I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1015 – ใครกันที่เป็น ปีศาจ

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1015 – ใครกันที่เป็น ปีศาจ

 

“นั่นเป็นนางจริงๆ”

 

เมื่อผู้หญิงคนนั้นปรากฏการเเสดงออกของ ลู่ว เหลียน เปลี่ยนไปเล็กน้อย ร่างกายที่ผอมบางทำให้เธอเริ่มที่จะสั่นสะท้านหรือเป็นลมล้มลงไป เป็นความจริงที่ว่าเธอได้รู้สึกเกรงกลัวผู้หญิงคนนี้อย่างมาก

 

ในความเป็นจริงไม่เพียงเเต่ เธอทำให้นั้นทีเกรงกลัว เเม้เเต่สาวกหลักของ วิหารโลหิตลี้ลับก็ได้ให้ความเคารพนางอย่างมาก การคงอยู่ของนาง ทำให้พวกเขารู้สึกเกรงกลัว นั่นเป็นเพราะความเเข็งเเกร่งของผู้หญิงคนนี้พวกเขาได้ยอมรับว่านางเป็นคนที่เเข็งเเกร่งที่สุดในหมู่สาวกหลักของ วิหารโลหิตลี้ลับ เพราะเธอมีพลังถึงระดับ 7 เจ้าเเห่งสงคราม “นางใช่มั้ย? ที่เป็นคนควักลูกตาของ ลู่ว รู่ ไป?”

 

เมื่อเห็นผู้หญิงปรากฏตัวออกมา จิตสังหารของชูเฟิงได้ปรากฏขึ้นเต็มในดวงตาของเขา เขาหันไปทาง ลู่ว เหลียน เพื่อถามเธออีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน” “ใช่..นางนั้นเเหละ….ที่เป็นคนทำ”

 

อย่างไรก็ตามเธอก็กลัวอย่างมากเมื่อมองเห็นฉากที่ผู้หญิงคนนี้ควักตาของ ลู่ว รู่ ออกมา ลู่ว เหลียน เริ่มที่จะขบฟันเเน่นด้วยความโกรธ เธอตัวสั่นอย่างมากเเละในขณะนั้นเธอก็ชี้นิ้วไปที่ผู้หญิงคนนั้น “ผู้อาวุโส ลู่ว รบกวนพาทั้งสองคนนี้หลบไปด้วยเเละอย่าให้พวกเขาออกมา”

 

หลังจากกล่าวคำพูดเหล่านั้นเสร็จชูเฟิงก็เดินออกจากลานไปเเละตะโกนออกไปเสียงดัง”

 

ข้าเองที่เป็นคนทำ” “เจ้านะหรือ?”

 

การปรากฏตัวขึ้นของเขาทำให้ สาวกของ วิหารโลหิตลึกลับเริ่มขมวดคิ้วทันที เป็นเพราะเขาเป็นคนที่ทำให้สาวกของวิหารโลหิตลึกลับนั่นพ่ายเเพ้ ถึงเเม้ว่าพวกเขาจะเเสดงสีหน้าที่ดูถูกหรือเยาะเย้ย เเต่พวกก็ไม่ได้เร่งรีบเพื่อจู่โจมชูเฟิงในทันที พวกเขาได้เริ่มที่จะตรวจสอบ ชูเฟิงอย่างรอบคอบ

 

นั่นเพราะอายุของชูเฟิงยังเด็กอยู่เเละการบ่มเพาะพลังของเขา พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะตรวจได้ อย่างน้อยในหมู่ของพวกเขาชูเฟิงก็ยังจัดการมาเเล้ว เมื่อพวกเขาไม่สามารถมองพลังที่เเท้จริงของชูเฟิงได้ก็ขมวดคิ้วขึ้นในทันที การเเสดงออกของพวกเขาต่อชูเฟิงก็เริ่มที่จะปรากฏความสงสัย พวกเขาสงสัยว่าชูเฟิงอาจไม่ใช่บุคคลธรรมดาสามัญ

 

เป็นเพราะดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์ นั้นมีขนาดใหญ่มากเเละในสถานที่เเห่งนี้ก็มีอัจฉริยะนับไม่ถ้วน ถึงเเม้ว่าวิหารโลหิตลึกลับจะชั่วร้ายเเละป่าเถื่อนจัดว่าเป็นตัวตนที่น่าเกรงกลัว เเต่พวกเขาก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ครอบคลุมดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์เพราะดินเเดนสงครามศักดิ์สิทธิ์กว้างใหญ่ไพรศาลเเละการดำรงอยู่คงวิหารโลหิตลึกลับก็ยังคงนับว่าเป็นขุมกำลังด้านล่างเมื่อเทียบกับพวกกับเหล่ามหาอำนาจนั้นพวกเขาก็ไม่ต่างอะไรจากมดตัวหนึ่ง

 

ดังนั้นพวกเขาจึงกังวลเเละกลัวคนแปลกหน้าเสมอ ดั่งเช่นการปรากฏตัวของชูเฟิง ก็เป็นหนึ่งในคำเตือนของผู้ก่อตั้งวิหารโลหิตลี้ลับเช่นเดียวกัน เขาได้เตือนไม่ต่ำกว่า 10000ครั้งถึงสถานการณ์อย่างนี้ เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะสู้กับเหล่ามหาอำนาจได้ ถึงเเม้ว่ามันจะเป็นเพียงเเค่สาวกเพียงเเค่คนเดียวเเต่พวกเขาก็ไม่ควรไปกระตุ้นโทสะให้พวกเขาโกรธ “ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน”

 

ชูเฟิงหรี่ตาของเขาเเละมองไปยังคนจำนวนมากเจตนาฆ่าฟันของเขาเริ่มที่จะปรากฏออกมา “อะไรนะ?ฆ่าพวกเรางั้นรึ? เจ้าช่างมีฝีปากที่ขมกริบเเละโอ้อวดยิ่งนัก”

 

หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้คนจากวิหารโลหิตลึกลับเริ่มที่จะมองชูเฟิงด้วยความโกรธ เจตนาฆ่าฟันของพวกเขาเริ่มที่จะปรากฏในสายตาทันที “ชอบโอ้อวดงั้นรึ?ข้าว่าข้าควรจะเป็นคนพูดมากกว่าคำนี้?”

 

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นชูเฟิงก็ยิ้มเบาๆเเละกล่าวออกมาดวงตาของเขาคล้ายจันทร์เสี้ยงที่คมกริบในขณะที่เขาพูดเขาก็ได้จ้องมองไปยังเหล่าคนจากวิหารโลหิตลึกลับ “นี่….”

 

คำพูดของเขาสร้างความประหลาดใจอย่างมากเขาเริ่มที่จะจ้องมองไปยังชูเฟิงที่ยืนยิ้มอยู่โดยที่ไม่เเคร์สิ่งใดหรือเกรงกลัววิหารโลหิตลึกลับนั่นทำให้พวกเขารู้สึกสงสัยเเละเริ่มเกรงกลัวขึ้นมา พวกเขาค่อยๆย้ายกายไปข้างหลังของผู้หญิงที่มีพลังระดับ 7 เจ้าเเห่งสงครามที่ควักลูกตาของ ลู่ว รู่ในทันที “นี่มัน….เกิดอะไรขึ้นกันเเน่?”

 

เมื่อเห็นฉากเหล่านั้นคนที่ตกใจมากที่สุดไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ลู่ว เหลียน นั่นเป็นเพราะเธอนึกถึงคำพูดที่เขาได้พูดกับ จ้าว เฉาฉิ่ว ได้ในทันที

 

ในตอนนั้น จ้าว เฉาฉิ่ว ได้ด่าเเละประชดชูเฟิง ไม่เพียงเเต่เป็นคำพูดที่ไร้ความปราณีเเต่เขายังคงเเสดงอาการหัวร่อออกมา เเละยังบ่งบอกถึงการดูถูกเขาอย่างเห็นได้ชัด

 

ในเวลานั้นชูเฟิงได้ถาม จ้าว เฉาฉิ่ว ว่าเขากล้าที่จะพูดลักษณะดังกล่าวกับวิหารโลหิตลึกลับเช่นเดียวกัน

 

จ้าว เฉาฉิ่ว ไม่ได้ตอบสนองเเต่อย่างใด เป็นเพราะวิหารโลหิตลึกลับ ไม่ใช่ตัวตนที่เขาจะเเหยมได้ อย่างไรก็ตามในเวลานั้น ลู่ว เหลียน ก็เข้าใจ จ้าว เฉาฉิ่ว ดี เพราะเธอเคยเห็นความโหดเหี้ยมของวิหารโลหิตลึกลับ

 

เธอจำได้ดีถึงความน่ากลัวของคนเหล่านั้นเเละสิ่งที่วิหารโลหิตลึกลับได้ทำ ไม่ต้องกล่าวถึงความสามารถของพวกเธอที่จะสู้ได้เเค่เพียงเจตนาฆ่าฟันที่ปลดปล่อยออกมาจากพวกเขาก็ทำให้พวกเธอสั่นด้วยความกลัวจากก้นบึงของหัวใจได้เลย เธอรู้สึกได้อย่างเเท้จริงถึงความน่ากลัวดั่งปีศาจ ของ วิหารโลหิตลึกลับ พวกมันนับเป็นตัวตนที่ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้

 

อย่างไรก็ตามในขณะนี้ คนจากวิหารโลหิตลึกลับที่น่าเกรงกลัวที่เธอเชื่อมั่นนั้น ตอนนี้พวกเขาได้ถูกกดดันจากคำพูดของชูเฟิง อาจกล่าวได้ว่าชูเฟิงนั้นไม่ได้เกรงกลัววิหารโลหิตลึกลับเลย เเต่เป็นคนจากวิหารโลหิตลึกลับต่างหากที่เกรงกลัวชูเฟิง

 

ถ้าเธอไม่ได้เห็นกับเธอตัวเองเธอจะไม่เชื่อมั่นอย่างเเน่นอนว่านั่นใช่เขาหรือไม่ นั่นเป็นเพราะเธอเห็นชูเฟิงครั้งเเรก เเละได้รับรู้ว่าชูเฟิงมาจากทะเลภาคตะวันออก ทำให้เธอรู้สึกดูถูกเเละเหยียดหยามชูเฟิง

 

ดังนั้นเธอจึงพูดโจมตีเเละด่าทอเขาหลายครั้ง นั่นเป็นเพราะเธอไม่ได้เห็นชูเฟิงในสายตาตอนนั้น ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าชูเฟิงไม่มีความสามารถที่จะทำอะไรเธอได้เเละเธอจึงเริ่มรุกเร้าเเละไม่ได้สนใจต่อคำพูดที่เธอด่าทอชูเฟิงไปเลย

 

เเต่ว่าเธอนั้นคิดผิด เกี่ยวกับชูเฟิงทั้งหมด ในตอนนี้เธอคิดเกี่ยวกับตัวเองราวกับว่าเธอนั้นคือคนโง่ที่ไปเหยียดหยามชูเฟิงก่อนหน้านี้ เเละความเป็นจริงนั้นทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย

 

บุรุษหนุ่มผู้นี้ที่ดูเหมือนคนที่ใจดีเเละอ่อนโยน กลับกลายเป็นว่าเขานั้นมีความสามารถที่น่ากลัวราวกับปีศาจ อาจจะบอกได้ว่าการดำรงอยู่ของเขาตอนนี้น่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจเสียอีก

 

อย่างน้อยเเค่ความกล้าของเขาเพียงอย่างเดียวเเละความสงบนิ่งเเละใจเย็นนั่นอีกเมื่อเขาเพชิญหน้ากับวิหารโลหิตลึกลับ กลับไม่เกรงกลัวเลย ไม่ต้องพูดถึงความสามารถของชูเฟิงที่เเข็งเเกร่ง เเค่เพียงความกล้าที่จะเผชิญอันตรายเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามัญเช่นเธอจะสามารถทำมันได้เลย

 

ในตอนนี้เธอรู้สึกเคารพเเละเลื่อมใสในตัวของชูเฟิงเป็นอย่างมาก เธอรู้สึกว่าเธอนั้นคิดผิดเเละโง่งมอย่างมาก ที่ไปด่าทอเขาก่อนหน้านี้ “หืมนี่มันมีอะไรเเปลกน๊า? ไม่ใช่ว่าวิหารโลหิตลึกลับของพวกเจ้าได้ทำสิ่งที่เป็นอันตรายเเละชั่วร้ายเหล่านั้นมาจะทำให้จิตใจพวกเจ้าเข้มเเข็งขึ้นเสียอีก เเต่ข้าก็คงคิดผิดไปเองเจ้าไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าพวกขี้ขลาดตาขาวเเม้เเต่น้อย เจ้าจำคำพูดที่เจ้าได้พูดก่อนหน้านี้ไม่ได้รึอย่างไร”

 

ชูเฟิงเริ่มที่จะถามขึ้นอีกครั้ง คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก “บิดามันเถอะ อย่างเจ้าเนี่ยนะ จะทำอะไรข้าได้”

 

ทันใดนั้นก็ปรากฏชายคนหนึ่งออกมายืนพร้อมตระโกนออกมาในขณะที่มือของเขาตบไปที่หน้าอกของเขาเพื่อเเสดงความภาคภูมิใจถึงตัวตนของเขา

 

เขาปรากฏตัวขึ้นด้วยความโกรธอย่างมาก นั่นเป็นเพราะเขาถูกทำให้อับอายด้วยคำพูดเหล่านั้น นั่นทำให้เขารู้สึกเสียหน้าอย่างมาก ชูเฟิง ที่เป็นคนหนุ่มสาว ได้ด่าทอเขา นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยอมให้คนที่อายุน้อยกว่าเขาฉีกหน้าเขาเเละเหน็บเเนม เขาไม่สามารถที่จะทนรับฟังคำพูดเหล่านั้นได้

 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ชายคนนี้กล่าวเสร็จเขาเริ่มรู้สึกเสียใจกับคำพูดก่อนหน้านี้ในทันที เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก ในทันทีลำไส้ของเขาเริ่มที่จะปั่นป่วนทันที นั่นเป็นเพราะในทันทีที่เขาพูดจบเเละจ้องมองไปทางชูเฟิงที่ไม่ได้ขยับตัวไปไหน เขาเริ่มรู้สึกได้ถึงสายที่อ่อนโยนมองมาที่เขา ในขณะนั้นเองเขาได้รู้สึกถึง ความตาย ที่กำลังพลากชีวิตของเขาไป “อ๊ากกกกก”

 

ทันใดนั้นเองชายคนนั้นก็กรีดร้องออกมาอย่างเสียงดัง ร่างกายของเขาเริ่มระเบิดออกในทันที ในขณะนั้นระลอกคลื่นโลหิตได้ฟุ้งกระจายไปในผืนอากาศ ร่างกายของเขาได้แตกกระจาย เเขนขาของเขาหรืออวัยยะภายในได้หายไปทั้งหมด เหลือเพียงลำตัวของเขาที่เผยกระดูกสีขาว

 

P’Film

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments