อาจจะถูกปลดจากการเป็นสาขาของหุบเขาไม้คราม “สหายน้อย ชูเฟิง เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งหมดเป็นความคิดของข้าเพียงคนเดียว เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมาก !!””อาจจะบอกได้ว่าหุบเขาไม้ครามตอนใต้แห่งนี้ ได้ใช้เวลานานมากในการเฝ้าค้นหาศิษย์ที่โดดเด่นที่สุด และตั้งแต่แรกที่พวกเราสร้างที่นี่ขึ้นมา พวกเราก็ยังไม่เคยพบกับศิษย์เช่นนั้นเลย !!””เจ้ารู้ไหมว่าตั้งแต่ต้นนั้น หุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเรา ไม่ได้อ่อนแอกว่าอีกสามสาขาที่เหลือแม้แต่น้อย นั่นเป็นเพราะท่านปรมาจารย์สาขารุ่นแรกของเรานั้น แข็งแกร่งไม่แพ้ผู้ก่อตั้งของอีกทั้งสามสาขาเลย !!””ในตอนนั้น ท่านเป็นคนเลือกเองว่าจะสร้างสาขาที่ไหน และสุดท้ายท่านก็ได้สร้างสาขานี้ขึ้นมาที่ทางออกจากเส้นทางสวรรค์เขตใต้แห่งนี้ !!””ในตอนนั้นทุกคนต่างไม่เข้าใจเหตุผลของท่าน เพราะเขตใต้นั้นมันไม่มีอะไรเลย นอกจากทางออกของเส้นทางสวรรค์ มันก็เป็นเพียงสถานที่ที่รกร้าง และปราศจากผู้คนเท่านั้น !!””ยังไงก็ตาม ท่านปรมาจารย์รุ่นแรกก็ได้บอกเอาไว้ว่า จะมีผู้ที่จะสามารถทำให้แผ่นดินของดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ต้องสั่นสะเทือนได้นั้น จะมาปรากฏตัวที่นี่อย่างแน่นอน และท่านก็อยากให้คนผู้นั้นเข้าสู่หุบเขาไม้คราม ภายใต้การนำทางของท่าน !!””หลายปีผ่านไป หุบเขาไม้ครามตอนใต้ของเราได้มีการผลัดเปลี่ยนปรมาจารย์หลายครั้ง แต่พวกเราก็ทำได้เพียงแค่ส่งศิษย์อัจฉริยะของพวกเราเข้าสู่หุบเขาไม้ครามได้น้อยมาก อีกทั้งยังไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะสร้างชื่อให้กับหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของพวกเรา!!””หุบเขาไม้ครามตอนใต้ของพวกเรานั้น อ่อนแอกว่าอีกสามสาขาอย่างมาก เพราะพวกเราส่งศิษย์ของพวกเราเข้าสู่หุบเขาไม้ครามได้น้อยลงเรื่อยๆ ในแต่ละปี จนในตอนนี้ หากเทียบหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของพวกเรากับอีกสามสาขานั้น พวกเราก็ไม่ต่างอะไรกับตัวตลกในสายตาของพวกเขา !!””ในอดีต ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านปรมาจารย์รุ่นแรกถึงได้เลือกสร้างสาขาที่นี่ ด้วยความแข็งแกร่งของท่าน ท่านสามารถเลือกที่จะสร้างสาขาที่เขตอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นที่ท่านจะต้องมาสร้างสาขาในพื้นที่ที่ด้อยค่าเช่นนี้ !!””ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าไม่เคยเชื่อคำกล่าวของท่านเลยแม้แต่น้อย จนในวันนั้นที่ข้าได้เห็นเจ้าก้าวออกมาจากเส้นทางสวรรค์ และได้เห็นเจ้าทำลายรูปแบบกลไกอำนาจพลังวิญญาณของท่านปรมาจารย์ ข้าถึงได้เข้าใจในที่สุด !!””ในที่สุดข้าก็เข้าใจในคำกล่าวของท่านปรมาจารย์รุ่นแรก !!”หลังจากที่ ฉีคง ไจ้ชิง กล่าวมาถึงตรงนี้ เขาก็หันกลับมามองที่ ชูเฟิง ด้วยความหวัง พร้อมกับกล่าวออกมาว่า”
 
 
 
เหตุผลที่หุบเขาไม้ครามตอนใต้ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ใช่เพื่อที่จะส่งอัจฉริยะที่โดดเด่นเข้าสู่หุบเขาไม้ครามในทุกๆ ปี !!””แต่ที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อส่งอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียว ที่จะสามารถทำให้ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ต้องสั่นคลอนได้เข้าสู่หุบเขาไม้คราม และข้าเชื่อว่า คนๆ นั้นคือ เจ้า !!””เจ้าอาจจะคิดว่าข้าเพ้อเจ้อ เจ้าอาจจะคิดว่าข้าบ้า !! แต่หลังจากที่ข้าได้เห็นเจ้า ข้ารู้ได้ทันทีว่าเจ้าคือความหวังของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ของพวกเรา ที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเจ้า และรอคอยวันที่เจ้ามาถึง ในเมื่อตอนนี้เจ้าได้มาถึงที่นี่แล้ว สิ่งอื่นๆก็ไม่สำคัญอีกต่อไป !!””ไม่ว่าเจ้าคิดยังไง หรือว่าเจ้าจะเต็มใจหรือไม่ แต่ข้าจะสอนทุกอย่างที่ข้ารู้แก่เจ้า !!””ว้าว !! ดูเหมือนว่าพวกเราจะเหมือนหนูตกถังข้าวสารเลย ตาแก่นี่จะสอนทุกๆ อย่างให้เจ้า !!”
 
 
 
หลังจากได้ยินคำกล่าวของอาจารย์ของหุบเขาไม้ครามตอนใต้นั้น ต้านต้าน ก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุขหหลังจากนั้นนางก็กล่าวออกมาด้วยความเสียดายว่า “ก็น่าเสียดายอยู่ไม่น้อย เพราะตอนนี้ด้วยสถานภาพของหุบเขาไม้ครามตอนใต้ที่กำลังตกต่ำเช่นนี้ ข้าคิดว่าเขาคงจะไม่มีอำนาจมากมายนักในหุบเขาไม้คราม !!””และเขาอาจจะปกป้องเจ้าไม่ได้ เมื่อเจ้าก่อเรื่องในหุบเขาไม้ครามในอนาคต แต่อย่างน้อยเขาก็มีความแข็งแกร่งอยู่บ้าง ถึงยังไงก็ยังถือว่าคนที่คอยปกป้องเจ้าอยู่ มันย่อมดีกว่าไม่มีอะไรเลย !!”
 
 
 
หากเทียบความตื่นเต้นของ ต้านต้าน นั้น ในเวลานี้ ชูเฟิง กลับดูสงบนิ่งกว่ามาก เขากำลังพิจารณาพึงคำกล่าวของ ฉีคง ไจ้ชิง อย่างละเอียด 
 
 
 
ตั้งแต่แรกที่เขามายังหุบเขาไม้ครามตอนใต้แห่งนี้ เป็นเพราะเขาอยากใช้ประโยชน์จากที่นี่ ในการเข้าสู่หุบเขาไม้คราม ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการบ่มเพาะพลังของเขา 
 
 
 
แต่ทุกสิ่งที่เขาคิดเอาไว้ไม่เพียงแต่จะเป็นเรื่องง่ายที่เกิดขึ้น แต่มันกลับให้ผลดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก เพราะในตอนนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะกลายเป็นคนสำคัญของหุบเขาไม้ครามตอนใต้เท่านั้น แต่เขายังกลายเป็นความหวังของที่นี่ ต้องยอมรับว่ามันเกินกว่าความคาดหมายของเขาอย่างมาก 
 
 
 
หลังจากนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่งนั้น รอยยิ้มก็ปรากฏบนมุมปากของ ชูเฟิง ก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาอย่างจริงจังว่า”
 
 
 
ผู้อาวุโส หากท่านคิดเช่นนั้น ข้า ชูเฟิง จะไม่ทำให้ผู้อาวุโสผิดหวังอย่างแน่นอน !!”
 
 
 
หลังจากได้ยินคำกล่าวของ ชูเฟิง นั้น ฉีคง ไจ้ชิง ก็ผงะเล็กน้อย เพราะเขาไม่คิดว่า ชูเฟิง จะตอบรับออกมาเล่นนี้ ในเวลานั้น ใบหน้าของเขาอัดแน่นไปด้วยความตกใจ และความสุข ก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาว่า “ดีๆๆๆๆๆ ข้าคิดว่าข้า ซือคง ย่อมมองเจ้าไม่ผิด !!”
 
 
 
หลังจากนั้น ชูเฟิง และ ฉีคง ไจ้ชิง ได้พูดคุยกันอีกเล็กน้อย และ ชูเฟิง ก็ได้ถามคำถามที่คาใจของเขาอยู่ออกไป นั่นคือการบ่มเพาะพลังของ ฉีคง ไจ้ชิง “ฮ่าๆ จักรพรรดิสงคราม !! สหายน้อย ชูเฟิง เจ้าประเมินข้าสูงเกินไป ขั้นจักรพรรดิสงครามนั้นพิเศษอย่างมาก ตลอดชีวิตของข้า ไม่สามารถที่ก้าวเข้าไปสู่ขั้นนั้นได้หรอก และพลังของข้าที่เรียกว่ากึ่งจักรพรรดิสงครามนั้น เป็นเพราะว่าพลังนี้มันอยู่ระหว่างขั้นราชันย์สงคราม และขั้นจักรพรรดิสงคราม !!””พลังนี้แข็งแกร่งกว่าขั้นราชันย์สงครามมาก แต่ก็อ่อนแอกว่าขั้นจักรพรรดิสงครามมากเช่นกัน เมื่อมันแข็งแกร่งกว่าขั้นราชันย์สงคราม และอ่อนแอกว่าขั้นจักรพรรดิสงคราม มันจึงบอกไม่ได้ว่าพลังนี้อยู่ในขั้นไหน !!””แต่ด้วยความที่มีอยู่สูงกว่าขั้นราชันย์สงรราม แต่ไม่ใช่ขั้นจักรพรรดิสงคราม มันถึงถูกเรียกว่า กึ่งจักรพรรดิสงคราม !!””และเหตุที่สหายน้อย ชูเฟิง ไม่เคยได้ยินขั้นพลังนี้ ก็เป็นเพราะมีน้อยคนมากที่จะสามารถทะลวงพลังจากข้นราชันย์สงคราม ไปยังขั้นจักรพรรดิสงครามได้ ดังนั้น เมื่ออยู่ในขั้นราชันย์สงคราม แม้ว่าจะเป็นขั้นกึ่งจักรพรรดิ จึงไม่มีการบันทึกเอาไว้ว่ามีพลังขั้นนี้อยู่ !!””มันเป็นความจริงที่ขั้นจักรพรรดิสงครามแข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ แต่ว่า แม้แต่ผู้ที่มีกายศักดิ์สิทธิ์นั้น พวกเขาก็ยากที่จะทะลวงไปถึงขั้นจักรพรรดิสงครามได้ หากพวกเขาไม่สามารถทะลวงขึ้นไปได้ พวกเขาก็จะมีพลังเพียงขั้นกึ่งจักรพรรดิสงครามเช่นกัน !!””นี่จึงทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสงครามที่เต็มไปด้วยเหล่าอัจฉริยะเช่นนี้ จึงหาตัวผู้เชี่ยวชาญขั้นจักรพรรดิสงครามได้ยากเช่นกัน !!”
 
 
 
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิง ก็เข้าใจว่าทำไมปู่ ลู่ว กับ ทันไท่ เซว่ ถึงได้มองว่าผู้เชี่ยวชาญขั้นจักรพรรดิสงครามนั้นเป็นพระเจ้า “ผู้อาวุโส ฉีคง หากเป็นเช่นนี้ ท่านพอจะรู้จักใครที่มีพลังขั้นจักรพรรดิสงครามหรือไม่ !?”
 
 
 
ชูเฟิง กล่าวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ สามคฤหาสน์ สี่ตระกูลจักรพรรดิ เก้าขุมอำนาจ นั้นล้วนถูกนำโดยผู้เชี่ยวชาญขั้นจักรพรรดิสงคราม และแน่นอนว่าเหล่าสัตว์ยักษ์ก็มีผู้นำที่เป็นผู้เชี่ยวชาญข้นจักรพรรดิสงครามเช่นกัน !!””แต่ดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์นั้นกว้างใหญ่มาก จึงไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัดว่าจะมีขุมพลังอื่นๆ ที่มีผู้นำที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นจักรพรรดิสงครามอีกหรือไม่ !!””ไม่ต้องกล่าวถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา เพราะผู้เชี่ยวชาญขั้นจักรพรรดิต่างออกเดินทางไปทั่วทั้งดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์เพื่อค้นหาวิธีที่จะยืดอายุของพวกเขาออกไป และในหลายปีมานี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาได้ตายไปแล้ว หรือยังมีชีวิตอยู่ !!””นอกจากนี้ ยังมีผู้อาวุโสหลายคนที่อาจจะเข้าสู่ขั้นจักรพรรดิสงครามได้ พวกเขาได้ออกไปฝึกฝนเพียงลำพัง !! “และก็ไม่มีใครรู้เช่นกันว่าพวกเขาสามารถทะลวงพลังได้สำเร็จ หรือพวกเขาจะล้มเหลวและตายจากไปแล้วหรือไม่ !!””หากเจ้าอยากรู้ว่ามีกี่คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นจักรพรรดิในดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์นี้ มันย่อมเป็นเรื่องยากที่จะระบุออกมาได้ !!””แต่ข้าบอกได้เพียงว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นจักรพรรดิสงคราม ไม่ว่าเขาจะเป็นปิศาจ หรือนักบุญ ไม่ว่าเขาจะเป็นมนุษย์ หรือสัวตว์ยักษ์ เขาก็มีค่าพอที่จะเคารพ !!”
 
 
 
ขณะที่ ฉีคง ไจ้ชิง กล่าวนั้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม 
 
 
 
ราวกับสิ่งที่เขากำลังกล่าวถึงนั้น ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดา แต่เป็น พระเจ้า !! 
 
 
 
ReaDMGA ////////////////////////////////////////