I-Here.info [ไอ้-เหี้ย ดอท อินโฟ]

Martial God Asura ตอนที่ 1026 – อย่าให้เหลือแม้แต่เม็ดเดียว

| Martial God Asura | 2540 วันที่แล้ว
ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
                

บทที่ 1026 – อย่าให้เหลือแม้แต่เม็ดเดียว

 

“ไอ้สารเลวคนไหนที่มันขว้าง..”

 

เมื่อถูกทำให้ขายหน้า เฉิน หลางก็โกรธจัดแล้วพูดขึ้นด้วยความโกรธ “วูบ.”

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะพูดจบจานก็ลอยมายังเขาดัง เพ้ง ไม่เพียงมันกระแทกหน้ากับเขา มันยังแตกอีกด้วย ส่งผลให้ เลือดเต็มหน้าเขา แม้เต็มจมูกของเขาก็มีแผลจากจานนั่น ในตอนนั้นชายที่หน้าตาดีกับกลายเป็นชายที่อัปลักษณ์ “สวรรค์นี่มัน”

 

ในตอนนั้นทุกคนก็พบว่าคนที่ทำเช่นนื้คือใคร โดยเฉพาะ หลี่ เล่ยนั้น อ้าปากค้างจนเห็นลิ้นไก่ เขาตกใจอย่างมาก

 

ทุกๆคนต่างตกใจเพราะเขารู้ว่าเฉิน หลางนั้นเป็นใคร เขาคืออัจฉริยะ จากทะเลแดนใต้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างพวกเขา

 

อย่างไรก็ตาม การกระทำของชูเฟิงนั้นทำพวกเขา พูดไม่ออก พวกเขาพูดได้เพียงแค่อย่างเดียวว่ามันโหดเหี้ยมอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าชูเฟิงนั้นเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง

 

อย่างไรก็ตามความโหดเหี้ยมของเฉิน หลางนั้นถูกประทับลงในใจพวกเขา แต่ในตอนนี้นนั้น สิ่งที่ชูเฟิงทำมันทำให้บุคลที่ชื่อว่าเฉิน หลางนิ่งไปได้ ทุกคนรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นน่าเหลือเชื่อมาก

 

ในตอนนี้ผู้คนต่างงงงวยอย่างมาก ชูเฟิงมองไปทีเฉิน หลางที่ถูกอัดลงพื้น และหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า”

 

ข้ากำลังกินอยู่ ช่วยเงียบๆหน่อย! ถ้าเจ้ายังกล้าพูดอีกข้าจะตัดลิ้นโยนให้สุนัข”

 

หลังจากพูดเช่นนั้น ชูเฟิงนั้นก็เดินกลับไปหยิบชามและตะเกียบ กินข้าวของเขาเช่นเดิม นั้นมันทำให้เฉิน หลาง โกรธมาก ชูเฟิงยังทำเสียงดังตอนกินอาหารอีกด้วย และเสียงนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนจะทนได้ มันแสบแก้วหูอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตามในตอนนี้นั้นไม่มีใครกล้าพูดอะไร ทุกคนในที่นั้นต่างตกใจและมองไปที่ชูเฟิง พวกเขานั้นต่างประหลาดใจและกลัวมาก

 

หลังจากนั้นหลังจากเมื่อเฉิน หลาง รู้สึกตัวก็ลุกขึ้น และรู้สึกบางอย่างที่แก้ว หลังเขาจับมันก็พบเลือดอยู่บนหน้า เฉิน หลาง โกรธมากเมื่อเห็นเลือดของตน

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ทำอะไร ทำแค่ชี้ไปที่ชูเฟิงแล้วพูดว่า”

 

ไอ้สารเลว รอข้าก่อน”

 

หลังจากพูดจบ เขาก็วิ่งออกจากห้องอาหารไป ในตอนนั้นทุกคนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เฉิน หลาง รู้จักกันในฐานะบุคคลที่โหดเหี้ยมของ ทะเลใต้ แต่ที่เขาทำนั้นมันต่างจากชื่อนี้อย่างมาก

 

ไม่วาใครเห็นเฉิน หลางก็ต้องประหลาดใจ เพราะเฉิน หลางนั้นเป็นคนที่ชอบดูถูกคนอื่นอย่างมาก

 

เฉิน หลางที่ออกไปจากห้องอาหารสักแปบก็กลับมา อย่างไรก้ตามเมื่อเขากลับมาเขาได้พาผู้อาวุโสมาด้วย เขาเป็นผู้อาวูโสของพฤกษาครามตอนใต้ ที่เฉิน หลางวิ่งออกไปนั้นเพื่อไปตามผู้อาวุโสมานี่เอง “ใครทำเขา”

 

เมื่อผู้อาวุโสเข้ามา เขาก็ชี้ไปที่หน้าเฉิน หลางแล้วถามขึ้น

 

ในตอนนั้นไม่มีใครพูดอะไรพวกเขาเพียงก้มหน้า เพราะไม่กล้าชี้ไปที่ชูเฟิง พวกเขากลัวว่าถ้าพวกเขาบอกว่าชูเฟิงทำแล้ว ชูเฟิงจะมาทำร้ายพวกเขา “ข้าเป็นคนทำเอง”

 

ในตอนนั้นตอนที่ไม่มีคึรกล้าพูด ชูเฟิง ก็ลุกแล้วพูดขึ้น

 

หลังจากชูเฟิงยืนขึ้น ผู้อาวุโสก็ได้ใช้พลังวิญญาณเพื่อตรวจสอบพลังของชูเฟิง อย่างไรก็ตาม เขาที่อยู่ในระดับ 5 จ้าวสงครามจะตรวจพลังของชูเฟิงได้อย่างไร

 

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถดูพลังของชูเฟิงได้ แต่ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย ในตอนนั้นเขารู้แล้วว่าชูเฟิงไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นคนที่โดดเด่นมากไม่เพียงแค่ระดับพลังของเขา แต่ยังรวมไปถึงความใจเย็นของเขาอีก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่หลายๆคนนั้นไม่มี

 

ผู้อาวุโสคนนั้นไม่ได้ทำอะไรชูเฟิง แล้วถามขึ้นว่า”

 

เจ้าทำเขาทำไม””ตอนแรกตอนที่เรากำลังกินข้าว เขาได้สั่งสอนคนเรื่องทำเสียงดังมากไป และบังคับให้คนคนนั้นกินอาหารที่ตกถึงพื้นข้าแค่ทนไม่ไหว จึงให้บทเรียนเขา”

 

ชูเฟิง ชี้ไปที่ชายที่ถูกบังคับให้กินเศษอาหาร ที่กำลังคุกเข่าและร้องไห้อยู่ “มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นหรือ”

 

หลังจากถามชูเฟิง เขาก็มองไปที่ เฉิน หลาง “ข้า ข้า…”

 

เฉิน หลาง ลังเล เขานั้นพูดไม่ออก “เพียะ.”

 

ในตอนนั้น ผู้อาวุโสก็เหวี่ยง แขนเข้าไปที่ใบหน้าของเฉิน หลาง ดังเพียะ

 

การตบนั้นไม่ได้เบา แต่มันทำให้เฉิน หลางนั้นหมุน 180 องศาเมื่อเขาถูกตบเขาก็หันมามองผู้อาวุโสด้วยใบหน้าไร้เดียงสา เขานั้นไม่กล้าที่จะทำอะไรแล้ว “เป็นแค่คนบาปยังเรียกร้องถามหาความยุติธรรม เจ้าก็ทำสิ่งที่เจ้ายังไม่กล้ายอมรับ เจ้ามีพลังที่จะทำแต่ไม่มีพลังที่จะแบกรับมัน เจ้ามันต่ำยิ่งกว่าขยะเสียอีก”

 

ผู้อาวุโสชี้หน้าด้านเฉิน หลาง เขาสะบัดแขนของเขาแล้วเดินจากไป

 

สำหรับ เฉิน หลางแล้ว เขาไม่กล้าทำอะไร เขายืนขึ้นแล้วจะเดินออกไปเช่นกัน “หยุดนะ.”

 

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น ชูเฟิงก็ตะโกนด้วยเสียงที่ดังลั่น “อะไร เจ้าจะทำอะไรหรือ”

 

เฉิน หลางที่รู้ว่าชูเฟิงไม่ธรรมดา แม้แต่ผู้อาวุโสก็ยังยืนข้างชูเฟิง มีหรือที่เขาจะกล้ากับชูเฟิง ในตอนนั้นเขากลัวอย่างมาก “กินอาหารบนพื้นซะ ทำให้มันสะอาดก่อนไป ถ้าเจ้าเหลือไว้แม้แต่ชิ้นเดียว ข้าจะหมุนหัวเจ้าซะ”

 

ชูเฟิงพูดขึ้นแล้วชี้ไปที่เฉิน หลาง

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น เฉิน หลางก็ลังเลสักพัก เขาก็ไม่กล้าเดินต่อ เขาก็นั่งลงไปหยิบ อาหารที่พื้นกิน

 

เขานั้นรีบกินมาก เวลาผ่านไปนิดแปบเดียว อาหารก็หมดพื้น หลังจากเขากินหมด เขาก็เช็ดปาก และมองไปที่ผู้พร้อมตะโกนด้วยเสียงดังลั่นว่า “เจ้ามองอะไรกัน ไม่เคยเห็นคนกินข้าวหรือไง!!!”

 

หลังจากพูดจบ เฉิน หลางก็หันกลับแล้วรีบเดินออกจาก ห้องอาหาร

 

หลังจากเห็น เฉิน หลางออกไป หลี่ เล่ยก็วิ่งมาที่ชูเฟิง เขาหัวเราะขึ้นแล้วพูดกับชูเฟิงว่า “น้องชาย ชูเฟิงเจ้านี่สุดยอดจริงๆ เจ้าเฉิน หลางนั้นกินไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว.””โห.”

 

หลังจากได้ยิน หลี่ เล่ย พูด ชูเฟิงก็หัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า”

 

ทุกคน ไปกินอาหารของท่านเถิด ถ้าท่านไม่กินมันจะเย็นเสียก่อน.”

 

หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปที่ชาย ที่ถูกเฉิน หลาง รังแกก่อนหน้านี้ เขานั้นช่วยประคองชายคนนั้น เดินออกจากห้องอาหาร เมื่อเห็นเช่นนั้น หลี่ เล่ย ก็รีบวิ่งตามไป

 

หลังจากชูเฟิง และ หลี่ เล่ยออกมา ทุกๆคนก็มองไปที่คนอื่น แล้วก็ไปนั่นกินข้าวของตนต่อ อย่างไรก็ตามในตอนนั้นก็มีบางคนมองไปที่ชูเฟิงด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วย ความชื่นชม

 

ReaDMGA ////////////////////////////////////////

 

ตอนที่แล้ว ตอนต่อไป
comments