I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1117 – ไป๋ รู่วเฉิน ถูกรังควาน

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1117 – ไป๋ รู่วเฉิน ถูกรังควาน

 

ไป๋ รู่วเฉิน ไม่ได้ตอบ ชูเฟิง แต่นางแค่ชำเลืองมองเขา แล้วนางก็กวาดสายตาไปรอบๆ เมื่อพบว่าไม่มีใครแล้ว นางก็พูดว่า”

 

ดวงตาของเจ้ามันพิเศษมาก มันมีพลังอำนาจในการค้นหาและตรวจสอบ ตราบใดที่เจ้าต้องการมัน ต่อให้ไม่พึ่งโชค เจ้าก็ต้องเป็น ผู้ที่ได้ ธงผู้บัญชา ไป!!!” “อาเร๊ะ . . . !!!”

 

ในเวลานั่น ชูเฟิง ถึงกับพูดไม่ออก เนตรสวรรค์ของเขานั่นเฉียบคม และเขาก็ฝึกไปจนถึงขั้นที่สามารถซ่อนมันอย่างแนบเนียน จึงไม่มีผู้ใดค้นพบมัน แต่ ไป๋ รู่วเฉิน กับเอ่ะใจและรู้ว่าเขามีสายตาที่แหลมคม นี่ทำให้ ชูเฟิง ค่อนข้างที่จะแปลกใจ “ไปกันต่อเถอะ ถึงข้าจะไม่ได้ธงผู้บัญชามาก็ตาม แต่หากเป็นไปได้ หลังจากที่เจ้าพบธงผู้บัญชาแล้ว เจ้าจะต้องช่วยข้า ตามหาธงแม่ทัพ”ไป๋ รู่วเฉิน พูด ขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเจ้านาย “โว้วว ศิษย์น้อง เจ้าอยากให้ข้าช่วยงั้นหรอ นี่เป็นคำพูดที่หาฟังจากปากเจ้าได้ยากจริงๆ!!!”

 

ในเวลานั่น ชูเฟิง ก็ยิ่งทำหน้าประหลาดใจ “ข้าเลือกที่จะตามเจ้าไป ก็เพราะความสามารถของเจ้า แล้วการที่ได้ธงแม่ทัพมา ก็ได้รับแต้มตั้ง 100 ถึงมันจะไม่มากมาย แต่มันก็มากโขหากเทียบกับคนอื่นๆที่ต้องได้ธงทหาร ดีกว่าจะปล่อยให้คนอื่นได้รับมัน สู้ข้าเอามันมาเองดีกว่า ดังนั่น ข้าจึงตัดสินใจว่าจะเอาธงแม่ทัพ แล้วอีกอย่างพวกเราก็ยังเป็นพันธมิตรกัน เป็นธรรมดาที่เจ้าจะต้องช่วยข้า!!! “ไป๋ รู่วเฉินกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง ขณะทีใช้สายตาจ้องชูเฟิง “เจ้าใช้การเป็นพันธมิตร มาเป็นข้ออ้างสินะ ?!”

 

ชูเฟิง ทำหน้าอย่างไร้หนทาง เพราะรู้สึกว่า เขาเถียง ไป๋ รู่วเฉิน ไม่ขึ้น ท่าทางที่แสนจริงจังและคำพูดของนาง ทำให้เขาไม่มีทางปฏิเสธนางได้

 

อย่างไรก็ตาม เขาก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นเขาพลันยิ้มออกมาและกล่าว”

 

ก็ได้! แต่ข้ามีเงื่อนไขสองข้อ ตราบใดที่เจ้ายอมตกลง ข้าก็จะช่วยเจ้า””เงื่อนไขอะไรว่ามา ?!”

 

ไป๋ รู่วเฉินถาม

 

ชูเฟิง ไม่บอกนางในทันที แต่กับแสดงรอยยิ้มที่ไร้ยางอาย พร้อมกับกล่าวออกมาว่า”

 

ยอมให้ข้า จูบปากของเจ้า!!!””เจ้า . . . . ไอ้หน้าด้าน!!!”

 

ได้ยินคำพูดนั่น ไป๋ รู่วเฉิน ก็พลันหน้าแดง ในเวลาเดียวกัน ดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความโกรธ นางสบัดแขนจากไปโดยไม่พูดใดๆสักคำ

 

หากเป็นผู้อื่นที่ไม่ใช่ ชูเฟิง แล้วกล้าพูดคำเหล่านั่นกับนาง นางคงไม่เพียงแต่จะตบหน้า แล้วถึงต่อให้นางจะไม่ฆ่า นางก็จะทำให้คนผู้นั่นกลายเป็นคนพิการ ผู้หญิง อย่าง ไป๋ รู่วเฉิน เกลียดที่สุด คือการ คนไม่ให้เกียรตินาง ล่วงเกินนาง ไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือวาจา “ฮ่า ฮ่า ฮ่า !!!”

 

เห็นแบบนั่น ชูเฟิง ก็หัวเราะออกมา

 

จริงๆ ชูเฟิง รู้อยู่แล้วว่า ไป๋ รู่วเฉิน ต้องปฏิเสธเขา หลังจากที่เขาใช้เวลาร่วมกับนางมานานหลายเดือน ชูเฟิง ก็พบนิสัยหลายอย่างของนาง ไป๋ รู่วเฉิน นางไม่เพียงแต่จะเย็นชา นางยังเป็นคนที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และหยิ่งทรนงในศักดิ์ศรี เขาจึงรู้ว่าต้องถูกนางปฏิเสธอย่างแน่นอน นำซ้ำยังทำให้นางโกรธ

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มันจะเป็นไปตามที่เขาคิด เขายังพบว่าการแกล้งนางนั่น สนุกอย่างมาก เพราะนางชอบแสดงอาการออกมา เรื่องที่เขาทำ เป็นเพียงการจงใจของเขา การที่ไป๋ รุ่วเฉินแสดงความโกรธออกมา แสดงว่าแท้จริง นางยังซิงอยู่

 

แต่นางหารู้ไม่ว่า ชูเฟิง กำลังจะคิดทำอะไร จริงๆแล้ว ชูเฟิง วางกับดัก เพื่อให้ ไป๋ รู่วเฉิน ยอมรับเงื่อนไขที่สองของเขา

 

ดังนั่น ชูเฟิง จึงรีบไล่ตาม ไป๋ รู่วเฉิน และกล่าว”

 

ไม่เป็นไร ถึงแม้เจ้าจะปฏิเสธเงื่อนไขแรก แต่ข้ายังมีอีกเงื่อนไขอยู่ เจ้าจะไม่ฟังก่อนหรอ””ไปให้พ้น ข้าไม่อยากพูดกับเจ้า!!!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน นั่นโกรธจริงจัง แม้ใบหน้าที่กำลังแดงของนางจะลดลง แต่สีหน้าที่โกรธนั่นไม่ลดลงไปด้วยเลยแม้แต่น้อย “หรือเจ้าไม่อยากได้รับ ธงแม่ทัพแล้ว ?!”

 

ชูเฟิงถามด้วยรอยยิ้ม “ไม่!!! ถึงข้าไม่มีเจ้า ข้าก็สามารถหามันมาเองได้ ใครจะรู้ ดีไม่ดีข้าอาจจะได้รับธงผู้บัญชาก็ได้!”

 

นางกัดฟันพูดด้วยความโกรธ “โอ้ว!!! ทำไมเจ้ามั่นใจแบบนั่น ?! เจ้าคิดจริงๆหรอว่าจะหามันพบ เท่าที่ข้าดู เหมือนว่า สาวกทั้ง 3 ของหุบเขาไม้ครามสาขาย่อย กับ หยวน ชิง สาวกของวิหารหมู่ดาวนักล่า เหมือนจะรับมือไม่ใช่ง่ายๆ!”

 

ชูเฟิง กล่าว

 

หวัง หยาน และคนอื่นๆ นั่นตรวจสอบเรื่องของ ชูเฟิง เป็นธรรมดาที่ ชูเฟิง จะตรวจสอบพวก หวัง หยาน และคนอื่นๆ เขารู้ว่าคนพวกนั่นแข็งแกร่ง แล้วเหตุที่ ไป๋ รู่วเฉิน ขอให้ชูเฟิงช่วย ก็เป็นเพราะคนพวกนั่น

 

เพราะอาณาบริเวณนี้ คือ ป่าศิลาที่กว้างใหญ่ ความแข็งแกร่งเป็นแค่ส่วนนึ่งของการทดสอบ ในการค้นหา ธง จำเป็นจะต้องพึ่งโชค หากเป็นคนที่มีความแข็งแกร่ง แต่ไร้โชค พวกเขาอาจจะไม่พบอะไร แต่พวกเขาก็ยังมีโอกาส ที่จะแย่งมาจากผู้อื่นได้

 

อย่างไรก็ตาม ไป๋ รู่วเฉิน ก็ยังคงไม่สนใจ ชูเฟิง และมุ่งหน้าต่อ เห็นได้ชัดว่านางกำลังโกรธ ชูเฟิง จริงๆ แต่แม้นางจะโกรธ ลักษณะของนางก็ยิ่งน่าดึงดูด น่าสนใจ ซึ่งไม่ว่าใครก็ไม่อาจละสายตาจากความงามของนาง

 

ดังนั่น ชูเฟิง จึงไม่ยอมแพ้และต้องการทีจะครอบครองความงาม เขายังคงไล่ตาม ไป๋ รู่วเฉิน และกล่าว”

 

เงื่อนไขที่สองที่ข้าต้องการนั่นง่ายๆ เพียงแค่เจ้ายอมบอกชื่อแซ่ แม่ของเจ้า””อะไรนะ ?!”

 

ได้ยินคำพูดนั้น ไป๋ รู่วเฉิน ก็หยุดเท้า ด้วยความประหลาดใจ ขณะที่หันไปมอง ชูเฟิง ด้วยความสับสน”

 

แล้วเจ้าจะอยากรู้ไปทำไม ?!””เพราะไม่มีใคร รู้ชื่อแม่ของเจ้า มันจึงทำให้นางดูลึกลับ น่าค้นหา ข้าก็เลยอยากรู้มันก็เท่านั่น””แต่ถ้าเจ้าไม่บอก เจ้าก็คิดซะว่า เงื่อนไขที่สองนี้ข้าไม่เคยพูดถึง ยังไงความสัมพันธ์ของพวกเรา ข้าจะต้องช่วยเจ้า โดยไม่มีข้อแม้อยู่แล้ว คำพูดก่อนหน้านี้ คิดซะว่าข้าแค่ล้อเล่น”

 

ชูเฟิงกล่าวพร้อมกับยิ้ม “แม่ของข้า ชื่อ ไป๋ ซู่หยาน แต่อย่าได้บอกใครเรื่องนี้ หากใครถามเจ้าก็อย่าบอกว่าได้ยินมาจากข้า แล้วถ้าแม่ถาม ก็อย่าได้บอกนางอย่างเด็ดขาด”

 

หลังจากที่ ไป๋ รู่วเฉิน กล่าวผ่านข้อความทางจิตกับชูเฟิง นางก็เดินตรงไปข้างหน้า””ที่เจ้าใช้แซ่ ไป๋ ?! หรือว่าชื่อ ไป๋ รู่วเฉิน จะตั้งตามแม่ของเจ้า ?!”

 

ในตอนนั่น ชูเฟิง ก็เริ่มใช้ความคิด เหตุผลที่เขาถาม ไป๋ รู่วเฉิน เรื่องชื่อของแม่ นาง เพราะเขารู้สึกว่า ไป๋ รุ่วเฉิน และ แม่ของนางนั่นไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั่นเขาจึงอยากรู้เรื่องของแม่ลูกคู่นี้

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาครุ่นคิดอยู่พักนึง เขาก็เดินเข้าไปหา ไป๋ รู่วเฉิน พร้อมสีหน้าจริงจัง และกล่าวกับนางว่า”

 

ข้ามีบางอย่างที่จะต้องบอกเจ้า!” “อะไร ?!!!”

 

เห็นแบบนั่น ไป๋ รู่วเฉินก็รีบถาม “ชื่อแม่ของเจ้านั่น ฟังดูไพรเราะกว่าเจ้าสะอีก!!!”

 

ชูเฟิง อ้าปากพูดด้วย พร้อมกับหัวเราะชอบใจ “แล้วมันหนักหัวเจ้าหรือไง!!!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน จ้อง ชูเฟิง ด้วยท่าทางไม่พอใจ ดูจากใบหน้าของนางในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่านางรู้สึกว่าเป็นคนโง่ เพราะ ชูเฟิง “งั้นข้าจะบอกอะไรกับเจ้า อีกเรื่อง”

 

ชูเฟิงกล่าว “ไม่อยากฟัง!!!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน เร่งฝีเท้าขึ้น

 

ส่วน ชูเฟิง ก็รีบวิ่งตามนางและกล่าว”

 

แต่เจ้านั่น สวยกว่าแม่เจ้านะ”

 

ไป๋ รู่วเฉิน แค่ชำเลืองมอง ชูเฟิง โดยที่ไม่ตอบสนองกับคำพูด ชูเฟิง แต่ท่าทางของนางเริ่มค่อยๆดีขึ้น

 

เห็นแบบนั่น ชูเฟิง ก็รีบไล่ตามนาง พร้อมกับรอยยิ้มขณะที่กล่าว”ขนาดแม่เจ้าที่ว่ามีเสน่ห์แล้ว ยังดูด้อยกว่าเจ้าในตอนนี้เลย” “ประสาท!”

 

ไป๋ รู่วเฉิน จ้อง ชูเฟิง แต่ท่าทางที่ไม่พอใจตอนนี้ก็ได้หายไปจากใบหน้าของนาง นำซ้ำแววตาของนางดูอ่อนโยนลงกว่าเดิมหลายเท่า

 

ผู้หญิง ไม่ว่าจะสวยหรืออัปลักษณ์ ก็ต่างต้องการคำชื่นชมจากคนอื่น แต่แน่นอนว่าพวกนางจะต้องพิจารณาคำพูดของคนเหล่านั่น สำหรับบางคน ต่อให้ชื่นชม สรรเสริญ ให้ตายยังไง ก็รังแต่ทำให้ผู้หญิงเอือมระอา แต่หากเป็นคนที่พวกนางมีใจ คำชื่นชมเหล่านั่นก็มักทำให้พวกนางมีความสุข ซึ่งชัดเจนแล้วว่า ชูเฟิงยังพอมีโอกาส “พรึบ~~~~~~~~~~~”

 

ในตอนนั่น พื้นที่โดยรอบก็เริ่มเกิดการสะเทือน ขณะที่มีคลื่นพลังที่ทรงอนุภาพตรงเข้ามาหาพวกเขาทั้งสอง จากด้านหลัง

 

ณ เวลานั่น ชูเฟิง และ ไป๋ รู่วเฉิน ก็หยุดฝีเท้า และหันหน้ากลับไปมอง พวกเขาก็พบกับเงา คน 4 คน ตรงเข้ามาด้วยพลังที่มีประสิทธิภาพ ในชั่วพริบตา พวกเขาทั้ง 4 ก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้า

 

คนทั้ง 4 ก็คืออัจฉริยะผู้ที่เข้าร่วม ศึกชิงอำนาจบัญชา ชั้นแนวหน้า หวัง หยาน , เจียง ห่าว , ฮวาง เจิน และ หยวน ชิง

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

A : มาให้ยำถึงที่เลยนะ ไอพวกเวร!!!

 

B : งานนี้มันส์แน่ พี่เฟิงกำลังมองหาที่ลองวิชาใหม่พอดี

 

C : โห พวกนั่นมีตั้ง 4 คน แล้วในบรรดา 3 คนนั่นก็ไม่ธรรมดา ถ้ามีแต่ หยวน ชิง คงจัดการได้ง่ายๆ แต่อีก 3 คนนี้ดิ

 

B : ลืมไปแล้วหรอ ว่าพี่เฟิงยังมี ราชินี ต้านต้าน 4 ต่อ 3 ใครจะชนะล่ะ ?! ไอควาย

 

C : เออเนาะ ตั้งแต่ พี่เฟิงมาดินแดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ได้ให้ต้านต้านออกโลงเลย

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments