I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 982 – ยากที่จะหยั่งถึง

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 982 – ยากที่จะหยั่งถึง

 

“ใคร ใครกล้าพูดด้วยวาจาโอหังเช่นนี้ เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำสิ่งที่แม้กระทั่ง ผู้พิทักษ์ของพวกข้าทำไม่ได้หรือ”

 

ในตอนนั้นเสียงของคนจากพรรคมารทะลายราตรีก็ดังขึ้นด้วยความโกรธ

 

ในดวงตาของพวกเขานั้น เหล่าคนดูนั้นเป็นสวะ ที่ทำได้แค่เพียงดู เขากล้ายกตัวเองเหนือกว่า ฉิว ซานเฟิงได้อย่างไร ” ไอ้หนุ่ม เจ้าควรระวังคำพูดให้ดี เจ้าคิดว่าสิ่งที่แม้แต่ผู้พิทักษ์ของเจ้าทำไม่ได้ แล้วคนอื่นจะทำไม่ได้หรือ ถ้านั่นเป็นความจริง คงไม่มีใครทำให้ประมุขของเจ้าบาดเจ็บถึงเพียงนี้”

 

เสียงของชายชราดังขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้นั้น เป็นการเยาะเย้ย “สามหาว!”

 

สมาชิกพรรคมารทะลายราตรีนั้นโกรธมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขานั้นต้องการจะพุ่งเข้าไปจัดการคนที่พูดเช่นนั้นทันที. “ทุกคน หุบปากซะ!”

 

ในตอนนั้น ฉิว ซานเฟิง พูดขึ้นด้วยความโกรธ

 

หลังจากเขาพูดจบ คนของพรรคก็เงียบลง ไม่มีใครกล้าพูดออกมาแม้แต่ครึ่งคำ “ข้าขอถามหน่อยว่าท่านเป็นใคร ท่านสามารถทำสิ่งที่พูดได้จริงหรือไม่”

 

หลังจากสงบฝูงชน ฉิว ซานเฟิง ก็ประสานมือคารวะด้วยวาจาสุภาพ เขายังไม่พบร่างของเจ้าของเสียง ดังนั้นชายคนนั้นไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน “นามของข้าไม่ควรค่าที่จะกล่าวถึง แต่โชคชะตาได้นำพาข้าและชูเฟิงมาพบกัน ดังนั้นข้าจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือชูเฟิงในวันนี้.”

 

เสียงดังขึ้นอีกครั้ง และในตอนนั้น ชายชราก็ก้าวออกมาจากฝูงชน และรูปลักษณ์ของเขาก็ประจักษ์ท่ามกลางสายตาผู้คน

 

ชายชรานั้นมีผมที่ขาวราวกับหิมะ มันยาวมาก และดูเหมือนน้ำตกสีเงิน ผมนั้นยาวถึงส้นเท้าของชายชราคนนั้น

 

แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ ดวงตาของชายชราคนนั้นกำลังหลับลงอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาตาบอด นอกจากนี้พลังของเขาอยู่เพียง ระดับ 8 สวรรค์วิญญาณ

 

ฉิว ซานเฟิง และคนอื่นๆ ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย และสับสนในสิ่งที่เกิดขึ้น ชายชราคนนี้ตาบอดแน่นอน แต่สิ่งที่เขาทำมันน่าเหลือเชื่อนัก เพราะทุกย่างก้าวของเขานั้นสงบนิ่งและเขาเดินมาหาชูเฟิงและคนอื่นๆ ทางอากาศรามกับเขาไม่ได้ตาบอด

 

ที่สำคัญที่สุด หลังจากชายชราคนนั้นปรากฏขึ้น ฉิว ซานเฟิง และคนอื่นๆ นั้นได้รับคำตอบแค่อย่างเดียว คือ ระดับของเขานั้นอยู่ในระดับ 8 แดนสวรรค์แน่นอน ไม่ต้องสงสัย แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องสงสัยในด้านความแข็งแกร่งของชายชราคนนี้ พวกเขารู้สึกว่าชายชราคนนี้นั้นไม่ธรรมดาอย่างมาก

 

ชายชราไม่ได้สนใจเรื่องสายตาของผู้คน เขาก้าวตรงไปที่ชูเฟิง และวางมือบนหน้าอกของเขา

 

พูดตามตรง เมื่อชายชรานั้นวางมือลงมา ฉิว ซานเฟิง และคนอื่นๆ ต่างกังวลอย่างมากเพราะไม่รู้อีกฝ่ายเป็นมิตรหรือศัตรู ดังนั้น เมื่อเขาเคลื่อนไหวพวกเขาจะเข้าไปล้อมชายชราทันที

 

แต่ความเครียดของพวกเขาก็ต้องลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะชายชราเพียงแค่วางมือบนอกชูเฟิงเท่านั้นและก็ไม่ได้รู้สึกถึงอะไรที่เลวร้ายออกมา

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นกลิ่นอายของชูเฟิง ก็กลับมาดีขึ้น เขานั้นดีขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ในตอนนี้นั้น ท่าทางของเขาดีกว่าเดิมมาก “อาการบาดเจ็บของเขาถูกเยียวยาแล้ว เขาจะฟื้นขึ้นในอีกไม่กี่เดือน”

 

ชายตาบอดพูดขึ้นหลังจากถอนมือกลับไป “ขอบคุณท่านผู้อาวุโส ที่ช่วยประมุขของเรา!”

 

คนจากพรรคมารทะลายราตรี ไม่กล้าที่จะสงสัย เพราะแม้แต่เหล่าผู้พิทักษ์ก็คารวะให้กับชายชราคนนี้ ดังนั้นพวกเขาจะกล้าลังเลหรือ พวกเขารีบคารวะด้วยความขอบคุณ และตะโกนออกมาเสียงดังลั่น

 

อย่างไรก็ตาม ชายชราตาบอดเพียงแค่โบกมือไปมา แล้วพูดว่า”

 

มันไม่จำเป็นต้องช่วยหรอก ชูเฟิงนั้นแข็งแกร่งอยู่แล้ว แม้ข้าจะไม่ทำอะไร เขาก็จะไม่เป็นไร อย่างมากเขาก็แค่สลบไป ปีนึง แต่สุดท้ายเขาก็รู้สึกตัวอยู่ดี””อย่างที่ข้าพูด ข้าก็แค่ช่วยให้เขาตื่นเร็วขึ้นเท่านั้น ไม่ต้องกังวลร่างกายของเขาจะฟื้นฟูเรื่อยๆในขณะที่เขาหมดสติ พวกเจ้าดูแลเขาให้ดีดีก็แล้วกัน.”

 

ฉิว ซานเฟิง และคนอื่นๆ รู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้ยิน คำพูดของชายชราตาบอด พวกเขาไม่รู้ว่าชูเฟิงนั้นจะเป็นอย่างไร แต่ชายชราตาบอดนั้น รู้เรื่องอาการของเขา ก่อนที่จะมาสัมผัสกับเขาเสียอีก เห็นได้ชัดว่าชายชราคนนี้นั้นยากที่จะหยั่งถึงจริงๆ “อ๊ากกกกก—”

 

แต่ในตอนนั้น ฮวางฟู่ ห่าวเยว์ ก็ยังคงจับหัวของตนอยู่ และร้องลั่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดและทรมาน “ห่าวเยว์!”

 

ฉิวชุ่ย ฟู่หยานนั้นกังวลอย่างมาก นางรีบเข้าไปดูอาการของเขา “ฟู่หยาน มันอันตรายอย่าไป”

 

ในตอนนั้น ไต้กู๋ ก็จับฉิวชุ่ย ฟู่หยานไว้ก่อน “ท่านพ่อให้ข้าไปเถิดข้าไม่สามารถปล่อยเขาให้เป็นอย่างนี้ได้”ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน พูดขึ้น “ฟู่หยาน ใจเย็นๆ ตอนนี้ ห่าวเยว์นั้น ยังไม่รู้สึกตัว ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะโจมตีเจ้าหรือไม่”

 

ไต้กู๋ พูดขึ้น “แม่นาง ฉิวชุ่ย อย่าตำหนิข้า ว่าข้าพูดมากไป แต่บิดาของท่านพูดถูกแล้ว จิตสำนึกของเขายังไม่คงที่ดังนั้นมันอันตรายมาก มัยจะดีกว่าถ้าเจ้าจะฟัง พ่อของเจ้า”

 

เซว่ ซีเยว่แนะนำ “ปล่อยนางไป รูปแบบควบคุมนั้น ถูกชูเฟิง ปลดปล่อยไปแล้ว ในตอนนี้นั้นเขาเพียงแค่ตื่นตระหนกเท่านั้น ไม่มีอะไรผิดแปลกไป.”

 

ในตอนนั้น ชายชราตาบอดพูดขึ้น นอกจากนี้หลังจากพูดกับไต้กู๋ เขาก็หันไปพูดขึ้น ฉิวชุ่ย ฟู่หยาน ว่า”

 

เอายานี้ให้เขากิน และให้เขาพักสักหน่อย เขาจะกลับเป็นเช่นเดิม”

 

หลังจากพูดขึ้นชายชราก็แบมือออก เม็ดยาปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา

 

เม็ดยานี้ดูไม่พิเศษ ไม่มีแสงจากมันหรือหรูหราใดๆ มันราวกับเป็นเม็ดยาปกติ ใครก็คิดเช่นนั้นหลังจากเห็นมัน

 

แต่หลังจากเห็นความสามารถของชายชรา ฉิวชุ่ย ฟู่หยานก็ไม่ลังเล นางรีบหยิบเม็ดยาใส่มือ

 

แต่หลังจากมองมัน ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนทันที เมื่อนางหันกลับมามองชายชราตาบอด ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความเคารพ

 

นางพบว่าเม็ดยาที่ราวกับปกตินี้ ในตอนที่นางใช้พลังวิญญาณตรวจสอบนางก็พูดไม่ออก แต่นางนั้นสามารถพูดได้เพียงคำเดียวว่า ลึกลับมาก

 

ในตอนนั้น ไต้กู๋ และคนอื่นๆ ไม่ห้ามนางแล้ว และปล่อยให้นางไปหา ฮวางฟู่ ห่าวเยว์ หลังจากเห็นชายชราช่วยชูเฟิงไว้ ความเชื่อใจของพวกเขาก็สูงขึ้นมาก

 

แต่ในตอนนั้นฉิวชุ่ย ฟู่หยาน ก็เข้าไปใกล้ๆฮวางฟู่ ห่าวย์อย่างระมัดระวัง และในขณะที่เขากำลังร้องขึ้น นางนั้นเห็นโอกาสรีบโยนยาใส่ปากเขาทันที

 

ผลที่เกิดขึ้นนั้นน่าตกใจอย่างมาก หลังจากมันเข้าปากเขา มันก็กลั่นตัวเองอย่างรวดเร็ว ในตอนนั้น ดวงตาของฮวางฟู่ ห่าวเยว์ก็ปิดลง และร่วงลงจากท้องฟ้า

 

ฉิวชุ่ย ฟู่หยานรีบบินไปรับเขา ในตอนนั้นนางพบว่า ใบหน้าของเขานั้นดีขึ้นมากแล้วราวกับเขากำลังฝันหวานอยู่ “ขอบคุณจริงๆ ท่านผู้ อาวุ…”

 

ในตอนนั้น ฉิวชุ่ย ฟู่หยานมีความสุขอย่างมาก นางรีบหันกลับไปกล่าวขอบคุณกับชายชราตาบอด

 

แต่ในตอนนั้น นางเห็นเพียงฉิว ซานเฟิงเท่านั้น ที่ยืนอยู่หลังนาง ส่วนชายชราตาบอดนั้น หายไปแล้ว ราวกับเขาไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : จำได้ป่ะ ชายตาบอดที่เคยมาเล่า เรื่องประวัติ ทะเลโลหิตนิรันดร์ให้พี่เฟิงฟัง!!!

 

C : อ๋อ!!! . . . . . . จำไม่ได้

 

A : งั้นมืงก็ไปย้อนอ่านเอา ให้เล่าแล้วเรื่องมันยาว

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments