I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1069 – ความคาดหวัง และความปราถนา

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1069 – ความคาดหวัง และความปราถนา

 

“ไม่ !!”

 

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของ หวาง เว่ย นั้น ชูเฟิง เพียงส่ายศรีษะของเขา ไม่ว่าเขาต้องการปิดบังความจริงจากนาง แต่เขาไม่อยากทำลายความภาคภูมิใจของนาง

 

บางครั้ง ความสามารถของแต่ละคนก็แสดงออกมาได้อย่างชัดเจน อย่างเช่นในเวลานี้ ที่คนอื่นๆ ไม่ได้ครอบครองความสามารถในการสัมผัสถึงพลังเช่นเดียวกับ ชูเฟิง

 

ชูเฟิง สัมผัสได้ถึงพลังของสระนิรันดร์บรรพกาลอย่างชัดเจนตั้งแต่แรก ซึ่งแตกต่างจาก หวาง เว่ย และคนอื่นๆ ที่ต้องพึ่งพายาเพื่อช่วยให้สามารถสัมผัสพลังธรรมชาติของมันได้ อีกทั้ง ชูเฟิง ยังมั่นใจว่าพลังที่คนอื่นๆ สามารถสัมผัสได้นั้น แตกต่างจากเขาอย่างแน่นอน

 

หลังจากนั้น ชูเฟิง ก็แสร้งทำเป็นไม่สามารถสัมผัสถึงอะไรได้ และกลืนยาลงไปหนึ่งเม็ด เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้แตกต่างนัก

 

ดังนั้น ชูเฟิง จึงได้รู้ว่ายาพวกนี้เป็นตัวกระตุ้นให้สามารถสัมผัสได้ถึงพลังเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพื่อช่วยในการดูดซับพลัง

 

ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำยานี้จึงส่งผลต่อ ชูเฟิง เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะ ชูเฟิง สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของสระนิรันดร์บรรพกาลอยู่ก่อนแล้ว แม้ว่าเขาจะใช้ยาพวกนี้ เขาก็ไม่สามารถรับประโยชน์จากมันได้เต็มที่ “ยาของข้าหายไป !! นี่มันเกิดอะไรขึ้น !? ข้าจำได้ว่าข้าใส่ไว้ในถุงจักรวางของข้านี่ !!””อ๋าาาาา ยาของข้าก็หายไปเช่นกัน !!” “บ้าน่า !! ยาของข้าก็หายไป !!”

 

ในขณะนั้น เสียงตะโกนโหวกเหวกก็ดังขึ้น จากการประมาณของ ชูเฟิง นั้น มีกว่าสามร้อยคนที่ยาหายไป และนั่นคือสามร้อยคนของวิหารกลุ่มดาวนักล่าที่พยายามกดดัน ชูเฟิง ในก่อนหน้านี้ “หึ…..”

 

ในขณะนั้น มุมปากของ ชูเฟิง ยกขึ้นเล็กน้อย เพราะเขาโยงเรื่องนี้กับยากว่าพันเม็ดที่แม่นางน้อยมอบให้เขา

 

เมื่อเทียบ ชูเฟิง กับศิษย์ของหุบเขาไม้ครามใต้คนอื่นๆ แล้วนั้น คนอื่นๆ ต่างหัวเราะออกมาอย่างน่ารังเกียจ ด้วยความกังวลว่าเสียงหัวเราะของพวกเขาจะถูกกลุ่มของวิหารกลุ่มดาวนักล่าพบเข้า พวกเขาจึงใช้ฝ่ามือปิดปากของพวกเขาแน่น และท่าทีของพวกเขาในตอนนี้ยิ่งดูน่ารังเกียจมากขึ้นไปอีก

 

ความจริงนั้น นี่ไม่สามารถตำหนิพวกเขาได้ เพราะแม้แต่ผู้อาวุโส กงซุน ที่มีอายุกว่าสองร้อยปียังหัวเราะออกมาในเวลานี้

 

และเหตุผลที่ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาเช่นนี้ นั่นเป็นเพราะว่าทุกคนคิดว่า วิหารกลุ่มดาวนักล่า ได้รับผลตอบแทนเรื่องในก่อนหน้านี้แล้ว “ไปกันเถอะ อย่าอยู่ตรงนี้อีกเลย ไปตรงกลางสระกัน ตรงนั้นเป็นทางเข้าไปสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของสระนิรันดร์บรรพกาล และเป็นส่วนที่มีพลังงานเข้มข้นมากที่สุด หากต้องการดูดซับพลัง ไปตรงนั้นจะเหมาะกว่า !!”

 

อยู่ๆ ในขณะนั้นผู้อาวุโส กงซุน ก็กล่าวออกมา เพื่อดึงความสนใจของทุกๆ คน

 

หลังจากได้ยินเช่นนั้น ชูเฟิง ก็พบว่านอกจากคนของวิหารกลุ่มดาวนักล่าที่สูญเสียยาไปนั้น คนอื่นๆ ต่างกำลังมุ่งหน้าไปที่กึ่งกลางของสระนิรันดร์บรรพกาล

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชูเฟิง และคนอื่นๆ ต่างไม่ลังเลอีกต่อไป พวกเขารีบไปยังกึ่งกลางของสระอย่างรวดเร็ว

 

ในขณะนี้ทุกๆ คนเดินลุยไปในน้ำ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่บินข้ามไป เพราะพลังงานภายในสระนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อยากพลาดแม้แต่นิดเดียว

 

ยิ่งเดินออกไปเรื่อยๆ นั้น ชูเฟิง ก็พบว่าภายใต้ผิวน้ำนั้นยิ่งลึกลงไป จนไม่สามารถมองเห็นพื้นเบื้องล่างได้

 

และเมื่อมาถึงกึ่งกลางนั้น ทุกคนก็พบว่าที่ใต้ผิวน้ำเปรียบได้กับหลุมลึกสีดำ ที่ไม่อาจมองเห็นจุดสิ้นสุดของมันได้

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะอยู่ภายใต้สถานะภาพเช่นนี้ ทุกคนก็ยังคงว่ายตรงไปยังกึ่งกลางของสระ พวกเขาเพียงแค่ลอยอยู่ในระดับผิวน้ำเท่านั่น ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ดำลึงไปในน้ำ

 

ชูเฟิง และคนอื่นๆ ได้มาถึงตรงกลางสระสระแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะว่ายน้ำมา แต่ทุกคนก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่หนาแน่นอย่างมากในบริเวณนี้

 

อย่างไรก็ตาม ชูเฟิง สามารถสัมผัสได้ว่าพลังงานที่หนาแน่นนี้ ถูกส่งออกมาจากส่วนที่ลึกที่สุดของสระนิรันดร์บรรพกาล

 

ในขณะที่ทุกๆ คนกำลังตื่นเต้นกับความหนาแน่นของพลังงานนั้น ชูเฟิง เพียงจ้องมองไปยังส่วนลึกของสระนิรันดร์บรรพกาล และมองไปยังเข็มนิรันดร์บรรพกาล ที่ทอดตัวสูงขึ้นมาจากส่วนลึก และสูงขึ้นไปในหมอกสีขาวอย่างไม่สิ้นสุด

 

ในก่อนหน้านี้นั้น ในขณะที่เขาจ้องมองมาจากที่ไกลออกไป มันก็สมกับคำว่าเข็ม แต่เมื่อเขาเข้ามาใก้ลนั้น มาไม่สามารถใช้คำว่า เข็ม ได้แม้แต่น้อย

 

เพราะเข็มนิรันดร์บรรพกาลนั้นมีขนาดใหญ่อย่างมาก เพียงแค่เส้นผ่านศูนย์กลางของมันก็มีความยาวกว่าร้อยเมตร และพิจารณาจากภายนอกนั้น มันคือสิ่งที่ถูกบรรพชนสร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคโบราณ แม้ว่า ชูฟิง จะไม่สามารถใช้อำนาจพลังวิญญาณตรวจสอบมันได้นั้น แต่เขาก็รู้ว่ามันไม่สามารถทำลายได้

 

นอกจากนี้ บนพื้นผิวของมันยังถูกแกะสลักสัญลักษณ์ต่างๆ เอาไว้มากมาย ที่แม้แต่ ชูเฟิง ก็ไม่สามารถไขมันออก และเป็นไปได้ว่ามันถูกสลักเอาไว้ตั้งแต่ยุคโบราณ

 

***** ครืนนนนนน *****

 

ในขณะที่ ชูเฟิง และทุกๆ คนกำลังดูดซับพลังงานอยู่ในกึ่งกลางของสระนั้น ได้มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังมาจากน้องฟ้า เมื่อมองไปนั้น พวกเขาก็พบกับบางอย่าง ที่มีลักษณะคล้ายกับดอกบัวกำลังลอยมาทางพวกเขา

 

แม้ว่ามันจะมีลักษณะคล้ายกับดอกบัวนั้น แต่แท้จริงแล้วมันคือเรือรบขนาดใหญ่ที่งดงาม

 

บนเรือรบนั้นมีภูติโบราณยืนอยู่บนนั้นกว่าหกร้อยตน ทุกๆ ตนนั้นสวมเสื้อผ้าสีเขียวเหมือนกันหมด ทำให้ลักษณะภายนอกของพวกเขานั้นเหมือนกันอย่างมาก จนไม่สามารถแยกเพศของพวกเขาได้

 

แต่มีอยู่สองตนที่ยืนอยู่ในส่วนของหัวเรือ และหนึ่งในสองตนนั้นได้กล่าวออกมาเสียงดังว่า “สถานที่ที่ทุกคนอยู่ในตอนนี้คือทางเข้าไปยังส่วนลึกของสระนิรันดร์บรรพกาล ภายในเวลาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงนั้น พลังงานมหาศาลจะไหลออกมาจากส่วนลึกของสระนิรันดร์บรรพกาล และทำให้สถานที่ตรงนี้มีพลังงานที่หนาแน่นมากที่สุด และเป็นสถานที่ที่อันตรายมากที่สุดเช่นกัน !!””ถ้าหากใครที่อยากมีชีวิตอยู่ ให้ถอยออกมาไปจากบริเวณนี้ แต่หากมีผูใดที่ต้องการท้าทายพลังของสระนิรันดร์บรรพกาล เพื่อเก็บเกี่ยวพลังมหาศาลก็สามารถอยู่ต่อได้ !!””อย่าได้กล่าวโทษข้า เพราะข้าได้เตือนทุกคนแล้ว พลังของสระนิรันดร์บรรพกาลนั้นรุนแรงมาก ในอดีตมีสิ่งมีชีวิตจำนวนไม่น้อยที่ต้องการจะท้าทายพลังงานขมัน แต่ก็จบลงด้วยความตาย ข้าจึงอยากให้ทุกคนพิจารณาความแข็งแกร่งของตัวเอง และทำตามที่สมควร !!”

 

หลังจากภูติโบราณกล่าวออกมาเช่นนั้น หลายคนเริ่มว่ายน้ำออกห่างจากกึ่งกลางของสระนิรันดร์บรรพกาล เพียงพริบตาเดียวนั้น กว่าสี่พันคนก็เหลือเพียงร้อยกว่าคนเท่านั้น ที่ยังอยู่ที่เดิม “ศิษย์น้อง ชูเฟิง อย่าบอกนะว่าเจ้าจะคิดท้าทายความแข็งแกร่งของสระนิรันดร์บรรพกาล !?”

 

เมื่อเห็นว่า ชูเฟิง ไม่มีท่าทีจะขยับไปไหน หวาง เว่ยทก็กล่าวถามด้วยความกังวล “ตั้งแต่เข้ามาที่นี่ ข้าก็ไม่อยากที่จะต้องเสียใจในภายหลัง !!”

 

ชูเฟิง กล่าวตอบด้วยรอยยิ้มบาง เห็นได้ชัดว่าเขามีความมั่นใจอย่างมาก “ชูเฟิง เจ้าก็ได้ยินที่ภูติโบราณบอกแล้วไม่ใช่หรือ !! เจ้าอย่าฝืนเลย !!”

 

ผู้อาวุโส กงซุน กล่าวเตือนออกมา “ผู้อาวุโส ท่านไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่าควรทำเช่นไร !!”

 

ชูเฟิง กล่าวพลางยิ้มบาง “อืม”

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้อาวุโส กงซุน ก็พยักหน้ารับ พร้อมกับหันกลับมาที่ทุกคนพร้อมกล่าวออกมาว่า”

 

ไปเถอะ มีเพียง ชูเฟิง คนเดียวที่สามารถท้าทายมันได้ คนอื่นๆ ถอยไปเถอะ !!”

 

หลังจากกล่าวออกมาเช่นนั้น ผู้อาวุโส กงซุน ก็เริ่มว่ายน้ำกลับออกมา แม้ว่าเขาจะไม่กล่าวออกมาเช่นนี้ หวาง เว่ย และคนอื่นๆ ก็ไม่ต้องการอยู่ที่นี่เช่นกัน

 

มันเป็นอย่างที่ผู้อาวุโส กงซุน กล่าวว่า มีเพียง ชูเฟิง คนเดียวเท่านั้นที่สามารถท้าทายพลังของมันได้ หัวใจของพวกเขารู้ดี มันจึงทำให้พวกเขาไม่อยากอยู่ที่นี่ และฝากความหวังไว้กับ ชูเฟิง ทั้งหมด

 

แม้ว่าพวกเขาจะกังวลว่า ชูเฟิง จะไม่สามารถทนได้ แต่พวกเขาก็ยังหวังว่า ชูเฟิง จะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับหุบเขาไม้ครามใต้ของพวกเขาได้

 

ในเวลานี้ ชูเฟิง ไม่เพียงแต่เป็นความหวังของ ซือคง ไซฉิง แต่เขายังเป็นึวามหวังของทุกคนจากหุบเขาไม้ครามใต้

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : ทำไม มนุษย์ถึงเข้าไปลึกกว่าภูติบรรพกาลไม่ได้ จริงๆมันมีเงื่อนงำ

 

B : เด๋วพี่เฟิง นี้แหละจะไขปมปริศนานี้ อย่าว่าจะลึกกว่าภูติเลย ขนาดเข็มยังจะโดนพี่เฟิงสอย

 

C : สปอยมั่วๆ เข้าไปเถอะ ระวังคนอ่านจะมายำพวกมืงทีหลัง!

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments